เพราะมันก็เป็นแค่ชื่อเรียกหรือข้อบ่งชี้ของสภาพธรรมที่มีลักษณะที่แตกต่างกันไป เหมือนเช่นคำว่า
วิชชา อวิชชา กุศล อกุศล โลภะ อโลภะเป็นต้น เมื่อเรียกสิ่งที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ว่าเป็นอนัตตา
และมันก็มีสิ่งที่เที่ยง เป็นสุข ถ้าเราจะเรียกว่าเป็นอัตตามันเสียหายด้วยหรือ ?
อัตตา แปลว่า ตัวตน คือหมายความถึงสิ่งที่มีอยู่จริง เป็นสภาวะจริงแท้
ไม่ไม่ได้แปลว่าตัวเรา หรือของเรานะครับ สำนวนพุทธทาสแปลว่า ตัวกู ของกู ตัวกู ของกู มันมาจากคำว่า อัสมิมานะหรือมานะทิฏฐิ
ตัณหา อุปาทาน อะไรพวกนั้นมากกว่า
และล่างนี่ก็ไม่ใช่ความหมายของอัตตาในพุทธศาสนา แต่เป็นคำของสาวก
อัตตา (บาลี: อตฺตา; สันสกฤต: อาตฺมนฺ) แปลว่า ตัวตน ร่างกาย รูปลักษณะ
ตัวเอง หรือวิญญาณ
ตามทฤษฎีของผู้นับถือลัทธิว่าชีวิตเกิดขึ้นด้วยวิญญาณหรืออาตมัน
ซึ่งชาวอินเดียทางภาคเหนือได้ยึดถือเช่นนั้น ในคัมภีร์อุปนิษัทอธิบายไว้ว่า
อัตตาเป็นตัวตนเล็ก ๆ รูปร่างเหมือนคน อาศัยอยู่ในหัวใจเวลาปกติ
และหนีออกจากร่างกายไปในเวลานอนหลับ หรือในเวลาสงบแน่นิ่ง
เมื่ออัตตานั้นกลับมาสู่ร่างเหมือนเดิม
ชีวิตและการเคลื่อนไหวจึงเกิดขึ้นเป็นไปตามเดิม
ในเวลาตายอัตตาก็จะหนีออกจากร่าง
ไปใช้ชีวิตในอมตะของตนเองวนเวียนไปอย่างนีโดยไม่มีสิ้นสุด (นัยพจนา.
บาลี-อังกฤษ ของสมาคมบาลีปกรณ์)
ถ้าเราฉลาดและใช้ปัญญาอย่างเป็นธรรมไม่สุดโต่ง เราก็จะหมดปัญหาไปเองในเรื่องของคำว่า อัตตา
วิชชา อวิชชา กุศล อกุศล โลภะ อโลภะเป็นต้น เมื่อเรียกสิ่งที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ว่าเป็นอนัตตา
และมันก็มีสิ่งที่เที่ยง เป็นสุข ถ้าเราจะเรียกว่าเป็นอัตตามันเสียหายด้วยหรือ ?
อัตตา แปลว่า ตัวตน คือหมายความถึงสิ่งที่มีอยู่จริง เป็นสภาวะจริงแท้
ไม่ไม่ได้แปลว่าตัวเรา หรือของเรานะครับ สำนวนพุทธทาสแปลว่า ตัวกู ของกู ตัวกู ของกู มันมาจากคำว่า อัสมิมานะหรือมานะทิฏฐิ
ตัณหา อุปาทาน อะไรพวกนั้นมากกว่า
และล่างนี่ก็ไม่ใช่ความหมายของอัตตาในพุทธศาสนา แต่เป็นคำของสาวก
อัตตา (บาลี: อตฺตา; สันสกฤต: อาตฺมนฺ) แปลว่า ตัวตน ร่างกาย รูปลักษณะ
ตัวเอง หรือวิญญาณ
ตามทฤษฎีของผู้นับถือลัทธิว่าชีวิตเกิดขึ้นด้วยวิญญาณหรืออาตมัน
ซึ่งชาวอินเดียทางภาคเหนือได้ยึดถือเช่นนั้น ในคัมภีร์อุปนิษัทอธิบายไว้ว่า
อัตตาเป็นตัวตนเล็ก ๆ รูปร่างเหมือนคน อาศัยอยู่ในหัวใจเวลาปกติ
และหนีออกจากร่างกายไปในเวลานอนหลับ หรือในเวลาสงบแน่นิ่ง
เมื่ออัตตานั้นกลับมาสู่ร่างเหมือนเดิม
ชีวิตและการเคลื่อนไหวจึงเกิดขึ้นเป็นไปตามเดิม
ในเวลาตายอัตตาก็จะหนีออกจากร่าง
ไปใช้ชีวิตในอมตะของตนเองวนเวียนไปอย่างนีโดยไม่มีสิ้นสุด (นัยพจนา.
บาลี-อังกฤษ ของสมาคมบาลีปกรณ์)