เคยปฏิเสธความต้องการของตัวเอง เพื่อจะรักษาคำว่าเพื่อนไหมคะ

สวัสดีคะ ที่ต้องมาตั้งกระทู้วันนี้เพราะรู้สึกคิดถึงเขาคะ อยากกลับเข้าไปในชีวิตเขาอีกครั้ง  ต้องเล่าก่อนว่าเราเเอบชอบเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน แถมเป็นเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกัน สมัยม.ต้น ไปไหนมาไหนด้วยกันคะ ตอนเเรกที่เป็นเพื่อนกันก็ไม่ได้รู้สึกเเบบนี้นะคะ รู้สึกว่าเขาก็เป็นเพื่อนเหมือนคนอื่นๆ มันมีอยู่ช่วงเหตุการณ์ที่ทำให้เราสนิทกันคะ จนความรู้สึกเราเปลี่ยนไป รู้สึกพิเศษกับเพื่อนคนนี้ เเต่ตอนนั้นเราไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่รู้จักคำว่าเลสเบียน ปฏิเสธความรู้สึกตัวเองมาตลอด ซึ่งเพื่อนเราก็รอคำตอบจากเรารู้สึกกับเขาอย่างไร เราไม่เคยบอกความรู้สึก ปล่อยให้เขาตั้งคำถามในใจเรื่อยมา ว่าเรารู้สึกเเบบไหนกันเเน่ จนสุดท้ายเขาเริ่มมีทอมเข้ามาจีบ มันยิ่งทำให้เรารู้สึกอกหัก อกหักตั้งเเต่ยังไม่เริ่มสู้ หนีปัญหาโดยการหายไปจากชีวิตเขาคะ ไม่ได้ติดต่อกันเล้ย มีบ้างที่เขาเขามาถามว่าสบายดีไหม หรือนานๆที เขาจะมาปรึกษาเรื่องคนที่เข้ามาจีบ ยิ่งรู้ ยิ่งหนีคะ เหมือนความรู้สึกเราไปเเล้ว มันเเย่มาๆ  เราหายไปจากชีวิตเขาประมาณ 6 ปีคะ ที่หายไปก็เพราะไม่อยากรับรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขา คือพยายามคิดเสมอคะ เรากะเขาเป็นพื่อนกัน ยังไงก็ไม่มีทางเป็นไปได้  มีบ้างที่นัดกินกินข้าวกะเพื่อนในกลุ่ม คือความรู้สึกมันไม่เหมือนเดิมคะ เราไม่กล้าที่จะมองหน้าเขา มองตาเขา มันมีความรู้สึกแปลก เราคิดว่าการที่เราหายไปจากชีวิตเขามันจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น เเต่ในที่สุดเเล้วความจริงมันก็คือความจริง เราไม่สามารถที่จะลืมความรู้สึกนั้นได้จริงๆ 
จนวันนึง เราคิดว่าเราพร้อมเเล้วที่จะกลับมาเหมือนเดิม เเต่มันพังคะ พังมาก มันไม่เหมือนอย่าที่เราตั้งใจไว้ เรากลับมาคุยกะเขาทุกวัน คุยทุกเรื่อง เเสดงความเป้นห่วง เเสดงความหึงหวง มีความวุ่นวายใจ มีความลังเลใจ เรียกได้ว่าบางครั้งความมีสติก็เโผล่ขึ้นมาในสมอง มันบอกกับเราว่า อย่าทำเเบบนั้น เราจะกลับไปอยู่ในใจเดิมไม่ได้ เรราต้องเริ่มต้นใหม่ เลยหยุดคุยกับเขาเเล้วมาตั้งสติ มาหาเเนวทางการเเก้ไขปัญหาปมในใจดังกล่าว คราวนี้เราคิดว่า เราจะบอกความรู้สึกทุกๆ อย่าง กับเขา เพื่อคลายปมในใจ เเละเราจะได้รู้สึกสบายใจซะที เราบอกเขาคะ บอกว่าเราเป็นอะไร บอกว่าเราชอบผญ. เเละเราก็ชอบเเกด้วยตอนนั้น ซึ่งเราเตรียมใจว่าเเล้วคะ ว่าเราจะไม่คาดหวังคำตอบอีกต่อไป เราจะไม่ถามว่าเขารู้สึกเหมือนกันไหม ตั้งใจว่าเราจะบอกเฉยๆ บอกไปเราเหมือนยกภูเขาออกจากอกคะ เเต่เขาหายไปคะ หายไปตั้งตัว เเล้วก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิมประหนึ่ง ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ช่วงที่เขาหายไปเรากลัวมากติดต่อเขาไม่ได้เลยคะ เเละด้วยสติของเรา เราเลยบอกกะตัวเองว่า ถ้าเราจะคุยกะเขาต่อไปมันไม่ดีเเน่ๆ กลัวจะต้องหลงรักเขาอีก เลยสัญญากะตัวเองว่าเราจะถอย รักษาระยะห่าง คุยน้อยลง ถามคำตอบคำ ยุ่งบ้าง ไม่ว่างบ้าง ซึ่งเรารู้ว่ามันทำร้ายความรู้สึกเขา เเต่เราก็ต้องทำเพื่อรักษาหัวใจตัวเอง 
ยิ่งเขารู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร เขาเริ่มรุกเราหนักมาก ทั้งเขามาหยอด เข้ามาเเสดงความเป็นเจ้าของเเบบเเปลกๆ เราไม่รู้จุดประสงค์เขาคืออะไรในตอนนั้น เราเลยบอกว่าเราไม่ชอบถ้าจะต้องมาหยอดกันเเบบนี้ เราขอรักษาระยะห่าง เเละก็พยายามคุยกะเขาให้น้อยลง รักษาระยะห่างมากกว่าเดิม จนมีอยู่ช่วงนึงเขามาเล่าอีกเเล้วว่ามีคนมาจีบเขาเป็นรุ่นพี่ผญ.ที่ทำงานด้วยคะ เขาจะเล่าเเล้วให้เราตอบคำถามเขา ว่าเเบบนี้พี่เขาชอบเราไหม เเละถามเราว่าถ้าเป็นเรา เราจะต้องกับเขาอย่างไร เเล้วตื้อเราตลอดว่า อยากฟังคำตอบจากเรา เราอะหลอ เจ็บดี พยายามพูดกลางๆ ให้เป็นปกติที่สุด เเต่มันไม่จบเเค่นั้น เขาจะเข้ามาหาเราตลอดโดยจะหยิบยกเรื่องต่างๆที่เขาเจอ กับคนๆนั้นมาเล่าให้เราตลอด เล่าทุกอย่างเหมือนคนกำลังชอบกัน กำลังดูใจกัน ไปกินข้าวด้วยกัน ไปดูหนังด้วยกัน เราทนไม่ได้คะ ทนไม่ได้จริงๆ เลยบอกว่าเราลำคาญ เเละเราขอหายไปเเล้วนะ
เราร้องไห้ทุกวันคะ ตั้งเเต่รู้ว่าเขากำลังมีความสุขกะคนใหม่ ในใจก็คิดนะคะ อยากคุยกะเขานะ อยากรู้เรื่องราวของเขาในทุกๆวัน เเต่เราใจกว้างขนาดนั้นไม่ได้จริงๆคะ รับไม่ไหว เราไม่ได้คุยกะเขาเล้ยคะ น่าจะประมาณ 3 เดือนเเล้วคะ เขาคงมีความสุขดี มีเเต่เราคนเดียวคะ ที่จะต้องมานั่งรออยู่ตรงนี้ เพียงเเค่อยากจะรักษาคำว่าเพื่อนของเราตลอดไป ความเป็นเพื่อน มากกว่า 10 ปีมันมีค่ากะความรู้สึกไหนๆคะ อย่างน้อยเรายังได้เฝ้ามองเขา เเละไม่มีทางที่จะเสียเขาไปคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่