ก่อนที่เดือนนี้จะลาจากกันไป ก็ขอพูดถึงสักนิด เมื่อไม่นานมานี้ มีฝรั่งบอกกับผมว่า
ประเทศไทยนี่ดีนะ ที่มีการเคารพธงชาติกันทุกวัน มันช่วยให้เกิดการระลึกถึงความเป็นชาติ
ผมก็ตอบกลับว่า เหรอ คือตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองควรที่จะต้องรู้สึกอย่างไรครับ
แต่ผมก็เอ่ยต่อนะว่า แต่ผมคิดว่าการเคารพธงชาติกันทุกวันนั้น มันไม่ใช่อะไรที่มีแก่นเลย สู้ให้ความสำคัญกับวันชาติอย่างมากและจัดมันอย่างสวยงามมากและยิ่งใหญ่ทุกปี ปีละหนึ่งครั้ง อย่างที่ประเทศฝรั่งเศสทำอย่างนี้ ยังจะดีกว่าเยอะเลย
เพราะว่าอะไรอะเหรอ
Le quatorze juillet, Fête nationale, Bastille day, หรือวันชาติฝรั่งเศส เอ่อ มีหลายชื่อเหลือเกิน แต่อยากจะเรียกอย่างไรก็เรียกนะ
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลา ที่ประเทศฝรั่งเศสสวยงามมากดุจมีเวทย์มนตร์ คนที่นี่ให้ความสำคัญกับวันชาติอย่างมากครับ
ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีสีสันที่ฉูดฉาด เป็นประเทศที่มีเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นได้แทบจะทุกวันเว้นวัน เป็นประเทศที่มีสิ่งที่ดีอยู่เยอะมาก
อย่าง " วันชาติ " นี่ก็ถือว่าใช่
สถานที่และรถโดยสารถูกประดับประดาด้วยธงชาติ คนฝรั่งเศสเดินโบกธงชาติขนาดเล็กตามท้องถนน เรียกว่ามาในแนวคิดถึงการแสดงออกถึงความเป็นชาติสำหรับวันนี้
แล้วมันไม่ใช่แค่นั้น หากแต่ว่ามันยังมีกิจกรรมที่ดีมากมาย ที่เกิดขึ้นอย่างอัดแน่นในวันเดียวกันนี้
เริ่มจากช่วงเช้า ที่จะได้ดูการเดินขบวนของกองทัพแห่งประเทศฝรั่งเศสที่ Les Champs-Élysées ซึ่งตั้งแต่เกิดมา ผมไม่เคยเห็นของประเทศใด ที่จะทำได้อย่างสวยงามมากและยิ่งใหญ่เท่านี้ ( ยอมรับว่าโลกของข้าพเจ้านั้นมันกว้างไม่พอ ) อีกทั้งฝูงเครื่องบินรบที่ปล่อยควันสามสีบนน่านฟ้า คือ สีน้ำเงิน, สีขาว, และสีแดง อลังการมาก
พอมาถึงช่วงบ่าย ก็จะมีกิจกรรมทางศิลปะ, ทางดนตรี, และทางกองทัพเยอะมาก ตามจุดต่างๆของประเทศ สามารถเข้าร่วมได้ตามอัธยาศัย สนุกมาก
ตกช่วงค่ำ อันนี้ห้ามพลาดอย่างรุนแรงกับ พลุวันชาติ ซึ่งมันสวยงามมากทุกเมือง แต่โดยส่วนตัวแล้ว อันที่ตระการตาที่สุด คือที่กรุง Paris มันไม่ใช่การจุดพลุขึ้นท้องฟ้าอย่างมั่วๆ หากแต่ว่านี่คือการแสดงของรูป, สี, และเสียง ที่มีพลุระดับคุณภาพละเอียดที่ถูกยิงอย่างเป็นจังหวะและอย่างผสมผสานขึ้นสู่อากาศครับ กินระยะเวลายาวถึงครึ่งชั่วโมง สวยงามมากจนตกตะลึงตาค้างเสมือนโดนต้องมนต์ ดีมาก ( สวยงามมากกว่าพลุราคาแพงจาก Disneyland หลายเท่าเลยที่รัก )
เพลงชาติอันสุดแสนจะติดหู เพลง La Marseillaise ก็จะได้ฟังกันจริงๆก็วันนี้แหละ แล้วคนที่นี่ร้องกันได้ทุกคน แต่ถ้าปีไหนที่มีการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ก็จะได้ฟังมันบ่อยครั้งขึ้น เพลงนี้ไพเราะพอๆกับเพลงชาติของอเมริกาเลย
ผมว่าวันชาติอย่างนี้มันตอกย้ำถึงความเป็นชาติอย่างมากเลยครับ
หมายเหตุ ไม่สะดวกที่จะเข้ามาที่นี่บ่อยๆ ทำให้อาจจะถกประเด็นต่อไม่ได้เลยหรืออาจจะได้แต่ไม่มาก เพราะว่าสามารถที่จะหายได้ทุกเมื่อครับ
บนโลกใบนี้ มีประเทศใดที่ให้ความสำคัญกับวันชาติอย่างมากเหมือนกับ " ประเทศฝรั่งเศส " และ " สหรัฐอเมริกา " บ้างครับ
ประเทศไทยนี่ดีนะ ที่มีการเคารพธงชาติกันทุกวัน มันช่วยให้เกิดการระลึกถึงความเป็นชาติ
ผมก็ตอบกลับว่า เหรอ คือตอนนั้นไม่รู้ว่าตัวเองควรที่จะต้องรู้สึกอย่างไรครับ
แต่ผมก็เอ่ยต่อนะว่า แต่ผมคิดว่าการเคารพธงชาติกันทุกวันนั้น มันไม่ใช่อะไรที่มีแก่นเลย สู้ให้ความสำคัญกับวันชาติอย่างมากและจัดมันอย่างสวยงามมากและยิ่งใหญ่ทุกปี ปีละหนึ่งครั้ง อย่างที่ประเทศฝรั่งเศสทำอย่างนี้ ยังจะดีกว่าเยอะเลย
เพราะว่าอะไรอะเหรอ
Le quatorze juillet, Fête nationale, Bastille day, หรือวันชาติฝรั่งเศส เอ่อ มีหลายชื่อเหลือเกิน แต่อยากจะเรียกอย่างไรก็เรียกนะ
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลา ที่ประเทศฝรั่งเศสสวยงามมากดุจมีเวทย์มนตร์ คนที่นี่ให้ความสำคัญกับวันชาติอย่างมากครับ
ประเทศฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีสีสันที่ฉูดฉาด เป็นประเทศที่มีเรื่องที่ทำให้ตื่นเต้นได้แทบจะทุกวันเว้นวัน เป็นประเทศที่มีสิ่งที่ดีอยู่เยอะมาก
อย่าง " วันชาติ " นี่ก็ถือว่าใช่
สถานที่และรถโดยสารถูกประดับประดาด้วยธงชาติ คนฝรั่งเศสเดินโบกธงชาติขนาดเล็กตามท้องถนน เรียกว่ามาในแนวคิดถึงการแสดงออกถึงความเป็นชาติสำหรับวันนี้
แล้วมันไม่ใช่แค่นั้น หากแต่ว่ามันยังมีกิจกรรมที่ดีมากมาย ที่เกิดขึ้นอย่างอัดแน่นในวันเดียวกันนี้
เริ่มจากช่วงเช้า ที่จะได้ดูการเดินขบวนของกองทัพแห่งประเทศฝรั่งเศสที่ Les Champs-Élysées ซึ่งตั้งแต่เกิดมา ผมไม่เคยเห็นของประเทศใด ที่จะทำได้อย่างสวยงามมากและยิ่งใหญ่เท่านี้ ( ยอมรับว่าโลกของข้าพเจ้านั้นมันกว้างไม่พอ ) อีกทั้งฝูงเครื่องบินรบที่ปล่อยควันสามสีบนน่านฟ้า คือ สีน้ำเงิน, สีขาว, และสีแดง อลังการมาก
พอมาถึงช่วงบ่าย ก็จะมีกิจกรรมทางศิลปะ, ทางดนตรี, และทางกองทัพเยอะมาก ตามจุดต่างๆของประเทศ สามารถเข้าร่วมได้ตามอัธยาศัย สนุกมาก
ตกช่วงค่ำ อันนี้ห้ามพลาดอย่างรุนแรงกับ พลุวันชาติ ซึ่งมันสวยงามมากทุกเมือง แต่โดยส่วนตัวแล้ว อันที่ตระการตาที่สุด คือที่กรุง Paris มันไม่ใช่การจุดพลุขึ้นท้องฟ้าอย่างมั่วๆ หากแต่ว่านี่คือการแสดงของรูป, สี, และเสียง ที่มีพลุระดับคุณภาพละเอียดที่ถูกยิงอย่างเป็นจังหวะและอย่างผสมผสานขึ้นสู่อากาศครับ กินระยะเวลายาวถึงครึ่งชั่วโมง สวยงามมากจนตกตะลึงตาค้างเสมือนโดนต้องมนต์ ดีมาก ( สวยงามมากกว่าพลุราคาแพงจาก Disneyland หลายเท่าเลยที่รัก )
เพลงชาติอันสุดแสนจะติดหู เพลง La Marseillaise ก็จะได้ฟังกันจริงๆก็วันนี้แหละ แล้วคนที่นี่ร้องกันได้ทุกคน แต่ถ้าปีไหนที่มีการแข่งขันกีฬาระดับชาติ ก็จะได้ฟังมันบ่อยครั้งขึ้น เพลงนี้ไพเราะพอๆกับเพลงชาติของอเมริกาเลย
ผมว่าวันชาติอย่างนี้มันตอกย้ำถึงความเป็นชาติอย่างมากเลยครับ
หมายเหตุ ไม่สะดวกที่จะเข้ามาที่นี่บ่อยๆ ทำให้อาจจะถกประเด็นต่อไม่ได้เลยหรืออาจจะได้แต่ไม่มาก เพราะว่าสามารถที่จะหายได้ทุกเมื่อครับ