[CR] พาเดินเที่ยว ภู เ ก็ ต. One Day Trip ด้วยตั๋ว 0 บาท งบ 1,000 บาท

Phuket,Thailand

สวัสดี 'ภู เ ก็ ต' 

สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้เราจะมาแชร์ทริปการเดินทางไปเที่ยวภูเก็ต

ด้วยตั๋ว 0 บาท ( ไป-กลับ) ของสายการบินแอร์เอเชีย กับเงิน 1 พันบาทเท่านั้น!  

เอาล่ะ ก่อนจะไป เราขอเล่าถึงรายละเอียดการเดินทางคร่าวๆ รวมถึง เรื่องตั๋ว 0 บาทด้วย

เพื่อให้เป็นการเสียเวลา มาเริ่มกันเลย .... 
หลายคน อาจจะสงสัยว่า “มันมีด้วยหรอ ตั๋ว 0 บาท จกตาหรือเปล่า ?” 
ตอบ : ค่าตั๋วโดยสาร 0 บาท แต่ยังไม่รวมภาษีสนามบิน โดยค่าใช้จ่ายส่วนนี้

เราจ่ายไปทั้งหมด  274.90 บาท (ไป-กลับ) ซึ่งในส่วนที่จ่ายไปนี้ เป็นภาษีสนามบินเท่านั้น 

 

This is ภาพปลากรอบ (ภาพประกอบ) 

และหลายคนคงอยากจะรู้ว่า“ทำยังไงถึงจะได้ราคานี้ ?” 
ตอบ : ที่เราได้มามันเป็น โปรโมชั่น ทางสายการบินจะทำการประกาศผ่านเว็ป

หรือเพจที่แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับตั๋วบิน ราคาถูก แนะนำให้กดติดตามเอาไว้ เพื่อจะได้ไม่พลาดนะจ้ะ

ปล.เราจองกับแอร์เอเชียนะ ส่วนสายการบินอื่น เราไม่ทราบเหมือนกันครับ 
 
เอาล่ะ อีกสิ่งที่จะไม่พูดก็ไม่ได้ ทริปนี้ เราแพลนไว้ว่าจะไปแค่วันเดียว ใช่ พูดง่ายๆก็คือ บินไปเช้า กลับตอนค่ำ

ทำไมนะหรอ? เพราะเราตั้งใจไปเที่ยวเฉพาะที่ในเมือง เสพความพื้นเมือง

เราจึงคิดว่า ยังไม่มีความจำเป็นจะต้องไปค้างคืน เพราะในเมืองภูเก็ตเอง สามารถเดินเที่ยวชมด้วย

แต่ใครอยากจะไปที่อื่น ค้างคืน หลายวันก็ไม่ว่ากัน แต่เราสะดวกแบบนี้ 

สรุป ทริปนี้เป็นการเดินทางแบบ One Day Trip ไป เช้า เย็น กลับ โดยเครื่องบิน (เชี้ย โคตรเท่ 555) 
 
ส่วนเรื่องค่าใช้ง่าย เราตั้งงบไว้ 1,000 บาท รวมค่ากิน ค่าเดินทาง ทริปนี้ เราเลือกใช้รถสาธารณะ

ไม่เช่ารถมอไซต์ขับ เพราะคิดว่าไม่คุ้ม อีกอย่างเดินเอา ได้บรรยากาศกว่า แถมประหยัดอีกด้วย 5555

เอาล่ะ เราได้เล่ารายเอียดการเดินทางไปเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ตอนนี้ เราจะพาทุกคนไปเที่ยวภูเก็ต สัมผัสวิถีชีวิตพื้นเมืองของคนภูเก็ตกัน ไปเล้ยย !!

เริ่มต้นการเดินทางจาก กรุงเทพ สู่ ภูเก็ต ด้วยไฟล์ทบิน เวลา 03.30 น.  ถึงภูเก็ต เวลาประมาณ 05.00 น. 
คำถาม คือ ไฟล์ทบินแบบนี้ เรานอนยังไง ? เราไปนอนที่สนามบินดอนเมือง

รอเครื่องออก พอถึงสนามบินภูเก็ต เราก็ไปนอนต่อที่สนามบินภูเก็ต สาเหตุที่ต้องนอนรอ

เพราะรถบัส สนามบินภูเก็ต - บขส ในเมือง รอบแรก คือ 7 โมงเช้า

ซึ่งเราบินไปถึงประมาณตี 5 ไง เพราะงั้น นอนรอต่อไป

หลังจากถึงที่สนาบินภูเก็ต เราก็เริ่มหาที่นอนภายในสนามบินค่อนข้างใหญ่นะ

เราเดินไปชั้น 3 พร้อมกับทิ้งตัวลงบนเก้าอี้เรียงรายกันอยู่ คร้อกกกฟี่ !! Zzzzz

หลับจริงจังมาก ตื่นอีกทีก็ 8 โมงกว่าๆ 55555 แง่มๆ หลับเพลิน 

หลังจากงัวเงีย จากอาการพึ่งตื่น รวบรวมสติได้ ก็เปิดมือถือหาสถานที่ต่อไปว่าจะไปไหนดี ?

เราจำได้ว่า เคยอ่านกระทู้นึงมา เค้าบอกว่า ที่ภูเก็ตมีชายหาดที่สามารถดูเครื่องบินได้แบบ 360 องศา

เราอยากลองไปดู แต่! มันอยู่ไหนล่ะ ? หลังจากหาอยู่ได้สักพัก ก็ได้คำตอบว่า ที่ภูเก็ตมีจุด

ชมเครื่องบินได้ 2 จุดหลักๆ (ถ้าผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยนะครับ เพราะไม่ใช่คนพื้นเมือง)  

นั่นคือ หาดไม้ขาว (จุดชมเครื่องบินลง ) และ หาดในยาง (จุดเครื่องบินขึ้น) ซึ่งจากที่หาข้อมูลมา

เราสามารถเดินไปหาดในยางได้ เพราะระยะทางใกล้กับสนามบิน เพียง 1-2 กิโลเมตรเท่านั้น

แต่หาดไม้ขาว เราต้องเช่ารถ หรือจ้างคนขับพาไป ซึ่งเราจึงตัดออกไป

ทำให้ได้ไปดูจุดชมเครื่องบินขึ้น ที่ หาดในยาง เพื่อนๆ สามารถจิ้ม GPS ใน Google Map 

แล้วเดินตามทางไปได้เลย ทางไม่น่ากลัว แถมคนไม่เยอะอีกด้วย แต่ๆ ขยะเยอะมาก

ยังไงใครไปก็ช่วยกันเก็บขยะด้วยนะครับ เพื่อธรรมชาติที่สวยงาม 
Ps.  ใครที่ตั้งใจจะไปดูเครื่องบิน แนะนำให้โหลดแอพ Flightradar24 กันด้วยนะ

แอพนี้สามารถดูข้อมูลเครื่องบิน ขึ้น ลง จอดได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลย

หลังจากเดินถ่ายรูปเล่นที่หาดในยาง สักพักใหญ่ๆ ก็ได้บทสรุปว่า

ถ้าอยากเห็นเครื่องบินเป็นลำใหญ่ๆ ถ่ายรูปสวยๆ ควรไป หาดไม้ขาว 5555 

เพราะจุดที่เราไปมันเป็นจุดเครื่องบินขึ้น ทำให้ภาพที่เราถ่ายได้ มันเห็นเครื่องบินเล็กนิดเดียว

จริงๆ ก็ไม่ได้เฟลหรอก แถมยังดีด้วยที่ เราได้มาแชร์ข้อมูลตรงนี้ให้ทุกคน

เพราะส่วนใหญ่ตามรีวิวจะไปอีกหาดนึง ก็จะได้เปรียบเทียบกันได้ว่า ชอบแบบไหน 55555

เอาล่ะ หลังจากถ่ายรูป เดินเล่นบริเวณชายหาด มองดูเครื่องบินขึ้น ก็ได้เวลาที่เราจะเข้าไปในเมืองภูเก็ตแล้ว 
ก็ไม่มีอะไรมาก เดินย้อนกลับมาจุดเดิมที่สนามบิน เดินหาที่จอรถบัสหน้าตาแบบนี้ให้เจอ (ถ้าไม่เจอ ก็ถามคนแถวนั้นเอา) ค่าโดยสาร 100 บาทต่อคน ต่อเที่ยว (ไม่ต้องกลัวจะลงไม่ถูก เพราะเราสามารถบอกจุดลงรถกับกระเป๋ารถได้เลย) ซึ่งเราจะไปลงบริเวณ ถนนถลาง ภูเก็ต หลังจากนั่งรถชมวิว สองข้างทาง สักพักใหญ่ๆ ก็มาถึงบริเวณถนนที่จะเดินไป ถนนถลาง (เอาจริงๆ เราก็จำไม่ค่อยได้หรอก อาศัยเปิด Map แล้วเดินตามเอา 555)

แพลนแรกก็คือ หาร้านข้าวก่อนเลย เพราะโคตรหิว  เอาล่ะ ลืมเล่าให้ฟังว่า ขณะที่กำลังลงรถก็มีผู้หญิงสัญชาติบราซิล เดินทางมาพร้อมกัน

และขณะนั้น เราก็ทักทายด้วยประโยคคำถามว่า “คุณมาคนเดียวหรอ?”  

ใช่ ผู้คนนี้ตอบ หลังจากนั้นเขาเลยขอมาด้วย เดินชมตึก อาคารที่รายล้อม พร้อมกับมิตรภาพที่พึ่งรู้จักกันมาด้วย

เราก็เลยมาจบที่ร้านผัดไทย  ราคาจานละ 80 บาท (ราคานี้เราสั่งพิเศษ) หลังจากกินเสร็จ เราก็แยกย้ายไปตามทางของตัวเอง

เพราะเธอจะไปที่ จ.กระบี่ เราก็เซย์กู้ดบาย

ต่อจากนี้ไป เราจะพาไปชมวิถีชีวิตของผู้คน งานศิลปะตามฝาผนัง เดินชิมของพื้นเมือง และคาเฟ่ต่างๆ  
เริ่มต้นด้วยร้านแกลลอรี่ ชื่อว่า WUA (วัว) เป็นร้านที่รวบรวมผลงานของเจ้าของร้าน มาจัดแสดง

ซึ่งจริงๆ เปิดเพื่อขายงานศิลปะของเจ้าของร้านเอง แต่เราก็สามารถไปเดินชมได้ ฟรี!! 

ปล. ถ่ายรูปได้ แต่ห้ามนำภาพผลงานไปสร้างเป็นธุรกรรมนะจ้ะ เพราะมีลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา

เอาล่ะ เมื่อเดินชมเสร็จ เราก็ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าของร้าน ถึงเรื่องประวัติความเป็นมาของจังหวัดภูเก็ต

และงานศิลปะต่างๆ ซึ่งพี่ใจดีมากๆ พร้อมให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ เรารู้สึกดีใจมากที่ได้พูดคุยกับพี่

Street Art F.A.T (Food Art Town) in Phuket

ประวัติของเมืองภูเก็ต เราจะไม่ขอพูดถึงนะ เพราะไม่มั่นใจกับข้อมูลที่มี ดังนั้นไปหาข้อมูลได้ที่อากู๋ (Google) 
เอาล่ะ เราจะขอพูดถึงงานศิลปะบนฝาผนังที่มีการแชร์กันบนโซเชียลเยอะแยะมากมาย วันนี้เราจะมาบอกว่า

มันน่าสนใจยังไง ทำไมคนถึงได้แห่กันมาถ่ายรูปกันเยอะ เอาจริงๆแล้ว เดิมทีในตัวเมืองภูเก็ตเอง มีการสร้างบ้าน

และสถาปัตยกรรม ที่เรียกว่า “ชิโนโปรตุกีส” คือ เกิดการผสมระหว่าง ไชน่า (จีน) กับ โปรตุเกส

จึงได้มีชื่อตามที่ได้บอกไปอ่ะ ทีนี้ถามว่า แล้วพวกภาพวาดบนฝาผนังมาได้ไง ? 

ที่เห็นภาพวาดบนฝาผนังนี้คือ เกิดจากการก่อตั้ง โครงการ F.A.T.  (Food Art Town) ของจังหวัดภูเก็ต

โครงการนี้เป็นแนวคิดของเจ้าของโรงแรม (สักที่ เราลืม 5555 รู้เพียงแต่ว่า ท่านเป็นเหมือนคนมีเงินที่เป็นคนภูเก็ต)

ท่านเป็นคนริเริ่มโครงการโดยการรวบรวมศิลปินที่มีชื่อเสียง ทั้งไทย และต่างประเทศ

ผ่านภาพวาดบนฝาผนังที่เล่าเรื่องถึง วิถีชีวิตของคนภูเก็ต ได้แก่ การใช้ชีวิต อาหารการกิน วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณีต่างๆ

ซึ่งมีภาพวาดทั้งหมด 12 ภาพ แต่ปัจจุบันมีเพียง 11 ภาพ เอาล่ะ! ตอนนี้เราจะพาทุกคนไปเดินชมภาพวาดกัน

แต่ขอบอกก่อนนะว่า เราถ่ายมาไม่ครบ 555 แต่จะแปะข้อมูลให้แล้วกัน พร้อมแล้ว ไปกันเลย …

ภาพที่ 1 : "รถเข็น แผงลอย"
 
ภาพของคุณยายนั่งอยู่บนเก้าพร้อมปิ่นโตและตะกร้าที่เต็มไปด้วยของที่ซื้อมาจากตลาดยามเช้า
 
และภาพทางฝั่งขวา เป็นภาพของคุณลุงกำลังผัดโอวต้าว ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของภูเก็ตที่หากินที่อื่นไม่ได้ และมีรสชาติที่อร่อยมาก
 
เป็นภาพอาหารอร่อยหลายเมนู สะท้อนความเป็นอยู่ในวิถีชีวิตประจำวันที่เรียบง่ายและอร่อยล้ำ
 
ศิลปิน : Pichit Paidan
พิกัด : มุมหัวถนนพังงา (ช่วงตัดกับถนนเยาวราช) บนผนังตึกร้านซินเซ่งหลอง ข้างร้านตู้กับข้าว