"
หลี่ อาน จากไปแล้ว กลับไปเมืองจีนแล้ว..."
โรเบิร์ต หนุ่มอเมริกันบอกกับผมด้วยสีหน้าเศร้า แต่ก็เหมือนมีแววตาคล้ายจะสะใจอะไรบางอย่างฉายออกมาวูบหนึ่งพร้อมกับการแค่นเสียง "ฮึ" ออกทางจมูกฟึดหนึ่ง ในขณะที่เราสองคนกำลังนั่งซดเบียร์กันอยู่ในบาร์เบียร์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ในคืนนั้น
"อ้าว!??" ผมอุทานและอ้าปากค้างไปหลายวินาที ก่อนจะซักถาม "ไหงเป็นงั้นไป ? ก็ไหนว่า นายกับเค้า ไปกันได้ดี ไม่ใช่เหรอ ?"
"WAS!" โรเบิร์ตตอบด้วยคำกริยาซึ่งเป็นอดีต
"มันยังไงกัน เกิดอะไรขึ้นกับพวกนาย ?" ผมถามด้วยความข้องใจ เพราะที่ผ่านมา เห็นเขากับหลี่อานเข้ากันยังกับกิ่งทองใบหยก หรือขนมจีนผสมน้ำเงี้ยว! (คือผมไม่ทานน้ำยาน่ะ! มันเลี่ยน) ยังไงยังงั้นเลย
"เธอพบผู้ชายคนใหม่ว่ะ แอ๊ดดี้" โรเบิร์ตเฉลย แล้วกระดกเบียร์อีกอึกหนึ่ง หน้าตายังเศร้าสร้อยเหมือนเดิม นั่นแปลว่าเขาเฮิร์ตมากกว่าความรู้สึกสะใจอะไรบางอย่างที่ผมสังเกตเห็นจากแววตาเมื่อสักครู่นี้
"ไอ้หมอนั่น มันรวยกว่าฉัน ก๊อดแดมน์! ช่วงแรกๆ ฉันต้องหาเพลง I who have nothing ของลุงทอมโจนส์มาฟังทุกวันเลย"
"มิน่า...ฉันถึงเห็นนายชอบร้องเพลงนี้บ่อยมากช่วงหลังๆ เนี่ย โดยเฉพาะเวลาที่นายเมา"
"ฉันจำเป็นต้องทำยังงั้นแหละ มันจำเป็น บอกนายได้เลย.." พูดจบก็รับเบียร์ขวดใหม่มาจากการเสิร์ฟของบริกร เทใส่แก้วทรงสูงค่อนแก้ว ยกดื่มไปประมาณครึ่งหนึ่ง ก่อนจะเบรคไว้แล้วถามผมบ้าง "นายเคยอกหักบ้างหรือเปล่า แอ๊ดดี้ ?"
"เคยซี่ แน่นอน!" ผมตอบโดยไม่ต้องคิด
"แล้วนาย...ทำไงวะ ?"
"เมา! แค่เมา อย่างเดียว!!" ผมพูดเน้นๆ ตามความเป็นจริงที่เคยทำมาในอดีต "Just get a f*cken drunk! That's it, man!"
"ก็ไม่ผิดไปจากฉันนี่หว่า แล้วฟังเพลงเฮิร์ตๆ ของใครบ้างไหมล่ะ ?"
"ฟังซี่...เพลงอกหักฉันมีเป็นร้อยๆ เพลง จะบอกให้!"
"อืม...หนักกว่าฉันอีกว่ะ ฉันแค่ I who have nothing ก็พอแล้ว!" โรเบิร์ตกล่าวแล้วฝืนยิ้ม ดื่มเบียร์ที่เหลือในแก้วจนหมดแล้วเติมต่อ
"ไหนบอกฉันซิ ว่าตอนที่นายสองคนเลิกกัน มันเกิดขึ้นได้ยังไง มันไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะคราวก่อนนายบอกฉันว่า หลี่อานเตรียมจะแต่งงานกับนายแล้วนี่นา" ผมซักเขาต่อ
"มันยังงี้ว่ะ..." เขาตั้งต้นเล่าเรื่อง "นายจำวันที่นายชวนฉันไปดูคอนเสิร์ตของ โรเจอร์ วอเทอร์ส ตอนที่เขามาเมืองไทยได้ไหม ?"
"เออ! จำได้!" ผมตอบเยสทันควัน ทำไมจะจำไม่ได้ นั่นมันศิลปินในดวงใจคนหนึ่งของผมเลย "ฉันชวนนาย แล้วนายก็ปฏิเสธ บอกว่ามีนัดกับหลี่อาน ฉันก็เลยไปเย้วๆ อยู่คนเดียว ไม่เจอคนรู้จักซักคน แต่ก็มันส์โคตร ยังเสียดายไม่หายที่นายไม่ได้ไปด้วย"
"นั่นแหละเพื่อน! เรามีนัดกับหลี่อานจริงๆ และเป็นนัดครั้งสุดท้ายด้วย..." พูดจบโรเบิร์ตก็ตีหน้าเศร้าอีกครั้งแล้วดื่มเบียร์อีกอึกใหญ่
"ฉันไปถึงร้านอาหารตามที่นัดกันไว้ ก่อนเวลานัดประมาณห้านาที นั่งรอเธอไม่นานเธอก็มา เรานั่งคุยกันได้ไม่กี่คำ เธอก็บอกกับฉันว่า ขอแยกทางกันเถอะ เธอว่า"
"แล้วนายถามเธอไหมว่าเพราะอะไร ?"
"ก็ถาม...คำตอบของเธอคือ เธอพบคนที่เหมาะสมกว่าฉัน คนที่จะทำให้เธอสุขสบายไปทั้งชีวิต ถ้าเธอเลือกฉัน เธอจะต้องลำบาก ต้องช่วยกันทำมาหากิน"
"เธอ...ไว้วางใจผู้ชายคนใหม่ งั้นเหรอ ?" ผมถามด้วยความทึ่ง และไม่อยากเชื่อว่าหลี่อานจะเปลี่ยนใจได้ง่ายดายปานนั้น
"ก็เพราะไว้วางใจเขาน่ะสิ! ดูเธอมีความมั่นใจมาก เธอบอกขอโทษฉันด้วย และจบด้วยประโยคยอดฮิตซึ่งฉันโคตรเกลียดเลย!"
"ประโยคนั้นว่าไง ?"
"เราจากกันด้วยดี และเป็นเพื่อนกันดีกว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป!" พอยกคำพูดของหลี่อานมาพูดจบ โรเบิร์ตก็กระดกเบียร์อีกแก้วรวดเดียวหมดแก้วเพื่อคลายความกลัดกลุ้มเสียใจ
"เออว่ะ! ฉันก็โคตรเกลียดประโยคนี้เหมือนกัน" ผมพยักหน้าหงึก แล้วกระดกเบียร์ตามเขาไปครึ่งแก้ว
"นายขอร้องวิงวอนเธอให้เปลี่ยนใจไหม ?"
"ไม่ทันได้พูด ผู้ชายคนใหม่คนนั้นก็มาแล้ว!" โรเบิร์ตกล่าวอย่างขมขื่น "ทันทีที่เขามา เขาก็เรียกเธอ แอนนี่ ไปกันเถอะ! เท่านั้นแหละ เธอก็บอกลาฉันเลยและบอกฉันว่า ลืมเธอซะ เพราะเธอก็เป็นแบบนั้นแหละ! ใครดีกว่าเธอก็จะเลือกคนนั้น ไม่แน่ว่าในอนาคต เธออาจจะเปลี่ยนผู้ชายคนใหม่ที่ดีกว่าไอ้หมอนั่นอีกก็เป็นได้ เธอพูดแบบนี้ แล้วก็บอกฉันว่า ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา แล้วก็...ลาก่อน"
"ง่ายๆ อย่างนั้นเลย ?"
"ใช่! ง่ายๆ อย่างนั้นแหละ!"
ผมถอนหายใจเฮือก รู้สึกสงสารและเห็นใจเพื่อนชาวอเมริกันคนนี้มาก ก็ได้แต่ปลอบอกปลอบใจกันไปตามประสา
"เดี๋ยวนะ..." ผมยกเบียร์ขึ้นดื่มอีกจนหมดแก้ว กวักมือเรียกบริกรให้เอาเบียร์มาเพิ่ม แล้วซักถามต่อ "นายบอกตอนแรกว่า หลี่อาน จากไปแล้ว กลับเมืองจีนไปแล้ว หมายความว่าไง ? ไปกับไอ้หมอนั่นเหรอ ?"
"เปล่า!" โรเบิร์ตส่ายหน้า
"อ้าว!? มันยังไงกัน ?" ผมทึ่งอีกครั้ง
"เธอไปคนเดียว ฉันพบเธอโดยบังเอิญที่สนามบิน ก่อนที่เธอจะขึ้นเครื่อง"
"แล้ว แฟนใหม่ของเธอล่ะ ?"
"ไม่มีแล้ว! เธอบอกฉันเอง!"
"เธอบอกเลิกกับไอ้หมอนั่นอีกคนหนึ่งหรือวะ ?"
คำตอบที่ได้รับ ทำให้ผมมึนหนักขึ้นไปอีก
"เปล่าหรอก! ไอ้หมอนั่น บอกเลิกกับเธอเอง!!"
ผมอึ้งไปเลย...พร้อมกับนึกในใจ เอาละเหวย...กฏแห่งกรรมเล่นงานหลี่อานเข้าแล้วกระมัง
"ท่าทางเธอเฮิร์ตมาก" โรเบิร์ตเล่าต่อ "แต่เธอก็เชิดหน้าบอกว่า 'ไม่เป็นไร แค่ปล่อยให้มันผ่านไป' แล้วก็บอกฉันว่า 'ฉันไม่น่าเปลี่ยนใจจากเธอไปเลือกเขาเลย' ฉันจึงบอกว่า 'บอกเธอแล้ว ว่าเธอมีความหมายกับฉันเท่ากับโลกนี้ทั้งโลก !! ไม่เป็นไร! กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาอยู่กับฉันเถอะ แต่งงานกับฉัน ฉันไม่รังเกียจว่าเธอผ่านใครมาบ้าง' แต่เธอปฏิเสธ บอกว่ามันไม่ยุติธรรมกับฉันสำหรับสิ่งที่เธอทำลงไป ฉันยังย้ำกับเธอว่า 'แล้วที่เราเคยตกลงกันไว้ล่ะ เธอลืมแล้วหรือ ?' พอดีเครื่องลง เธอก็เลยรีบบอกลาฉันอีกครั้ง แล้วก็รีบเดินไปขึ้นเครื่อง ฉันตะโกนถามเธอดังลั่นจนหลายคนหันมามอง 'นี่ ลี! ไอ้ที่เราตกลงกันไว้ว่าไง ? จะกลับไปเมืองจีน ไปเพื่อ ??' แต่เธอไม่เหลียวหลังกลับมาเลย"
เล่าจบ โรเบิร์ตก็ถอนหายใจอีกเฮือก ผมเลยพลอยถอนใจตามเขาไปด้วย
"ที่จริง ฉันน่าจะดูออกตั้งแต่แรก..." โรเบิร์ตคร่ำครวญพลางดื่มเบียร์พลาง "ตอนที่ฉันเจอเธอครั้งแรก เธอจับตามองดูผู้ชายแต่ละคนๆ ที่เดินไปมาบนถนนตั้งแต่หัวจรดเท้า...ฉันนี่โง่งมจริงๆ" ว่าแล้วคราวนี้เขายกเบียร์ทั้งขวดขึ้นมาดื่มแล้วก็ร่ำไรต่อ "พอรู้จักกัน สนิทสนมกัน ฉันก็บอกเธอว่า เธอมีความหมายต่อฉันเหมือนกับโลกนี้ทั้งโลก ฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องกลับไปสู่ดินแดนตะวันออกแล้ว ตอนนั้นเธอก็คล้อยตามฉัน"
ผมได้แต่นิ่ง ดื่มเบียร์เป็นเพื่อนเขา ฟังเขาระบายต่อไป
"ฉันรู้...เธอจะไม่ควงใครเป็นที่แน่นอนสักคนเดียว มันแค่เกมของเธอเท่านั้น! การแยกทางกัน ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว ก็เป็นส่วนหนึ่งของเกมของเธอ!" พูดจบประโยคนี้ เขาก็ยกขวดเบียร์ขึ้นมาจ่อปากแล้วดื่มอึกๆๆ ลงไป จนเหลือไม่ถึงครึ่งขวด
"เฮ้ๆๆ เบาหน่อยเพื่อน! ใจเย็น...หักห้ามใจเสียบ้าง" ผมต้องปรามเพราะชักเห็นท่าไม่ดี คืนนี้เห็นทีต้องนอนเป็นเพื่อนเขาเสียแล้ว ขืนปล่อยให้เขากลับไปนอนคนเดียวที่โรงแรม เกรงว่าเขาอาจจะคิดสั้น เพราะดูท่าทางเขาเฮิร์ตหนักหนาสาหัส
"โอเคๆ..." เขาพยักหน้ารัวๆ ก่อนจะวางขวดเบียร์นั้นลงบนโต๊ะ สะอื้นออกมาคำหนึ่ง แล้วพร่ำพรรณนาต่อในตอนท้าย
"นายรู้ไหม แอนนี่ ลี ชื่อนี้ ฉันเป็นคนตั้งให้เธอเอง แทนที่ชื่อและนามสกุลภาษาจีน หลี่ อาน กะว่าพอแต่งงานแล้วก็จะพาเธอไปทำไอดีการ์ดที่อเมริกา"
"หลังจากเธอกลับไปเมืองจีนแล้ว นายได้ข่าวคราวอะไรจากเธอบ้างไหม ?" ผมอดถามไม่ได้
"ก็...พอได้ข่าวอยู่ว่า เธอรอการติดต่อจากชายอื่นๆ อีก"
โอ้...แม่เจ้า ยังไม่เข็ดอีก ผมนึก..."มีทั้งชาวฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ก็มี แต่ไม่มีใครติดต่อกลับไปหาเธอเลยสักคน"
"งั้นสักวันเธอจะรู้ซึ้งเองแหละเพื่อน! ว่าเธอเอง ก็เป็นส่วนหนึ่งของฉากแห่งเกมที่เธอชอบเล่น! ให้ตายสิ!!" ผมสรุปให้เขาเองเลย "โธ่เอ๊ย...หลี่อาน"
"ใช่เลยเพื่อน!" โรเบิร์ตกล่าวเห็นด้วยกับผม "รักแท้ของเธอ จะมีได้ที่ไหนในโลกนี้ ???" ว่าแล้วก็ยกเบียร์ขวดสุดท้ายขึ้นกระดกจนหมดขวด แล้วแหกปากเสียงดังลั่นด้วยความเมา
"แอนนี่...ในโลกนี้ ไอ้หมอนั่นไปไหนแล้ว !!!"
/// THE END ///
INSPIRATION FROM THE SONG "GOING BACK TO CHINA",ARTISTS = DIESEL
🕊️💋💃🏻 MSS = Music Short Story - เรื่องสั้นประกอบเพลงดัง # 3 "GOING BACK TO CHINA : กลับสู่หลังม่านไม้ไผ่" 💃🏻💋🕊️
โรเบิร์ต หนุ่มอเมริกันบอกกับผมด้วยสีหน้าเศร้า แต่ก็เหมือนมีแววตาคล้ายจะสะใจอะไรบางอย่างฉายออกมาวูบหนึ่งพร้อมกับการแค่นเสียง "ฮึ" ออกทางจมูกฟึดหนึ่ง ในขณะที่เราสองคนกำลังนั่งซดเบียร์กันอยู่ในบาร์เบียร์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ในคืนนั้น
"อ้าว!??" ผมอุทานและอ้าปากค้างไปหลายวินาที ก่อนจะซักถาม "ไหงเป็นงั้นไป ? ก็ไหนว่า นายกับเค้า ไปกันได้ดี ไม่ใช่เหรอ ?"
"WAS!" โรเบิร์ตตอบด้วยคำกริยาซึ่งเป็นอดีต
"มันยังไงกัน เกิดอะไรขึ้นกับพวกนาย ?" ผมถามด้วยความข้องใจ เพราะที่ผ่านมา เห็นเขากับหลี่อานเข้ากันยังกับกิ่งทองใบหยก หรือขนมจีนผสมน้ำเงี้ยว! (คือผมไม่ทานน้ำยาน่ะ! มันเลี่ยน) ยังไงยังงั้นเลย
"เธอพบผู้ชายคนใหม่ว่ะ แอ๊ดดี้" โรเบิร์ตเฉลย แล้วกระดกเบียร์อีกอึกหนึ่ง หน้าตายังเศร้าสร้อยเหมือนเดิม นั่นแปลว่าเขาเฮิร์ตมากกว่าความรู้สึกสะใจอะไรบางอย่างที่ผมสังเกตเห็นจากแววตาเมื่อสักครู่นี้
"ไอ้หมอนั่น มันรวยกว่าฉัน ก๊อดแดมน์! ช่วงแรกๆ ฉันต้องหาเพลง I who have nothing ของลุงทอมโจนส์มาฟังทุกวันเลย"
"มิน่า...ฉันถึงเห็นนายชอบร้องเพลงนี้บ่อยมากช่วงหลังๆ เนี่ย โดยเฉพาะเวลาที่นายเมา"
"ฉันจำเป็นต้องทำยังงั้นแหละ มันจำเป็น บอกนายได้เลย.." พูดจบก็รับเบียร์ขวดใหม่มาจากการเสิร์ฟของบริกร เทใส่แก้วทรงสูงค่อนแก้ว ยกดื่มไปประมาณครึ่งหนึ่ง ก่อนจะเบรคไว้แล้วถามผมบ้าง "นายเคยอกหักบ้างหรือเปล่า แอ๊ดดี้ ?"
"เคยซี่ แน่นอน!" ผมตอบโดยไม่ต้องคิด
"แล้วนาย...ทำไงวะ ?"
"เมา! แค่เมา อย่างเดียว!!" ผมพูดเน้นๆ ตามความเป็นจริงที่เคยทำมาในอดีต "Just get a f*cken drunk! That's it, man!"
"ก็ไม่ผิดไปจากฉันนี่หว่า แล้วฟังเพลงเฮิร์ตๆ ของใครบ้างไหมล่ะ ?"
"ฟังซี่...เพลงอกหักฉันมีเป็นร้อยๆ เพลง จะบอกให้!"
"อืม...หนักกว่าฉันอีกว่ะ ฉันแค่ I who have nothing ก็พอแล้ว!" โรเบิร์ตกล่าวแล้วฝืนยิ้ม ดื่มเบียร์ที่เหลือในแก้วจนหมดแล้วเติมต่อ
"ไหนบอกฉันซิ ว่าตอนที่นายสองคนเลิกกัน มันเกิดขึ้นได้ยังไง มันไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้ เพราะคราวก่อนนายบอกฉันว่า หลี่อานเตรียมจะแต่งงานกับนายแล้วนี่นา" ผมซักเขาต่อ
"มันยังงี้ว่ะ..." เขาตั้งต้นเล่าเรื่อง "นายจำวันที่นายชวนฉันไปดูคอนเสิร์ตของ โรเจอร์ วอเทอร์ส ตอนที่เขามาเมืองไทยได้ไหม ?"
"เออ! จำได้!" ผมตอบเยสทันควัน ทำไมจะจำไม่ได้ นั่นมันศิลปินในดวงใจคนหนึ่งของผมเลย "ฉันชวนนาย แล้วนายก็ปฏิเสธ บอกว่ามีนัดกับหลี่อาน ฉันก็เลยไปเย้วๆ อยู่คนเดียว ไม่เจอคนรู้จักซักคน แต่ก็มันส์โคตร ยังเสียดายไม่หายที่นายไม่ได้ไปด้วย"
"นั่นแหละเพื่อน! เรามีนัดกับหลี่อานจริงๆ และเป็นนัดครั้งสุดท้ายด้วย..." พูดจบโรเบิร์ตก็ตีหน้าเศร้าอีกครั้งแล้วดื่มเบียร์อีกอึกใหญ่
"ฉันไปถึงร้านอาหารตามที่นัดกันไว้ ก่อนเวลานัดประมาณห้านาที นั่งรอเธอไม่นานเธอก็มา เรานั่งคุยกันได้ไม่กี่คำ เธอก็บอกกับฉันว่า ขอแยกทางกันเถอะ เธอว่า"
"แล้วนายถามเธอไหมว่าเพราะอะไร ?"
"ก็ถาม...คำตอบของเธอคือ เธอพบคนที่เหมาะสมกว่าฉัน คนที่จะทำให้เธอสุขสบายไปทั้งชีวิต ถ้าเธอเลือกฉัน เธอจะต้องลำบาก ต้องช่วยกันทำมาหากิน"
"เธอ...ไว้วางใจผู้ชายคนใหม่ งั้นเหรอ ?" ผมถามด้วยความทึ่ง และไม่อยากเชื่อว่าหลี่อานจะเปลี่ยนใจได้ง่ายดายปานนั้น
"ก็เพราะไว้วางใจเขาน่ะสิ! ดูเธอมีความมั่นใจมาก เธอบอกขอโทษฉันด้วย และจบด้วยประโยคยอดฮิตซึ่งฉันโคตรเกลียดเลย!"
"ประโยคนั้นว่าไง ?"
"เราจากกันด้วยดี และเป็นเพื่อนกันดีกว่า ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป!" พอยกคำพูดของหลี่อานมาพูดจบ โรเบิร์ตก็กระดกเบียร์อีกแก้วรวดเดียวหมดแก้วเพื่อคลายความกลัดกลุ้มเสียใจ
"เออว่ะ! ฉันก็โคตรเกลียดประโยคนี้เหมือนกัน" ผมพยักหน้าหงึก แล้วกระดกเบียร์ตามเขาไปครึ่งแก้ว
"นายขอร้องวิงวอนเธอให้เปลี่ยนใจไหม ?"
"ไม่ทันได้พูด ผู้ชายคนใหม่คนนั้นก็มาแล้ว!" โรเบิร์ตกล่าวอย่างขมขื่น "ทันทีที่เขามา เขาก็เรียกเธอ แอนนี่ ไปกันเถอะ! เท่านั้นแหละ เธอก็บอกลาฉันเลยและบอกฉันว่า ลืมเธอซะ เพราะเธอก็เป็นแบบนั้นแหละ! ใครดีกว่าเธอก็จะเลือกคนนั้น ไม่แน่ว่าในอนาคต เธออาจจะเปลี่ยนผู้ชายคนใหม่ที่ดีกว่าไอ้หมอนั่นอีกก็เป็นได้ เธอพูดแบบนี้ แล้วก็บอกฉันว่า ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา แล้วก็...ลาก่อน"
"ง่ายๆ อย่างนั้นเลย ?"
"ใช่! ง่ายๆ อย่างนั้นแหละ!"
ผมถอนหายใจเฮือก รู้สึกสงสารและเห็นใจเพื่อนชาวอเมริกันคนนี้มาก ก็ได้แต่ปลอบอกปลอบใจกันไปตามประสา
"เดี๋ยวนะ..." ผมยกเบียร์ขึ้นดื่มอีกจนหมดแก้ว กวักมือเรียกบริกรให้เอาเบียร์มาเพิ่ม แล้วซักถามต่อ "นายบอกตอนแรกว่า หลี่อาน จากไปแล้ว กลับเมืองจีนไปแล้ว หมายความว่าไง ? ไปกับไอ้หมอนั่นเหรอ ?"
"เปล่า!" โรเบิร์ตส่ายหน้า
"อ้าว!? มันยังไงกัน ?" ผมทึ่งอีกครั้ง
"เธอไปคนเดียว ฉันพบเธอโดยบังเอิญที่สนามบิน ก่อนที่เธอจะขึ้นเครื่อง"
"แล้ว แฟนใหม่ของเธอล่ะ ?"
"ไม่มีแล้ว! เธอบอกฉันเอง!"
"เธอบอกเลิกกับไอ้หมอนั่นอีกคนหนึ่งหรือวะ ?"
คำตอบที่ได้รับ ทำให้ผมมึนหนักขึ้นไปอีก
"เปล่าหรอก! ไอ้หมอนั่น บอกเลิกกับเธอเอง!!"
ผมอึ้งไปเลย...พร้อมกับนึกในใจ เอาละเหวย...กฏแห่งกรรมเล่นงานหลี่อานเข้าแล้วกระมัง
"ท่าทางเธอเฮิร์ตมาก" โรเบิร์ตเล่าต่อ "แต่เธอก็เชิดหน้าบอกว่า 'ไม่เป็นไร แค่ปล่อยให้มันผ่านไป' แล้วก็บอกฉันว่า 'ฉันไม่น่าเปลี่ยนใจจากเธอไปเลือกเขาเลย' ฉันจึงบอกว่า 'บอกเธอแล้ว ว่าเธอมีความหมายกับฉันเท่ากับโลกนี้ทั้งโลก !! ไม่เป็นไร! กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาอยู่กับฉันเถอะ แต่งงานกับฉัน ฉันไม่รังเกียจว่าเธอผ่านใครมาบ้าง' แต่เธอปฏิเสธ บอกว่ามันไม่ยุติธรรมกับฉันสำหรับสิ่งที่เธอทำลงไป ฉันยังย้ำกับเธอว่า 'แล้วที่เราเคยตกลงกันไว้ล่ะ เธอลืมแล้วหรือ ?' พอดีเครื่องลง เธอก็เลยรีบบอกลาฉันอีกครั้ง แล้วก็รีบเดินไปขึ้นเครื่อง ฉันตะโกนถามเธอดังลั่นจนหลายคนหันมามอง 'นี่ ลี! ไอ้ที่เราตกลงกันไว้ว่าไง ? จะกลับไปเมืองจีน ไปเพื่อ ??' แต่เธอไม่เหลียวหลังกลับมาเลย"
เล่าจบ โรเบิร์ตก็ถอนหายใจอีกเฮือก ผมเลยพลอยถอนใจตามเขาไปด้วย
"ที่จริง ฉันน่าจะดูออกตั้งแต่แรก..." โรเบิร์ตคร่ำครวญพลางดื่มเบียร์พลาง "ตอนที่ฉันเจอเธอครั้งแรก เธอจับตามองดูผู้ชายแต่ละคนๆ ที่เดินไปมาบนถนนตั้งแต่หัวจรดเท้า...ฉันนี่โง่งมจริงๆ" ว่าแล้วคราวนี้เขายกเบียร์ทั้งขวดขึ้นมาดื่มแล้วก็ร่ำไรต่อ "พอรู้จักกัน สนิทสนมกัน ฉันก็บอกเธอว่า เธอมีความหมายต่อฉันเหมือนกับโลกนี้ทั้งโลก ฉะนั้น ไม่จำเป็นต้องกลับไปสู่ดินแดนตะวันออกแล้ว ตอนนั้นเธอก็คล้อยตามฉัน"
ผมได้แต่นิ่ง ดื่มเบียร์เป็นเพื่อนเขา ฟังเขาระบายต่อไป
"ฉันรู้...เธอจะไม่ควงใครเป็นที่แน่นอนสักคนเดียว มันแค่เกมของเธอเท่านั้น! การแยกทางกัน ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว ก็เป็นส่วนหนึ่งของเกมของเธอ!" พูดจบประโยคนี้ เขาก็ยกขวดเบียร์ขึ้นมาจ่อปากแล้วดื่มอึกๆๆ ลงไป จนเหลือไม่ถึงครึ่งขวด
"เฮ้ๆๆ เบาหน่อยเพื่อน! ใจเย็น...หักห้ามใจเสียบ้าง" ผมต้องปรามเพราะชักเห็นท่าไม่ดี คืนนี้เห็นทีต้องนอนเป็นเพื่อนเขาเสียแล้ว ขืนปล่อยให้เขากลับไปนอนคนเดียวที่โรงแรม เกรงว่าเขาอาจจะคิดสั้น เพราะดูท่าทางเขาเฮิร์ตหนักหนาสาหัส
"โอเคๆ..." เขาพยักหน้ารัวๆ ก่อนจะวางขวดเบียร์นั้นลงบนโต๊ะ สะอื้นออกมาคำหนึ่ง แล้วพร่ำพรรณนาต่อในตอนท้าย
"นายรู้ไหม แอนนี่ ลี ชื่อนี้ ฉันเป็นคนตั้งให้เธอเอง แทนที่ชื่อและนามสกุลภาษาจีน หลี่ อาน กะว่าพอแต่งงานแล้วก็จะพาเธอไปทำไอดีการ์ดที่อเมริกา"
"หลังจากเธอกลับไปเมืองจีนแล้ว นายได้ข่าวคราวอะไรจากเธอบ้างไหม ?" ผมอดถามไม่ได้
"ก็...พอได้ข่าวอยู่ว่า เธอรอการติดต่อจากชายอื่นๆ อีก" โอ้...แม่เจ้า ยังไม่เข็ดอีก ผมนึก..."มีทั้งชาวฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ก็มี แต่ไม่มีใครติดต่อกลับไปหาเธอเลยสักคน"
"งั้นสักวันเธอจะรู้ซึ้งเองแหละเพื่อน! ว่าเธอเอง ก็เป็นส่วนหนึ่งของฉากแห่งเกมที่เธอชอบเล่น! ให้ตายสิ!!" ผมสรุปให้เขาเองเลย "โธ่เอ๊ย...หลี่อาน"
"ใช่เลยเพื่อน!" โรเบิร์ตกล่าวเห็นด้วยกับผม "รักแท้ของเธอ จะมีได้ที่ไหนในโลกนี้ ???" ว่าแล้วก็ยกเบียร์ขวดสุดท้ายขึ้นกระดกจนหมดขวด แล้วแหกปากเสียงดังลั่นด้วยความเมา
"แอนนี่...ในโลกนี้ ไอ้หมอนั่นไปไหนแล้ว !!!"