สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การเข้าคอร์สและอบรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับคุณแม่และลูกจากประสบการณ์โดยตรงของเราเองค่ะ ส่วนตัวเรามีลูกคนนี้เป็นคนแรกจะครบ 3 เดือนเร็วๆนี้แล้วค่ะ และเป็นลูกที่เรากับสามีรอคอยมานานกว่าจะมีเค้า พอทราบว่าตัวเองมีเค้า ทั้งเราและสามีเลยจัดเต็มในการดูแลเค้าแบบที่เราอยากทำมาตลอด เราเองก็เห็นว่าข้อมูลตรงนี้อาจจะมีประโยชน์กับเพื่อนคุณแม่ท่านอื่นๆ จึงพอจะหาเวลาว่างได้ มาเขียนบอกเล่ากันค่ะ
โดยช่วง 3 เดือนแรก เรายังไม่ได้ตัดสินใจที่จะขยับตัวทำอะไรค่ะ เพราะเป็นช่วงที่เซนซิทีฟมาก เป็นช่วงที่เค้ายังร่างกายอ่อนแอและอาจเกิดความไม่สมบูรณ์ในการตั้งครรภ์ได้ ในช่วงนี้เราเลยงดทำกิจกรรมทุกอย่างที่หนักๆ เน้นอ่านหนังสือเบาสบาย คลายเครียดค่ะ กินอาหารให้ครบมื้อ
แต่พอผ่านช่วง 3 เดือน ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าเด็กสมบูรณ์ แข็งแรงดี ปลอดภัยแล้ว เราก็เริ่มหาคอร์สอบรมสำหรับคุณแม่อายุครรภ์ 3 เดือน คอร์สแรกที่เข้าอบรมจะเป็นคอร์สของโรงพยาบาลกรุงเทพที่เพื่อนเราชวนไปเรียนเป็นเพื่อนกันมาค่ะ
- โรงพยาบาลกรุงเทพ
อบรมครรภ์คุณภาพแก่คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 3-8 เดือน โดยทีมสูติ-นรีแพทย์ กุมารแพทย์ นักโภชนาการ พยาบาลผู้เชี่ยวชาญ และนักกายภาพ
ซึ่งคอร์สอบรมแรกของไตรมาสที่ 1 จะเป็นเกี่ยวกับพื้นฐานการเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ตั้งแต่ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายในระยะแรก อาหารการกิน ท่าทางที่ต้องระมัดระวังระหว่างการตั้งครรภ์ ไปเรื่องน้ำนม/หัวนมของคุณแม่บ้าง มีท่าออกกำลังกายเล็กๆน้อยด้วยนะคะ จนถึงวิธีแนะนำให้เรารู้จักสังเกตอาการผิดปกติของครรภ์มารดาเผื่อจะได้หาทางแก้ไขได้ทัน เพราะในช่วง 3 เดือนแรกเป็นช่วงที่เด็กยังเพิ่งเริ่มเจริญเติบโตจึงทำให้มีโอกาสหลุดได้ง่ายค่ะ ซึ่งต้องทำความเข้าใจพื้นฐานในจุดนี้อย่างละเอียดเลยล่ะค่ะ
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.bangkokhospital.com/th/news-and-events/ante-natal-class-2019
โดยหลังจากเข้าคอร์สครบ เราเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมากขึ้นค่ะ รู้จักปรับอารมณ์มากขึ้น และรวมไปถึงเข้าใจอาการผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งตรงนี้สำคัญมากๆในคนที่ครรภ์มีภาวะเสี่ยงสูง และที่ท้องลูกคนแรกแบบเรา การเข้ารับการอบรมที่ถูกต้องจึงจะทำให้เราเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเอง และลูกน้อยในครรภ์ได้ดีที่สุดค่ะ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีค่ะ
มีคอร์สให้เลือก 2 คอร์สนะคะ เป็นคอร์สสำหรับอายุครรภ์ 3-5 เดือน และ 6-8 เดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเข้าอบรมจนอายุครรภ์เกือบ 8 เดือน จนครบคอร์ส เสียดายที่ในห้องเขาไม่ให้ถ่ายรูปเลยไม่ได้ถ่ายมาแบ่งปันกันค่ะ
ซึ่งจริงๆคอร์สเหล่านี้ทุกโรงพยาบาลมีจัดให้ตลอดค่ะ ถ้าเป็นสมาชิกของโรงพยาบาลไหนก็ควรจะเข้ารับอบรมที่โรงพยาบาลนั้น (ตอนแรกเราทราบข้อมูลตรงนี้ เพราะเราฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์ เราก็เลยเปลี่ยนมาอบรมที่นี่แทน) เพื่อความสะดวกเพราะส่วนใหญ่สำหรับสมาชิกจะเป็นการอบรมฟรีอยู่แล้ว ส่วนคนนอกอย่างเราก็อบรมได้ค่ะ แต่ทางโรงพยาบาลจะมีค่าเก็บอบรมแยกต่างหาก บางที่ก็ราคาต่างกัน ลองสอบถามที่แผนกสูตินารีเวชของโรงพยาบาลที่ไปฝากครรภ์ดูนะคะ
ต่อไปมาพูดถึงการออกกำลังกายบ้างดีกว่าค่ะ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะชอบเข้าฟิตเนส เล่นหนักๆ เล่นกล้าม แต่พอตั้งครรภ์ กลับชอบอะไรง่ายๆ สบายๆค่ะ อย่างโยคะและว่ายน้ำแทน
ซึ่งในส่วนของโยคะ เราเข้าคอร์สเล่นโยคะสำหรับคนท้องโดยตรง ที่เราไปเล่นมา อันนี้อยากแนะนำมากค่ะ ทั้งราคา ครูผู้สอน และสถานที่ฝึกค่ะโอเคมากๆ
- YOGA CHILL (พระราม 3 )

ที่นี่เป็นโยคะสำหรับคนท้อค่ะ ช่วงที่เราไปเรียนมาก็เจอครูผู้สอนที่เป็นคนท้องมาสอนเองด้วย อินไซด์มากค่ะเราชอบบรรยากาศที่นี่เพราะมันโล่ง สบาย มีคนต่อคลาสไม่มาก (ไม่ถึง 10 คน) และสามารถชวนสามีมาเล่นด้วยได้ บางครั้งสามีไม่ว่างมา ก็ได้คุณแม่สามีมาเป็นเพื่อนค่ะ เพราะนอกจากจะเหมาะกับคนท้องแล้ว คลาสนี้ผู้สูงอายุยังเล่นได้อีกด้วยนะคะ

โดยเรามาเริ่มเล่นในสัปดาห์ที่ 28 และเล่นจนได้อายุครรภ์ 42 สัปดาห์ ก็หยุดเล่น (เพราะอายุครรภ์เยอะไม่อยากเดินทางบ่อยๆแล้ว) เป็นการเล่นที่สนุกมาก เพราะทำให้เราใจเย็นมากขึ้น ลดอาการคิดมาก คลายกังวล และที่สำคัญยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามเนื้อตัวด้วยค่ะ ตะคริวก็ไม่ค่อยได้เป็นเหมือนแต่ก่อน เลือดก็ไหลเวียนดีค่ะ คุณหมอยังชมเลยว่าการที่เลือดไหลเวียนดี ทำให้ร่างกายของเราส่งสารอาหารไปเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์ได้ดีมากขึ้น แถมครูฝึกยังคอยติดตาม follow up อาการของเราตลอด แนะนำว่าถ้ามีที่เรียนใกล้ๆบ้าน ลองลงเรียนดูจะดีกับสุขภาพในช่วงตั้งครรภ์ได้มากจริงๆนะคะ
ราคาคอร์สรู้สึกจะเป็น 8000 กว่าบาท ต่อ 10 ครั้ง ตอนนี้ไม่รู้มีอัพเดตราคามั้ย ลองไปดูเพิ่มเติมกันนะคะ
- Little Whale คลาส Mommy Whale
คอร์สว่ายน้ำอันนี้ก็เพลินมากๆ เป็นกิจกรรมที่คุณแม่ต้องลองให้ได้นะคะ เพราะนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว การที่เราว่ายน้ำยังเหมือนให้ลูกได้ออกกำลังกายด้วยค่ะ ที่สำคัญน้ำยังสามารถช่วยพยุงท้องโตๆของเราไว้ ทำให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยหรือล้ามากเกินไประหว่างว่ายน้ำด้วย

โดยแรกๆเราเข้าเรียนคอร์สว่ายน้ำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ Little Whale เป็นคลาส Mommy Whale เหมาะกับอายุครรภ์ 13 สัปดาห์ ถึง 36 สัปดาห์ค่ะ โดยมากที่นี่จะเน้นออกกำลังกายเบาๆ สบายๆ ไม่ได้เน้นว่ายแบบนักกีฬา คือแค่ขยับ บำบัดเล็กน้อยเท่านั้น
เราชอบมากเพราะรับ 3 คนต่อคลาส ทำให้ดูแลได้ทั่วถึงค่ะ และสามารถบอกปัญหาที่ตัวเองเจอ เช่น ปวดเมื่อยตรงไหน มีอาการอะไรที่อยากเน้นให้คุณครูช่วยบำบัดก็ทำได้ค่ะ ซึ่งหลังเรียนจบคลาสเราก็เอากลับมาใช้ที่บ้านต่อ ลงเล่นสระเอง โดยมีสามีคอยดูแลค่ะ เพลินมากๆ ไปเรียนว่ายน้ำมาทีไร กลับมาหลับสบายทุกทีเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนราคาเราไม่แน่ใจตรงนี้เลยค่ะ เหมือนเค้าจะไม่ได้เป็นคอร์สประจำ เพราะเราไปเช็คล่าสุดก็เหมือนจะยังไม่อัพเดท แต่ราคาไม่แพงนะคะ ใครอยากลองเรียนก็โทรสอบถามเค้าได้เลยค่ะ
https://www.facebook.com/littlewhalethailand/posts/1042131595800708/
ส่วนตรงนี้เป็นคอร์สที่เราอยากแนะนำมากๆเช่นกัน เพราะทำให้เรามีจุดเปลี่ยนต่อตัวเองและลูก เป็นคอร์สของสถาบันฝึกปฏิบัติธรรมเสถียรธรรมสถานค่ะ
- โครงการจิตประภัสสร ตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ ณ เสถียรธรรมสถาน
ฟังไม่ผิดค่ะ สถานปฏิบัติเสถียรธรรมสถาน ค่ะ ที่นี่เหมือนเปิดหูเปิดตาเรามาก จากเมื่อก่อนที่เฉยๆไม่คิดว่า ธรรมะ กับการตั้งครรภ์จะไปด้วยกันได้ แต่ที่นี่ทำให้เรารู้สึกถึงความสำคัญของครอบครัวของเรา ของลูกจริงๆ เป็นโครงการที่ไปทำได้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้องเลยค่ะ เพราะที่นี่เชื่อว่าลูกสามารถรับรู้ไปพร้อมๆกับเราได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง เพราะฉะนั้นเราก็ควรรีบปลูกฝังเขาตั้งแต่ตอนนี้รวมถึงตัวเองด้วย เป็นคอร์สสั้นๆ วันเดียวจบ เริ่มต้นทุกวันอาทิตย์ที่ 1 ของเดือนค่ะ

ซึ่งในคอร์สจะเป็นกิจกรรมทำร่วมเบาๆ ให้เรารู้สึกผ่อนคลายมองเห็นความสำคัญและหน้าที่ของการได้เป็นแม่และการเป็นแม่ที่รักลูกจริงๆ มีเกี่ยวกับสามีภรรยาด้วยนะคะ เป็นการสัมผัสมองหน้ากันประมาณนั้นค่ะ แต่บอกเลยว่า ผ่อนคลายจิตใจได้ดี และค่าใช้จ่ายไม่เยอะเลยค่ะ แค่ 800-900 บาท
รายละเอียดนะคะ
https://www.sdsweb.org/sdsweb/index.php/2010-09-03-16-43-09
ซึ่งในส่วนของกิจกรรมต่างๆก่อนคลอดของเราก็มีประมาณนี้เลยค่ะ ที่เราทำประจำ พอหลังคลอดการดูแลตัวเองก็เพิ่มมากขึ้น แต่คราวนี้เป็นเรื่องของลูกเต็มๆแล้วค่ะ ซึ่งก็คือเรื่องของน้ำนมค่ะ
ตรงสอนนวดเปิดท่อน้ำนมเราใช้ที่นี่ค่ะพอดีเป็นเพื่อนของเพื่อน ร้านเขาอยู่ที่พัทยา เป็นโค้ชนมแม่ แต่เราให้มานวดที่กรุงเทพฯราคาครั้งละประมาณ 2,000 ค่ะ เรานวดครั้งเดียว สบายมากๆ เต้าที่เคยแข็ง เป็นก้อนมันคลายไปเลย ทำให้น้ำนมไหลดีขึ้น เค้ามีหลายท่ามากค่ะ ผีเสื้อขยับปีก ดัชนีนาง และอื่นๆซึ่งเราก็จำไม่ค่อยได้ แต่น้ำนมฟุ้งเลย หลังนวดก็ปั้ม และเข้าเต้าต่อเนื่อง เวิร์คมากค่ะ
https://nommaecenter.com/โค้ชแม่มะเหมี่ยว%20-%20จันทร์จิรา%20กาญจนพันธุ์
หน้าเพจจะมีราคา ถ้าสะดวกไปที่ร้านก็ได้ค่ะ แต่พอดีเราอยู่กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ เรายังมีสมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่เป็นตัวช่วยในการกระตุ้นเพิ่มน้ำนมให้กับเจ้าตัวน้อยของเราที่กินจุมากๆด้วยค่ะ เราได้มาจากการเข้าร่วมอบรมที่โรงพยาบาลเช่นกันค่ะ พอดีพาลูกไปหาหมอตรวจสุขภาพก็เจออบรมเรื่องน้ำนมแม่ แวะเข้าไปซักหน่อย เห็นสมุนไพรเพิ่มน้ำนมตัวนี้มาจัดอบรมร่วมกับทางโรงพยาบาลบ่อยๆ ก็เลยได้กล่องนี้ติดมือกลับมาค่ะ เป็นยี่ห้อ B Gift คนน้ำนมน้อย อยากให้ลองกินดูค่ะ ตัวนี้เป็นสมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่ ที่จะช่วยเพิ่มน้ำนมให้คุณแม่และช่วยปรับสภาพร่างกายของแม่ให้เข้าอู่เร็วขึ้นด้วยค่ะ
ซึ่งเราได้ตรวจสอบถึงมาตรฐานความปลอดภัยก่อนรับประทานก็พบว่า ทางเค้านอกจากจะเป็นสูตรของคุณหมอแล้วยังได้ใบรับรองว่าผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากกรมวิทยาศาสตร์ และเป็นบริษัทจดทะเบียนถูกต้อง มีอย. มีมาตรฐาน GMP และ HACCP จึงไว้ใจเรื่องความปลอดภัย กินแล้วไม่เป็นอันตรายแน่นอน
อันนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมค่ะ
https://www.facebook.com/BGiftThailand
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทานอาหารเสริมแล้วน้ำนมเยอะขึ้นมาก ปั๊มตุนกันไม่หวาดไม่ไหว ปัญหาเกิดค่ะทีนี้ ไม่มีที่เก็บสต็อก ถ้าใครจริงจังเรื่องสต็อกน้ำนมอยากให้ลูกมีกินไปยาวๆ เราก็ต้องมาหาวิธีรักษาน้ำนมกันค่ะ ทางสามีเราจัดการซื้อตู้แช่นมแยกจากตู้เย็นในบ้านเลย แล้วก็มีถุงเก็บนมด้วยที่ขาดไม่ได้
- ตู้แช่นมสำคัญมากนะคะ เพราะจะทำให้น้ำนมเราไม่เสียเปล่า (ยิ่งช่วงที่ปั๊มได้น้ำนมมากๆ หาที่เก็บไม่ทัน ต้องทิ้งเสียดายมากค่ะ)
สามารถเก็บใส่ถุงแล้ว แช่ได้ทันที ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ตลอด จะทำให้เก็บนมได้นานเป็นปีๆเลยนะคะ ไม่มีปัญหาน้ำนมเหม็นหืนด้วย
- ส่วนการใช้ถุงเก็บน้ำนม จะต้องไล่อากาศออกจากถุงให้หมด ป้องกันน้ำนมเหม็นหืนนะคะ อันนี้ก็สำคัญมากๆ
- เพิ่มน้ำนมแล้วก็อย่าลืมเครื่องปั๊มนมค่ะ แนะนำเป็นยี่ห้อ Spectra S1+ ค่ะ

อีกเรื่องที่สำคัญสำหรับคุณแม่หลังคลอดมากๆ ก็ การอยู่ไฟเลยค่ะ เราใช้บริการอยู่ไฟจากที่นี่ค่ะ
https://www.facebook.com/panthaidelivery.massage ตามมาจากรีวิวของดาราแม่ลูกอ่อนหลายๆท่าน พี่เค้าทำดีมากค่ะ อุปกรณ์ครบ และใส่ใจ ดูแลดีมากๆเลยค่ะ
อื่นๆเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับการทานอาหาร ส่วนใหญ่เน้นต้มหัวปลี ยำหัวปลี แทบทุกมื้อเลยค่ะ เอียนแต่ก็ทน มีที่ชอบมากก็จะเป็นน้ำขิง กินตอนอุ่นๆแล้วชุ่มคอมาก
เมนูพิเศษจะเป็นซุปไก่ดำตุ๋นยาจีน สูตรของคุณแม่สามี ท่านทำทีละเยอะๆแล้วแบ่งใส่ถ้วยเก็บฟรีซไว้ เวลาทานก็เอาออกมาอุ่น รสชาติสมุนไพรจีนหอมมากๆ ช่วยให้สุขภาพของเราแข็งแรงขึ้นเยอะเลยค่ะ
ทั้งหมดที่เราบอกเล่ามาก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับคุณแม่ท่านอื่นๆบ้างนะคะ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีกิจกรรมมากมายที่เกี่ยวข้องกับร่างกาย จิตใจของคุณแม่และการเลี้ยงดูลูก เป็นสิ่งดีๆที่เราว่า ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ ถ้าเพื่อเค้าหนักแค่ไหน เราว่าก็คุ้มค่ะ
มีลูกทั้งทีต้องดูแล+บำรุงครรภ์แบบจัดเต็ม บอกเล่าประสบการณ์เตรียมตัวเป็นคุณแม่ตั้งแต่ก่อนคลอด ยันหลังคลอด
โดยช่วง 3 เดือนแรก เรายังไม่ได้ตัดสินใจที่จะขยับตัวทำอะไรค่ะ เพราะเป็นช่วงที่เซนซิทีฟมาก เป็นช่วงที่เค้ายังร่างกายอ่อนแอและอาจเกิดความไม่สมบูรณ์ในการตั้งครรภ์ได้ ในช่วงนี้เราเลยงดทำกิจกรรมทุกอย่างที่หนักๆ เน้นอ่านหนังสือเบาสบาย คลายเครียดค่ะ กินอาหารให้ครบมื้อ
แต่พอผ่านช่วง 3 เดือน ซึ่งได้รับการยืนยันแล้วว่าเด็กสมบูรณ์ แข็งแรงดี ปลอดภัยแล้ว เราก็เริ่มหาคอร์สอบรมสำหรับคุณแม่อายุครรภ์ 3 เดือน คอร์สแรกที่เข้าอบรมจะเป็นคอร์สของโรงพยาบาลกรุงเทพที่เพื่อนเราชวนไปเรียนเป็นเพื่อนกันมาค่ะ
- โรงพยาบาลกรุงเทพ
อบรมครรภ์คุณภาพแก่คุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 3-8 เดือน โดยทีมสูติ-นรีแพทย์ กุมารแพทย์ นักโภชนาการ พยาบาลผู้เชี่ยวชาญ และนักกายภาพ
รายละเอียดเพิ่มเติม
https://www.bangkokhospital.com/th/news-and-events/ante-natal-class-2019
โดยหลังจากเข้าคอร์สครบ เราเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของร่างกายมากขึ้นค่ะ รู้จักปรับอารมณ์มากขึ้น และรวมไปถึงเข้าใจอาการผิดปกติระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งตรงนี้สำคัญมากๆในคนที่ครรภ์มีภาวะเสี่ยงสูง และที่ท้องลูกคนแรกแบบเรา การเข้ารับการอบรมที่ถูกต้องจึงจะทำให้เราเข้าใจสภาพร่างกายของตัวเอง และลูกน้อยในครรภ์ได้ดีที่สุดค่ะ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีค่ะ
มีคอร์สให้เลือก 2 คอร์สนะคะ เป็นคอร์สสำหรับอายุครรภ์ 3-5 เดือน และ 6-8 เดือน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เราเข้าอบรมจนอายุครรภ์เกือบ 8 เดือน จนครบคอร์ส เสียดายที่ในห้องเขาไม่ให้ถ่ายรูปเลยไม่ได้ถ่ายมาแบ่งปันกันค่ะ
ซึ่งจริงๆคอร์สเหล่านี้ทุกโรงพยาบาลมีจัดให้ตลอดค่ะ ถ้าเป็นสมาชิกของโรงพยาบาลไหนก็ควรจะเข้ารับอบรมที่โรงพยาบาลนั้น (ตอนแรกเราทราบข้อมูลตรงนี้ เพราะเราฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์อินเตอร์ เราก็เลยเปลี่ยนมาอบรมที่นี่แทน) เพื่อความสะดวกเพราะส่วนใหญ่สำหรับสมาชิกจะเป็นการอบรมฟรีอยู่แล้ว ส่วนคนนอกอย่างเราก็อบรมได้ค่ะ แต่ทางโรงพยาบาลจะมีค่าเก็บอบรมแยกต่างหาก บางที่ก็ราคาต่างกัน ลองสอบถามที่แผนกสูตินารีเวชของโรงพยาบาลที่ไปฝากครรภ์ดูนะคะ
ต่อไปมาพูดถึงการออกกำลังกายบ้างดีกว่าค่ะ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเราจะชอบเข้าฟิตเนส เล่นหนักๆ เล่นกล้าม แต่พอตั้งครรภ์ กลับชอบอะไรง่ายๆ สบายๆค่ะ อย่างโยคะและว่ายน้ำแทน
ซึ่งในส่วนของโยคะ เราเข้าคอร์สเล่นโยคะสำหรับคนท้องโดยตรง ที่เราไปเล่นมา อันนี้อยากแนะนำมากค่ะ ทั้งราคา ครูผู้สอน และสถานที่ฝึกค่ะโอเคมากๆ
- YOGA CHILL (พระราม 3 )
ราคาคอร์สรู้สึกจะเป็น 8000 กว่าบาท ต่อ 10 ครั้ง ตอนนี้ไม่รู้มีอัพเดตราคามั้ย ลองไปดูเพิ่มเติมกันนะคะ
- Little Whale คลาส Mommy Whale
คอร์สว่ายน้ำอันนี้ก็เพลินมากๆ เป็นกิจกรรมที่คุณแม่ต้องลองให้ได้นะคะ เพราะนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว การที่เราว่ายน้ำยังเหมือนให้ลูกได้ออกกำลังกายด้วยค่ะ ที่สำคัญน้ำยังสามารถช่วยพยุงท้องโตๆของเราไว้ ทำให้เราไม่รู้สึกเหนื่อยหรือล้ามากเกินไประหว่างว่ายน้ำด้วย
เราชอบมากเพราะรับ 3 คนต่อคลาส ทำให้ดูแลได้ทั่วถึงค่ะ และสามารถบอกปัญหาที่ตัวเองเจอ เช่น ปวดเมื่อยตรงไหน มีอาการอะไรที่อยากเน้นให้คุณครูช่วยบำบัดก็ทำได้ค่ะ ซึ่งหลังเรียนจบคลาสเราก็เอากลับมาใช้ที่บ้านต่อ ลงเล่นสระเอง โดยมีสามีคอยดูแลค่ะ เพลินมากๆ ไปเรียนว่ายน้ำมาทีไร กลับมาหลับสบายทุกทีเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนราคาเราไม่แน่ใจตรงนี้เลยค่ะ เหมือนเค้าจะไม่ได้เป็นคอร์สประจำ เพราะเราไปเช็คล่าสุดก็เหมือนจะยังไม่อัพเดท แต่ราคาไม่แพงนะคะ ใครอยากลองเรียนก็โทรสอบถามเค้าได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/littlewhalethailand/posts/1042131595800708/
ส่วนตรงนี้เป็นคอร์สที่เราอยากแนะนำมากๆเช่นกัน เพราะทำให้เรามีจุดเปลี่ยนต่อตัวเองและลูก เป็นคอร์สของสถาบันฝึกปฏิบัติธรรมเสถียรธรรมสถานค่ะ
- โครงการจิตประภัสสร ตั้งแต่นอนอยู่ในครรภ์ ณ เสถียรธรรมสถาน
ฟังไม่ผิดค่ะ สถานปฏิบัติเสถียรธรรมสถาน ค่ะ ที่นี่เหมือนเปิดหูเปิดตาเรามาก จากเมื่อก่อนที่เฉยๆไม่คิดว่า ธรรมะ กับการตั้งครรภ์จะไปด้วยกันได้ แต่ที่นี่ทำให้เรารู้สึกถึงความสำคัญของครอบครัวของเรา ของลูกจริงๆ เป็นโครงการที่ไปทำได้ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในท้องเลยค่ะ เพราะที่นี่เชื่อว่าลูกสามารถรับรู้ไปพร้อมๆกับเราได้ตั้งแต่อยู่ในท้อง เพราะฉะนั้นเราก็ควรรีบปลูกฝังเขาตั้งแต่ตอนนี้รวมถึงตัวเองด้วย เป็นคอร์สสั้นๆ วันเดียวจบ เริ่มต้นทุกวันอาทิตย์ที่ 1 ของเดือนค่ะ
รายละเอียดนะคะ https://www.sdsweb.org/sdsweb/index.php/2010-09-03-16-43-09
ซึ่งในส่วนของกิจกรรมต่างๆก่อนคลอดของเราก็มีประมาณนี้เลยค่ะ ที่เราทำประจำ พอหลังคลอดการดูแลตัวเองก็เพิ่มมากขึ้น แต่คราวนี้เป็นเรื่องของลูกเต็มๆแล้วค่ะ ซึ่งก็คือเรื่องของน้ำนมค่ะ
ตรงสอนนวดเปิดท่อน้ำนมเราใช้ที่นี่ค่ะพอดีเป็นเพื่อนของเพื่อน ร้านเขาอยู่ที่พัทยา เป็นโค้ชนมแม่ แต่เราให้มานวดที่กรุงเทพฯราคาครั้งละประมาณ 2,000 ค่ะ เรานวดครั้งเดียว สบายมากๆ เต้าที่เคยแข็ง เป็นก้อนมันคลายไปเลย ทำให้น้ำนมไหลดีขึ้น เค้ามีหลายท่ามากค่ะ ผีเสื้อขยับปีก ดัชนีนาง และอื่นๆซึ่งเราก็จำไม่ค่อยได้ แต่น้ำนมฟุ้งเลย หลังนวดก็ปั้ม และเข้าเต้าต่อเนื่อง เวิร์คมากค่ะ
https://nommaecenter.com/โค้ชแม่มะเหมี่ยว%20-%20จันทร์จิรา%20กาญจนพันธุ์
หน้าเพจจะมีราคา ถ้าสะดวกไปที่ร้านก็ได้ค่ะ แต่พอดีเราอยู่กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ เรายังมีสมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่เป็นตัวช่วยในการกระตุ้นเพิ่มน้ำนมให้กับเจ้าตัวน้อยของเราที่กินจุมากๆด้วยค่ะ เราได้มาจากการเข้าร่วมอบรมที่โรงพยาบาลเช่นกันค่ะ พอดีพาลูกไปหาหมอตรวจสุขภาพก็เจออบรมเรื่องน้ำนมแม่ แวะเข้าไปซักหน่อย เห็นสมุนไพรเพิ่มน้ำนมตัวนี้มาจัดอบรมร่วมกับทางโรงพยาบาลบ่อยๆ ก็เลยได้กล่องนี้ติดมือกลับมาค่ะ เป็นยี่ห้อ B Gift คนน้ำนมน้อย อยากให้ลองกินดูค่ะ ตัวนี้เป็นสมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่ ที่จะช่วยเพิ่มน้ำนมให้คุณแม่และช่วยปรับสภาพร่างกายของแม่ให้เข้าอู่เร็วขึ้นด้วยค่ะ
อันนี้เป็นรายละเอียดเพิ่มเติมค่ะ https://www.facebook.com/BGiftThailand
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สามารถเก็บใส่ถุงแล้ว แช่ได้ทันที ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ตลอด จะทำให้เก็บนมได้นานเป็นปีๆเลยนะคะ ไม่มีปัญหาน้ำนมเหม็นหืนด้วย
- ส่วนการใช้ถุงเก็บน้ำนม จะต้องไล่อากาศออกจากถุงให้หมด ป้องกันน้ำนมเหม็นหืนนะคะ อันนี้ก็สำคัญมากๆ
- เพิ่มน้ำนมแล้วก็อย่าลืมเครื่องปั๊มนมค่ะ แนะนำเป็นยี่ห้อ Spectra S1+ ค่ะ
อื่นๆเพิ่มเติมที่เกี่ยวกับการทานอาหาร ส่วนใหญ่เน้นต้มหัวปลี ยำหัวปลี แทบทุกมื้อเลยค่ะ เอียนแต่ก็ทน มีที่ชอบมากก็จะเป็นน้ำขิง กินตอนอุ่นๆแล้วชุ่มคอมาก
เมนูพิเศษจะเป็นซุปไก่ดำตุ๋นยาจีน สูตรของคุณแม่สามี ท่านทำทีละเยอะๆแล้วแบ่งใส่ถ้วยเก็บฟรีซไว้ เวลาทานก็เอาออกมาอุ่น รสชาติสมุนไพรจีนหอมมากๆ ช่วยให้สุขภาพของเราแข็งแรงขึ้นเยอะเลยค่ะ
ทั้งหมดที่เราบอกเล่ามาก็หวังว่าจะมีประโยชน์กับคุณแม่ท่านอื่นๆบ้างนะคะ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีกิจกรรมมากมายที่เกี่ยวข้องกับร่างกาย จิตใจของคุณแม่และการเลี้ยงดูลูก เป็นสิ่งดีๆที่เราว่า ทำได้ไม่ยากเลยค่ะ ถ้าเพื่อเค้าหนักแค่ไหน เราว่าก็คุ้มค่ะ