(กลิ่นกาสะลอง) พอเข้าใจว่าทำไมกาสะลองแค้นหมอสุดๆ

กลับไปดูไปวิเคราะห์อีกครั้งว่าความแค้นของผีกาสะลองจะอะไรขนาดนั้น แค่โดนช้องปีบปั่นหัวก็เชื่อสนิทใจแล้ว
พอไปดูพฤติกรรมของหมออีก ไอ่เรื่องเป็นหวัดจนจมูกรับกลิ่นไม่ได้พอเข้าใจอยู่
แต่พอได้ฟังข้อมูลจากคนที่อ่านนิยาย...เลยพอเข้าใจแล้วว่า ทำไมกาสะลองแค้นหมอนักหนา มันคืองี้

ตามนิยาย หมอใช้ชีวิตกับช้องปีบไม่ใช่อาทิตย์เดียว แต่เป็นหลายเดือน ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะช้องปีบเข้าคอร์สปลอมเป็นกาสะลองให้เหมือนจริงๆ คือไปฝึกงานบ้านงานเรือน ทำกับข้าวให้รสชาติเหมือนกาสะลองทุกอย่าง เผลอๆน่าจะเลิกใช้น้ำหอมกลิ่นกุหลาบด้วย เลยทำให้หมอจับไม่ได้
แต่แม้จะอยู่กันหลายเดือน แต่หมอกลับไม่หลับนอนกับช้องปีบ คล้ายๆว่าตอนนั้นแค่รู้สึกว่าไม่อยากสวีทหวานกับเมียอีก
ในนิยาย ช้องปีบบอกว่าอยากมีลูกแล้ว แต่หมอบอกยังไม่พร้อม ผิดกับตอนที่บอกกับกาสะลอง ว่าอยากมีลูกมาก
ความรู้สึกจะเหมือนหมอทินกฤตที่รู้สึกต่อพริมพี่ คือคบเป็นแฟนนะ แต่ไม่รักมากพอจะแต่งงานด้วย บอกไม่ถูกว่าทำไม
และมีคนอ่านยืนยันว่า ช้องปีบไม่ได้แอ้มหมอเลย หมอจะมีเหตุให้ไม่ได้มาร่วมห้องเดียวกัน เช่น ไปซ้อมสีสะล้อ ไปตรวจคนไข้ตอนดึก
และหมอไม่มั่นใจว่าใช่ช้องปีบปลอมตัวมาไหม แต่เพราะตอนนั้นนายแคว้นทำให้ตายใจมากด้วย เลยไม่คิดว่าจะมีเรื่องสลับตัวอีก
ซึ่งการใช้ชีวิตหลายเดือนกับช้อง มันเป็นตัวแปรให้กาสะลองเข้าใจผิดว่า หมอมีอะไรกับช้องปีบไปแล้ว 
เพราะถ้าเอะใจว่าช้องปีบปลอมตัวมา หมอควรจะต้องรีบมาภายในวันสองวัน แต่นี่ปล่อยเวลาประวิงไปหลายเดือน กาสะลองก็ต้องเข้าใจแล้วซิว่า ถ้าหมอแยกเมียไม่ออก หรือหมอก็ได้ช้องเป็นเมียแล้วจริงๆ หมดรักนางไปแล้ว เลยเชื่อคำพูดช้องปีบ

แต่ข้อผิดพลาดทั้งของบทนิยายและบทละครคือ ถ้าหากหมอรู้ว่านี่ไม่ใช่เมียคนเดิม มันไม่ควรประวิงเวลาออกไปหลายเดือนขนาดนี้ มีเวลาแว่บหนีออกไปได้ทำไมไม่หนีออกไป จะรอดูท่าทีอะไรหลายเดือน จนต้องรอให้มั่นฟ้ากับเหมยมายืนยันถึงที่ ถึงจะเชื่อ ซึ่งเป็นบทไม่เมกเซ้นส์เอาเสียเลย
พูดง่ายๆคือ การมีบทที่ให้หมอประวิงเวลาดูท่าทีเมียและให้มั่นฟ้ากับเหมยมาบอกถึงที่ เป็นข้อผิดพลาดความไม่สมเหตุสมผล
แม้จะเลื่อนเวลาเข้ามาเป็นอาทิตย์เดียว สองบทนี่ก็ยังไม่เมกเซ้นส์อยู่ดี
ถ้าหากบทใน EP15 หมอรู้ตัวและเขย่าตัวช้องปีบ ว่าเอากาสะลองไปไว้ที่ไหน บทจะมีเหตุมีผลมากกว่านี้ เพราะตอนนี้ช้องปีบก็ตัวคนเดียว ลูกน้องพ่อไม่มี นางยังไม่ Line ไปบอกพ่อให้สกัดหมอเอาไว้ได้ทันหรอก หนีออกไปตอนนั้นเลยก็ได้ ไม่ต้องรอเหมยกับมั่นฟ้าอีก
หรือถ้าไม่ทำเช่นนั้น หมอต้องลวงให้ช้องปีบอยู่บ้าน แล้วรีบแว่บไปขอยืมม้าพ่อหลวง(ผู้นำหมู่บ้านมักจะมีฐานะมากที่สุด)ไปก็ได้ เพราะถ้าฟังระยะทางจากแม่แจ่มไปบ้านที่แม่น้ำปิง ใช้เวลา 4 วัน (อ้างอิงจากตอนที่ช้องปีบกลับบ้าน แล้วถามเรื่องแม่ นายแคว้นตอบว่าตั้งศพไว้เป็นคืนที่ 4)
ถ้านับเอาการนั่งเกวียนวัว แสดงว่าใช้เวลาไปกลับ 2 วัน ถ้าขี่ม้าเร็ว อาจใช้เวลาไปกลับวันเดียว
แต่ไม่ใช่การมารอให้มั่นฟ้ากับเหมยมาบอกถึงที่...ยกเว้นแค่ว่ารู้ว่ากำลังหาทางหลบช้องปีบให้ได้ หรือถูกช้องปีบขู่ว่า ถ้าหนีไปจะยิงให้ไส้แตก 
ช้องปีบอาจจะขี่ม้าไม่ทัน แต่น่าจะยิงปืนแม่นอยู่ จากที่เคยจะยิงมั่นฟ้าตอนน้อยจั๋นจับปืน

แต่มันมีข้อผิดพลาดอีกคือ บทละครให้หมอปล่อยช้องปีบกลับไปเยี่ยมแม่ ทั้งที่ตอนคนมาแจ้งข่าว ไม่ได้บอกเลยว่านายแม่ตายแล้ว ช้องปีบยังเข้าใจว่าแม่แค่เจ็บหนัก แต่หมอกลับไปไม่ขอติดตามไปด้วย ปล่อยให้เมียกลับบ้านง่ายๆคนเดียว มันผิดวิสัยหมอ ขนาดชาวบ้านที่ไม่ได้เป็นญาติกัน เจ็บหนักกลางดึกยังรีบไปช่วย นี่แม่ยายแท้ๆ และต้องการขอขมา แหงปล่อยเมียกลับบ้านคนเดียว...ถ้าเป็นเรื่องตายใจการแสดงละครของนายแคว้นนะไม่สงสัย แต่แม่ยายป่วยแล้วตัวเองไม่ไปด้วย อันนี้แปลกมาก

ส่วนเรื่องขวดน้ำหอมที่หมอเจอแล้วสงสัยว่ากาสะลองใช้ด้วยเหรอ อันนี้เราไม่ค่อยรู้สึกว่าหมอง่าว คือเราอาจจะคิดได้ว่า นายแคว้นให้เป็นของขวัญลูกสาวหรือเปล่าแค่นั้น 

เพ่ิ่มเติมอีกเรื่อง ที่มีคนสงสัยว่า ผีกาสะลองที่เห็นคือผีช้องปีบ ที่หน้าซีกนึงโดนไฟไหม้ เพราะตายในกองเพลิง
แต่ในเรื่องย่อ เห็นว่านายแคว้นเผาศพกาสะลอง เลยเป็นได้ว่า หน้าที่ไหม้ซีกนึงเกิดจากการเผาศพ สรุปคือ ทั้งพี่ทั้งน้องจากไปด้วยไฟ พี่ตายแล้วเผา น้องโดนเผาทั้งเป็น
แต่มันไม่เมกเซ้นอีกก็คือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่