ไปดูฉลามแบบ SHARK CAGE DIVING @ GAANSBAAI,SOUTH AFRICA

สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การไป Shark cage diving ที่ประเทศแอฟริกาใต้กันนะครับ.

ก่อนอื่นเลยผมขอบอกตามตรงเลยว่าการที่จะไปดำน้ำกับฉลามนี่ผมคิดแล้วคิดอีก,ดูคลิปเยอะมาก ตั้งแต่ก่อนไปเที่ยวเลยครับว่าจะทำดีรึป่าว ซึ่งสุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะลองดู เพราะว่าไหนๆก็มาแล้วและก็ Shark cage diving ที่นี่ถือว่าถูกที่สุดละครับเมื่อเทียบกับประเทศอื่น (คิดว่าคงจะไม่โดนฉลามกัดทะลุกรงหรอกมั้ง55555)
ซึ่งช่วงที่ผมไปนี่ประมาณต้นเดือนกรกฎาคม แล้วพึ่งมีข่าวว่ามี Killer whale ออกจู่โจมพวกฉลามขาว ดังนั้นโอกาสที่จะเจอฉลามขาวนั้นอยู่ที่ประมาณ50/50. แต่ผมก็เลือกทื่จะทำอยู่ดี.(เจอไม่เจอค่อยว่ากัน, ขอพิชิตความกลัวตัวเองก่อน5555)
*การมาทำ Shark cage diving นี่คือทุกบริษัทเค้าจะไม่การันตีนะครับว่าคุณจะได้เจอฉลามหรือไม่,มันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะโชคดีหรือโชคร้ายเท่านั่นแหละ.(แต่ว่าปกติโอกาสเจอจะอยู่ที่ประมาณ80%)

การไปดำน้ำในกรงกับฉลามนี่ปกติจองได้ตามเว็บไซต์ทั่วไปเลยครับ มีบริษัทเยอะมาก, แต่ของผม ผมเลือกจองกับทางโฮลเทลที่พักอยู่ (91 LOOP)ในเมืองเคปทาวน์ครับ ขอแนะนำโฮสเทลนี่หน่อยนะครับ ถ้าใครมาที่นี่คนเดียวลองมาพักที่นี่ดูครับ ทัวร์เยอะมากจริงๆ ทั้ง Shark cage diving, Skydiving , Cape of good hope, Wine tasting , Penguin beach โฮสเทลนี้มีหมดจริงๆครับ แถมราคาเหมาะสำหรับ Backpackers อย่างตัวผมมาก. ส่วนราคาของ Shark cage diving ที่ผมไปนี่ราคาอยู่ที่ประมาณ 2000 Rand ครับ(รวมค่ารถไป Gaansbaai แล้ว), ซึ่งถ้าเทียบกับที่อื่นนี่ถือว่าเปนราคาที่เลยครับเพราะว่าปกติตามบริษัทส่วนใหญ่คุณจะต้องเสียค่า Shuttle bus ไปที่เมือง Gaansbaai อีกประมาน 500 Rand. (ราคาตามเว็บไซต์ปกติจะอยู่ที่2000-3000Rand,แล้วแต่บริษัทกับขนาดเรือครับ)
* 1 Rand ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 2.2 บาท

การเตรียมตัวนี่ไม่มีอะไรเลยครับ เตรียมใจไปอย่างเดียวพอ5555

วันรุ่งขึ้นเราออกจากเมืองเคปทาวน์ตั้งแต่ตี5เพราะว่าต้องไปถึงเมืองGaansbaai ก่อน7โมง(ถ้าเราไปช้าแล้วคลื่นไนทะเลมันแรง,เรืออาจจะออกไม่ได้เลย) , เมืองGaansbaai เป็นเมืองที่โด่งดังในเรื่อง Shark cage diving อย่างมากเพราะว่าในทะเลส่วนนี้มี Shark alley หรือเป็นจุดที่มี Great white shark หรือฉลามขาวเยอะสุดในโลกครับ.

พอถึงเมือง Gaansbaai แล้วเราจะต้องไปบรีฟก่อนลงเรือโดยระหว่างที่บรีฟไปก็จะมีอาหารให้กินรองท้องนิดหน่อย,เค้าจะไม่ให้กินเยอะครับเพราะว่าตอนนั่งเรืออยู่อาจจะเมาเรือแล้วอ้วกได้. เนื้อหาที่เค้าบรีฟกันส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับความปลอดภัยอย่างเช่นตอนลงไปในกรงห้ามเอามือออกไปเด็ดขาดรวมถึงพวกไม้เซลฟี่ด้วยเพราะอาจจะโดนฉลามกระแทกได้,รวมถึงมีการสอนวิธีการสู้กับฉลามด้วย. แล้วหลังจากบรีฟเสร็จเค้าก็จะมีสัญญามาให้เซ็นว่าถ้าคุณโดนฉลามกินไปทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งนั้น (ตอนแรกผมก็นึกว่าเค้าล่อเล้น,แต่ที่ไหนได้เรื่องจริงครับ) แล้วเราก็ต้องเขียนชื่อ,เบอร์ติดต่อของคนในครอบครัวไปด้วย. (มันเริ่มจะทำให้ผมกลัวจริงๆแล้ว55555) มีผู้หญิงชาวแซมเบียที่นั่งใกล้ๆผม2คน เค้าเลยบอกว่าขอดูฉลามอยู่บนเรือพอ, ขอไม่ลงดีกว่า.

*ที่นี่เค้าจะมีกล้องโกโปรให้ยืมสำหรับคนที่ไม่มีกล้องแล้วอยาถ่ายใต้น้ำ. แต่ผมตอนนั่งรถมามีคนบราซิลที่นั่งข้างๆผม เค้าบอกเด่วเอากล้องเค้าถ่ายได้. ถือว่าโชคดีเลยที่ผมจะได้ไม่ต้องไปเสียตังเช่าโกโปรอีก.

พอเซ็นสัญญาเสร็จ เราก็ลงเรือแล้วออกเดินทาง. กลุ่มของผมมีประมาณ10คน รวมถึงไกด์แล้วก็คนท้องถิ่นที่ทำหน้าที่เรียกฉลาม. ดูแล้วก็กำลังโอเค คนไม่เยอะไม่น้อยเกินไป. อย่างแรกที่ผมรู้สึกเลยคือคลื่นที่นี่แรงมาก, ขนาดเรือที่นั่งดูใหญ่แล้ว(2ชั้น)ยังเสียวๆอยู่เลย.
*อันนี้เป็นเรือที่ผมนั่งนะครับ
นั่งออกมาวิวก็จะประมาณนี้ครับ
นั่งไปได้ซัก30-40นาที , เราก็มาถึงจุดที่เรียกว่า Shark Alley ซึ่งเป็นจุดรวมตัวของฉลามขาวที่เยอะที่สุดในโลก😱,(ถ้าตกลงไปก็เรียบร้อยนะครับ)
ตรงนี้นี่อากาศหนาวมากประมาณ14-18องศา ,ผมนี่รู้สึกถึงความหนาวของน้ำได้เลย. คือมาจอดตรงนี้นี่ผมรู้สึกแบบเหมือนมาอยู่ตรงกลางทะเลจริงๆเพราะว่ามองไปซ้ายขวานี่ไม่มีอะไรเลย. คือถ้าเรือมีปัญหานี่งานเข้าแน่นอน5555.

พอเรือจอดปุ้ป ,กัปตันเรือก็บอกก่อนเลยว่าถ้าใครจะอ้วกให้อ้วกลงทะเลเลย.(ในใจผมคิดเลย,รู้ได้ไงวะ5555) พูดเสร็จไม่เกิน5นาที ผมนี่แหละอ้วกก่อนเลยคนแรกเพราะว่าเมาเรือมาก, เรือสั่นตลอดเวลาแถมคลื่นแรงอีก. แต่พออ้วกเสร็จนี่รู้สึกดีขึ้นมาทันทีเลย. (หลังจากผมอ้วกเสร็จนี่ก็มีอีก3-4คนที่อ้วกตามด้วย)
หลังจากนั้นเค้าก็ให้ทุกคนเปลี่ยนชุดไปใส่ Wet suit เพื่อที่จะลงไปในกรงเพื่อดูฉลาม.(ถ้าใครไม่อยากลงก็ไม่ต้องเปลี่ยนชุดครับ,ให้ขึ้นไปดูที่ชั้น2เพราะจะเห็นชัดกว่า) แต่อย่างแรกเลยคือต้องเรียกฉลามก่อนซึ่งการเรียกฉลามนี้ ,คนที่นี่เค้าจะมีถังที่เอาเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ๆแล้วจะเทเลือดสัตว์ผสมเข้าไปอีกเพื่อให้เรียกฉลามได้ง่ายขึ้น. พอผสมเสร็จเค้าก็จะเทเนื้อในถังนี้ลงไปในทะเลเพื่อเรียกฉลาม.

ในระหว่างทื่รอฉลามนั้นไกด์ก็จะแบ่งคนบนเรือเป็น2ชุดเพราะกรงนึงมันลงได้แค่4คนเท่านั้น. ผมอยู่ชุดแรกเลย(ไหนๆก็มาละ)
และแล้วเค้าก็บอกให้ชุดแรกเตรียมตัวลง, พอลงไปปุ้ปคือน้ำเย็นมากจนผมแบบอยากขึ้นทันที. ลงไปดำได้ประมาณครึ่งนาทีเค้าก็ให้สลับกับชุด2เพื่อปรับตัว.
*อยู่ในกรงก็จะประมาณนื้ครับ

เวลาผ่านไป 1ชม. ก็ยังไม่มีวี่แววของฉลาม, ในใจผมก็แบบ เออ, ถ้าไม่เจอก็น่าจะดีเหมือนกันเพราะแค่นี้ก็กลัวชิปหายละ55555. หลังจากนั้นไกด์ก็สั่งให้เอาเนื้อเทลงไปเพิ่ม, ละไม่กี่นาทีก็มีสัตว์ว่ายมา แต่ว่ามันไม่ใช่ฉลามครับ มันคือแมวน้ำนั่นเอง.
ตอนนั้นเลยคิดว่าเอาละ ฉลามน่าจะใกล้มาละ. แต่หลังจากนั้นรอไปอีก2ชม. ก็ไม่มีฉลามโผล่มา , ไกด์เลยบอกให้กลับฝั่งเพราะคลื่นเริ่มแรงแล้ว.
สรุปก็คือไม่เจอฉลามครับ!!!!!, แต่ตอนนั้นในใจก็ไม่ได้รู้สึกเซงหรือว่าอะไรเพราะว่าการมาที่นี่เหมือนกับว่ามาพิชิตความกลัวของตัวเองมากกว่าเพราะส่วนตัวคือกลัวทะเลลึกอยู่แล้ว, ไอเจอฉลามมันก็เหมือนเป็นโบนัส เพราะว่าฉลามพวกนี้มันไม่มีการันตีอยู่แล้วว่าจะเจอ , ทุกอย่างขึ้นอยู่กับธรรมชาติครับ.

ตอนนั่งกลับฝั่ง ทุกคนก็ดูแบบไม่ได้เซงอะไรกันมากครับ , ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติด้วยแหละ(ปลอบใจตัวเองอยู่5555)

พอเรากลับถึงฝั่ง เปลี่ยนชุดเสร็จ, เค้าก็เรียกไปบรีฟอีกทีโดยที่แจกคูปองให้มาทำได้อีกรอบแบบฟรี!!!!! โดยมีเงื่อนไขว่าต้องกลับมาภายใน2ปี. ผมนี่แบบ เอออย่างน้อยก็มีโอกาสได้มาทำอีกรอบวะ, รอบหน้าหวังว่าจะโชคดีเจอฉลามเหมือนคนอื่นบ้างนะครับ.
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่