กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศอย่างเป็นทางการ
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝน เรียบร้อยแล้ว
พวกเราอยู่ใต้ฟ้า ไม่ต้องกลัวฝน กลัวแค่น้ำขัง รอการระบายก็พอ

หลัก ๆ นอกจากผู้ขับขี่รถยนต์ จะต้องขับขี่รถยนต์อย่างมีสติ ใช้ความเร็วให้เหมาะสม
และปฏิบัติการกฎจราจรอย่างเคร่งครัดแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ การเตรียมรถยนต์ของเราให้พร้อมกับการขับขี่ ฝ่าสายฝนด้วย
แต่จะมีอะไรบ้าง ลองมาไล่ดูกัน

ยางรถยนต์ : สภาพดอกยางต้องพร้อมใช้งาน ปกติยางรถยนต์ผู้ผลิตแนะนำให้สลับล้อยางทุก ๆ10,000 กม.และเปลี่ยนทุก ๆ 40,000 กม.
ระบบเบรค : ตรวจเช็คและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคตามคู่มือการใช้งาน และหากขับรถผ่านจุดน้ำท่วมขังแล้ว ให้ย้ำเบรคหลาย ๆ ครั้ง เพื่อไล่ความชื้นออกจากระบบเบรค
ไฟแสงสว่างและสัญญาณไฟ : ตรวจเช็คแสงสว่าง หลอดไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยวทั้งหมด ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
ใบปัดน้ำฝน : ตรวจเช็คให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ฉีกขาด ปัดน้ำฝนแล้วกระจกต้องสะอาด เพื่อสร้างวิสัยทัศน์ในการมองเห็นได้อย่างปลอดภัย

ซึ่งวันนี้ ผมมีวิธีการเลือกซื้อใบปัดน้ำฝน และแนะนำวิธีการเปลี่ยนง่าย ๆ
แบบว่าไม่ต้องถึงมือพวกพี่ช่าง คุณสาว ๆ เองก็ทำได้

เริ่มต้นจากตรวจสอบใบปัดน้ำฝนว่าพร้อมใช้งานหรือไม่
โดยสัญญาณที่จะบ่งบอกว่า ใบปัดน้ำฝนอันเก่าของเรา ต้องพลีชีพ ปลดระวางได้แล้ว มีดังนี้
หากใบปัดน้ำฝน ของเราพบสัญญาณเตือน 1 ใน 4 ดังกล่าวแล้ว ก็จัดการหาของใหม่มาทดแทนได้เลย
สำหรับวิธีการเลือกซื้อใบปัดน้ำฝน ผมมีเทคนิดดี ๆ ในการเลือกซื้อมาฝาก จะเป็นอย่างไร ลองดูครับ
ซึ่งแน่นอนว่า คุณสมบัติของใบปัดน้ำฝนที่ดีนั้น ของ3M เค้ามีดีครบทุกข้ออยู่แล้ว
ผมจึงตัดสินใจซื้อ ใบปัดน้ำฝนรุ่นซิลิโคน 3M Wiper Blade Frameless Model จากช่องทาง 3M Delivery
ของดี ๆ ราคาเบา ๆ แบบนี้ ก็รีบสอยมาเลย

สำหรับใครที่ไม่รู้ว่ารถยนต์ของเรา ต้องใช้ใบปัดน้ำฝนขนาดยาวเท่าไหร่ ก็ไม่ต้องห่วง
เพื่อน ๆ สามารถตรวจสอบได้จาก เวปของ 3M ตามนี้ได้เลย มีครบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ
กดตรงนี้เลย
เอาเป็นว่า เมื่ออุปกรณ์พร้อมก็จัดการเปลี่ยนได้เลย

วิธีการก็ง่ายแสนง่าย
เริ่มจากยกก้านใบปัดน้ำฝนตั้งขึ้น
ถอดแกนใบปัดน้ำฝนเดิมออกจากตัวล็อค
เปลี่ยนใบปัดน้ำฝน 3M ที่เราซื้อมาใหม่ ใส่เข้ากับตัวก้านใบปัดน้ำฝน ตามทิศทางเดิม
เลื่อนใบปัดน้ำฝนให้ลงล็อค จนได้ยินเสียงคลิ๊ก....เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย
หลังจากนั้น ลองทดสอบการฉีดน้ำ และทดสอบการปัดน้ำฝนดูว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่
เพียงเท่านี้ ก็เสร็จเรียบร้อย เห็นมั้ย ง่ายนิดเดียว
แต่ ๆ ...... เพื่อเพิ่มทักษะให้สาว ๆ ได้บรรลุไปอีกขั้น
นาน ๆ จะได้คุณนายแม่ มาเป็นผู้ช่วยแล้ว ..... ถือโอกาสใช้ซะให้คุ้ม 55
อุปสรรคหนึ่ง สำหรับการขับรถยนต์ ในช่วงหน้าฝน ก็คือ
ปัญหาเม็ดน้ำฝนเกาะบริเวณกระจกรถ ทำให้เกิดคราบน้ำ มองเห็นไม่สะดวก
โดยเฉพาะกระจกหน้าต่างด้านข้าง กระจกด้านหลัง และกระจกมองมุมด้านข้างรถ
วันนี้ผมขอเสนอตัวช่วยในการแก้ปัญหา คือ

น้ำยาเคลือบกระจก 3M Glass Coat Windshield
ปกติแล้ว น้ำยาเคลือบกระจกตัวนี้ เน้นใช้งานกับกระจกด้านหน้ารถยนต์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้เม็ดฝน
สามารถไหลผ่านกระจกหน้ารถเลยขณะที่เราขับรถ ซึ่งจะช่วยให้เราไม่ต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนบ่อย ๆ

แต่วันนี้เราจะเอามาประยุกต์ใช้กับกระจกหน้าต่างด้านข้าง กระจกด้านหลัง และกระจกมองมุมด้านข้างรถ
ซึ่งบ่อยครั้งที่เราพบว่า เวลาฝนตกคราบน้ำฝนมักจะเกาะอยู่กับกระจกเหล่านี้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น

แน่นอนวิธีการใช้น้ำยาเคลือบกระจกนี้ ก็ไม่ยากเลย
เริ่มต้นจาก ล้างทำความสะอาดกระจก และเช็คให้แห้งสนิท
ใส่ถุงมือที่แถมมาในกล่อง เพื่อป้องกันสารเคมี สำหรับบางคนที่ผิวหนังแพ้สารเคมีได้ง่าย
หลังจากนั้น เทน้ำยาลงบนผ้า เช็ดวนเป็นวงกลมเล็ก ๆ ให้ทั่วกระจกทุกบาน
ทิ้งไว้ให้น้ำยาแห้งจนขึ้นฝ้า
เสร็จแล้วใช้ผ้าสะอาด เช็คน้ำยาออกจนกระจกใส
และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ทาง3Mเค้าแนะนำให้ลงน้ำยาซ้ำสองรอบ
เพียงเท่านี้ กระจกรถยนต์เราก็จะไม่มีปัญหาคราบน้ำเกาะ จนเป็นอุปสรรคในการมองเห็น
และนี้คือ เทคนิคการเตรียมรถให้พร้อมก่อนฝ่าสายฝน ของผม ที่อยากจะเอามาแชร์ให้เพื่อน ๆ ชาว Pantip
หากเพื่อน ๆ สมาชิกท่านใด สนใจผลิตภัณฑ์ 3M Auto Care ไม่ว่าจะเป็น
3Mใบปัดน้ำฝน หรือ น้ำยาเคลือบกระจก 3M Glass Coat Windshield
หรือจะเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เกี่ยวกับการบำรุงรักษารถยนต์ สามารถสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ได้ที่ร้านค้าที่ระบุว่าเป็น 3M Official store
รับรองว่าท่านจะได้รับสินค้า 3M ในราคาพิเศษ ของแถมและโค้ดส่วนลดมากมาย แน่นอน

เรื่องดูแลรถ .... ผมยกให้ 3M Auto Care ดูแลกันตลอดไป

#3Mautocare #beforeafterchallenge