[CR] ญี่ปุ่น ครั้งเดียวไม่เคยพอ ..

สวัสดีครับ อีกครั้งหนึ่งที่ได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น ครั้งนี้ใช้รถบัสเป็นหลักครับ อาศัย Pass ที่ชื่อว่า Shoryudo Highway Bus Pass เริ่มเดินทางจากสนามบินดอนเมือง เหมือนเดิม ออกเดินทาง 23.50 น ไปถึง Chubu Centrier airport  ประมาณ 7.50 น. ของอีกวันนึง 

ก็กว่าจะผ่าน ตม. อะไรมาได้ ก็เสียเวลาไปพอสมควร เพราะกรุ๊ปทัวร์ลงมาด้วย คนเยอะมาก พอผ่านมาได้ก็เดินตามป้าย Meitetsu ...(จำไม่ได้) มาเรื่อย ๆ ครับก็มาเจอโถงกลางนี่ จากนั้นก็เอา Voucher ที่ Print (เน้นต้อง Print เป็นกระดาษมานะครับ) มาแลกตั๋วจริงที่ Counter (ในรูปที่ 2 ซ้ายมือ) 

 ตอนจอง Shoryudo Bus Pass ต้องเข้าไปจองในเวปนะครับ ไม่ยากครับมีคนรีวิวเยอะอยู่ ตั๋วที่เห็นในมือ สีเหลืองนี่ใช้ก่อนครับ เป็น Pass Takayama ปีกตั๋วด้านซ้าย นำไปแลกตั๋วรถไฟเพื่อเข้าเมืองครับ ส่วนด้านขวาทิ้งได้เลย 555 เพราะตั้งใช้แลกตั๋วจากนาโกย่า กลับมาสนามบิน ภายใน 3 วัน ส่วนตั๋วเขียวไว้เริ่มใช้อีก 3 วันถัดไป ปีกตั๋วด้านขวาสำหรับแลกตั๋วรถไฟ จากนาโกย่า กลับมาสนามบิน ส่วนด้านซ้ายทิ้ง .... จุดหมายแรกของผมเดินทางไป Takayama ก่อนนะครับ ผมก็เลยแลกตั๋วรถบัสจากนาโกย่า ไป ทาคายาม่า ตรง Counter นี้เลย ซึ่งสายนี้ต้องจองที่นั่งเท่านั้นครับ 

ลิงค์แบบฟอร์มการจองตั๋วครับ

https://www.mtabi.jp/shoryudo/MailForm.aspx

ตั๋วรถไฟครับจะไปตอนไหนก็ได้แล้วแต่เรา ขึ้นตู้ Non-Reserve ยกเว้น ขบวนพิเศษที่วิ่งยาวไม่จอด 

ตั๋วรถบัสจากนาโกย่า ไป ทาคายาม่า ได้เวลา 11.30 น. เพราะเที่ยวก่อนหน้านี้เต็มหมด ลงเครื่องแล้วต้องรีบมานะครับ

ตามธรรมเนียม (ของผมเอง 55) มาถึงญี่ปุ่นทีไรต้องกินทุกครั้ง คิดถึงจังเลยข้าวหน้าเนื้อ อร่อยยย ชอบมาก

สถานีรถไฟอยู่ติดกับสถานีรถบัสนะครับ แต่เป็นคนละตึกหาไม่ยากครับเผื่อเวลาไว้สักนิดก็ดีครับ  หลังจากได้ขึ้นรถแล้ว พอเรานั่งรถมาสักพัก น่าจะประมาณเกือบ ๆ ชม. เขาก็จะแวะจุดพักรถ 1 ครั้ง ภาษาบ้านเราก็แวะปั๊ม ให้เราลงไปเข้าห้องน้ำหาของกินแต่ไม่นานครับประมาณ 15 นาที 

จากนั้นก็ไปต่อครับ วิวข้างทางก็จะประมาณนี้นะครับ เคยเห็นแต่ตอนหน้าหนาว วิวหน้าร้อนมันเป็นแบบนี้นี่เอง  ถ่ายผ่านกระจกรถนะครับภาพมันอาจจะดำ ๆ หน่อย 

เวลาประมาณ 13.30 เราก็มาถึง ทาคายาม่า ซึ่งโรงแรมที่เราพักก็อยู่ตรงข้ามกับท่ารถเลย ชื่อ Hotel Country Takayama ตอนแรกวางแผนไว้ว่า จะไป Gujo-Hachiman ต่อนะครับ แต่พอเอากระเป๋าไปเก็บ ทำธุระส่วนตัวเสร็จเวลามันก็ล่วงเลยมาเยอะ รถที่จะไปก็ต้องจองเวลาเวลาก็ห่าง ๆ กันไปถึงอยู่ได้ ชม เดียวก็ต้องกลับแล้วอะไรประมาณนี้ครับเลยต้องยกเลิกไป ออกมาเดินเล่นในเมืองที่เราคุ้นเคยดีฝ่า ดีกว่าไปเสียเวลาอยู่บนรถ  ก็ไปที่เขาเดิน ๆ เล่นกันนั่นแหละครับ ตามรูป

เอ้ยยยย....ที่เดิม จักรยานคันเดิม แค่ไม่มีหิมะเท่านั้นเอง แช๊ะ ...

มันคือดอกไม้อะไรหว่า .... มุมนี้เหมือนหัวใจเลยแฮะ

เดินมั่วซั่วไปหมด เข้าซอกโน้น ออกตรอกนี้ตามประสาเรานี่แหละ โดนแฟนบ่นว่าไม่เดินที่เขาเดินกันพามาซอกบ้านใครก็ไม่รู้  เอ่อ .. ก็อยากรู้อ่ะว่ามันเป็นยังไง  ก็เดินเล่นกันไปเรื่อย ๆ สอง สาม ชม ได้มั๊ง ฝนก็ตกเบาบ้างแรงบ้างสลับกันไป แต่ก็ไม่หวั่นซื้อร่มกางเดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ หาร้านกินข้าวด้วยจนแฟนไปเปิดเจอร้านนี้ครับ Rokubee บุฟเฟ่ เนื้อ เปิด 17.00 - 21.00 น. ดูเวลาก็ใกล้จะเปิดแล้ว ก็เลยเดินไปที่ร้านกันเลย 1.2 กิโลครับจากตรงที่ยืนตัดสินใจ 555 เฮือก เอ้าเดินนน ...... ร้านนี้มีคนเคยรีวิวไว้ในพันทิพย์แล้วนะครับ https://pantip.com/topic/38617446 

มันนุ่มละมุนอะไรเยี่ยงนี้  แนะนำให้เลือก 3000 +900 เยน นะครับ จะมีผัก  ข้าว  ซุป แล้วเนื้อฮิดะอีก 6 ชนิดเพิ่มเข้ามา ถ้าเลือก 3000 เยนเฉย ๆ กินได้แต่เนื้อ 3 ชนิด ปลาหมึก ไก่ ประมาณนี้ครับ

 

อิ่มหนำสำราญแล้วกลับที่พักได้ ความขี้เกียจเริ่มครอบงำ เดินย่อยไปเรื่อยๆ กลับโรงแรมประมาณ 750 เมตร ปวดเนื้อปวดตัวผสมอิ่ม อาบน้ำเสร็จไม่เกิน 21.00 น. หลับเป็นตาย .....

วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ พรุ่งนี้เย็น ๆ จะมาต่อครับ

เช้าวันที่สอง ตื่นมาเช้ามาก เพื่อเตรียมตัวไป ชิราคาวาโกะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่จะไปที่นั่นครับ คราวที่แล้วมาอยู่แค่ครึ่งวันแล้วไปอีกหมู่บ้านนึงครับ https://pantip.com/topic/36164064 เลยเดินเที่ยวได้ไม่เยอะ  ครั้งนี้ก็วางแผนไว้ครับว่าจะไป Suganuma village ก่อนแต่ต้องเสียตังเพิ่มตั๋วในมือใช้ไม่ได้ ก็เลยต้องยกเลิกไป (1720 เยนต่อคน ไป - กลับ) ร่ายมาซะยาว ผมออกเดินทางรถรอบ 8.50 น. ครับ เพราะรอบเช้าจองไม่ทันที่นั่งเต็ม เลยต้องไปรอบนี้ ไปต่อแถวรอเลยครับมาก่อนได้ไปก่อน โชว์ตั๋วแล้วขึ้นเลยครับ

ร่มก็ต้องถือ กล้องก็ต้องถ่าย (รูปนี้มาต่อแถวผิดนะครับที่จริงต้องไปรอเบอร์ 4 ครับ 5555) คนก็มีพอประมาณครับ รถวิ่งประมาณ 50 นาทีมั๊งครับ ก็ถึงชิราคาวาโกะ คราวนี้เดินเที่ยวแบบไม่รีบร้อนเลยครับเพราะไม่ได้ไปไหนต่อกะว่าอยู่นี่ทั้งวันเลย ก็เดินไปทั่ว ๆ เลยครับจนมานึกขึ้นได้เออ ที่เขาถ่ายมุมสูงกันสวย ๆ มันขึ้นทางไหนหว่า รู้นะว่ามีรถขึ้นแต่ขี้เกียจเดินย้อนไปที่ท่ารถแระ เลยถามที่ร้านข้าวที่กินข้าวเที่ยงเขาก็ใจดีนะ เอาแผนที่มาขีดให้ว่าต้องเดินไปทางไหน ก็เลยโอเคป่ะ เดิน ............. แฮ่ก ๆ 

อาหารเที่ยงครับ มีเนื้ออยู่ 3 ชิ้น ราคาประมาณ 300 บาท -*- มองในรูปนึกว่ามีเนื้อเยอะ น้ำตาจะไหลเพิ่มข้าวอีก 70 บาท 555 มึนตึ๊บ

นั่งอยู่ข้างบนประมาณสัก ชม นึงได้ครับ ไม่ได้นั่งชมวิวอะไรหรอกครับ เหนื่อย 555 นั่งพักไปเรื่อย ๆ แดดแรงมากนะครับ พยายามอยู่ในร่มจะเย็นมาก หลังจากนั้นก็ลงมาประมาณบ่ายสามเห็นจะได้ แฟนก็บอกว่ากลับดีกว่า เผื่อไปเดินเล่นที่ทาคายาม่าได้จะไปกินน้ำแข็งไส ก็โอเคเดินทั่วแล้วกลับก็ได้ พอลงมาเดินกลับมาที่ท่ารถ เอ้า มันใกล้กันนี่หว่า เวรกำ 555 มานั่งรอรถอยู่พักใหญ่ พอรถมาก็กลับ จำไม่ได้ว่ามาถึงทาคายาม่ากี่โมง รู้แต่ว่าร้านน้ำแข็งใส ที่ Old Town Sannomachi Street ปิด ... จบข่าว อดแหรก กันไป

วันธรรมดานี่ ปิดหลายร้านเลยครับ อารมณ์เหมือนไปเกาะเกร็ดวันจันทร์ - ศุกร์ 555 จากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรแล้วครับเดิน ๆ วนไป ปวดขา ปวดตัว แวะกินข้าวที่ห้างเซเว่นแล้วก็ซื้อเครื่องดื่มกลับที่พัก แล้วตั้งใจจะเดินมาจองตั๋วตอนเช้าไป ฮิรายุออนเซน เพื่อต่อรถไปคามิโคจิ พรุ่งนี้ แต่เหมือนสายฟ้าฟาดกลางใจ ให้ช้ำชอก เหมือนโดนหลอกเสียตัว ให้มัวหมอง .. เอิ่ม จะกลอนทำไมเนี่ย ... ตั๋วที่ถืออยู่ในมือไปไม่ได้ครับ เป็นความสะเพร่าของผมเอง ตั้งแต่หยิบแพลนที่ทำไว้อันที่ไม่ใช่อัพเดทล่าสุดมาแล้ว สุดท้ายสรุป เปลี่ยนแผนไป คานาซาว่า แต่ เที่ยวเช้าสุดจองไม่ได้ รถเต็ม เอ้า ไม่เป็นไร ไปโทยาม่าก็ได้ฟระ เที่ยวเช้าสุดก็เต็มอีก นั่งมึนกับตารางรถอยู่พักใหญ่ ก็ตัดสินใจ เอาขึ้นรถไปชิราคาวาโกะ 8.50 เหมือนเดิม ไปต่อรถที่วิ่งจากชิรา ไป คานาซาว่าตอน 9.20 น. ละกัน จบ .... เดินออกมาจากท่ารถ เอ่อ ...... แล้วจะกลับไงฟระ ย้อนกลับไปอีก ไปจองตั๋วรถจากคานาซาว่า กลับ ทาคายาม่า เที่ยวสุดท้าย .. เวรกำ  เต็ม ..... อีก  (ไปต่อที่คอมเม้นนะครับหมื่อักษรแระ)