สวัสดีค่าาา .. .  ห่างหายไปเกือบปี จากทริปทีแล้ว ที่เดินทางไปสิงค์โปร์กับเพื่อนสาวอีก 2 คน เมื่อปลายปีก่อน นั่นก็เป็นเพราะงานของ จขกท ลายาวติดๆกันได้ปีละครั้ง เอาละ ยังไงก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อต่อมขี้เที่ยวของเราแน่นอน ปีนี้เราจะไปกันอีก แต่ไม่ได้ไปกับเพื่อนชะนีแล้วล่ะ เพราะพวกนางคงหลาบ แต่ปีนี้เราจะพาหลานชาย และแม่ไปด้วย ** แค่คิดก็เสียวๆละ พาแม่ไปด้วย จะทำลายสถิติเดินวันละ 15 กิโลได้มั้ยน๊าา ต้องลุ้น 
ช่วงที่เราไป เค้าดันมีการประท้วงใหญ่ที่ฮ่องกง เราก็ใจคอไม่ค่อยจะดี ตั๋วเครื่อง ที่พัก ทุกอย่างถูกจอง และจ่ายเงินไว้หมดแล้ว ถ้าไปแล้วตม.ไม่ให้เข้าประเทศจะทำยังไง พาหลานไป พ่อแม่มันก็ไม่ได้ไปด้วย กลัวเจอม็อบ กลัวสารพัด บลาๆๆ แต่พอต้องไปจริงๆ ก็ต้องตัดความกลัวทุกอย่างให้หมด ในเมื่อเราตั้งใจที่จะไปแล้ว อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด อย่าไปกลัว ไปค่ะะะะะะะะไป
เริ่มต้นจากการจองตั๋ว ครั้งนี้เราก็เดินทางกันแบบ Low cost เช่นเคย กับสายการบินหางแดงตั้งแต่ต้นปี และกำหนดการการเดินทางของพวกเราคือ วันที่ 8 - 12 ก.ค 2562  กะว่าไปกับเด็กๆจะหาที่พักแบบ Hostel เหมือนเดิม แต่พอพาแม่ไปด้วย จึงต้องเปลี่ยนเป็นโรงแรมแทน และก็ได้จองโรงแรมแถวๆจิมซาจุ่ย ชื่อว่า  Oasis avenue ( GDH Hotel ) เพราะว่าจะได้ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MTR คนแก่จะได้ไม่บ่น อุ้ฟ!!! 
หลังจากแลกเงิน ดอลล่าฮ่องกงกันแล้ว ก็ซื้อซิม2fly ค่ะ ส่วนเรามีซิมเดิมจากที่สิงค์โปร์มาแล้ว ก็แค่ไปเติมเงินแล้วบอกเจ้าหน้าที่ว่าจะไปใช้ที่ฮ่องกงก็พอ เสร็จแล้วไปหาที่งีบได้ รอขึ้นเครื่องตอนเช้ากันค่ะ

Day 1  ( 8 กค. 62 )
เราออกจากดอนเมือง เช้าของวันที่ 8 กค. เวลา 6.30 ถึง สนามบินนานาชาติ ฮ่องกง เวลา 10.15 ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากถึงแล้ว ก็มัวหาไปตม.กันค่ะ จนชาวบ้านที่มาเครื่องเดียวกัน เค้าหายไปไหนกันหมดไม่รู้ ทีนี้ละ ไปทางไหนเนี่ย งงไปหมด จะไปเอากระเป๋าก่อน หรือ ไปผ่านตม.ก่อน สมองไม่ทำงานซะดื้อๆ โชคดีนึกขึ้นได้ว่ามีเนทนี่หว่า ถามอากู๋สิคะ สรุปว่าต้องไปผ่านตม.ก่อน ถึงจะได้กระเป๋า เด๋อไปอีกกกก นี่เราตื่นเต้นทุกครั้งที่จะต้องผ่านตม. นี่ก็เป็นอีกครั้งนึง เพราะต้องเป็นหัวหน้าทัวร์พาทั้งแม่ และหลานไป ซึ่งกลัวว่าตม. จะคิดว่าเราเอาลูกใครมาขายหรือเปล่า กลัวเค้าจะไม่เชื่อว่าเป็นน้าหลานกัน นั่นนี่สารพัด สรุป ตม.ถามอย่างเดียวคือมากันกี่คน แล้วก็ให้เข้าตามๆกันมา .. โล่งใจไปอีก 1 อย่าง 
หลังจากผ่านตม. ก็คือจะไปเอากระเป๋า ซึ่งต้องนั่งรถไฟฟ้าไปน่าจะอีก terminal นึง ช่วงเวลานั้นคือหลงกับกลุ่มคนที่นั่งเครื่องลำเดียวกันแล้ว อาศัยแค่เดินตามเค้าไปเรื่อยๆ ใครก็ไม่รู้ หาป้ายที่เป็นรูปกระเป๋าเอานั่นละค่ะ ลุ้นแทบตายกว่าจะเจอกระเป๋า โอเค ได้เป๋าแล้วก็ต้องเข้าเมือง ทีนี้ต้องไปรับบัตร MTR  ต้องบอกก่อนว่า ก่อนมาประมาณ 2 วัน เราได้ซื้อวอเชอร์รถไฟฟ้าจากเวบ klook ไว้ เลือกแบบ AE  ไปกลับ + MTR ไม่จำกัดภายใน 72 ชั่วโมง ราคา 1,340 ฿ ไว้ ไปหาเคาเตอร์ A13 กันจ้าา 
เอา QR Code ในมือถือไปให้เค้าเลย แล้วเราก็จะได้ตั๋วมาคนละ 1 ใบ ใช้นั่งรถไฟกันแบบบุฟเฟต์ไปเลยคุณณณและหน้าตาบัตรโดยสาร ก็จะเป็นแบบนี้ละจ้า
ที่พักเราอยู่ฝั่งเกาลูน อย่าเผลอนั่งเลยไปถึงฝั่งฮ่องกงละ ไปขอแผนที่รถไฟฟ้ามาจากน้องที่ยืนให้คำแนะนำแถวๆสถานี ได้แผนที่มา 1 ใบ พอได้เป็นไกด์นำทางเราไม่ให้หลงไปไหนไกลมาก เราลงที่สถานี tsim sha tsui  ออกทางออกหมายเลข N1 , N2 ขึ้นมาก็จะเจอกับ Prat Avenue ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมพวกเราค่ะ 
ก่อนเข้าเชคอินเวลาบ่าย 2 หลังจากเอากระเป๋ามาฝากเค้าไว้ ก็ออกไปหาอะไรกินกันก่อน เป็นมื้อแรกของที่นี่ ดูซิว่าหน้าตามันจะเป็นยังไงบ้างนะ 
กินใกล้ๆโรงแรมนี่ละจ้า อ่านภาษาจีนไม่ออกซักกะตัว เอาเป็นว่ารูปร้านไหนน่ากิน ก็เข้าไปสั่งเลยจ้ะ 
ที่ได้มาก็คือ ข้าวหมูกรอบ หมี่เกี๊ยว และ โค้ก ราคาข้าวก็ราวๆ 45-50 HKD โดยประมาณ T_T  ส่วนราคาชาเย็นก็ 14 เหรียญ ปกติอยู่ไทยไม่ชอบกินผัก พอมานี่ กินทั้งกิ่งก้านใบ แทบจะเลียถ้วยเลยจ่ะ ไม่ใช่เพราะมันอร่อยมาก แต่เพราะมัน . .. แพงงง 
กินเสร็จบ่าย 2 พอดี ได้เวลา เช็คอิน เดี๋ยวจะพาไปดูพักนิสนึงค่ะ เผื่อมีใครหาที่พักใหม่ๆย่านนี้อยู่ เราว่ามันก็โอเคอยู่นะ พนักงานก็คอยต้อนรับดี พูดภาษาอังกฤษได้ดีเลยทีเดียว ห้องไม่แคบมาก กับราคาคืนละ 614 เหรียญค่ะ ห้องน้ำก็ไม่ใช่นั่งยอง 55 รอดตายละ  มีอ่างอาบน้ำ แต่เสียดายไม่มีที่ฉีดก้น แงงง.... 

หลังจากเข้าห้องได้แล้วก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน แม่แกล้งเอนหลังนิดหน่อย สุดท้ายหลับไปเลย ส่วนหลานๆก็ออกไปเดินเล่นกัน เรามีนัดรวมพลกันอีกทีในวันพรุ่งนี้ เวลา 8.00 เพื่อจะไปไหว้พระใหญ่ที่หมู่บ้านนองปิงกันค่ะ