เรื่องมีอยู่ว่าเราเลิกกับแฟนเก่าคนนี้ไปนานมากประมาณ7ปีได้ เป็นคนที่คบกันตอนสมัยเรียนมัธยมจนถึงเราเข้ามหาลัย แฟนเก่าเป็นรุ่นน้องอายุห่างกันประมาณ4ปี คบกัน3ปี เลิกกันแบบจบไม่ดีเขามีแฟนใหม่ที่เป็นเพื่อนในห้องเขา แล้วเขาสองคนก็ไปเรียนมหาลัยด้วยกันอยู่ด้วยกัน คือดูชีวิตเขามีความสุขมากเราก็ได้แต่มองอยู่ห่างๆเพราะเราไม่มีสิทธิอะไรในตัวเขาแล้วและมันหน้าจะประมาณช่วงแฟนเก่าเราอยู่ปี4 สอบคัดเลือกได้ไปเรียนต่างประเทศ1ปี แต่มันก็เป็นกรรมมั้งแฟนคนที่เขาคบปัจจุบันไปมีแฟนใหม่ ตลอดระยะเวลา1ปีที่แฟนเก่าเราไปเรียนต่างประเทศเราก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยไม่มีข่าวอะไรที่เกี่ยวกับเขาเลย เราก็รอวันที่เขากลับมาไทยค่อยจะหาทางติดต่อไปแต่ก็ทิ้งระยะเวลาประมาณ1ปีรวมก็2ปีที่ไม่ได้ข่าวเขาเลย แล้วมันก็มีวันที่โลกหมุนทำให้เราต้องกลับมาเจอกัน คือวันที่เขาจะรับปริญญา เราก็ได้โทรไปหาแม่เขาเพื่อขอเบอร์น้อง พอได้เบอร์เรารีบโทรไปเลยนางรับนะแต่เหมือนจะสตั๊ล....คุยกันได้2วันเราไปร่วมยินดีในวันที่นางประสบความสำเร็จ เราเตรียมใจไปว่าแค่แสดงความยินดีกับน้องแต่.........พอเห็นหน้ามันไม่ใช่ที่คิดไว้มันก็สั่นๆแปลกๆและถามตัวเองอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ มีแฟนอยู่แล้วนะคือเรามีแฟนอยูแล้ว แต่ก็อยากมาแสดงความยินดีเพราะเรายังรักน้องเขาอยู่ไม่ว่าที่ผ่านมาเขาจะทำดีหรือไม่ดกับเราก็ตามเพราะเราคิดเสมอว่ามันเป็นเพราะเราไม่ดีเองเขาถึงไปคบคนใหม่
เจอกันครั้งที่1 งานรับปริญญา ที่ ม.สุโขทัยฯ ไปถึงก็ถ่ายรูปแสดงความยินดี(เราว่าจะกลับเลย) เขาใช้เราถือของ กระเป๋า รองเท้า เราก็ไม่ได้คิดอะไรก็ทำให้ แล้วมีกินข้าวกับครอบครัวเขาต่อ เราก็ว่าจะกลับเลย แต่น้องเขาก็พูดประมาณว่าให้ไปส่งที่ห้องหน่อย เราก็ตอบตกลงเลยนะไปส่งเขา ระหวางทางก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระน้องเขาก็นั่งแบบซบๆไหล่เราและเอามือมาวางตรงขาตลอด เราขับรถนะ มือนึงจับพวงมาลัย อีกมือก็วางตรงเกียร์รถ จนเราแน่ใจว่าเขาคงคิดเหมือนเราก็เลยจับมือและกุมมือกันมาตลอดทางจนถึงห้องเขา เราขนของช่วยเขาขึ้นไปบนห้องพอจะกลับ เราขอกอดเขา 1 ครั้งก็เหมือนจะจบแค่นั้น
เจอกันครั้งที่ 2 น้องเขานัดให้ไปรับแถวที่เขาพักอยู่จะให้เราพาไปหาหมอ แต่วันนั้นนางติดงานด่วนเลยไม่ได้ไปเราก็ไปถึงแบบแห้วๆคือเราลางานไปด้วย แต่น้องเขาก็พาไปกินข้าวนะ น้องเขาก็กอดเรา และบอกเราว่าเขาขอโทษนะที่ทำให้เสียเวลา เล่นพุงเรา กอด ซบ ให้เราหอมหัวคือพูดง่ายๆเหมือนคนเป็นแฟนกันคือง้ออะไรประมาณนี้(หรือเราคิดไปเอง) พอกินข้าวเสร็จเราก้ไปส่งนางที่หอพักแล้วเราก็กลับบ้าน
เจอกันครั้งที่ 3 ไปรับน้องเขามาที่โบส์คริสที่แถวรังสิต(น้องเขานับถือศาสนาพุทธนะแล้วก็มาเปลี่ยนเป็นคริส) ระหว่างทางมาก็นั่งรถมาด้วยกันจับมือกันตลอดทางแล้วเทอก็พูดขึ้นว่า ไม่อยากให้เราคิดกับเขาเกินเลย อยากให้เป็นพี่น้องที่หวังดีต่อกัน อยู่เป็นคนสำคัญของกันแบบยั่งยืนดีกว่า ถ้าเป็นแฟนกันเดี๋ยวก็เลิกกันและก็หายไปจากชีวิตกัน เราสะอึกเลย อ้าว....แล้วที่ผ่านๆมาปฏิบัติต่อกันมันคืออะไร สรุปเราคิดไปเองคนเดียวเจ็บสิครับรออะไร
เจอกันครั้งที่ 4 พาเขาไปหาหมอเพราะตาเป็นกุ้งยิง คือวันนั้นแฮปปี้สุดทุกอย่างราบเรียบมากไปหาหมอนางก็นอนซบ เดินไปก็กอดคอ เกาะแขนตลอด จุดนี้จี๊ดสุดเลยขับรถไปส่งนางที่ห้องก็กอดแขน จับมือ เหมือนทุกครั้งแต่มีพิเศษคือ ก่อนลงรถไม้ได้แค่กอดอย่างเดียว หอมแก้ม2ข้างเลยคือน้องเขาก็ยอมให้หอมนะวันถัดมาเราเลยถามว่าโกรธมั๊ยที่ทำแบบนั้นน้องเขาก็ตอบว่าไม่ แต่ไม่อยากให้ทำอีก ต่อไปมันจะกลับยาก เราเลยถามอีกว่าแล้วให้ทำ ทำไม นางก็ตอบว่าก็ความสุขของเทอเลยให้ทำ (เราวีดีคอลกันทุกวัน แบบตอนเช้านางจะโทรหาทุกเช้า ระหว่างวันก็จะคอลมาแล้วแต่นางว่างหรือสะดวก ซื้อชุดก็ไลน์มาให้เลือกให้ส่งวีดีโอกับทุกกิจกรรมที่ทำให้เราดู คือรายงานทุกอย่างว่าวันนี้ทำอะไร เจอปัญหาเรื่องงานอะไร ไปทำงานที่ไหน)คือทุกอย่างมันทำให้เราคิดและคิดมากกว่าสถานะพี่น้อง หลังๆเขาพยายามย้ำว่าคิดแค่พี่น้องนะเราก็โอเคร ยังไงก็ได้เราขอยืนอยู่ตรงนี้(น้องเขามีคนคุยอยู่นะ เขาไม่ได้เรียกว่าแฟนแต่เรียกว่าคนคุย)
เจอกันที่ครั้งที่ 5 ก็พาไปหาหมออีกเพราะตาไม่หายมันเกิดตุ่มเพื่มในตา วันนี้น้องเขาอารมณ์ฉุนเฉียวมาก คือเราไปรับที่ห้อง พอไปถึงห้องนางรอก็ขอเข้าห้องน้ำ พอออกจากห้องน้ำนางยืนแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกเราเลยเดินไปข้างหลังแล้วกอดนางก็ปัดมือออกบอกว่าหนีๆ....จะเก็บไว้ผัวกอดเท่านั้น เราก็จุกอีกนั่งนิ่ง แล้วก็ลงจากห้องไปหาข้าวกินก็คุยกันปกตินะพอกินข้าวเสร็จนางปวดขี้...เร่งเราหาที่ขี้เราก็บอกว่าอีกนิดเดี๋ยวก็ถึง รพ.แล้วค่ะรอนิดนึงนะคะ นางกวนตีนอ่ะจะขี้ๆเราก็วนรถหาที่จอด

เต็มทุกที่ไม่มีที่จอด นางก็บอกว่าเร็วๆเราเลยเงียบไม่พูดอะไร นางก็หาว่าเราทำหน้าเหวียงใส่ แล้วก็งอลโกรธเดินไวมากเข้าไปใน รพ.เราเดินตามไม่ทัน พอนางยื่นเอกสารที่เคาร์เตอร์ รพ.เสร็จก็ต้องไปอีกชั้นนึงที่ตรวจนางก็ยืน งง เพราะนางไม่เคยจำเลยว่าต้องไปไหนต่อเราก็เลยเดินไปดูบัตรที่นางถือแล้วพาไปชั้นที่ตรวจตานางครั้งก่อน นางก็บอกให้เรารอคิวแทนนางไปขี้จ้า.....ไปนานมากประมาณ30นาทีได้เราก็ไม่ได้ตามหรืออะไรพอมาถีงก็ง่วงก็บอกให้เรามานั่งใกล้ๆเพื่อจะซบ (เออมันคงหายงอลแล้วมั้ง)พอหาหมอเสร็จไปกินข้าวเที่ยง และคุยกันว่ากินข้าวเสร็จไปร้าน กาแฟต่อเนอะ ก็ไปร้านกาแฟ ระว่างทางโทรศัพท์นางเข้าตลอดเพราะนางทำงานเป็นเซล์ และมี1สายที่โทรเข้ามาแล้วถามถึงเรื่องที่ไปหาหมอในวันนี้หน้าจะถามอาการนางก็ตอบแบบน้ำเสียงที่คุยคือเหมือนคุยกับแฟนอ่ะ เรา

ก็นอยงอลเขา นั่งเงียบ อึน คือทำตัวไม่ถูก แล้วเขาก็ถามว่าเป็นอะไรมีอะไรเราก็ตอบว่าไม่ได้เป็นอะไรจนไปถึงร้านกาแฟนางป้อนขนมจีบเราแล้วก็พูดว่า เขาจะไปต่างจังหวัดเป็นเดือนเลยนะแล้วลูบหัวคือจังหวะนั้นน้ำตาล้วงไม่ได้เสียใจที่เขาจะไปต่างจังหวัดนะแต่เสียใจที่เขาคุยกับคนอื่น นางก็ถามอีกว่าเป็นอะไร จนนางบอกไปคุยกันบนรถ พอขึ้นรถก็ถามเราก็ตอบ ว่า เราน่ะเป็นคนสำคัญของเทอใช่มั๊ย แต่ไม่ได้สำคัญมากพอใช่มั๊ย เขาคงรู้ว่าเราหมายถึงอะไร เขาก็เงียบ เราถามอะไรก็ไม่ตอบ ไม่ยอมให้เราจับมือ แล้วก็พูดกับเราก่อนลงรถว่าเคยพูดไปแล้วว่าอยากให้คิดกับเขาแค่พี่น้อง...แล้วนางก็เงียบหายไลน์ไม่ตอบ ไม่โทรมาอีก (ตอนนี้เราเหมือนคนอกหักเลย อกหักกับคนเดิม ซึ่งเราก็มีแฟนอยู่แล้ว)
คือตอนนี้เราสับสนสุดๆ ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง
เลิกกันแล้ว กลับมาเป็นพี่น้องกันได้หรอ
เจอกันครั้งที่1 งานรับปริญญา ที่ ม.สุโขทัยฯ ไปถึงก็ถ่ายรูปแสดงความยินดี(เราว่าจะกลับเลย) เขาใช้เราถือของ กระเป๋า รองเท้า เราก็ไม่ได้คิดอะไรก็ทำให้ แล้วมีกินข้าวกับครอบครัวเขาต่อ เราก็ว่าจะกลับเลย แต่น้องเขาก็พูดประมาณว่าให้ไปส่งที่ห้องหน่อย เราก็ตอบตกลงเลยนะไปส่งเขา ระหวางทางก็คุยกันเรื่องสัพเพเหระน้องเขาก็นั่งแบบซบๆไหล่เราและเอามือมาวางตรงขาตลอด เราขับรถนะ มือนึงจับพวงมาลัย อีกมือก็วางตรงเกียร์รถ จนเราแน่ใจว่าเขาคงคิดเหมือนเราก็เลยจับมือและกุมมือกันมาตลอดทางจนถึงห้องเขา เราขนของช่วยเขาขึ้นไปบนห้องพอจะกลับ เราขอกอดเขา 1 ครั้งก็เหมือนจะจบแค่นั้น
เจอกันครั้งที่ 2 น้องเขานัดให้ไปรับแถวที่เขาพักอยู่จะให้เราพาไปหาหมอ แต่วันนั้นนางติดงานด่วนเลยไม่ได้ไปเราก็ไปถึงแบบแห้วๆคือเราลางานไปด้วย แต่น้องเขาก็พาไปกินข้าวนะ น้องเขาก็กอดเรา และบอกเราว่าเขาขอโทษนะที่ทำให้เสียเวลา เล่นพุงเรา กอด ซบ ให้เราหอมหัวคือพูดง่ายๆเหมือนคนเป็นแฟนกันคือง้ออะไรประมาณนี้(หรือเราคิดไปเอง) พอกินข้าวเสร็จเราก้ไปส่งนางที่หอพักแล้วเราก็กลับบ้าน
เจอกันครั้งที่ 3 ไปรับน้องเขามาที่โบส์คริสที่แถวรังสิต(น้องเขานับถือศาสนาพุทธนะแล้วก็มาเปลี่ยนเป็นคริส) ระหว่างทางมาก็นั่งรถมาด้วยกันจับมือกันตลอดทางแล้วเทอก็พูดขึ้นว่า ไม่อยากให้เราคิดกับเขาเกินเลย อยากให้เป็นพี่น้องที่หวังดีต่อกัน อยู่เป็นคนสำคัญของกันแบบยั่งยืนดีกว่า ถ้าเป็นแฟนกันเดี๋ยวก็เลิกกันและก็หายไปจากชีวิตกัน เราสะอึกเลย อ้าว....แล้วที่ผ่านๆมาปฏิบัติต่อกันมันคืออะไร สรุปเราคิดไปเองคนเดียวเจ็บสิครับรออะไร
เจอกันครั้งที่ 4 พาเขาไปหาหมอเพราะตาเป็นกุ้งยิง คือวันนั้นแฮปปี้สุดทุกอย่างราบเรียบมากไปหาหมอนางก็นอนซบ เดินไปก็กอดคอ เกาะแขนตลอด จุดนี้จี๊ดสุดเลยขับรถไปส่งนางที่ห้องก็กอดแขน จับมือ เหมือนทุกครั้งแต่มีพิเศษคือ ก่อนลงรถไม้ได้แค่กอดอย่างเดียว หอมแก้ม2ข้างเลยคือน้องเขาก็ยอมให้หอมนะวันถัดมาเราเลยถามว่าโกรธมั๊ยที่ทำแบบนั้นน้องเขาก็ตอบว่าไม่ แต่ไม่อยากให้ทำอีก ต่อไปมันจะกลับยาก เราเลยถามอีกว่าแล้วให้ทำ ทำไม นางก็ตอบว่าก็ความสุขของเทอเลยให้ทำ (เราวีดีคอลกันทุกวัน แบบตอนเช้านางจะโทรหาทุกเช้า ระหว่างวันก็จะคอลมาแล้วแต่นางว่างหรือสะดวก ซื้อชุดก็ไลน์มาให้เลือกให้ส่งวีดีโอกับทุกกิจกรรมที่ทำให้เราดู คือรายงานทุกอย่างว่าวันนี้ทำอะไร เจอปัญหาเรื่องงานอะไร ไปทำงานที่ไหน)คือทุกอย่างมันทำให้เราคิดและคิดมากกว่าสถานะพี่น้อง หลังๆเขาพยายามย้ำว่าคิดแค่พี่น้องนะเราก็โอเคร ยังไงก็ได้เราขอยืนอยู่ตรงนี้(น้องเขามีคนคุยอยู่นะ เขาไม่ได้เรียกว่าแฟนแต่เรียกว่าคนคุย)
เจอกันที่ครั้งที่ 5 ก็พาไปหาหมออีกเพราะตาไม่หายมันเกิดตุ่มเพื่มในตา วันนี้น้องเขาอารมณ์ฉุนเฉียวมาก คือเราไปรับที่ห้อง พอไปถึงห้องนางรอก็ขอเข้าห้องน้ำ พอออกจากห้องน้ำนางยืนแต่งหน้าอยู่หน้ากระจกเราเลยเดินไปข้างหลังแล้วกอดนางก็ปัดมือออกบอกว่าหนีๆ....จะเก็บไว้ผัวกอดเท่านั้น เราก็จุกอีกนั่งนิ่ง แล้วก็ลงจากห้องไปหาข้าวกินก็คุยกันปกตินะพอกินข้าวเสร็จนางปวดขี้...เร่งเราหาที่ขี้เราก็บอกว่าอีกนิดเดี๋ยวก็ถึง รพ.แล้วค่ะรอนิดนึงนะคะ นางกวนตีนอ่ะจะขี้ๆเราก็วนรถหาที่จอด
คือตอนนี้เราสับสนสุดๆ ใครเคยเจอแบบนี้บ้าง