มีเจ้าหน้าที่จากธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาแพล็ตตินั่มมาเดินหาลูกค้า
(ผมค้าขายอยู่แถวประตูน้ำ ครับ)
ผมดูแล้วว่า ดอกเบี้ยมันแพง
น้องก็เลยแนะนำว่า ถ้ามีหลักทรัพย์ ดอกเบี้ยจะถูก
ก็เลยทำสินเชื่อ บ้านคือเงิน ไป
คือ บ้านหลังนี้ ก็ตั้งใจจะขาย แต่ยังขายไม่ได้ ก็เลยคุยกับเจ้าหน้าที่
ลองทำเรื่องกู้
ยื่นเอกสารเสร็จ ประเมินเสร็จ ทุกอย่าง
เมื่อวานโทรมา
ได้รับคำตอบมาว่า เดินสเตทเม้นน้อย ต้องหาคน “กู้ร่วม”
ผมถามว่ายื่นไปเท่าไหร่
เจ้าหน้าที่ตอบมาว่า “4 ล้าน”
ผมว่า ผมไม่เอาถึงขนาดนั้น “3 ล้านก็พอแล้ว เพราะยังไงบ้าน
หลังนี้ก็ตั้งใจจะขายอยู่แล้ว ก็ผ่อนไปเรื่อยๆ ใครมาขอซื้อใน
ราคาที่ผมตั้งไว้ ผมก็ขาย เพราะว่าที่ตรงนั้น อนาคตมันจะมีโครงการ
สร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม”
หลังจากคุยเสร็จผมได้ปรึกษากับผู้ใหญ่ที่รู้จัก ทำธุรกิจค้าส่งเสื้อผ้ารายใหญ่
ท่านก็ยินดีช่วยเหลือ แล้วก็โทรไปคุยกับทางธนาคาร
พอหาคนกู้ร่วมมาได้ ก็บอก ต้องการเป็น “พนักงานที่มีเงินเดือนประจำ”
ผมก็ไม่เข้าใจว่า คนที่จะมาช่วยผมกู้นั้น คุณรู้ได้อย่างไรว่า
เค้ามีทรัพย์สินน้อยกว่าพนักงานที่มีเงิน
เดือนประจำ เอาอะไร/หลักเกณฑ์ไหนมาวัด
ว่าใครมีเครดิตดีมากกว่า
พนักงานที่เป็นลูกจ้าง รับเงินเดือนจากนายจ้าง
กับ คนที่มีธุรกิจมีเงินทอง เป็นนายตัวเอง มีเงินเย็นนอนในธนาคาร
แต่คุณกลับปฏิเสธความตั้งใจของเค้าที่จะช่วยเหลือผม
เพียงแค่ว่า ท่านไม่ใช่พนักงานกินเงินเดือน
งงมากครับ
สินเชื่อบ้านคือเงิน ของ SCB ไทยพาณิชย์ ใช้หลักเกณฑ์อะไรมาวัดคุณสมบัติของคนที่จะมากู้ร่วมครับ?
(ผมค้าขายอยู่แถวประตูน้ำ ครับ)
ผมดูแล้วว่า ดอกเบี้ยมันแพง
น้องก็เลยแนะนำว่า ถ้ามีหลักทรัพย์ ดอกเบี้ยจะถูก
ก็เลยทำสินเชื่อ บ้านคือเงิน ไป
คือ บ้านหลังนี้ ก็ตั้งใจจะขาย แต่ยังขายไม่ได้ ก็เลยคุยกับเจ้าหน้าที่
ลองทำเรื่องกู้
ยื่นเอกสารเสร็จ ประเมินเสร็จ ทุกอย่าง
เมื่อวานโทรมา
ได้รับคำตอบมาว่า เดินสเตทเม้นน้อย ต้องหาคน “กู้ร่วม”
ผมถามว่ายื่นไปเท่าไหร่
เจ้าหน้าที่ตอบมาว่า “4 ล้าน”
ผมว่า ผมไม่เอาถึงขนาดนั้น “3 ล้านก็พอแล้ว เพราะยังไงบ้าน
หลังนี้ก็ตั้งใจจะขายอยู่แล้ว ก็ผ่อนไปเรื่อยๆ ใครมาขอซื้อใน
ราคาที่ผมตั้งไว้ ผมก็ขาย เพราะว่าที่ตรงนั้น อนาคตมันจะมีโครงการ
สร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม”
ท่านก็ยินดีช่วยเหลือ แล้วก็โทรไปคุยกับทางธนาคาร
พอหาคนกู้ร่วมมาได้ ก็บอก ต้องการเป็น “พนักงานที่มีเงินเดือนประจำ”
ผมก็ไม่เข้าใจว่า คนที่จะมาช่วยผมกู้นั้น คุณรู้ได้อย่างไรว่า
เค้ามีทรัพย์สินน้อยกว่าพนักงานที่มีเงิน
เดือนประจำ เอาอะไร/หลักเกณฑ์ไหนมาวัด
ว่าใครมีเครดิตดีมากกว่า
พนักงานที่เป็นลูกจ้าง รับเงินเดือนจากนายจ้าง
กับ คนที่มีธุรกิจมีเงินทอง เป็นนายตัวเอง มีเงินเย็นนอนในธนาคาร
แต่คุณกลับปฏิเสธความตั้งใจของเค้าที่จะช่วยเหลือผม
เพียงแค่ว่า ท่านไม่ใช่พนักงานกินเงินเดือน
งงมากครับ