มาไซโครายวัน เอ้ย!!! พูดคุยรายวันครับ วันนี้อยากเล่าเรื่อง "แนวรับแนวต้าน" จากที่สังเกตให้ฟัง

      หลังเลิกจากงานกินข้าวปลาเรียบร้อยก็มานั่งจุมปุ๊กหน้าคอมพ์เข้าพันทิปเปิดกราฟหุ้น ท้องอิ่มสมองก็แล่นกราฟของ SET ระยะเดย์ที่เปิดก็พลันสว่างวาบขี้นมาทันใด แท่งเทียนย้อนหลังไปหนึ่งปีแสดงให้เห็นถึงความยึกยือขึ้นๆลงๆและหยุดในบางจุดซ้ำๆเดิมก่อนเคลื่อนไหวต่อไป จุดจุดที่เหล่าคนใช้กราฟเทคนิครู้จักมันดีพวกเขาเรียกมันว่า "แนวรับแนวต้าน" หลังจาก SET เบรคแนวต้าน 1600 เมื่อสองปีก่อน กราฟระดับวันในหนึ่งปีที่ผ่านมา จขกท พบว่าจุดที่แท่งเทียนมักจะหยุดพักเสมอไม่ว่าจะขี้นหรือลงเป็นประจำนั่นคือระดับ 1660-1680 จุด ยามที่แท่งเทียนสามารถขี้นไปยืนเหนือ 1680 มันก็จะทำยอดสูงขี้นแต่เมื่อใดก็ตามที่กลับลงมาแล้วหลุด 1680 เกือบร้อยเปอร์เซนต์มันจะลงไปที่ระดับ 1600 ทุกครั้ง และตั้งแต่ 5 สิงหาที่ผ่านมาเป็นอีกครั้งหนึ่งที่มันหลุดแนวรับที่ว่าและก็เหมือนเดิมที่มันเคยเป็น 1680-1660 หากนับความน่าจะเป็นจากข้างต้นโอกาสที่มันจะกลับลงไป 1600 ณ.ตอนนี้ก็คงจะเกิน 60 % ไปแล้ว สองปีที่แล้วหุ้นขี้นขานรับข่าวเลือกตั้งที่ปล่อยออกมาเป็นระยะๆ สูงสุดที่มันทำได้ก็ 1852.51 จุด และอีกหนึ่งครั้งหลังจากนั้นก็ 1766.62 หลังจากที่ผ่านการเลือกตั้งและได้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างทุลักทุเล 1748.15 นั่นคือที่มันเป็น ที่เป็นอย่างนั้นก็คือสิ่งที่พวกเราเรียกว่า FACT หรือ SELL ON FACT ขายทำกำไรรับข่าวดีนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเลือกตั้ง งบไตรมาสสอง ปันผล ฯลฯ ท่ามกลางกระแสสงครามการค้าโลก สงครามค่าเงิน ถึงเวลานี้ก็อยากจะไซโคบรรดาน้องเม่าน้องกบทั้งหลายว่า หากคิดว่ามันจะกลับตัวในช่วงเวลาแบบนี้บอกเลยว่าฝัน การซื้อหรือถัวหุ้นในขณะที่แนวโน้มขาลงเป็นต่อเป็นการฝืนธรรมชาติอย่างร้ายแรงไม่ต่างจากการว่ายกบทวนน้ำหรือเข็นครกขี้นดอย มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยว่าการกระทำเช่นนั้นมันจะส่งผลดี ที่ผ่านมาผมเคยเห็น PTTEP ลงจาก 200 เหลือ 40 บาท ADVANC จาก 300 เหลือ 130 DTAC 130 เหลือ 30 เป็นอะไรที่น่าเจ็บปวดสำหรับหุ้นขาลง อ้าวพิมพ์เพลินลืมกินยา ไปทานยาก่อนนะครับหมอบอกหากทานไม่ครบตามสั่งอาการจะกำเริบ