การเดินทางผจญภัย ก่อนอายุ 25 ที่ยอดเขา Siguniang ประเทศจีน

การเดินทางผจญภัย ก่อนอายุ 25 
สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้เเรกของเราใน pantip เนื่องจากว่าตัวเองอยากออกไปผจญภัยก่อนอายุ 25 เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาได้ออกเดินทางออกไปผจญภัยที่ประเทศจีน โดยเป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้คือการปีนเขาขึ้นไปที่ยอดเขา Siguniang หรือที่รู้จักกันว่า ภูเขาสี่ดรุณี สิ่งที่ตื่นเต้นสำหรับการเดินทางครั้งนี้คือการปีนเขาในต่างประเทศครั้งเเรกในสภาพอากาศที่ติดลบซึ่งตัวเองก็ไม่เคยเจอมาก่อนเหมือนกัน
ช่วงเเรกก็ไม่ได้กังวลมากเเต่พอใกล้ถึงวันเดินทางก็รู้สึกกังวลนิดๆเเต่ด้วยที่เป็นคนที่ออกกำลังกายบ้างเเละพยายามดูเเลตัวเองจากการทานวิตามินเลยคิดเข้าข้างตัวเองว่าไหว
การเตรียมเสื้อผ้าอุปกรณ์การเดินทางก็สำคัญมากๆโดยเฉพาะรองเท้าเพราะเคยใส่รองเท้า vans ปีนขึ้นภูกระดึงตอนนั้นเท้าเเทบพังเเละรู้เลยว่ารองเท้าสำคัญต่อการเดินเขามาก
พอถึงวันเดินทางต้องไปเตรียมตัวเพื่ออกเดินทางที่สนามบินดอนเมืองเพื่อบินไปสู่สนามบินเมืองเฉิงตู ประเทศจีน ออกเดินทาง
วันที่ 9 พฤษภาคม เวลา 19.50 น. เช็คอินเที่ยวบิน FD562 เดินทางจากสนามบินดอนเมืองบินสู่เฉิงตู  วันที่ วันที่ 10 พฤษภาคม เมื่อถึงสนามบินเฉิงตูผ่าน ตม. รับกระเป๋าเข้าห้องน้ำนอนพักผ่อนเพื่อออกเดินทางตอน 05.00 น. เมื่อถึงเวลานั่งรถไฟฟ้าจากสนามบินเข้าเมือง เพื่อเดินทางด้วยรถยนต์เดินทางเข้าสู่ยื่อหร่ง ไปที่ศูนย์อนุรักษ์เเพนด้า หว่อหล่ง ซึ่งAclimazation ที่ความสูง 3,200 เมตร เดินทางเข้าสู่ที่พัก
วันที่ 11 พฤษภาคม ออกเดินทางจากที่พักไปยังอุทยานเพื่อเดินทางด้วยม้า ขึ้นไปยังเเคมป์ที่ความสูง 4,300 เมตร 
วันที่ 12 พฤษภาคม เวลา03.00 น.ออกเดินทางจากเเคมป์ขึ้นสู่ยอดเขา Siguniang เเละเดินทางกลับที่พัก


เป็นทริปที่เดินทางเก่ง เเต่เรื่องราวระหว่างทางกับวิวก็ทำให้ประทับใจเก่งเช่นกัน ตั้งแต่นั่ง Mrt ออกจากสนามบิน ปัญหาอย่างนึงคือคนจีนไม่พูดengเลยก็ใช้ภาษามือเเละgoogle translateช่วย ออกมาจากสถานีmrt jinzhou road ก็เเวะซื้อซาลาเปา เเล้วก็ขนมชนิดใหม่ไม่รู้ชื่ออะไรเเต่เหมือนขนมจีบเเต่ใหญ่กว่าข้างในเป็นข้าวข้างนอกเป็นเเป้งเเปลกดี ราคาน่าจะ 4 หยวนได้ จากนั้นก็นั่งรถออกเดินทางไปยื่อหรง นั่งรถยาวเเต่วิวเมืองก็ดีมากบ้านเมืองดูสะอาด อากาศดีน่าจะประมาณ25องศาเพลงในรถก็เพาะมากคือชอบเพลงจีนไปเลยคนขับรถชื่อพี่ถังเป็นคนจีนดูใจดีเเต่ขับรถได้โหดเช่นกันเเวะพักรถสักที่เดินเล่นไปเจอดอกกุหลาบเเต่เป็นดอกกุหลาบหน้าตาเเปลกๆไม่เคยเห็นเเต่น่ารักดีอยู่รั้วข้างโรงเรียนมองไปในโรงเรียนเป็นสนามบาสเด็กวิ่งเล่นกันเด็กที่นี่คงมีความสุขน่าดูเพราะรอบโรงเรียนมีภูเขามีเเม่น้ำอากาศดีสุดเจอเจ้าหมาน้อยสองตัวอีกตัวนึงเหมือนน้องจะตาเสียไปข้างนึงเเต่ดูเฟรนลี่กับมนุษย์สุดๆจากนั้นก็เดินทางต่อไปศูนย์อนุรักษ์แพนด้า หว่อหล่งเเต่ไม่ได้เข้านะเดินเล่นกินไอติมรอทานข้าวเพราะหนังตรงเล็บเท้านิ้วก้อยฉีกกลัวว่าเท้าจะไม่ไหวเเละไม่ได้เอารองเท้าแตะมาเเต่ก็มีคนใจดีเอามาให้ยืมพอรักษาให้เเผลดีขึ้นจากนั้นก็เดินทางต่อไปที่พัก ระหว่างทางนอนไม่หลับเลยซึ่งควรจะนอนเเต่รู้สึกตื่นตากับธรรมชาติที่นี่มันดูสมบรูณ์เหมือนได้เที่ยวไปตลอดการเดินทางคนจีนขับรถได้โครตหวาดเสียวเลยเหมือนพร้อมพุงพร้อมชนเเซงทางโค้งเลยทำให้ตื่นรึเปล่าไม่รู้นะ พอขึ้นเขามาเรื่อยก็เจอวิวเเบบอลังการตั้งเเต่ทางเริ่มเเวะพักรถก็ลงไปถ่ายรูป เข้าห้องน้ำ ห้องน้ำจีนคือสุดของสุดทั้งกลิ่นทั้งความสะอาดเเบบว่าทำใจ ตอนเเวะพักรถก็ได้เจอกับกุหลาบพันปีสีชมพูน่ารักดี หลังจากนั้นก็เดินทางเพื่อเข้าที่พักต่อ พอถึงที่พักห้องพักก็น่ารักมากเเค่ผ้าม่านก็ทำให้ใจสั่นละเจอวิวตรงหน้าต่างเป็นต้นไม้สีเขียวไล่เฉดสีทั้งเขาโครตจะน่ารักเลยมีทั้งฝนทั้งหิมะตกเเต่ก็ได้ออกไปดูพิธีกรรมสักอย่างนึงของคนที่นี่เหมือนการไหว้เจ้าขอพรตอนเดินเข้าประตูก็คือเดินผ่านควันไฟมีผ้าสีขาวเขาเอามาครองคอเเล้วเข้าไปข้างในก็มีหม้อไฟหมาล่า เป็นคนชอบกินหมาล่านะเเต่เเปลกว่าที่นี่รู้สึกไม่ถูกปาก อาหารมันมันและเลี่ยนโชคดีที่พี่ในทีมพกอาหารไทยไปมีการเเสดงเต้นรำเเละการไหว้ขอพร หลังจากนั้นก็เเวะไปร้านขายของซื้อเสื้อกันฝนกับช็อกโกแลตเพื่อเตรียมไปขึ้นเขาพรุ่งนี้เเล้วก็กลับที่พักมีเตียงเเบบติดฮีตเตอร์เลยทำให้สยบความหนาวไปได้บ้าง ร่างกายก็ดูปกติดีกับความสูงกับอากาศเเบบนี้มีกินยาdiamox กับยาบำรุงเลือดเเล้วก็วิตามินไป จบวันเเรก

วันที่สองตื่นมาก็ มีทำพิธีเอาผ้ามาครองคอน่าจะเพื่อความเป็นสิริมงคลนะ เเล้วออกเดินทางไปอุทยาน พอถึงอุทยานก็ลงชื่อเพื่อเอาตั๋ว ราคาตั๋ว150หยวนหลังจากนั้นก็เดินทางขึ้นไปเเคมป์ที่ความสูง4300เมตรโดยค่าม้าประมาณ 310หยวน พักกินข้าว ราคา 10 หยวน ห้องน้ำที่นี่คือทรหดมากนะไม่มีประตู ห้องน้ำคือไม่ใช่ส้วมเเบบประมาณขี้ก็คือขี้ก็จะกองอยู่ตรงนั้น เราก็จะเห็นขี้ของคนอื่น เพราะฉะนั้นกระดาษทิชชูเปียกคือสิ่งสำคัญ เจอเเมวป่าอ้วนน่ารัก เเล้วก็ออกเดินทางต่อ การไปครั้งนี้ก็ได้เรียนรู้ภาษาจีนด้วยพยายามพูดกับคนที่จูงม้าก็สนุกดี นี่ฉือ หว่อฉือตลอดทาง เเล้วก็คุยกับม้าชมบรรยากาศ มันอลังการมากๆสูงขึ้นอากาศก็หนาวขึ้น พอถึงเเคมป์ก็พักผ่อน ทานข้าวเย็น ก็เดินออกมาสำรวจ มีให้เลือกนอนสองอย่างคือเต๊นท์กับบ้าน นอนบ้านก็เสีย 100 หยวน ความหนาวมาเยือนอยู่ๆหิมะตกจากพื้นที่สีเขียวก็กลายเป็นสีขาวรับทุกอรรถรสของอากาศ ช่วงกลางคืนนอนไม่หลับเลย อากาศติดลบหนาวมาก จบวันที่สอง


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
วันที่สาม วันเเห่งการขึ้นเขาพิชิตความสูง 5038เมตร ตื่นมาประมาณตีสองกว่าๆปวดฉี่มากเเต่คือหิมะท่วมออกเดินไปห้องน้ำไม่ได้เลยต้องฉี่ข้างบ้านเลยเเบบกลั้นใจสุด จากนั้นก็เเต่งตัว เสื้อผ้าก็คือมีลองจอน เสื้อขนเป็ด เสื้อกันลมด้านนอก กางเกงออกกำลังกาย ทับด้วยกางเกงกันน้ำ ถุงเท้าหนา รองเท้าบู้ทเเบบtrekking หมวกไหมพรมคาดไฟฉายเเล้วก็มีใส่เเคมปอนกับเก็ตเจ็ต ตอนนั้นรู้สึกเหมือนไม่ได้นอนอากาศก็หนาวมาก ไปกินข้าวก็มีขนมปังรองท้องหลังจากนั้นก็ออกเดินทางตอนนั้นร่างกายก็ดูปกติดี พอเริ่มสว่างเราก็เห็นทางมากขึ้น วิวก็สวยมากๆ ยิ่งเดินขึ้นก็มาเจอทางเเบบทางชันเลยเเทบจะ180องศา มีต้องปีน เเต่ตอนนั้นก็ไม่คิดอะไร เเปลกมากที่รู้สึกว่าเราไม่ได้อยากจะถอยกลับเเละขอบคุณร่างกายที่มันไม่เป็นไรทั้งที่ตอนเเรกกังวลว่าจะไม่รอดเพราะจะต้องเป็นประจำเดือนวันที่ปีนพอดีตอนก่อนมาไปปรึกษาหมอจะซื้อยาหยุดประจำเดือนเเล้วไปปีนเขาเเต่หมอไม่เเนะนำเพราะยามีผลทำให้มึนหัว ก็เลยคิดว่าปีนได้ก็ปีนไม่ได้ก็นอนเเคมป์ พอเดินได้ครึ่งทางมองไปด้านหลังวิวมันสวยประทับใจมาก อากาศเปลี่ยนนับเป็นนาทีเได้เลยเด๋วลมฟ้าปิดเด๋วเเดดฟ้าปดอกหิมะตกคือครบ พอสูงขึ้นเห็นเป้าหมายทางขึ้นก็จะอันตรายมันลื่นเเละก็ต้องจับสิลงไปสักพักก็summit อารมณ์ตอนนั้นก็คือไม่รู้จะพูดไงมันเหมือนในหนังฉากcgเเต่เป็นธรรมชาติไงที่สร้างขึ้นมา หลังอบู่สักพักก็เดินลงทางลงคืออันตรายกว่าขึ้นเพราะทางลื่นเเละเราควบคุมตัวเองไม่ได้ถไลครั้งเเรกไปชนพี่ครั้งสองเกือบตกคิดในใจรอดก็รอดไม่รอดก็ไม่รอด55เเต่ตัวไปติดสลิงทุกคนที่เดินตามหลังก็ตกใจ ตอนเนินที่ความชัน180 ก็คือเป็นหิน ตอนนั้นรู้สึกถึงความเหนื่อยละ ร่างกายเริ่มล้าพอลงเนินมาก็โล่งขึ้นเดินทางเรียบ หิมะตกหนาวอีกร่างกายอ่อนเเอเเละน้ำที่พกมาก็หมดกันเเล้วเเต่ก็เดินมาถึงตรงเเคมป์โดยปลอดภัย จอนเเรกคิดว่าไม่ขี่ม้าลงเขาเพื่อหกลับที่พักจะเดินลงน่าจะ12กิโลได้คิดว่าชิวเเต่คือตอนนั้นเเบบขอฮอลมารับเลยได้ไหมก็ขี่ม้าลง ตอนลงล้ามากเเละพี่ในทีมก็ตกม้า ฝนก็ตก อากาศเปลี่ยนไปมา ทางคือเละมาก ตอนพักได้มาเจอเจ้าเเมวป่าคราวนี้มานอนตักเลย เเล้วก็เดินทางต่อหลังจากลงม้าก็นั่งรถกลับที่พัก ค่าม้าตอนลงก็310 หยวน จบวันที่สาม ไม่อาบน้ำนะนอนเลย55

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่