วันนี้ผมมีนัดทานข้าวกับคุณแม่ครับ แต่บ้านแม่ผมอยู่แถวรามอินทรา ส่วนตัวผมย้ายมาอยู่ฝั่งท่าพระ จะเดินทางไปมาหากันก็ค่อนข้างไกล เลยตัดสินใจนัดกันครึ่งทาง หาร้านอร่อยๆแถวทองหล่อทานด้วยกัน 2 แม่ลูกดีกว่า หาข้อมูลไป-มา ก็มาเจอกับร้านนี้ "ส้มตำเด้อ" ร้านอาหารไทย - อีสาน ที่ได้ดีกรีความอร่อย Michelin Star 1 ดาว จากนิวยอร์ค เฮ้ยของดีนี่นา แบบนี้พลาดไม่ได้นัดเจอกันที่ร้านกับคุณแม่เลยครับ ผมอ่ะนั่ง Grab แต่แม่ผมอ่ะขับรถมา มีปัญหาเรื่องที่จอดรถพอสมควร เลยโทรถามทางร้านได้ความว่า สามารถจอดได้ที่ห้าง The Commons หรือ J Avenue ส่วนค่าจอดนั้นสอบถามทางห้างดูนะครับ ส่วนตัวร้านส้มตำเด้อนั้นอยู่ตรงหน้าปากซอยทองหล่อ 17 ถัดจากแฟมิลี่มาร์ทมานิดเดียว ป้ายร้านเล็กมากหาแทบไม่เจอ คนขับ Grab ขับเลยไปแล้วจนต้องลงเดินย้อนกลับมาถึงจะพบว่าป้ายร้านถูกแฟมิลี่มาร์ทบังซะมิดเลย แต่ก็ถึงแล้วครับ ส้มตำเด้อ ที่หน้าร้านมีตรามิชลินสตาร์ 1 ดาว และบอกว่ามีสาขาไหนบ้าง กรุงเทพ/นิวยอร์ค/โฮจิมินห์/โตเกียว หลากหลายสาขามากๆ แต่สงสัยอย่างนึงว่าร้านอาหารไทย-อีสานก็มีทั่วไป แต่ร้านนี้ทำไมกลับได้รางวัล เดี๋ยววันนี้จะเข้าไปชิมและหาคำตอบไปด้วยกันเลยครับ
เดินเข้ามาในร้านตกแต่งด้วยบรรยากาศแบบไทย ผสม Loft ด้วยผนังปูนดิบๆ เพิ่มความหรูหราเล็กน้อยด้วยหินอ่อนสีขาว เค้าท์เตอร์ทำจากไม้สีสว่าง ประดับด้วยโหลแก้วที่บรรจุวัตถุดิบสำหรับทำอาหารไว้ เหมือนกับร้านอาหารไทย - อีสานทั่วไป ที่สำคัญโคมไฟที่ร้านนี้มีความเก๋ นำไซดักปลามาทำเป็นโคมไฟให้มีความเป็นไทยมากขึ้น ครัวเป็นแบบเปิดสามารถเห็นเชฟทำอาหารให้เสิร์ฟอยู่ภายใน มองดูภายนอกแล้ว ก็คือร้านอาหารอีสานที่เราคุ้นเคย
แต่พอเดินเข้ามาด้านใน ก็เหมือนหลุดมาอยู่อีกโลกหนึ่ง มีการเล่นกับโคมไฟ โดยการนำไปประดับที่ฝาผนังแทน และด้านในสุดของตัวร้านตกแต่งด้วยสีแดงสดใสแสบตา นอกจากนี้ร้านยังมีชั้น 2 ที่มีการตกแต่งแตกต่างจากชั้นแรก และเดินไปด้านหลังสุดของชั้น 2 มีห้องรับรองส่วนตัวให้บริการอีกด้วยแต่ไม่ได้เข้าไปถ่าย มีคนใช้บริการอยู่
มานั่งที่โต๊ะสั่งอาหารกัน ส้มตำที่นี่ราคาเริ่มต้นที่ 70 บาท ถือได้ว่าเป็นราคาปกติของส้มตำขึ้นห้างทั่วไปหลายๆร้าน (ไม่บอกแล้วกันว่ามีแบรนด์ไหนบ้าง) อาหารทานเล่นราคาเริ่มต้นที่ 70 บาท เมนูต้มเป็นถ้วยราคาเริ่มต้น 100 บาท ข้าวเหนียว เส้นหมี่ แคบหมู ราคา 20-30 บาท ของหวานเริ่มต้นที่ 60 บาท เครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 20 -50 บาท เฮ้ยถูกนะ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่ม Lกฮ แบบไทยๆคอยเสิร์ฟอีกหลายรายการ เรียกได้ว่าไม่แพง แต่ราคานี้ยังไม่รวม Vat. และ Service Charge อีก 17% ก็ถือว่าราคาถูกกว่ามาตรฐานร้านมิชลินที่เคยทานมาก่อนหน้านี้เลยนะ
อาหารต่างๆที่สั่งไป เริ่มทยอยมาเสิร์ฟที่โต๊ะ มาเร็วมากแม่ !!! เท่าที่สังเกตร้านนี้ด้านล่างจะเป็นครัวเย็น ส่วนด้านบนน่าจะเป็นครัวร้อน เพราะเห็นเดินลงบันไดมาเสิร์ฟ แต่ก็ไม่ตกใจเท่าน้ำกระเจี๊ยบและน้ำเก็กฮวยของที่นี่ มองแว๊บแรกก็ไม่ได้ดูน่าตื่นเต้นอะไร แต่พอดูดเท่านั้นแหละ หลอดกระดาษ ? ไม่ใช่นี่ ? ดึงออกมาดู ตะไคร้เป็นต้นจ้า เก๋เว่อร์ ไม่ได้เก๋แค่หลอดนะ น้ำที่นี่ก็รสชาติดีงาม เก็กฮวยหวานหอมกำลังดี ส่วนกระเจี๊ยบเปรี้ยวกำลังอร่อย ชอบมาก
อาหารมาไวเว่อร์ แปปเดียวเต็มโต๊ะแล้ว นี่สั่งมาทาน 2 คนจริงหรือเนี่ย ? ดูหน้าตาอาหารโดยรวมแล้วก็อาหารอีสานทั่วไปเลย แต่ดูสะอาดกว่า มีการรองจานด้วยใบตอง ประดับตกแต่งอย่างสวยงาม มาเริ่มชิมกันเลยดีกว่าครับ
เริ่มจากเมนูแรก ก้อยกุ้ง ราคา 110 บาท กุ้งขาวตัวใหญ่ผ่าหลัง นำไปลวกจนสุกกำลังดี คลุกด้วยน้ำยำคล้ายกับน้ำตกอีสานใส่ข้าวคั่วหอมๆ ผสมตะไคร้ซอย ส่วนรสชาตินั้น มีความเปรี้ยว เค็ม หวานเล็กน้อยพอกลมกล่อมครบ 3 รส หอมสมุนไพรสด เป็นอาหารไทยแท้แบบอีสานแบบที่เราคุ้นเคย แต่นุ่มนวลกว่าปกติ ทานง่าย ไม่ค่อยเผ็ด ทานกับข้าวเหนียวขาว หรือข้าวเหนียวดำ (ราคากระติ๊บละ 20 บาท ) ก็เตรียมพร้อมลุยกันต่อในมื้อนี้แล้วครับ
ตามมาด้วยเมนูลาบทอด ราคา 90 บาท ได้ลาบทอดหน้าตาคล้ายกุ้งโดนัทมา 4 วง มาพร้อมกับพริกแห้งทอด ถั่วลิสงทอด และมะนาวซีก ก่อนทานบีบมะนาวลงบนลาบก่อน แล้วค่อยชิม เคยทานลาบทอดมาหลายร้านนะ แต่ปัญหาของเมนูนี้ส่วนใหญ่คือ ทำรสชาติไม่ค่อยถึง แค่ที่นี่อร่อย ถึงเครื่องลาบดี แต่ก็ไม่จัดจ้านจนเกินไป ทานง่าย ส่วนมะนาวที่บีบใส่สุดท้ายก่อนทาน ทำให้จานนี้กลายเป็นลาบทอดที่สมบูรณ์ ถือว่าอร่อยประทับใจดีครับจานนี้
เสือร้องไห้เด้อ ราคา 110 บาท เป็นเนื้อส่วนเสือร้องไห้ หมักด้วยพริกป่นและข้าวคั่ว ปรุงรสให้หวานเค็มกลมกล่อมสไตล์อีสาน ย่างมาพอสุกแบบอมสีชมพูกำลังดี จิ้มกับแจ่วรสเปรี้ยวหวานนัวของทางร้าน เด็ดเลยครับ
ต่อกันด้วยตำปลาดุกฟู ราคา 90 บาท เป็นส้มตำไทย ที่มีการปรุงรสคล้ายกับยำปลาดุกฟู รสหวาน เปรี้ยวกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวแหลมแบบยำปลาดุกฟูปกติ เปลี่ยนจากมะม่วงเปรี้ยวเส้น เป็นมะละกอแทน ทำแบบตำไทย เพิ่มหอมแดงลงไปอีกนิด เป็นยำปลาดุกฟูในรูปแบบส้มตำที่ลงตัว อร่อยกลมกล่อมไม่จัดจ้านเกินไป ชอบอีกแล้ว
แกงอ่อมหมู 110 บาท นี่มันอาหารอีสานพื้นบ้านชัดๆ แกงอ่อมกลิ่นผักชีลาวและปลาร้ารสชาติรุนแรง เค็มกลมกล่อมกลิ่นผักชีลาวตีจมูกแทบหัก ในชามอัดแน่นด้วยหมูชิ้นใหญ่ และมะเขือต้มจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกับซุป อาหารอีสานจานก่อนๆกลายเป็นเบสิคเลยเมื่อเจอชามนี้ ส่วนตัวไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เหม็นเกินไป แต่แม่ผมชอบมากซดเรื่อยๆ ชมไม่หยุดปากเลย เอาเป็นว่าใครเป็นคออาหารอีสานที่ชอบกลิ่นแบบซาดิสหน่อย ต้องชอบชามนี้แน่ๆครับ
หมูปิ้งกะทิสด 110 บาท จานนี้ใหญ่คุ้มมาก หมูปิ้งไม้ใหญ่ 3 ไม้ปรุงรสแบบหมูปิ้งนมสด (แต่ใช้กะทิหมักแทน) มันน้อยเนื้อเยอะ ทานกับเส้นหมี่ที่โรยด้วยกระเทียมเจียวกรอบๆ และแจ่วรสหวานกลมกล่อม อร่อยเต็มคำสุดๆครับ
สั่งแต่ส้มตำเผ็ดๆ (แต่ที่ร้านนี้ไม่ค่อยเผ็ด กำลังอร่อย) เลยเพิ่ม ผัดหมี่อีสาน ราคา 30 บาท รสชาติโอ้ยนี่มันอาหารอีสานหน้าปากซอยที่บ้านชัดๆ อร่อย เส้นเหนียวนุ่ม มีความหวานหอมซอสกลมกล่อม จะทานเปล่าๆก็ดี ทากับส้มตำแซ่บๆก็แจ่ม คล้ายกับผัดไทยทางอีสานหรือผัดหมี่โคราช ใครมาที่นี่แนะนำเลยครับ ไม่แพงแถมอร่อยด้วย
ตำปูปลาร้า ราคา 70 บาท อย่าได้คิดว่านี่คือร้านอาหารอีสานติดดาวมิชลิน ปลาร้าที่นี่มีความรุนแรงของกลิ่นที่มากกว่าร้านส้มตำขึ้นห้างแบรนด์อื่นๆ รสเค็มกลมกล่อมแบบสนิทไม่มีความหวาน แต่รสชาติมีความนัวต่างจากกลิ่นที่รุนแรงมากของมัน อร่อยมากครับถึงเครื่องแบบส้มตำอีสานแท้ๆจริงๆ (คนอีสานแท้ทานส้มตำไม่หวานเลย)
เอออาหารอีสานร้านนี้เข้าท่าแฮะ คุณแม่ผมชมไม่หยุดปาก แต่ยังมีอีกหลายเมนูที่อยากลอง เลยสั่งกุ้งแช่น้ำปลา ราคา 125 บาท ยกออกมา... สาบานนะว่า 125 บาท กุ้งตัวใหญ่มาก สดหวาน เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ เนื้อเด้งสู้ฟันดังกรุบๆเวลาเคี้ยว น้ำราดด้านบนค่อนข้างแซ่บนัวตามสไตล์ร้านเช่นเคย แต่เหมือนมีการใส่ตะไคร้ลงไปในน้ำยำด้วย เวลาเคี้ยวมีเสี้ยนตะไคร้หน่อยๆ แต่โดยรวมแล้ว อร่อยมากครับ แนะนำให้สั่ง คุ้มเกินราคาจริงๆจานนี้
คอหมูย่าง จานนี้ 95 บาท ให้ปริมาณค่อนข้างเยอะ แต่เนื้อหมูแห้งไปนิด ไม่ฉ่ำแทรกมันแบบคอหมูหลายๆร้าน ดูเนื้อมีความแห้งกว่า ต้องออกแรงเวลาเคี้ยว หมักมารสออกหวานๆหอมกลิ่นซอสปรุงรส ทานกับแจ่วรสเด็ดแบบเบสิคของที่ร้าน ก็ถือว่าพอใช้ได้ครับ ใครไม่ชอบทานคอหมูที่มันเกินไปอาจจะชอบของที่นี่ แต่สำหรับผมต้องมันฉ่ำๆ
เมนูของทานเล่นที่ร้านนี้ก็มีเยอะดีนะ แต่คงทานไม่หมดแล้ว แต่ก็อยากลองอ่ะ สั่งเป็นออเดิร์ฟเด้อ ราคา 145 บาท มาลองทาน เป็นการรวมของทานเล่นที่ร้านเกือบทุกเมนูในจานเดียว ประกอบด้วยหมูยอ ทอดมาฟูกรอบ หมูแดดเดียวหอมกลิ่นลูกผักชี ไส้กรอกอีสานรสเปรี้ยวนวลหนังกรอบ และแหนมหมูรสเปรี้ยวนัวทานง่าย แกล้มด้วยพริกสด ขิงเต๋า มะนาวหั่น และถั่วลิสงทอด ได้ทานหลายอย่างในจานเดียว ที่ชอบสุดคือหมูยอ กรอบฟูอร่อยดีครับ