น่านไง ไม่ไปไม่ได้แล้วววว 3วัน1 คืน กับสถานที่เที่ยวแบบแน่นมากกกกก🤪🌳🚌

สวัสดีค่ะ กลับมาอีกครั้ง กับการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยว ตามประสาคนชอบเที่ยวค่ะ
ครั้งนี้กลับมากับการพาไปเที่ยวน่านค่ะ


ขอเริ่มด้วยการบอกก่อนนะค่ะ นี้เป็นการสำรวจเส้นทางท่องเที่ยว ในแบบฉบับนักศึกษาท่องเที่ยวคนหนึ่งค่ะ คือที่เราเลือกเที่ยวน่านเพราะน่านเป็นเมืองรองเล็กๆ ที่แฝงไปด้วยวัฒนธรรม ความโรแมนติก ที่มีขุนเขาและธรรมชาติโอบล้อม ถือเป็นจังวัดที่น่าเที่ยวมากๆเลยค่ะ

               🚌🚎🚌🚎🚌🚎🚌
เราจะเดินทางกันด้วยรถยนต์ส่วนตัว ออกจากกรุงเทพ สู่จังหวัดน่าน โดยใช้เส้นทาง เข้าอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท อุทัย นครสวรรค์ พิจิต พิษณุโลก อุตรดิด แพร่ น่าน
ใช้เวลาเดินทางประมาน 11 ชม. ออกจากกรุงเทพ 6โมงเย็น ถึงประมานตี5 กว่าๆๆ

สถานที่แรกที่เราแว่ะคือ วัดภูเก็ต
เป็นวัดที่มี ทิวทัศน์ที่สวยงามมาก มีระเบียงวัดยื่นออกไปติดท้องทุ่งนาที่เขียวขจี ถ้าใครมาทันตอนพระอาทิตขึ้น จะสวยๆมากๆ เพราะถือเป็นจุชมพระอาทิตอีกแห่งเลยก็ว่าได้ แต่ตอนเราไปมีหมอกลงเลยไม่เห็นเลยยย 😅






ต่อไปเราจะไปแว่ะกันที่วัดศรีมงคล หรือวัดก๋ง เป็นวัดที่ร้านกาแฟที่สุดแสนจะสวยงามมากๆอีกที่หนึ่ง อยู่ทางด้านหลังของวัด เป็นร้านกาแฟฮักนาน่าน เป็นร้ากาแฟที่มีองค์ประกอบเป็นทุ่งนาที่เขียวขจีและมีฉากหลังเป็น ยอดดอยภูคา ที่สลับซับซ้อนอย่างสวยงาม










จากนั้นเราจะไปรับประทานอาหารที่ครัวลินดา เป็นร้านอาหารที่มีรสชาติอร่อยเลยทีเดียวใครไม่รู้จะทานข้าวที่ไหน แนะนำที่นี้เลยค่ะ







และก็ไปต่อที่หอศิลป์ริมน่าน สำหรับใครที่ชอบความเป็นศิลปะ ไม่ควรพลาดที่นี้เลยนะค่ะเพราะมีผลงานจากศิลปินชื่อดังหลายภาพเลยที่เดียวและยังมี ภาพวาดจากฝีมือพระหัตถ์ของสมเด็จพระเทพรัตนฯ อีกด้วยค่ะ





และเราก็จะแว่ะไปวัดหนองบัวเป็นวัดชาวบ้าน ที่มีจิตรกรรมฝาผนังอยู่ด้านในด้วย และยังมีพิพิทภัณฑ์ที่จำลองบ้านของชาวไทลื้อและมีการท้อผ้าของชาวบ้านแถวนั้นให้ดูอีกด้วยค่า
















และเราก็จะไปที่สุดท้ายของวันนี้ คือวัดภูมินทร์นั้นเองซึ่งเป็นไฮไลท์ของจังหวัดน่าน ที่ใครมาแล้วต้องมาที่วัดแห่งนี้แน่นอนค่ะ
เป็นวัดที่มีภาพจิตกรรมฝาผนังที่โดงดังมาก จดได้เรียกว่าเป็นภาพ กระซิบรักบันลือโลกเลย 👍🏻





และเราก็จะไปพักกันที่โรงแรมน่านน้ำทอง เป็นโรงแรม ที่มีการบริการที่ดีมากกก มีสระว่ายน้ำ และมีห้องฟิตเนสไว้บริการอีกด้วย
*ไม่ได้โฆษณาให้ทางโรงแรมแต่อย่างใดเลยค่ะ เป็นแค่เพียงการรีวิวเท่านั้นค่ะ *







เช้าวันต่อมาเราก็รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเลยค่ะ และไปเที่ยวต่อที่วัดพระธาตุแช่แห้ง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของคนน่านเลยทีเดียว และยังเป็นวัดประจำปีเกิดของคนเกิดปีเถาะอีกด้วย 🐇







และไปไหว้พระต่อที่วัดมิ่งเมือง หรือเสาหลักเมือง เป็นวัดที่มีการออกแบบคล้ายกับวัดร่องขุ่นมากๆๆเลยยย


(ขออนุญาติเจ้าของภาพถ้าผ่านมาเห็นนะค่ะพอดีรูปที่ถ่ายมาเองไม่สวยเท่านี้ 🙏🏻)



จากนั้นเราก็จะไปต่อที่พิพิทภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน ไปดูงาช้างดำที่มีแห่งเดียวในโลก










และแว่ะซื้อของฝากที่ศูนย์โอท้อป ของน่าน เป็นร้านค้าที่มีของฝากรวบรวมอยู่ที่นี้ ราคาก็ไม่แพงมาก



ก่อนกลับกรุงเทพเราก็จะแว่ะกินข้าวที่ร้านอาหารวังปลาหน้าเขื่อน เป็นร้านอาหารที่ติดแม่น้ำน่าน