ประสบการณ์การไปดูเธียเตอร์ Stage BNK48 Trainee/44 วันเสาร์ที่ 3/8/62 เวลา 17.00 น. สุ่มวันนี้...เพราะมีเจี๊ยบบบ!!!

          ขอบอกก่อนว่าเธียเตอร์รอบนี้เป็นครั้งที่ 2 ในชีวิตของผมครับ ครั้งแรกที่ผมได้ไปคือ Stage BNK48 BIII/94 วันเสาร์ที่ 29/6/62 เวลา 13.00 น. (ไปดูปูเป้&นิว) จากครั้งแรกที่ได้ดูเธียเตอร์จบก็คิดว่าจะต้องกลับมาดูอีกแน่นอน (ถ้าสุ่มได้) คือผมอยากดูโอชิของตัวเองขึ้นแสดงให้ครบทุกคนถึงจะมิสชั่นคอมพลีท (อาจไม่ต้องขึ้นรอบเดียวกันก็ได้ แต่ขอให้ได้ดูครบทุกคนพอ) สารภาพเลยว่าผมมีโอชิทั้งหมด 4 คน ชอบเท่าๆ กันทุกคน หวีดทุกคน สนับสนุนทุกคน โดยเรียงจากเริ่มชอบก่อนไปชอบหลัง คือ 1.ไข่มุก (ตั้งแต่เปิดเพจออฟฟิเชียลใหม่ๆ โดนเพื่อนป้ายยามา) 2.ปูเป้ (จาก BNK48 Senpai และ Voov Live) 3.นิว (จากรูปโปรไฟล์ตอนเปิดเพจออฟฟิเชียล ตอนแรกผมไม่รู้จะโอชิใครในรุ่น 2 ดี ก็เลยเลือกโอชิจากรูปโปรไฟล์นี่แหละ) 4.มายยู (จาก HITZ Karaoke ชั้น 23 ของรุ่น 2 ช่วง 2 นาทีสุดท้าย บอกเลยว่าแค่ 2 นาทีก็ทำให้ผมชอบน้องได้แล้ว) จนเมื่อวันจันทร์ที่ 29/7/62 ทางออฟฟิเชียลก็ได้เปิดให้สุ่มเธียร์เตอร์ในเว็บ ผมก็กดสุ่มทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ครบทั้ง 4 รอบเลย (วันเสาร์มีมายยู ส่วนวันอาทิตย์มีไข่มุก) วันต่อมาก็ได้รับข่าวดีเลยว่าสุ่มได้วันเสาร์รอบเย็น ก็ทำการจ่ายเงินเสร็จสรรพ รอเวลาให้ถึงวันเสาร์ไวๆ

          จนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1/8/62 เรื่องตื่นเต้นก็เกิดขึ้นกับผม สืบเนื่องจากไลฟ์ของมายยูตอน 23.30 น. ที่น้องบอกว่านอนไม่หลับมาจะครบวันแล้ว วันนี้ก็เพิ่งไปถ่ายงานมาด้วย (ผมไม่รู้ว่าเป็นงานของทาง BNK หรือของทางมหาลัย) แล้วน้องยังบอกอีกว่าถ้าคืนนี้นอนไม่หลับอีกคงได้ไปโรงพยาบาล ในใจผมก็คิดว่าเอาแล้ว น้องจะไม่สบายไหมนะ จะขึ้นแสดงไหวไหม เห็นการเปลี่ยนตัวเมมเบอร์กะทันหันเพราะปัญหาเรื่องสุขภาพมาก็หลายคนแล้ว ใจนี่คิดในแง่ร้ายไปก่อนเลย วันต่อมาก็ตามคาดครับ เวลาประมาณ 17.00 น. ผมก็ไปเจอโพสต์นึงของเพจที่เอาสตอรี่ของน้องมาลงในเฟซบุ๊กว่าน้องเข้าโรงพยาบาลให้น้ำเกลืออยู่ เท่านั้นล่ะครับ ผมนี่อึ้งเลย เดาถูกจริงๆ ด้วยว่าน้องต้องไม่สบาย (ToT) แล้วถ้าน้องป่วยจนขึ้นแสดงไม่ได้จะเอายังไงดี ใจนึงก็อยากให้น้องพักจนหายดีก่อน ใจนึงก็อยากดูน้องแสดง ถ้าน้องขึ้นแสดงไม่ได้จะไปดีไหม ผมคิดแบบนี้จริงๆ ครับ เพราะถ้าไม่มีมายยูขึ้นแสดงความอยากดูของผมก็หายไปเกินครึ่งแล้ว จากนั้นผมก็ทำการเช็คข่าวในเพจออฟฟิเชียล กดรีเฟรชดูไปเรื่อยๆ เลยครับ เผื่อว่าจะมีประกาศเปลี่ยนตัวเมมเบอร์ จนเวลา 18.30 น. ผมก็ไปเปิดเจอโพสต์ของน้องใน BNK48 App ว่า “พน.ขึ้นเธียเตอร์ปกติค่ะ ใครกดได้รอบไหนก็ เจอกันนะ! แค่นี้จิ๊บๆ อะแชะๆซะหน่อยยยย” โอ้ มาย ก๊อดดด!!! ผมนี่ดีใจน้ำตาแทบไหล น้องแข็งแกร่งมากกก แต่ก็ไม่อยากให้น้องฝืนตัวเองด้วย สรุปคืนนั้นก็นอนหลับอย่างสบายใจเลยครับ รอให้ถึงวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว

          วันเสาร์ที่ 3/8/62 ตื่นมาสายๆ อย่างสบายใจ อาบน้ำออกจากห้องตอนบ่ายสามกว่าๆ ไปถึงเดอะมอลล์ บางกะปิ ตอน 4 โมงนิดๆ ก็เข้าไปทำการลงทะเบียนรับตั๋วตามปกติ ในใจภาวนาว่า เพี้ยงงง!!! รอบนี้ขอให้สุ่มได้แถวหน้าๆ บ้างเถอะ ครั้งแรกได้แถว J ตรงกลางๆ ครับ คนข้างหน้าสูงด้วย เลยต้องเอียงดูซ้ายที ขวาที พอเจ้าหน้าที่ส่งตั๋วมาให้ก็ค่อยๆ แง้มดูครับ แถ่น แทน แท้น ท่านได้แถว N!!!!!! ใช่ครับ ผมได้แถว N ซึ่งเป็นแถวรองสุดท้ายจากเวที แถมอยู่ค่อนไปทางซ้ายของเธียเตอร์อีก ในใจก็เฟลไปแล้วครับว่าทำไมเราไม่ได้แถวหน้าๆ บ้างนะ แล้วจะเห็นน้องชัดไหม คนข้างหน้าจะสูงจนบังแบบครั้งที่แล้วไหม บลา บลา บลา แต่คิดซะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมดีเสมอ ผมก็เลยลงไปเดินเล่นฆ่าเวลา จนเหลืออีก 15 นาทีก่อนการแสดงก็เข้าไปในเธียเตอร์

          อากาศในเธียเตอร์ค่อนข้างหนาวครับ ใครที่ขี้หนาวควรใส่เสื้อแขนยาวเข้าไป (ยกเว้นตอนแอร์เสียนะ) ก่อนการแสดงก็มีเสียงประกาศของเมมเบอร์ ผมก็ฟังไปโดยที่เดาไม่ถูกเลยว่าใครเป็นคนพูด จนตอนท้ายน้องมาเฉลยว่าวิวเองค่ะ เปิดการแสดงมาด้วยเพลงปาร์ตี้ในฝัน มายยูออกมาด้วยผมทรงใหม่คือทรงบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ซึ่งผมได้เห็นรูปน้องที่โพสต์ใน BNK App ตอนบ่ายสามไปรอบนึงแล้ว แต่มาเจอของจริงบนเวทีขอบอกเลยว่าตัวจริงน้องน่ารักกว่าในรูปมากครับ (ตอน 2-Shot ผมก็เสียอาการไปรอบนึงแล้ว พอเจอน้องเข้าจริงๆ คำพูดที่เตรียมมาคุยมันก็หายไปหมดเลย ตอนนั้นบอกน้องไปว่าเจอกันอีกทีงานจับมือเดือนกันยายน ไม่คิดเลยว่าอาทิตย์ต่อมาก็ได้เจอกันแล้ว ดีใจจัง) โดยตั้งแต่เริ่มการแสดงมันก็ทำให้ผมกลายเป็นคนมองโลกแคบไปเลย เพราะอะไรน่ะหรอครับ เพราะผมมองเห็นแต่มายยูคนเดียวเลยไง (ผ่ามมมม!!! พามมม!!!) ผมไม่รู้ว่าใครเป็นเหมือนผมบ้างไหม คือทุกการแสดงที่มีโอชิของเราขึ้นเนี่ย สายตาเราก็จะจับจ้องไปที่โอชิของเราคนเดียวเลย ครั้งนี้เลยทำให้ผมได้ดูคนอื่นบ้างเฉพาะตอนที่เมมเบอร์คนอื่นมาเต้นข้างๆ มายยู หรือไม่ก็ยูนิตที่มายยูไม่ได้ขึ้นแสดง (ขอโทษแฟนคลับเมมเบอร์ท่านอื่นด้วยครับ) การแสดงของมายยูเป็นไปตามที่คุ้นเคยครับ คือสดใส ร่าเริง เต้นใส่เต็ม และดีดมากกก จนดูไม่ออกเลยว่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมา การแสดงดำเนินไปเรื่อยๆ จากเพลง Skirt, Hirari – Classmate – Anata to Chrismas Eve ซึ่งผมเพิ่งจะได้ฟังน้องนายและน้องฟีฟ่าร้องสดแทบจะครั้งแรกเลย ลองหลับตาฟังเสียงไปตามอารมณ์เพลงแล้วรู้สึกเพราะมากๆ ครับ จนกระทั่งมาถึงเพลง Kiss wa Dame yo ซึ่งยูนิตนี้มี วี แพนด้า และพาขวัญ ผมดูแล้วรู้สึกได้เลยว่าน้องพาขวัญพัฒนาขึ้นมากครับ (ไม่รวมความอ๊องในไลฟ์ ซึ่งก็มากขึ้นเช่นกัน) ครั้งสุดท้ายที่ได้ดูน้องเต้นตอนออกงานก็เมื่อนานมากแล้ว วันนี้น้องเต้นได้ดีขึ้นมาก ดูพลิ้วไหว ไลน์เต้นชัด ไม่ได้ด้อยไปกว่าเพื่อนร่วมยูนิตเลย ประทับใจมากครับ ต่อมาเพลง Hoshi no Ondo ยูนิตนี้มีมายยูด้วยครับ ผมตั้งใจฟังมาก น้องอาจจะมีเสียงแฟลตช่วงท้ายท่อนเดี่ยวแรกนิดนึง แต่ก็มาทำได้ดีในท่อนเดี่ยวที่สองครับ ก่อนจะปิดท้ายช่วงก่อน Encore ด้วย Sakura no Hanabiratachi และ Aozora no Soba ni Ite โดยใน Emcee ทั้ง 2 ช่วง อาจจะมีติดขัดบ้าง Dead Air บ้างนิดหน่อย แต่ก็เรียกเสียงหัวเราะได้อยู่ครับ (พี่ใหญ่ตาหวานของเราบอกในไลฟ์ว่าวันนี้มาขึ้นแสดงกับรุ่น 2 เกือบทั้งหมด ทำให้ยังไม่เข้าขากันและยังเกร็งๆ อยู่บ้าง ทำให้เห็นว่าอาจจะพูดน้อยไปหน่อย ซึ่งตาหวานคงอยากให้รุ่น 2 เป็นคนดำเนินรายการมากกว่า) มาถึงเพลง JABAJA ในช่วง Encore ทุกคนใส่เต็มที่มาก โดยเฉพาะตอนจบเพลง ตาหวานบอกในไลฟ์ว่าทุกคนก็เต้นแรงนะ แต่พี่เต้นแรงกว่าแค่นั้นเอง (อันนี้เห็นด้วยครับ ยก MVP ให้เลย) ปิดท้ายด้วยเพลง Sakura อีกรอบด้วยความประทับใจกันไป

          จบการแสดงแสงไฟเริ่มเปิดขึ้น ทุกคนค่อยๆ ทยอยออกจากเธียเตอร์ ส่วนแถวรองสุดท้ายอย่างผมก็นั่งรอต่อไปยาวๆ ในใจก็คิดวางแผนถึงตอนเดินออกไปเจอน้องๆ ที่รอส่งข้างหน้าว่าจะทักทายมายยูยังไงดี จากประสบการณ์ครั้งแรกทำให้รู้ว่าเรามีเวลาประมาณ 2 วินาทีจากตอนที่เดินเลี้ยวออกมาจากประตู เพื่อมองว่าโอชิของเรานั่งอยู่ตรงไหน ใช่ครับ 2 วินาทีจริงๆ นับ 1-2 แค่นั้น ซึ่งครั้งแรกที่มาผมมองไม่ทันครับว่าปูเป้กับนิวนั่งอยู่ตรงไหน ก็ได้แค่โบกมือบ๊ายบายน้องทุกคนแล้วก็เดินออกมา (เห็นปูเป้แว๊บเดียวเอง) แต่ครั้งนี้เราต้องมองให้เร็วกว่านั้นครับ พอถึงคิวของแถวผมก็ลุกขึ้นเดินออกมาเรื่อยๆ พอจังหวะเดินพ้นประตูมา ผมก็กวาดสายตามองจากซ้ายไปขวา ในเวลาแค่ 2 วินาที ผมก็เห็นมายยูนั่งอยู่เกือบริมซ้ายสุดของโต๊ะ (ทางขวาของผม) ผมเดินตีโค้งเล็กๆ เพื่อให้ผ่านหน้าน้องนิดนึง โบกมือบ๊ายบายแล้วก็ใช้สองมือทำเป็นรูปหัวใจส่งให้น้องไป พอน้องเห็นน้องก็ทำมือเป็นรูปหัวใจส่งกลับมาครับ (โอ้ มาย ก๊อดดด!!! อะเมซิ่ง!!!) เป็นช่วงเวลาแห่งความประทับใจแม้จะแค่แป๊บเดียวเท่านั้น แล้วผมก็เดินออกมา

          สรุปการดูเธียเตอร์รอบนี้ก็จบลงด้วยความประทับใจครับ จากก่อนหน้านี้ที่คิดว่าตัวเองโชคร้ายได้นั่งแถว N แต่...แต่...แต่ ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีซ่อนอยู่ นั่นคือ 1.ตำแหน่งเต้นของมายยูเกือบทุกเพลงจะอยู่ค่อนมาทางขวาของเวที หรือก็คือแทบจะตรงกันกับตำแหน่งที่นั่งของผมพอดี (ยกเว้นเพลง Sakura ช่วง Encore ที่ไปอยู่ซ้ายสุด) 2.ด้านหน้าของผมไม่มีคนที่สูงมาก ทำให้เห็นน้องได้ชัดเจน (ถึงจะแค่ครึ่งตัวบนก็เถอะ) 3.การนั่งแถวหลังๆ ก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสียเสมอไป เพราะแถวหลังผม (แถว O) แทบจะไม่มีคนนั่งเลย คือมีอยู่แค่กลุ่มเดียวทางซ้ายสุดของเธียเตอร์ที่เข้ามาหวีดมายยูเหมือนกัน ทำให้ไม่ค่อยเขินอายเวลาเราจะหวีดเมมเบอร์ ตะโกนเชียร์ หรือสามารถยกมือโบกทักทาย ส่งหัวใจให้น้องได้หลังจบเพลง (ด้านหลังผมไม่มีใครเลยครับ มีแต่กำแพง) ซึ่งครั้งแรกที่ผมเข้ามาดูเธียเตอร์ก็ยังมีความเขินอายอยู่ครับ ไม่ค่อยกล้าตะโกนเชียร์เท่าไหร่ ถ้าคนข้างๆ นั่งเฉยๆ ด้วยเนี่ย แทบจะจบเลย ก็ทำให้ได้รู้ครับว่าการยิงมิกซ์หรือตะโกนเชียร์น้องระหว่างเพลงเนี่ย มันทำให้เราดูการแสดงสนุกขึ้นมากจริงๆ สุดท้ายแล้วถ้าถามว่าผมอยากเข้าไปดูเธียเตอร์อีกไหม บอกได้เลยครับว่าอยากไปอีกแน่นอน นั่นเพราะ 1.การดูในเธียเตอร์มันได้ฟีลลิ่งมากกว่าดูผ่านจอครับ (เหมือนเราไปดูการแข่งขันฟุตบอลที่สนามเทียบกับดูผ่านจอ มันได้อารมณ์ร่วมมากกว่าครับ) 2.ผมยังไม่เคยดูเธียเตอร์รอบที่ไข่มุกขึ้นแสดงเลย (ขาดอีกแค่คนเดียวเท่านั้น) ก็หวังว่ามิสชั่นของผมจะคอมพลีทก่อนที่ออฟฟิเชียลจะทำการเปลี่ยนสเตจนะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่