มนุษย์ใช้ชีวิตอยู่ภายในโลกที่เราคิดว่ารู้จักและคุ้นเคยมาสี่พันกว่าล้านปี คำถามคือ มากแค่ไหนที่เรารู้จักเกี่ยวกับธรรมชาติของโลกที่เราอาศัยอยู่? คุณรู้หรือไม่ว่าภายในธรรมชาติของโลก (ของมนุษย์) ที่คุณรู้จักมีธรรมชาติของธรรมชาติที่ซ่อนอยู่อีก? ดังนั้นนอกจากที่เรามีความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้และทำความรู้จักและทำความเข้าใจในธรรมชาติของโลก (ของมนุษย์) แล้วเรายังต้องเรียนรู้ทำความรู้จักและทำความเข้าใจในธรรมชาติของธรรมชาติของโลก (ของมนุษย์) ในส่วนที่อยู่ลึกลงไปอีก ซึ่งธรรมชาติของธรรมชาติในส่วนนี้คือ ธรรมชาติของโลกที่เป็นส่วนที่ควบคุมเกือบทั้งหมดและทั้งหมดของชีวิตคนเรา และเพื่อทำให้การมองเห็นภาพมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นขอแยกออกเป็นสองภาษาดังนี้คือ
ภาษามนุษย์: ตลอดสี่พันกว่าล้านปีเราใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ที่จุดเดิม (โลกเก่า) มาตลอด
ภาษาควอนตัม: ตลอดสี่พันกว่าล้านปีเราใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ที่จุดเดิมและไม่ได้อยู่ที่จุดเดิม (โลกเก่ากับโลกใหม่) มาตลอด
ภาษามนุษย์: คำว่า โลกเก่ากับโลกใหม่ จะมีความชัดเจนอยู่ภายในตัวเอง เก่าคือเก่า ใหม่คือใหม่
ภาษาควอนตัม: คำว่า โลกเก่ากับโลกใหม่ จะมีความชัดเจนและมีความไม่ชัดเจนอยู่ภายในตัวเองและอยู่ภายในกันและกัน โลกเก่าคือโลกเก่า โลกใหม่คือโลกใหม่ โลกเก่าคือโลกใหม่และโลกใหม่คือโลกเก่า
ภาษามนุษย์: คลื่นคือคลื่น อนุภาคคืออนุภาค
ภาษาควอนตัม: คลื่นคือคลื่น อนุภาคคืออนุภาค คลื่นคืออนุภาคและอนุภาคคือคลื่น คลื่นและอนุภาคอยู่ในสิ่งเดียวกัน คลื่นและอนุภาคจึงเป็นสิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน
ภาษามนุษย์: คนเราจะมีความคิดได้เพียงความคิดเดียวในชั่วขณะหนึ่ง แต่มนุษย์สามารถทำให้ตัวเรามีความรู้สึกร่วมไปพร้อมกับและไม่มีความรู้สึกร่วมไปพร้อมๆกับการมีความคิดได้ ซึ่งจริงแล้วความสามารถในการมีร่วมกันและหรือไม่มีร่วมกันในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันเป็นสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติของโลกและธรรมชาติของเราทุกคนอยู่แล้วเพียงแต่เราไม่รู้และหรือปฏิเสธที่จะรับรู้ด้วยตัวของเราเอง=เรากำลังเล่นเกมซ่อนหากับตัวเราเอง เนื่องจากการยอมรับหรือการยอมรับรู้คือสิ่งที่เราคิดและเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาให้กับเรา ซึ่งมีความถูกต้องเพียงครึ่งเดียวคือการรับรู้ใช่สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับเรา แต่สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับเราเท่ายังสร้างทางออกของปัญหาให้กับเราด้วย ซึ่งการที่เราจะออกจากปัญหาได้เราจำเป็นที่จะต้องเปิดใจยอมรับและยอมรับรู้ในสิ่งที่เราปฏิเสธที่จะยอมรับและการยอมรับที่สมบูรณ์จะต้องประกอบไปด้วยการยอมรับทางความคิดความรู้สึกและการกระทำ
ภาษาควอนตัม: (ควอนตัมที่นักฟิสิกส์เข้าถึงได้ในปัจจุบัน) อนุภาคและคลื่นจะแสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ระบบควอนตัมจะไม่แสดงคุณสมบัติทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน (ควอนตัมที่นักฟิสิกส์ยังเข้าไม่ถึงเนื่องจากข้อจำกัดทั้งภายในและภายนอกของตัวเอง ซึ่งไอสไตนส์เรียกข้อจำกัดหรือการกระทำนี้ว่า การกระทำระยะทางไกล หรือ Spooky action a distance ความหมายที่ซ่อนอยู่คือ เป็นการกระทำระยะทางไกลและไม่ใช่การกระทำระยะทางไกล (ทางใกล้) ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ไอสไตน์กล่าวว่า ไม่มีอะไรเดินทางเร็วกว่าแสง ในภาษาควอนตัมบอกว่า ควอนตัมเดินทางเร็วกว่าแสงและไม่ได้เดินทางเร็วกว่าแสงในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน คำว่า เดินทางเร็วกว่าแสงไม่ได้หมายความว่าเดินทางเร็วกว่าแสง และในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันคำว่า ไม่ได้เดินทางเร็วกว่าแสงก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้เดินทางเร็วกว่าแสง เนื่องจากควอนตัมอยู่ในที่ใดที่หนึ่งและไม่ได้อยู่ในที่ใดที่หนึ่งในเวลาเดียวกัน ดังนั้นจึงดูเหมือนกับว่า/ดูราวกับว่าควอนตัมเดินทางเร็วกว่าแสง แต่จริงๆแล้วควอนตัมไม่ได้เดินทางเร็วกว่าแสง แต่หลักฐานที่แสดงออกถึงข้อสงสัยมีอยู่จริงจึงทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักฟิสิกส์ต่างมีข้อสงสัย ซึ่งข้อสงสัยเกิดจากความไม่รู้และความไม่รู้นำไปสู่ความรู้และความไม่รู้ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง/อีกระดับหนึ่ง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใครทำอะไรอยู่ที่ไหนจงอยู่และอย่าอยู่ในสิ่งที่คุณมีอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน อนุภาคและคลื่นจะแสดงคุณสมบัติและไม่แสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันเสมอ ซึ่งการแสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหมายความว่าแสดงและไม่แสดงอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และการไม่แสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งก็มีความหมายว่าไม่แสดงและแสดงอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ไม่เพียงแต่ระบบควอนตัมจะแสดงและไม่แสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วระบบควอนตัมยังแสดงออกและไม่แสดงออกทางคุณลักษณะในลักษณะเดียวกันซ้อนทับอยู่อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งการซ้อนทับนี้จะมาพร้อมกับความพัวพันและหรือความไม่พัวพันอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง ซึ่งการมาพร้อมกันก็จะมีความหมายว่ามาพร้อมกันและไม่ได้มาพร้อมกัน และการไม่ได้มาพร้อมกันก็มีความหมายว่าไม่ได้มาพร้อมกันและมาพร้อมกัน ซึ่งมนุษย์มีทั้งคุณลักษณะและคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับควอนตัมเพราะมนุษย์และควอนตัมคือ สิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งการที่มนุษย์จะเข้าถึงคุณลักษณะและคุณสมบัติของควอนตัมที่อยู่ภายในของมนุษย์ได้นั้นมนุษย์มีความจำเป็นที่จะต้องทำความรู้จักและทำความเข้าใจเพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจและความสามารถของตัวมนุษย์ให้สามารถเข้าถึงการรับรู้และการมองเห็นในส่วนที่เราไม่เคยเข้าถึงมาก่อน.
ทำความรู้จักกับธรรมชาติของโลก(มนุษย์)ในแบบที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
ภาษามนุษย์: ตลอดสี่พันกว่าล้านปีเราใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ที่จุดเดิม (โลกเก่า) มาตลอด
ภาษาควอนตัม: ตลอดสี่พันกว่าล้านปีเราใช้ชีวิตวนเวียนอยู่ที่จุดเดิมและไม่ได้อยู่ที่จุดเดิม (โลกเก่ากับโลกใหม่) มาตลอด
ภาษามนุษย์: คำว่า โลกเก่ากับโลกใหม่ จะมีความชัดเจนอยู่ภายในตัวเอง เก่าคือเก่า ใหม่คือใหม่
ภาษาควอนตัม: คำว่า โลกเก่ากับโลกใหม่ จะมีความชัดเจนและมีความไม่ชัดเจนอยู่ภายในตัวเองและอยู่ภายในกันและกัน โลกเก่าคือโลกเก่า โลกใหม่คือโลกใหม่ โลกเก่าคือโลกใหม่และโลกใหม่คือโลกเก่า
ภาษามนุษย์: คลื่นคือคลื่น อนุภาคคืออนุภาค
ภาษาควอนตัม: คลื่นคือคลื่น อนุภาคคืออนุภาค คลื่นคืออนุภาคและอนุภาคคือคลื่น คลื่นและอนุภาคอยู่ในสิ่งเดียวกัน คลื่นและอนุภาคจึงเป็นสิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน
ภาษามนุษย์: คนเราจะมีความคิดได้เพียงความคิดเดียวในชั่วขณะหนึ่ง แต่มนุษย์สามารถทำให้ตัวเรามีความรู้สึกร่วมไปพร้อมกับและไม่มีความรู้สึกร่วมไปพร้อมๆกับการมีความคิดได้ ซึ่งจริงแล้วความสามารถในการมีร่วมกันและหรือไม่มีร่วมกันในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันเป็นสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติของโลกและธรรมชาติของเราทุกคนอยู่แล้วเพียงแต่เราไม่รู้และหรือปฏิเสธที่จะรับรู้ด้วยตัวของเราเอง=เรากำลังเล่นเกมซ่อนหากับตัวเราเอง เนื่องจากการยอมรับหรือการยอมรับรู้คือสิ่งที่เราคิดและเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่สร้างปัญหาให้กับเรา ซึ่งมีความถูกต้องเพียงครึ่งเดียวคือการรับรู้ใช่สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับเรา แต่สิ่งที่สร้างปัญหาให้กับเราเท่ายังสร้างทางออกของปัญหาให้กับเราด้วย ซึ่งการที่เราจะออกจากปัญหาได้เราจำเป็นที่จะต้องเปิดใจยอมรับและยอมรับรู้ในสิ่งที่เราปฏิเสธที่จะยอมรับและการยอมรับที่สมบูรณ์จะต้องประกอบไปด้วยการยอมรับทางความคิดความรู้สึกและการกระทำ
ภาษาควอนตัม: (ควอนตัมที่นักฟิสิกส์เข้าถึงได้ในปัจจุบัน) อนุภาคและคลื่นจะแสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง ระบบควอนตัมจะไม่แสดงคุณสมบัติทั้งสองอย่างพร้อมๆกัน (ควอนตัมที่นักฟิสิกส์ยังเข้าไม่ถึงเนื่องจากข้อจำกัดทั้งภายในและภายนอกของตัวเอง ซึ่งไอสไตนส์เรียกข้อจำกัดหรือการกระทำนี้ว่า การกระทำระยะทางไกล หรือ Spooky action a distance ความหมายที่ซ่อนอยู่คือ เป็นการกระทำระยะทางไกลและไม่ใช่การกระทำระยะทางไกล (ทางใกล้) ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ไอสไตน์กล่าวว่า ไม่มีอะไรเดินทางเร็วกว่าแสง ในภาษาควอนตัมบอกว่า ควอนตัมเดินทางเร็วกว่าแสงและไม่ได้เดินทางเร็วกว่าแสงในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน คำว่า เดินทางเร็วกว่าแสงไม่ได้หมายความว่าเดินทางเร็วกว่าแสง และในขณะเดียวกันและหรือในทางกลับกันคำว่า ไม่ได้เดินทางเร็วกว่าแสงก็ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้เดินทางเร็วกว่าแสง เนื่องจากควอนตัมอยู่ในที่ใดที่หนึ่งและไม่ได้อยู่ในที่ใดที่หนึ่งในเวลาเดียวกัน ดังนั้นจึงดูเหมือนกับว่า/ดูราวกับว่าควอนตัมเดินทางเร็วกว่าแสง แต่จริงๆแล้วควอนตัมไม่ได้เดินทางเร็วกว่าแสง แต่หลักฐานที่แสดงออกถึงข้อสงสัยมีอยู่จริงจึงทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักฟิสิกส์ต่างมีข้อสงสัย ซึ่งข้อสงสัยเกิดจากความไม่รู้และความไม่รู้นำไปสู่ความรู้และความไม่รู้ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง/อีกระดับหนึ่ง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใครทำอะไรอยู่ที่ไหนจงอยู่และอย่าอยู่ในสิ่งที่คุณมีอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน อนุภาคและคลื่นจะแสดงคุณสมบัติและไม่แสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกันเสมอ ซึ่งการแสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งหมายความว่าแสดงและไม่แสดงอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน และการไม่แสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งก็มีความหมายว่าไม่แสดงและแสดงอยู่ในสิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ไม่เพียงแต่ระบบควอนตัมจะแสดงและไม่แสดงคุณสมบัติอย่างใดอย่างหนึ่งแล้วระบบควอนตัมยังแสดงออกและไม่แสดงออกทางคุณลักษณะในลักษณะเดียวกันซ้อนทับอยู่อีกชั้นหนึ่ง ซึ่งการซ้อนทับนี้จะมาพร้อมกับความพัวพันและหรือความไม่พัวพันอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่าง ซึ่งการมาพร้อมกันก็จะมีความหมายว่ามาพร้อมกันและไม่ได้มาพร้อมกัน และการไม่ได้มาพร้อมกันก็มีความหมายว่าไม่ได้มาพร้อมกันและมาพร้อมกัน ซึ่งมนุษย์มีทั้งคุณลักษณะและคุณสมบัติเช่นเดียวกันกับควอนตัมเพราะมนุษย์และควอนตัมคือ สิ่งเดียวกันที่ใช่และไม่ใช่สิ่งเดียวกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งการที่มนุษย์จะเข้าถึงคุณลักษณะและคุณสมบัติของควอนตัมที่อยู่ภายในของมนุษย์ได้นั้นมนุษย์มีความจำเป็นที่จะต้องทำความรู้จักและทำความเข้าใจเพื่อพัฒนาความรู้ความเข้าใจและความสามารถของตัวมนุษย์ให้สามารถเข้าถึงการรับรู้และการมองเห็นในส่วนที่เราไม่เคยเข้าถึงมาก่อน.