ในเหล่าโปเกมอนที่น่ารักที่ถูกเหล่ามนุษย์ใจดี๊ดีจับมาขังในลูกบอลแล้วปล่อยออกมาเข่นฆ่ากันเพื่อความบันเทิงของมนุษย์ โปเกมอนตัวเอก ปิ๊กาจู เป็นสัตว์ประหลาดกระเป๋าที่สามารถยิงไฟฟ้าช็อตคู่ต่อสู้ได้จากระยะไกลนับ 10 เมตร วันนี้ เราจะมาวิแคะกลไกการปล่อยสายฟ้าของปิ๊กาจูกัน
AC หรือ DC???
จากข้อมูลทางชีววิทยาของปิ๊กาจู ปิ๊กาจูใช้การชาร์จก่อนยิงไฟฟ้าออกมา นั่นคือมันมีการเก็บประจุก่อนปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าออก นี่เป็นลักษณะของการปล่อยกระแสแบบไฟฟ้ากระแสตรงจาก Capacitor ปิ๊กาจูจำเป็นจะต้องสร้างแรงดันไฟฟ้าที่สูงเพื่อที่จะเอาชนะความต้านทานไฟฟ้า ไอออไนซ์อากาศให้เป็นพลาสม่า และนำสายฟ้าไปลงร่างโปเกมอนผู้โชคร้าย แต่การเอาชนะแรงต้านทานอากาศจนกลายเป็นพลาสม่าไม่ใช่เรื่องง่าย และมันจะไม่สามารถควบคุมทิศทางการปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ แล้วมันจะแก้ปัญหาทั้งสองอย่างนี้ได้อย่างไร
แรงดันไฟฟ้าที่สามารถชนะแรงต้านทานอากาศได้นั้น สำหรับระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ความดัน 115,000 โวลท์ ระยะปลอดภัยของคนทำงานคนคือ 3.2 เมตร ส่วนแรงดัน 230,000 โวลท์ คือ 3.9 เมตร ระยะอันตรายที่ไฟฟ้าจะกระโดดข้ามได้แน่ๆก็จะใกล้กว่านั้น ต้องคำนวณละเอียดๆด้วยกฎของ Paschen สำหรับสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ที่สร้างกระแสไฟฟ้าได้แรงดันสูงสุดก็แค่ 600 โวลท์ เพียงพอจะไออไนซ์อากาศแค่ที่ระยะแถวๆเสี้ยวของมิลลิเมตร เรารู้ละว่าก่อนปิ๊กาจูยิงสายฟ้าจะมีโคโรน่าเกิดขึ้นแถวๆแก้ม นั่นคือแรงดันไฟฟ้าของปิ๊กาจูอาจอยู่ไม่น้อยกว่าหลักหมื่นโวลท์ แต่การโจมตีศัตรูที่อยู่ห่างออกไปในระยะเลย 3 เมตรน่าจะจัดว่าเป็นไปไม่ได้ด้วยวิธีปรกติ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองถึงกลไกการนำไฟฟ้าของอากาศ ฝุ่น ความชื้น ละอองน้ำ สามารถลดความต้านทานไฟฟ้าได้ และการกระโดดของประจุ lead charge จะทำการไอออไนซ์อากาศและลดแรงต้านทานทำให้กระแสที่เหลือไหลตามเส้นทางเกิดเป็นกระแสฟ้าผ่าได้ สิ่งที่เป็นไปได้ก็คือ ปิ๊กาจูอาจใช้ทริกการพ่นน้ำลายขณะที่คำรามเสียงท่าไม้ตาย ปิ๊กาาาาา-จู้ว์ ตอนออกเสียงจู้ ก็ทำปากจู๋และพ่นน้ำลายเมื่อสิ้นเสียงเป็นเส้นทางนำกระแสไฟฟ้าไปสู่เป้าหมาย และนั่นทำให้ไฟฟ้าของปิ๊กาจูไปถึงที่หมาย ไม่หลุดเส้นทางไปช็อต ดช ซาโตชิ เข้านั่นเอง
วิทยาศาสตร์ของปิ๊กาจู
AC หรือ DC???
จากข้อมูลทางชีววิทยาของปิ๊กาจู ปิ๊กาจูใช้การชาร์จก่อนยิงไฟฟ้าออกมา นั่นคือมันมีการเก็บประจุก่อนปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าออก นี่เป็นลักษณะของการปล่อยกระแสแบบไฟฟ้ากระแสตรงจาก Capacitor ปิ๊กาจูจำเป็นจะต้องสร้างแรงดันไฟฟ้าที่สูงเพื่อที่จะเอาชนะความต้านทานไฟฟ้า ไอออไนซ์อากาศให้เป็นพลาสม่า และนำสายฟ้าไปลงร่างโปเกมอนผู้โชคร้าย แต่การเอาชนะแรงต้านทานอากาศจนกลายเป็นพลาสม่าไม่ใช่เรื่องง่าย และมันจะไม่สามารถควบคุมทิศทางการปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ แล้วมันจะแก้ปัญหาทั้งสองอย่างนี้ได้อย่างไร
แรงดันไฟฟ้าที่สามารถชนะแรงต้านทานอากาศได้นั้น สำหรับระบบส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ความดัน 115,000 โวลท์ ระยะปลอดภัยของคนทำงานคนคือ 3.2 เมตร ส่วนแรงดัน 230,000 โวลท์ คือ 3.9 เมตร ระยะอันตรายที่ไฟฟ้าจะกระโดดข้ามได้แน่ๆก็จะใกล้กว่านั้น ต้องคำนวณละเอียดๆด้วยกฎของ Paschen สำหรับสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ที่สร้างกระแสไฟฟ้าได้แรงดันสูงสุดก็แค่ 600 โวลท์ เพียงพอจะไออไนซ์อากาศแค่ที่ระยะแถวๆเสี้ยวของมิลลิเมตร เรารู้ละว่าก่อนปิ๊กาจูยิงสายฟ้าจะมีโคโรน่าเกิดขึ้นแถวๆแก้ม นั่นคือแรงดันไฟฟ้าของปิ๊กาจูอาจอยู่ไม่น้อยกว่าหลักหมื่นโวลท์ แต่การโจมตีศัตรูที่อยู่ห่างออกไปในระยะเลย 3 เมตรน่าจะจัดว่าเป็นไปไม่ได้ด้วยวิธีปรกติ
อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองถึงกลไกการนำไฟฟ้าของอากาศ ฝุ่น ความชื้น ละอองน้ำ สามารถลดความต้านทานไฟฟ้าได้ และการกระโดดของประจุ lead charge จะทำการไอออไนซ์อากาศและลดแรงต้านทานทำให้กระแสที่เหลือไหลตามเส้นทางเกิดเป็นกระแสฟ้าผ่าได้ สิ่งที่เป็นไปได้ก็คือ ปิ๊กาจูอาจใช้ทริกการพ่นน้ำลายขณะที่คำรามเสียงท่าไม้ตาย ปิ๊กาาาาา-จู้ว์ ตอนออกเสียงจู้ ก็ทำปากจู๋และพ่นน้ำลายเมื่อสิ้นเสียงเป็นเส้นทางนำกระแสไฟฟ้าไปสู่เป้าหมาย และนั่นทำให้ไฟฟ้าของปิ๊กาจูไปถึงที่หมาย ไม่หลุดเส้นทางไปช็อต ดช ซาโตชิ เข้านั่นเอง