เรื่องมีอยู่ว่า เราไปช่วยงานอาจารย์เป็นแบบออกพื้นที่ แล้วมีรุ่นพี่ไปด้วย เราชอบเขาค่ะ เราจะชอบแกล้งกัน แหย่กัน มุ้งมิ้งมาก เราเป็นคนไม่ค่อยพูดค่ะ แบบพูดไม่เก่ง แต่เป็นคนขี้อ้อน แบบมุ้งมิ้งอะ (อย่าเกลียดเรานะ) พี่เขาดูแลดีค่ะ มันมีโมเม้นท์ที่ดีมากเวลาไปออกฟิวส์ เราไม่อยากบรรยายมากมันสามารถแต่งเป็นนิยายโรแมนติกได้ จะขอเล่าบางฉากนะคะ มีครั้งหนึ่งที่ทุกคนแซวพี่ (ให้พี่เขาเป็นพี่N นะคะ)แบบเชียร์ให้รู้จักรุ่นพี่ฝึกงานอีกคน พี่ฝึกงานเขาก็แบบฝากคนมาขอเบอร์พี่ N ตอนเรารู้เราก็แบบเจ็บค่ะ แต่ทำไงได้เราไม่ได้เป็นอะไรกับพี่เขา ความเสียใจหน่วงๆ อยู่ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มของเราค่ะ แต่พี่ N ไม่ได้ให้เบอร์นะคะเพราะโทรศัพท์พี่เสีย ก็เลยให้เบอร์รุ่นพี่ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนกับพี่ N ไปค่ะ เราออกพื้นที่หลายครั้งค่ะ แต่ละครั้งก็มีช่วงเวลาที่น่าจดจำ ครั้งสุดท้ายก่อนจบการออกฟิวส์ เรามารู้ว่าพี่ N มีคนคุยค่ะ เราก็เจ็บสิคะ 555 เลยว่าจะตัดใจ เพราะเห็นเขาแชทกันในไลน์ (ที่ตลกคือ ชื่อแชทที่เราเห็นคือชื่อที่หมายถึงที่รัก เราก็เข้าใจว่า "อ้อ มีแฟนอยู่แล้วนี่เอง" ) ก็เลยควรตัดใจ แต่ตอนนั่งในรถ เราได้ยินเพื่อนพี่ N พูดว่า "น้องที่รักร้องให้ฟังหรอ" เอ๊ะ! คนนั้นชื่อที่รัก **เราไม่อยากพาดพิงชื่อค่ะ** เราก็โล่งใจ แต่ก็คงคุยๆ กันอยู่
ตัดมาตอนจิบชาที่แห่งหนึ่งค่ะ (พอดีแวะพักหลังออกฟิวส์) เรากับพี่ N นั่งตรงข้ามกัน ก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนมีบทสนทนาหนึ่งที่แบบเราเถียงไม่ได้ (เชิงหยอกล้อกัน) เราก็เลยเอาเท้าทั้ง 2 ข้างไปวางบนเท้าของพี่ N ค่ะ แบบหมั่นไส้จะเหยียบให้มิด แต่แค่วางเบาๆ นะคะ ตอนแรกที่ทำไม่แน่ใจว่าพี่เขาจะรังเกียจหรือเปล่า แต่เขากลับขยับเท้าเข้ามาให้เราเอาเท้าวางได้แบบถนัดๆ เราก็วางไปแบบนั้นเลยค่ะ พี่เค้าก็แบบมีกระดิกเท้าเล่นเท้าที่เราวางอยู่ (เขิน) ก็คุยๆกันไปเรื่อยๆ เราก็ยังไม่เอาเท้าออกนะ 55 สักพักใหญ่ๆ ก็เอาออกเริ่มเกรงใจ เอ้อ...ถ้าช่วงไหนที่ไม่มีอะไรทำเรามักจะก้มเล่นโทรศัพท์ค่ะ (ทุกคน) หลังๆ เราก็คิดได้ว่าถ้าอยู่ด้วยกันกับพี่เราจะไม่เล่นค่ะ ถึงเล่นก็ไม่มีคนให้คุยด้วย เราก็เลยชอบฟังเวลาคนพูด แต่เราไม่ค่อยพูด เวลาเราสบตากับพี่เขาก็มองตอบนะคะ มองนานด้วย (เหมือนเล่นเกมจ้องตา) เขาคงขี้เล่น
จากนั้นก็มากินข้าวอีกที่หนึ่งค่ะ ตอนนี้เรานั่งข้างกัน ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ กินข้าวเรื่อยๆ จนอิ่ม ผู้ใหญ่เขาดื่มต่อนิดหน่อย เราก็นั่งคุยกันตามประสาเด็กๆ 55 ที่เราประทับใจคือเขาจำได้ว่าเราชอบแมวค่ะ มันมีแมวที่ร้านค่ะ ตอนแรกเรายังไม่เห็น พี่เขาก็บอกว่าเห็นแมวไหม แล้วก็ชี้ๆ เราก็มองตาม พอเห็นเราก็วิ่งไปเล่นกับแมวเลย พี่เขาก็เข้ามาเล่นด้วยค่ะ เราเป็นคนไม่ดื่มก็ต้องนั่งรอคนอื่นๆ ดื่มค่ะ จนเริ่มง่วงเลยพิงเก้าอี้แบบให้หัววางได้ พี่เขาก็จะมองเราตลอด (เราบิดตัวหันไปทางพี่ค่ะ) เขาจะแซวว่า นอนแล้วหรอ ชัตดาวน์แล้ว มาแหย่เรา ตอนนั้นเขาก็เปิดคลิปแมวแช่น้ำแล้วก็กินน้ำที่แช่ไปด้วยให้ดู จู่ๆ ก็มีข้อความไลน์คนที่ชื่อที่รักเด้งลงมา เราก็เลิกดูคลิป แต่พี่เขาก็ปัดทิ้งแล้วเปิดคลิปต่อค่ะ แล้วก็เก็บโทรศัพท์นั่งคุยกับคนอื่นๆ ต่อ เจ้าเหมียวก็เป็นใจเหลือเกิน มาอ้อนค่ะ เราก็ก้มลงไปเล่น พี่เขาก็ก้มลงมาโดยที่ไม่สนว่าหน้ากับหัวจะชนกัน เราก็เลยเป็นฝ่ายเงยหน้าขึ้นแทนปล่อยให้เขาเล่นแมวไป ก็ไม่ลืมแหย่เราอีกเหมือนเดิม
เราไม่เคยคุยกันในแชทเลยค่ะ ที่จริงเราเป็นฝ่ายแอดพี่เขาทั้งนั้น ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์(ขอเพื่อนพี่มา) ไอจี แต่เขาไม่ติดตามกลับนะ ไม่ไลค์ เหมือนไม่สนอะ แต่พอเจอกันมันคนละฟิลลิ่งเลย ไม่เข้าใจ เพราะเขาไม่คิดอะไรหรือเปล่า แต่การกระทำมันบอกว่าคิด หรือเราเข้าข้างตัวเอง
มาถึงตรงนี้ก็คงเข้าใจนะคะว่าเรารู้สึกยังไง เล่ามามากเหลือเกิน ทวนค่ะ อยากรู้ว่า เขาที่มีคนคุยคิดอะไรกับเราไหม (ซึ่งไม่รู้ละเอียดว่าคุยนานยัง เพราะมีช่วงที่โทรศัพท์เสีย) หรือเพราะเป็นรุ่นพี่เราเป็นรุ่นน้องก็แค่อยากแกล้ง เท่านั้น แบบเอ็นดู ได้ระบายบ้างนี่รู้สึกโล่งเลยค่ะ รบกวนคนที่เข้ามาอ่านตอบให้เราได้รู้หน่อยนะคะ จะได้รับฟังและนำไปปรับใช้ ไม่ว่าผลจะเป็นไงเราก็ทำใจไว้แล้ว
มีอีกเรื่องค่ะ เราไม่กล้าทักแชทเขาเลย ตอนนี้จบงานแล้ว คงไม่ค่อยได้เจอกัน แต่เรียนคณะเดียวกันค่ะ ควรทักไหมงะ
อยากรู้ว่า คนๆ นี้เขาคิดอะไรกับเราหรือเปล่า? เราไม่ได้คิดไปเอง
ตัดมาตอนจิบชาที่แห่งหนึ่งค่ะ (พอดีแวะพักหลังออกฟิวส์) เรากับพี่ N นั่งตรงข้ามกัน ก็คุยกันไปเรื่อยๆ จนมีบทสนทนาหนึ่งที่แบบเราเถียงไม่ได้ (เชิงหยอกล้อกัน) เราก็เลยเอาเท้าทั้ง 2 ข้างไปวางบนเท้าของพี่ N ค่ะ แบบหมั่นไส้จะเหยียบให้มิด แต่แค่วางเบาๆ นะคะ ตอนแรกที่ทำไม่แน่ใจว่าพี่เขาจะรังเกียจหรือเปล่า แต่เขากลับขยับเท้าเข้ามาให้เราเอาเท้าวางได้แบบถนัดๆ เราก็วางไปแบบนั้นเลยค่ะ พี่เค้าก็แบบมีกระดิกเท้าเล่นเท้าที่เราวางอยู่ (เขิน) ก็คุยๆกันไปเรื่อยๆ เราก็ยังไม่เอาเท้าออกนะ 55 สักพักใหญ่ๆ ก็เอาออกเริ่มเกรงใจ เอ้อ...ถ้าช่วงไหนที่ไม่มีอะไรทำเรามักจะก้มเล่นโทรศัพท์ค่ะ (ทุกคน) หลังๆ เราก็คิดได้ว่าถ้าอยู่ด้วยกันกับพี่เราจะไม่เล่นค่ะ ถึงเล่นก็ไม่มีคนให้คุยด้วย เราก็เลยชอบฟังเวลาคนพูด แต่เราไม่ค่อยพูด เวลาเราสบตากับพี่เขาก็มองตอบนะคะ มองนานด้วย (เหมือนเล่นเกมจ้องตา) เขาคงขี้เล่น
จากนั้นก็มากินข้าวอีกที่หนึ่งค่ะ ตอนนี้เรานั่งข้างกัน ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ กินข้าวเรื่อยๆ จนอิ่ม ผู้ใหญ่เขาดื่มต่อนิดหน่อย เราก็นั่งคุยกันตามประสาเด็กๆ 55 ที่เราประทับใจคือเขาจำได้ว่าเราชอบแมวค่ะ มันมีแมวที่ร้านค่ะ ตอนแรกเรายังไม่เห็น พี่เขาก็บอกว่าเห็นแมวไหม แล้วก็ชี้ๆ เราก็มองตาม พอเห็นเราก็วิ่งไปเล่นกับแมวเลย พี่เขาก็เข้ามาเล่นด้วยค่ะ เราเป็นคนไม่ดื่มก็ต้องนั่งรอคนอื่นๆ ดื่มค่ะ จนเริ่มง่วงเลยพิงเก้าอี้แบบให้หัววางได้ พี่เขาก็จะมองเราตลอด (เราบิดตัวหันไปทางพี่ค่ะ) เขาจะแซวว่า นอนแล้วหรอ ชัตดาวน์แล้ว มาแหย่เรา ตอนนั้นเขาก็เปิดคลิปแมวแช่น้ำแล้วก็กินน้ำที่แช่ไปด้วยให้ดู จู่ๆ ก็มีข้อความไลน์คนที่ชื่อที่รักเด้งลงมา เราก็เลิกดูคลิป แต่พี่เขาก็ปัดทิ้งแล้วเปิดคลิปต่อค่ะ แล้วก็เก็บโทรศัพท์นั่งคุยกับคนอื่นๆ ต่อ เจ้าเหมียวก็เป็นใจเหลือเกิน มาอ้อนค่ะ เราก็ก้มลงไปเล่น พี่เขาก็ก้มลงมาโดยที่ไม่สนว่าหน้ากับหัวจะชนกัน เราก็เลยเป็นฝ่ายเงยหน้าขึ้นแทนปล่อยให้เขาเล่นแมวไป ก็ไม่ลืมแหย่เราอีกเหมือนเดิม
เราไม่เคยคุยกันในแชทเลยค่ะ ที่จริงเราเป็นฝ่ายแอดพี่เขาทั้งนั้น ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์(ขอเพื่อนพี่มา) ไอจี แต่เขาไม่ติดตามกลับนะ ไม่ไลค์ เหมือนไม่สนอะ แต่พอเจอกันมันคนละฟิลลิ่งเลย ไม่เข้าใจ เพราะเขาไม่คิดอะไรหรือเปล่า แต่การกระทำมันบอกว่าคิด หรือเราเข้าข้างตัวเอง
มาถึงตรงนี้ก็คงเข้าใจนะคะว่าเรารู้สึกยังไง เล่ามามากเหลือเกิน ทวนค่ะ อยากรู้ว่า เขาที่มีคนคุยคิดอะไรกับเราไหม (ซึ่งไม่รู้ละเอียดว่าคุยนานยัง เพราะมีช่วงที่โทรศัพท์เสีย) หรือเพราะเป็นรุ่นพี่เราเป็นรุ่นน้องก็แค่อยากแกล้ง เท่านั้น แบบเอ็นดู ได้ระบายบ้างนี่รู้สึกโล่งเลยค่ะ รบกวนคนที่เข้ามาอ่านตอบให้เราได้รู้หน่อยนะคะ จะได้รับฟังและนำไปปรับใช้ ไม่ว่าผลจะเป็นไงเราก็ทำใจไว้แล้ว
มีอีกเรื่องค่ะ เราไม่กล้าทักแชทเขาเลย ตอนนี้จบงานแล้ว คงไม่ค่อยได้เจอกัน แต่เรียนคณะเดียวกันค่ะ ควรทักไหมงะ