เมื่อพูดถึงพลังการป้องกันและตอบโต้ของประเทศต่าง ๆ
กับภัยคุกคามภายในชาติ ในระดับชาติและระดับนานาชาติ
หน่วยงานข่าวกรอง คือ แนวหน้าหรือหัวหมู่ทะลวงฟันในเรื่องนี้
หน่วยสืบราชการลับของประเทศใดก็ตาม
มักจะได้รับมอบหมายภารกิจหลักบางอย่างดังต่อไปนี้
การรวบรวมข้อมูลข่าวสาร
การจารกรรมในรูปแบบต่าง ๆ
การให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ
การแพร่กระจายข้อมูลปลอม/ข่าวลือ
และบางหน่วยงานก็ยังทำการลอบสังหารศัตรูของรัฐ
ในขณะที่หน่วยข่าวกรองทั้งหมดของแต่ละประเทศ
มักจะมีดีที่สุดในเรื่องของภายในชาติตนเอง
แต่บางหน่วยงานก็เหนือชั้นกว่าชาติอื่น
ในเรื่องปฏิบัติภารกิจของสายลับ
ความมุ่งมั่นที่แท้จริงของหน่วยงานเหล่านี้
จะช่วยให้สามารถจัดการกับปัญหาใด ๆ
ที่เป็นภัยคุกคามต่อรัฐบาลชาติตนได้อย่างรวดเร็ว
10- Ministry of State Security (MSS)
กระทรวงความมั่นคงของรัฐ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็น MSS
เป็นสำนักข่าวกรองที่ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลจีนในปี 1983
สำนักงานใหญ่ของหน่วยงานนี้ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง
พร้อมกับสำนักงานสาขาย่อยและหน่วยงานย่อยอีก 17 แห่งทั่วโลก
ภารกิจหลักสองด้านของ MSS คือ งานข่าวกรอง และการวิจัยสังคม
บทบาทหลักที่ดำเนินการโดย MSS คือ
การให้ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนกับประชาชน
หน่วยงานจะทำให้ประชากรจีนถูกตัดขาดจากข้อมูลของโลกภายนอก
เช่น การใช้ Google Facebook Twitter
และให้อำนาจอยู่ในมือของรัฐบาลที่จะมีอิทธิพลต่อข้อมูลต่าง ๆ
ด้วยการแสดงออกอย่างชัดแจ้งกับประชาชน ให้รู้ว่าใครเป็นหมู่เป็นจ่า
นอกจากนี้หน่วยงานยังดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับ
การจัดการภัยคุกคามภายใน เช่น การจัดการประชาชน
ที่ต่อต้านรัฐบาลจีน/พรรคคอมมิวนิสต์ โดยวิธีการต่าง ๆ ที่มีตำรวจลับบริหารจัดการ
เช่น บังคับให้ไปพักร้อนในที่ห่างไกลช่วงวันรำลึกเหตุการณ์สำคัญ ๆ
จะได้ไม่ไปเข้าร่วมในสถานที่ชุมนุมหรือทำการปราศรัย
ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรือเล่นอินเตอร์แนตในเวลาที่บังคับ
นอกเหนือจากการจับกุมคุมขังแบบชาวบ้านทั่วไป
หมายเหตุ
ตอนนี้ AI ของจีนสามารถจับใบหน้าประชาชนได้เกือบครบหมดแล้ว
และสามารถประมวลผลได้ดีกว่าหลายประเทศ
เพราะไม่มีความลับความส่วนตัวของประชาชนจีน
ยิ่งข้อมูลยิ่งมากแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางยิ่งมาก
ระดับความเชื่อมั่นยิ่งมากขึ้นกว่าชาติอื่นๆ
ขณะที่ประเทศอื่น(ยกเว้นอินเดีย) มีประชากรค่อนข้างน้อย
และไม่มีงบประมาณและลงทุนอย่างแรงแบบจีน
ทำให้ข้อมูลมีน้อยการวิเคราะห์ก็ยิ่งน้อยลงไปมาก
9- Australian Secret Intelligence Service (ASIS)
หน่วยสืบราชการลับของออสเตรเลียหรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า ASIS
คือ หน่วยสืบราชการลับแห่งชาติของออสเตรเลีย
โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ Canberra
ความสามารถยอมรับว่าระดับเดียวกับ CIA
ภารกิจหลักของหน่วยงานนี้คือ
ดำเนินการรวบรวมข่าวกรองทั้งภายในและต่างประเทศ
รวมทั้งประสานงานกับหน่วยงานสายลับระดับโลกจากประเทศอื่น ๆ
ตามรายงาน ASIS มีส่วนร่วมในการปราบปราม
การปฏิวัติการเคลื่อนไหวเพื่อเอกราชในปาปัวนิวกินี
ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา แบบไม่ยอมวางมือดินแดนอารักขา
8- Canadian Security Intelligence Service (CSIS)
หน่วยสืบราชการลับของแคนาดา (CSIS)
แคนาดาได้รับการจัดอันดับอยู่ในรายการประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
เครดิตส่วนใหญ่ในการจัดอันดับนี้
ต้องยกให้หน่วยสืบราชการลับของแคนาดาหรือ CSIS
ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรองหลักที่ให้บริการแก่ประเทศ
ภารกิจหลักของ CSIS คือ การปกป้องประเทศ
จากสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ
CSIS ยังเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มข่าวกรอง Five Eyes ดวงตาทั้งห้า
ซึ่งเป็นพันธมิตรหน่วยงานข่าวกรองระหว่างประเทศ ดังต่อไปนี้คือ
สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
หน่วยงานดังกล่าวได้รับการระบุว่า
มีความก้าวร้าวเป็นพิเศษในการทำงาน
(แบบถึงลูกถึงคน ยิงเป็นยิง ฆ่าเป็นฆ่า)
เพื่อรับมือกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงของแคนาดา
7- Directorate-General for External Security (DGSE)
The Directorate-General for External Security ที่รู้จักกันทั่วไปว่า DGSE
คือ หน่วยสืบราชการลับของฝรั่งเศสที่ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส
หน่วยงานนี้ดำเนินงานตามลำดับชั้นโครงสร้าง และผลงานของหน่วยงานนี้เทียบเท่ากับ CIA
ภารกิจหลักคือ การต่อต้านการคุกคามจากต่างประเทศและปัญหาต่างๆ
แม้ว่าหน่วยงานนี้จะมีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติภารกิจเป็นเวลาหลายสิบปี
แต่ก็ไม่มีบันทึกหรือข้อมูลการปฏิบัตการลับใด ๆ ของหน่วยงานก่อนหน้านี้ที่มีการเผยแพร่
เพราะทุกเรื่องราวและทุกเรื่องของหน่วยงานถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับอย่างเข้มงวด
เช่น การปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในประเทศฝรั่งเศส
ก็จะปิดหน้าปิดตาหน่วยรบพิเศษ และไม่มีการให้สัมภาษณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น
แบบยิงลูกเดียว ถ้าไม่ยอมจำนน และไม่ยอมรับเงื่อนไขการต่อรอง
6- Research and Analysis Wing (RAW)
The Research And Analysis Wing หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า RAW
อาจหลอกลวงผู้พบเห็นครั้งแรกว่า เป็นองค์กรเอกชนที่มีภารกิจง่าย ๆ เช่นรวบรวมข้อมูล
แต่นี่คือหนึ่งในหน่วยงานข่าวกรองของรัฐบาล ที่มีความสามารถมากที่สุดในโลก
เพราะประชากรระดับพันล้าน มีภาษาพูดมากกว่าพันภาษา
RAW ก่อตั้งขึ้นในปี 1968 เพื่อปกป้องประเทศอินเดีย
จากภัยคุกคามทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนี้ RAW ยังตรวจสอบการพัฒนาภัยคุกคาม
ที่อาจเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศอินเดีย
แต่ในขณะที่ยังไม่ปรากฏชื่อหน่วยงานสายลับของอินเดียอีกหลายหน่วยงาน
ตามข่าวลือและรายงานข่าวมักจะกล่าวหาตัวแทน RAW ว่า
มีการกระจายตัวอยู่ทั่วทุกมุมโลก
และหน่วยงาน RAW ยังร่วมมือกับหน่วยงานระดับโลกอื่น ๆ
โดยได้รับความร่วมมือในระยะยาว
ไม่เพียง แต่กับ CIA เท่านั้นยังร่วมมือกับ Mossad
ในการจับตาดูประเทศเพื่อนบ้านปากีสถาน
ที่มีอาวุธ/ทหารและนิวเคลียร์ไว้ในครอบครอง
10 อันดับหน่วยงานสายลับระดับโลก
กับภัยคุกคามภายในชาติ ในระดับชาติและระดับนานาชาติ
หน่วยงานข่าวกรอง คือ แนวหน้าหรือหัวหมู่ทะลวงฟันในเรื่องนี้
หน่วยสืบราชการลับของประเทศใดก็ตาม
มักจะได้รับมอบหมายภารกิจหลักบางอย่างดังต่อไปนี้
การรวบรวมข้อมูลข่าวสาร
การจารกรรมในรูปแบบต่าง ๆ
การให้คำปรึกษาแก่รัฐบาลในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ
การแพร่กระจายข้อมูลปลอม/ข่าวลือ
และบางหน่วยงานก็ยังทำการลอบสังหารศัตรูของรัฐ
ในขณะที่หน่วยข่าวกรองทั้งหมดของแต่ละประเทศ
มักจะมีดีที่สุดในเรื่องของภายในชาติตนเอง
แต่บางหน่วยงานก็เหนือชั้นกว่าชาติอื่น
ในเรื่องปฏิบัติภารกิจของสายลับ
ความมุ่งมั่นที่แท้จริงของหน่วยงานเหล่านี้
จะช่วยให้สามารถจัดการกับปัญหาใด ๆ
ที่เป็นภัยคุกคามต่อรัฐบาลชาติตนได้อย่างรวดเร็ว
เป็นสำนักข่าวกรองที่ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบาลจีนในปี 1983
สำนักงานใหญ่ของหน่วยงานนี้ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง
พร้อมกับสำนักงานสาขาย่อยและหน่วยงานย่อยอีก 17 แห่งทั่วโลก
ภารกิจหลักสองด้านของ MSS คือ งานข่าวกรอง และการวิจัยสังคม
บทบาทหลักที่ดำเนินการโดย MSS คือ
การให้ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนกับประชาชน
หน่วยงานจะทำให้ประชากรจีนถูกตัดขาดจากข้อมูลของโลกภายนอก
เช่น การใช้ Google Facebook Twitter
และให้อำนาจอยู่ในมือของรัฐบาลที่จะมีอิทธิพลต่อข้อมูลต่าง ๆ
ด้วยการแสดงออกอย่างชัดแจ้งกับประชาชน ให้รู้ว่าใครเป็นหมู่เป็นจ่า
นอกจากนี้หน่วยงานยังดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับ
การจัดการภัยคุกคามภายใน เช่น การจัดการประชาชน
ที่ต่อต้านรัฐบาลจีน/พรรคคอมมิวนิสต์ โดยวิธีการต่าง ๆ ที่มีตำรวจลับบริหารจัดการ
เช่น บังคับให้ไปพักร้อนในที่ห่างไกลช่วงวันรำลึกเหตุการณ์สำคัญ ๆ
จะได้ไม่ไปเข้าร่วมในสถานที่ชุมนุมหรือทำการปราศรัย
ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ หรือเล่นอินเตอร์แนตในเวลาที่บังคับ
นอกเหนือจากการจับกุมคุมขังแบบชาวบ้านทั่วไป
หมายเหตุ
ตอนนี้ AI ของจีนสามารถจับใบหน้าประชาชนได้เกือบครบหมดแล้ว
และสามารถประมวลผลได้ดีกว่าหลายประเทศ
เพราะไม่มีความลับความส่วนตัวของประชาชนจีน
ยิ่งข้อมูลยิ่งมากแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางยิ่งมาก
ระดับความเชื่อมั่นยิ่งมากขึ้นกว่าชาติอื่นๆ
ขณะที่ประเทศอื่น(ยกเว้นอินเดีย) มีประชากรค่อนข้างน้อย
และไม่มีงบประมาณและลงทุนอย่างแรงแบบจีน
ทำให้ข้อมูลมีน้อยการวิเคราะห์ก็ยิ่งน้อยลงไปมาก