พ่อเล่าให้ฟัง ขนลุกกับกรรมที่กระทำแล้ว แม้จะเป็นพระพุทธรูปก็ตาม.

เมื่อวันวานไปเยี่ยมพ่อที่บ้าน  ก็สนทนากันตามที่ไม่ได้เจอะเจอกันนาน ตอนนึงพ่อก็พูดถึงลูกค้าประกันชีวิตรายนึง ที่ทำกรรมแรงกับพระ แม้เป็นพระพุทธรูป เรื่องมีอยู่ว่า  พ่อไปเก็บเบี้ยประกันชีวิต(หรือค่างวด) ปีที่ 2 ที่บ้านลูกค้า  ซึ่งตัวผู้เอาประกันเองในปีแรกไม่ได้จ่ายเงินทำเอง (พ่อเป็นผู้จ่ายให้ เพราะลูกเพิ่งซื้อ Big Bike ใหม่มา )เมื่อถึงบ้านลูกค้าๆก็บอกว่า   ตอนนี้ ยังไม่มีเงินเลยลุง ไว้ขาย"หัวพระ"ให้ได้เงินก่อนนะ  แล้วจะจ่าย

พ่อเลยทวนคำบอกที่ว่า หัวพระ  เบาๆ   ลูกค้าก็หัวเราะแล้ว ก็พาไปชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งมี เศียรพระ ที่เป็นเนื้อโลหะมากมาย ตั้งเรียงราย ที่เพิ่งได้มาใหม่บ้าง ที่ทำเสร็จแต่งเสร็จแล้วบ้าง ปนๆกันไป   เขาก็บอกว่า รอแต่ง แต่งเสร็จก็ส่งขายให้ฝรั่งๆชอบเอาไปแต่งเป็นหัวเสาบันไดบ้าง ไปประดับบ้าง

พ่อก็ถามว่า ไปเอามานี่ มีแหล่งหรือ   เขาก็บอกว่า  กลับไปวัดยามปลอดคนนั่นแหละ กับอุปกรณอีกอันที่ติดตัวไปเสมอ แรกไปก็ทำเนียนไปไหว้พระ แล้วก็ย้อนกลับมาภายหลัง  (ส่วนวิธีการขอไม่ระบุ)

หลังจากนั้น สักสามเดือน ความคุ้มครองในกรมธรรม์ประกันได้ขาดไปแล้ว พ่อของลูกค้า ก็โทรมาสอบถามพ่อว่า   

ถ้าตอนนี้จะเคลมประกันได้ไหม   เพราะลูกชายมีอุบัติเหตุ(แต่ไม่ได้บอกว่าเสียชีวิต)

พ่อก็ตอบไปว่า ความคุ้มครองของประกันขาดไปแล้ว เมื่อไปเรียกเก็บ ก็ไม่มี ตอนนี้ เกินกำหนดที่ประกันจะคุ้มครองแล้ว 

เขาก็บอกว่า ลูกชาย ขับมอไซค์คันเก่งกลับเข้าหมู่บ้าน ที่ป้อมยามหมู่บ้าน จะมีเสาที่กั้นยกกระดกได้ 

ลูกชายน่าจะขับมาเร็ว ลำคอไปฟาดกับอะไรไม่แน่ชัด ตัวยังจับแฮนด์รถ   ส่วนหัวยังอยู่ในหมวดกันน๊อกกลิ้งไปด้วยกัน

พ่อเล่าเสร็จก็บอกว่ากรรมที่ทำกับพระนี่ มันแรง  ทันตาจริงๆ ในชาตินี้  นี่ขนาดพระพุทธรูปที่ไม่มีชีวิตนะ