พึ่งนึกออกเลยต้องรีบมาตั้งกระทู้ อันนี้จากการกรั่นกรองส่วนบุคคล ประสบการณ์ตั่งต่าง ใครมีคำแนะนำอะไรก็ลงเพิ่มเติม ขอพลังบวกที่มีเหตุและผลรองรับ คนอ่านท่านอื่นๆจะได้มีกำลังใจต่อไป (ใครเป็นผู้ใกล้ชิดกับโค๊ช นักกีฬา หรือ FC ตั่งต่าง ถ้าเห็นว่ามีประโยชน์ก็ส่งกระทู้นี้ออกไปให้พวกนางๆได้อ่าน และพร้อมรบ)
1. เวลาฝึกซ้อมอยากให้นักกีฬาคิดเสมอว่า "ตัวเองยังไม่เก่งพอ" ย้ำคิดแบบนี้เฉพาะเวลาซ้อม หรือบุคคลทั่วไปที่ทำอะไรแล้วยากที่จะประสบความสำเร็จ
พอเราคิดแบบนี้แล้วต้องคิดต่ออย่าคิดชั้นเดียว เราจะหาว่าตัวเองทำไมถึงยังไม่ดีพอ ไม่ดีพอตรงไหน แล้วอะไรที่ควรเพิ่มให้ตัวเองก่อนที่จะให้โค๊ชมาเพิ่มให้อย่างเดียว
2. อย่าคิดว่า "ก็ทำได้เท่านี้คือที่สุดแล้ว ฉันเต็มที่แล้ว" ระหว่างที่ซ้อม
เพราะอะไรถึงไม่อยากให้คิดแบบนี้ เพราะการคิดแบบนี้เป็นการกดศักยภาพตัวเอง จริงๆแล้วตัวคุณอาจจะมีศักยภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ การเพิ่มขีดจำกัดของตัวเองเป็นสิ่งที่ควรคิด ไม่ควรรอให้โค๊ชมาเติมเต็มอย่างเดียว
*ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมา เปรียบเสมือนถ้าคิดว่าเราเป็นน้ำที่เต็มแก้ว ปิดกั้นตัวเอง ปิดกั้นโอกาส ถ้าไม่แสวงด้วยตัวเองก่อน คุณจะเพิ่มศักยภาพตัวเองอย่างไร
เมื่อคุณเปิดรับขีดจำกัดตัวเองแล้ว พัฒนาจุดที่บกพร่อง ปิดจุดด้อย มันก็คืออาวุธอย่างหนึ่งที่คุณพร้อมที่จะสู้ สู้เพื่อกีฬาที่คุณรัก สู้เพื่อตัวคุณเอง
สู้เพื่อครอบครัวของคุณ สู้เพื่อคนไทย หรือสู้เพื่อคนที่คุณรัก
3. ถ้าทำงานเป็นทีม สิ่งที่ต้องมีเลย คือเชื่อมั่นบุคคลรอบข้าง ถ้าไม่เชื่อมั่นกันจะทำงานเป็นทีมได้อย่างไร
4. จิตใจแกร่ง (จำเป็นต้องมีครบทั้ง 3 ข้อ) เมื่อมีอาวุธพร้อมรบ มีศักยภาพพร้อมที่จะสู้ เวลาลงสนามสำหรับนักกีฬาหรือคนที่จะทำอะไรสักอย่าง
เราก็พร้อมที่จะแสดงศักยภาพนั้นๆออกมา ที่เต็มด้วยความมั่นใจ มั่นหน้าว่าเราทำได้ ใจเราจะไม่แกว่ง เพราะเราทำได้
แพ้หรือชนะ ประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ เราจะรู้ด้วยตัวเราเองว่าไม่มีความเสียใจอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ฝากถึงนักกีฬา, โค๊ช และคนที่หมดกำลังใจบุคคลทั่วไป
1. เวลาฝึกซ้อมอยากให้นักกีฬาคิดเสมอว่า "ตัวเองยังไม่เก่งพอ" ย้ำคิดแบบนี้เฉพาะเวลาซ้อม หรือบุคคลทั่วไปที่ทำอะไรแล้วยากที่จะประสบความสำเร็จ
พอเราคิดแบบนี้แล้วต้องคิดต่ออย่าคิดชั้นเดียว เราจะหาว่าตัวเองทำไมถึงยังไม่ดีพอ ไม่ดีพอตรงไหน แล้วอะไรที่ควรเพิ่มให้ตัวเองก่อนที่จะให้โค๊ชมาเพิ่มให้อย่างเดียว
2. อย่าคิดว่า "ก็ทำได้เท่านี้คือที่สุดแล้ว ฉันเต็มที่แล้ว" ระหว่างที่ซ้อม
เพราะอะไรถึงไม่อยากให้คิดแบบนี้ เพราะการคิดแบบนี้เป็นการกดศักยภาพตัวเอง จริงๆแล้วตัวคุณอาจจะมีศักยภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ การเพิ่มขีดจำกัดของตัวเองเป็นสิ่งที่ควรคิด ไม่ควรรอให้โค๊ชมาเติมเต็มอย่างเดียว
*ทั้ง 2 ข้อที่กล่าวมา เปรียบเสมือนถ้าคิดว่าเราเป็นน้ำที่เต็มแก้ว ปิดกั้นตัวเอง ปิดกั้นโอกาส ถ้าไม่แสวงด้วยตัวเองก่อน คุณจะเพิ่มศักยภาพตัวเองอย่างไร
เมื่อคุณเปิดรับขีดจำกัดตัวเองแล้ว พัฒนาจุดที่บกพร่อง ปิดจุดด้อย มันก็คืออาวุธอย่างหนึ่งที่คุณพร้อมที่จะสู้ สู้เพื่อกีฬาที่คุณรัก สู้เพื่อตัวคุณเอง
สู้เพื่อครอบครัวของคุณ สู้เพื่อคนไทย หรือสู้เพื่อคนที่คุณรัก
3. ถ้าทำงานเป็นทีม สิ่งที่ต้องมีเลย คือเชื่อมั่นบุคคลรอบข้าง ถ้าไม่เชื่อมั่นกันจะทำงานเป็นทีมได้อย่างไร
4. จิตใจแกร่ง (จำเป็นต้องมีครบทั้ง 3 ข้อ) เมื่อมีอาวุธพร้อมรบ มีศักยภาพพร้อมที่จะสู้ เวลาลงสนามสำหรับนักกีฬาหรือคนที่จะทำอะไรสักอย่าง
เราก็พร้อมที่จะแสดงศักยภาพนั้นๆออกมา ที่เต็มด้วยความมั่นใจ มั่นหน้าว่าเราทำได้ ใจเราจะไม่แกว่ง เพราะเราทำได้
แพ้หรือชนะ ประสบความสำเร็จหรือไม่ประสบความสำเร็จ เราจะรู้ด้วยตัวเราเองว่าไม่มีความเสียใจอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น