## แนะนำการเช็คระยะนอกศูนย์หลังหมดประกัน อู่/ทำเอง ประหยัดไปได้เยอะ ##

ต้องบอกก่อนว่าผมไม่ใช่ช่างนะครับ จะแนะนำจากประสบการณ์ของตนเองที่ทำอยู่ 
ข้อดีของการเช็คระยะนอกศูนย์บริการ
- ประหยัด + รวดเร็ว  ไม่มีvat ไม่มีน้ำยามโน เดี๋ยวนี้ค่าแรงศูนย์ชั่วโมงละเกือบ 500 แล้วครับ
ข้อเสีย
- ไม่ค่อยมีการรับประกันงานซ่อม
ถ้ารับได้กับข้อดีข้อเสียข้างบน มาต่อกันครับ
งานแบบไหนควรเข้าอู่/ทำเอง
- เช็คระยะเปลี่ยนถ่ายของเหลวและอะไหล่สิ้นเปลืองทั่วไป

ความรู้เบื้องต้นก่อนนำรถออกมาเช็คระยะข้างนอกเอง ใกล้ตัวที่สุดคือดูจากคู่มือรถ
ตารางเช็คระยะ หาได้จากคู่มือรถ จะบอกข้อมูลเกี่ยวกับการบำรุงรักษาในระยะทางต่างๆ เราก็เช็คตามตาราง ถ้าครบแสนก็ให้วนกลับมาใหม่ ยกเว้นฮอนด้ามีให้ดูถึง 2แสนกิโล
- น้ำมันเครื่อง
   ใช้ความหนืดและมาตรฐานตามคู่มือกำหนด  มีแบบสังเคราะห์100%ใชได้ 1-1.5หมื่นโล จะมีราคาสูง , กึ่งสังเคราะห์ใช้ได้8000-1หมื่นโล จะมีราคาถูกกว่า
- น้ำมันเกียร์
   คู่มือรถจะระบุชนิดของน้ำมันเกียร์ให้ทราบ
   ถ้าเป็นรถออโต้ธรรมดาจะระบุ dexron3,4,5,6 เราสามารถใช้น้ำมันเกียร์แบรนด์ตลาดที่รองรับมาตรฐานเหล่านี้ได้เช่น valvoline maxlife atf , อื่นๆ

   cvt ในคู่มือของแต่ละยี่ห้อจะระบุชื่อมาตรฐานของน้ำมันแตกต่างกันไปเช่น (Nissan=NS-2,NS-3) (Suzuki=Green1,Green2) ซึ่งเราก็สามารถใช้น้ำมันเกียร์แบรนด์ตลาดทั่วไปทดแทนได้เช่นเดียวกัน valvoline cvt , aisin cvt , ptt automat cvt , อื่นๆ
- น้ำมันเบรค  
  คู่มือจะระบุเบอร์ของน้ำมันเบรคที่เหมาะสมไว้ให้ โดยส่วนใหญ่จะระบุ dot3 สำหรับการใช้งานทั่วไป ก็สามารถใช้แบรนด์ตลาดได้เช่น sheel dot3 , valvoline dot3 , อื่นๆ
- น้ำยาหล่อเย็น(น้ำยาหม้อน้ำ)
  ส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมคล้ายกัน เมื่อถึงระยะสามารถเลือกใช้ยี่ห้อต่างๆที่เป็นแบบผสมมาให้เรียบร้อยแล้ว เช่น aisin , havoline ,หรือของศูนย์
-  น้ำมันพาวเวอร์
    ใช้น้ำมันพาวเวอร์ หรือ น้ำเกียร์ออโต้ธรรมดาตามที่คู่มือกำหนดแทนได้
-  กรองน้ำมันเครื่อง
   มีหลายแบรนด์ที่สามารถใช้ทดแทนของศูนย์ได้ เช่น bosh , full , fill , corner , sakura  อู่จะทราบดีว่าต้องใช้ขนาดไหน หรือถ้าซื้อเองก็บอกร้านได้เลยว่าจะเอาไปใช้กับรถอะไร
-  กนองอากาศ + กรองแอร์  สามารถเปลี่ยนที่อู่ได้ถ้ามีของ หรือ สั่งมาแล้วเอาไปอู่ด้วย หรือ สั่งมาเปลี่ยนเอง โดยต้องทราบรุ่นปีของรถตัวเองให้ชัด

การเข้าอู่   เมื่อมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอะไหล่ต่างๆก็ถึงเวลาเข้าอู่ โดยผมจะแบ่งเป็น 2 กรณี
 - กรณีใช้ของที่อู่ทั้งหมด
   อันนี้จะประหยัดกว่าศูนย์ตรงค่าแรง  ค่าอะไหล่นิดหน่อย
       - เลือกของ
          - น้ำมันเครื่องต้องเลือกเบอร์ตามคู่มือ โดยจะมีแบบ
                    สังเคราะห์100% ราคา 1000-2000 บาท แล้วแต่แบรนด์
                    กึ่งสังเคราะห์ ราคา 800-1000 บาท แล้วแต่แบรนด์ 
               เราต้องกำหนดให้ชัดเจน หากใช้รถน้อย เลือกกึ่งสังเคราะห์ก็พอ ยังไงก็ถ่ายทิ้งทุก6เดือน ถ้าไม่เลือกโดนยัดตัวแพงแน่นอนครับ
            - กรองเครื่อง ถามเลยครับว่ามียี่ห้ออะไรบ้างราคาต่างกันยังไง ลูกละร้อยนิดๆแบรนด์ไหนก็ได้ขอให้ตรงรุ่น
            - อย่างอื่น น้ำมันเกียร์น้ำมันเบรคถ้าถึงรอบ ก็เช็คว่าตรงตามคู่มือหรือไม่  น้ำมันเกียร์ มีราคา 900-1500 ตามแบรนด์  น้ำมันเบรค 0.5 ลิตร/100บาท
         ค่าแรง ป.น้ำมันเครื่องอย่างเดียว ประมาณ 200 บาท ถ้ามีอย่างอื่นอาจจะเพิ่มอย่างละ100ครับ

- กรณี ซื้อของเองแต่ให้อู่เปลี่ยน
   กรณีนี้แนะนำว่าหาอู่ใกล้บ้านซักอู่และเข้าไปคุยกับช่างก่อนครับ ว่าถ้าเราซื้อของมาเองช่างเค้าจะโอเครับทำให้เรามั้ย เราอาจจะหาซื้อน้ำมันเครื่องที่ต้องการมา แต่ซื้อกรองที่อู่ หรือซื้อกรองซื้อน้ำมันมาให้อู่เปลี่ยนให้อย่างเดียวเลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างเรากับอู่ครับ แบบนี้บางอู่จะคิดค่าเปลี่ยน100-200จะประหยัดได้มากกว่าเพราะเราสามารถเลือกของเองได้ เสียแค่ค่าแรง 
   - ซื้อของที่ไหน
      ร้านอะไหล่ หรือ ซื้อออนไลน์ครับ ส่วนตัวผมเน้นซื้อทางช้อปปี้ ลาซาด้า ใช้โค้ดส่วนลด จะได้ราคาถูกกว่าร้านอะไหล่อีกครับ  เช่น
         *น้ำมันเครื่อง
              - สังเคราะห์100% full synthetic ก็มีหลายยี่ห้อหลายราคา ตั้งแต่พันถึงสองพันเลย ที่ผมสั่งบ่อยๆ เช่น
                     PTT performa super synthetic 0W-30,0W-40 แถมบัตรน้ำมัน 500บาท ร้านอะไหล่ที่เจอขาย 1500 บาท(1500-500=1000บาท)  ร้านออนไลน์ใช้โค้ดลด เหลือ 1100-1200 บาท (1200-500=700บาท)
                     Havoline proDs Eco5 0W20 ซื้อออนไลน์ 450 ถึง 550 แล้วแต่ช่วงเวลา
                     Valvoline syn power  1400 - 1600
                     Motul H tech 100+   1400 - 1600
               - กึ่งสังเคราะห์ ราคาตั้งแต่ 400 - 1000 แล้วแต่ยี่ห้อ เช่น
                     valvoline maxlife 10W40  700-800บาท
                    ptt 10W40 แกลลอนดำ 450 - 550 บาท
                    บางจาก furio 10W30,10W40 สามารถหาได้ในราคา 350 บาท 
                    castral macnatech 10w40 900 บาท
            *กรองน้ำมันเครื่อง
                   หลายยี่ห้อครับใช้ดีไม่แพ้กัน bosh wix sakura ร้านอะไหล่ลูกละร้อย  หรือ ของศูนย์ 220 บาท
            *กรองอากาศ+กรองแอร์
                   ที่เดิมครับ ซื้อออนไลน์ รู้รุ่นรู้ปีรถ หาสั่งได้เลย อาจจะถูกกว่าของศูนย์ครึ่งนึง เราก็เปลี่ยนได้บ่อยกว่า 
                                           
           *น้ำมันเกียร์ 
                 เท่าที่เห็นราคาร้านอะไหล่จะเท่าๆกับร้านในแอปครับ ดูในคู่มือแล้วเลือกซื้อได้เลย ถ้าไม่มั่นใจแบรนด์ตลาด ก็ซื้อของศูนย์ได้ครับ ตรงเป้ะแน่นอน ซื้อจากร้านอะไหล่ใหญ่ๆหรือออนไลน์ ได้เหมือนกัน 
           *ตีราคาคร่าวๆ สมมุติว่าช่วงกระเป๋าแฟบแต่ถึงเวลาถ่ายน้ำมันพอดี หรือ รถคันนี้ใช้น้อย เราก็สามารถคุมราคาได้ อาจจะเลือกน้ำมันกึ่งสังเคราะห์ 600 บาท + กรอง 100 + ค่าแรง 100 = 800 บาทเองครับ 

ทำเอง
    อันนี้ต้องมีใจรักงานช่างด้วยครับ อยากประหยัดอย่างเดียวไม่พอ ต้องลงทุนซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องด้วย ส่วนตัวผมทำเอง มีรถ 2 คัน ถ้าคิดจำนวนเงินที่ประหยัดได้ ตอนนี้ก็ได้ค่าอุปกรณ์คืนแล้วครับ ส่วนวิธีการ เต็มyoutubeครับ มีผู้ใจบุญมากมายสอนเอาไว้ ผมดูจากนี้ทั้งหมดแล้วลงมือทำเอง ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายน้ำมันเครื่อง ถ่ายน้ำมันเกียร์ ถ่ายน้ำหล่อเย็น ถ่ายน้ำมันพาวเวอร์ ไล่น้ำมันเบรค  เปลี่ยนหัวเทียน เปิดอ่างน้ำมันเกียร์ทำความสะอาดล้างกรอง
     อุปกรณ์คร่าวๆ
   1.ชุดบล็อค ผมซื้อชุดใหญ่ 2000 ต้นๆครับ
   2.แม่แรงจรเข้ 2.5 ตัน ผมซื้อ 1700 
   3.ขาค้ำ 1 คู่ 700 ครับ
   4.บล็อคถอดกรองน้ำมัน 180 บาท แบบขาแฉกปรับขนาดได้
   5.กรวย 35 บาท
ทำเสร็จรองน้ำมันเก่าไว้ฝากอู่ทิ้งครับ
ขอบคุณที่ตามจนจบครับ ประเด็นไหนขาดไป ถามหรือเพิ่มเติมได้เลยครับ น่าจะช่วยหลายท่านประหยัดตังไปได้เยอะ


            
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่