ขอคั่นเวลากับเรื่องสั้นเรื่องนี้นะคะ วันนี้นึกเนื้อเรื่องตอนต่อไปไม่ออกเลย
แก๊งห้าสิบสตางค์มีสมาชิกทั้งหมดแปดคน หญิงสี่คนชายสี่คน ทั้งแปดคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ ม.1
ในแก๊งนี้จะมีหนึ่งคนที่ครอบครัวค่อนข้างมีอันจะกิน อีกคนไม่สนโลก อีกคนยากจนและชอบคิดมาก อีกคนสับสนทางเพศ ส่วนพวกผู้ชายแมนสามคนตู๊ดหนึ่งคน
หนึ่งคนมีอันจะกินก็ชอบซื้อนู่นซื้อนี่ไม่ใช่การอวดแต่อย่างใด เป็นนิสัยของคนนี้ที่อยากได้อะไรแล้วซื้อเลย ส่วนอีกคนไม่สนโลกคือสอง เพื่อนซื้ออะไรมาทำอะไรก็ยินดีและสนับสนุนมาตลอด อีกคนสับสนทางเพศคือสาม มัวแต่อ่อยหญิง ส่วนสี่ค่อนข้างยากจนและคิดมาก ชอบประชด และแขวะหนึ่งที่อยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่าง โดยที่ตัวเองไม่ค่อยจะได้ ส่วนพวกผู้ชายก็อยู่แบบนิสัยผู้ชาย
ทั้งแปดคนอยู่ด้วยกันมาหกปีด้วยนิสัยแบบนี้ แต่ถึงอย่างไรนั้นก็ไม่เคยผิดใจกัน โดยเฉพราะหนึ่งกับสี่
วันเวลาล่วงเลยไปช่วงมหาลัย ทั้งแปดคนเรียนที่เดียวกัน ความสัมพันธ์ยังแนบแน่นดี
เมื่อทุกคนจบการศึกษา ต่างคนต่างแยกไปมีชีวิตของตัวเอง ทำงานคนละที่
หนึ่งแต่งงาน หนึ่งจะลืมชาวแก๊งห้าสิบสตางค์ได้ไง เชิญก่อนแขกคนอื่นๆอยู่แล้ว พอวันแต่งทุกคนมางานหนึ่ง สี่ถามถึงสินสอดหนึ่ง หนึ่งก็บอกอย่างภาคภูมิใจ สุดท้ายสี่ก็ไม่มาร่วมงานแต่งหนึ่งเลย หนึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไร
ผ่านไปสองปีสี่ท้องก่อนแต่ง สินสอดได้น้อยกว่าหนึ่ง มาก! สี่เชิญเพื่อนทุกคนเช่นกัน หนึ่งไม่ไป จะว่าตั้งใจก็ได้ หลังจากนั้นสี่โพ้สด่าหนึ่งลอยๆในเฟส ว่าหนึ่งไม่มาร่วมงาน สอง สาม และเพื่อนผู้ชายห้ามหนึ่งไว้ อย่าไปสนใจยังไงก็เพื่อนกัน โอเคหนึ่งไม่สนใจ
ครอบครัวหนึ่งค่อนข้างมีอันจะกินอยู่แล้ว ประกอบกับหนึ่งมีเงินเดือน ทำให้ชีวิตหนึ่งดี๊ดี มีงานทำที่ดี สมกับวุฒิที่ร่ำเรียนมา
ส่วนสี่มีคุณภาพชีวิตถือว่าดี แต่ทำโรงงาน เรื่องนี้เพื่อนๆเด๊อะแก๊งไม่เคยถือสากัน จะมีก็แต่สี่ที่ชอบมาแขวะหนึ่งที่เวลาหนึ่งลงความเป็นอยู่ที่ดีในโซเชียล เอาเป็นว่าทุกครั้งหนึ่งก็ไม่เคยถือสา
แต่สุดท้ายความอดทนหนึ่งก็มีขีดจำกัด หนึ่งจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว เมื่อหนึ่งโพ้สเรื่องราวการทำงานของหนึ่ง
หนึ่งบอกว่าหนึ่งจะไม่ทำโรงงานเด็ดขาด ถ้าจะทำแค่นี้ไม่เรียนให้เปลืองเงินพ่อแม่ หนึ่งไม่มีเจตนาดูถูกใคร และงานทุกอาชีพมีเกียรติกันทั้งนั้น
ที่หนึ่งพูดแบบนั้นเพราะหนึ่งก็เคยทำโรงงานมาเหมือนกัน หนึ่งรู้ว่ามันเหนื่อย มีคนบอกให้หนึ่งไปทำเพราะเรื่องโบนัสสิ้นปีเยอะ
แต่อยู่ๆสี่ก็มาเม้นใต้โพ้สว่าทำงานแบบนี้มันไม่ดีตรงไหน หนึ่งก็ตอบแบบตลกๆไป สักพักสี่ไปโพ้สด่าหนึ่งสาดเสียเทเสีย ด่าหนึ่งด้วยถ้อยคำรุนแรง ว่าหนึ่งดูถูกต่างๆนานา
หนึ่งเห็นแล้วหนึ่งโมโหมาก อยากจะไปตบปากให้เลือดกบปากมาก แล้วสองเพื่อนที่โลกสวยตลอดเวลา และสามกับเพื่อนผู้ชายห้ามไว้ อย่าไปสนใจ อย่าไปใส่ใจ สงสัยมันเป็นโรคประสาท
ยังไงก็เพื่อนกัน!! อีกแล้ว
แต่สี่มันไม่เคยเห็นหนึ่งเป็นเพื่อนเลย และหนึ่งก็ไม่ใช่เพื่อนสี่อีกต่อไปแล้ว
.......................................................
เรื่องสั้น....เพื่อนกับโรคประสาท
แก๊งห้าสิบสตางค์มีสมาชิกทั้งหมดแปดคน หญิงสี่คนชายสี่คน ทั้งแปดคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ ม.1
ในแก๊งนี้จะมีหนึ่งคนที่ครอบครัวค่อนข้างมีอันจะกิน อีกคนไม่สนโลก อีกคนยากจนและชอบคิดมาก อีกคนสับสนทางเพศ ส่วนพวกผู้ชายแมนสามคนตู๊ดหนึ่งคน
หนึ่งคนมีอันจะกินก็ชอบซื้อนู่นซื้อนี่ไม่ใช่การอวดแต่อย่างใด เป็นนิสัยของคนนี้ที่อยากได้อะไรแล้วซื้อเลย ส่วนอีกคนไม่สนโลกคือสอง เพื่อนซื้ออะไรมาทำอะไรก็ยินดีและสนับสนุนมาตลอด อีกคนสับสนทางเพศคือสาม มัวแต่อ่อยหญิง ส่วนสี่ค่อนข้างยากจนและคิดมาก ชอบประชด และแขวะหนึ่งที่อยากได้อะไรก็ได้ทุกอย่าง โดยที่ตัวเองไม่ค่อยจะได้ ส่วนพวกผู้ชายก็อยู่แบบนิสัยผู้ชาย
ทั้งแปดคนอยู่ด้วยกันมาหกปีด้วยนิสัยแบบนี้ แต่ถึงอย่างไรนั้นก็ไม่เคยผิดใจกัน โดยเฉพราะหนึ่งกับสี่
วันเวลาล่วงเลยไปช่วงมหาลัย ทั้งแปดคนเรียนที่เดียวกัน ความสัมพันธ์ยังแนบแน่นดี
เมื่อทุกคนจบการศึกษา ต่างคนต่างแยกไปมีชีวิตของตัวเอง ทำงานคนละที่
หนึ่งแต่งงาน หนึ่งจะลืมชาวแก๊งห้าสิบสตางค์ได้ไง เชิญก่อนแขกคนอื่นๆอยู่แล้ว พอวันแต่งทุกคนมางานหนึ่ง สี่ถามถึงสินสอดหนึ่ง หนึ่งก็บอกอย่างภาคภูมิใจ สุดท้ายสี่ก็ไม่มาร่วมงานแต่งหนึ่งเลย หนึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไร
ผ่านไปสองปีสี่ท้องก่อนแต่ง สินสอดได้น้อยกว่าหนึ่ง มาก! สี่เชิญเพื่อนทุกคนเช่นกัน หนึ่งไม่ไป จะว่าตั้งใจก็ได้ หลังจากนั้นสี่โพ้สด่าหนึ่งลอยๆในเฟส ว่าหนึ่งไม่มาร่วมงาน สอง สาม และเพื่อนผู้ชายห้ามหนึ่งไว้ อย่าไปสนใจยังไงก็เพื่อนกัน โอเคหนึ่งไม่สนใจ
ครอบครัวหนึ่งค่อนข้างมีอันจะกินอยู่แล้ว ประกอบกับหนึ่งมีเงินเดือน ทำให้ชีวิตหนึ่งดี๊ดี มีงานทำที่ดี สมกับวุฒิที่ร่ำเรียนมา
ส่วนสี่มีคุณภาพชีวิตถือว่าดี แต่ทำโรงงาน เรื่องนี้เพื่อนๆเด๊อะแก๊งไม่เคยถือสากัน จะมีก็แต่สี่ที่ชอบมาแขวะหนึ่งที่เวลาหนึ่งลงความเป็นอยู่ที่ดีในโซเชียล เอาเป็นว่าทุกครั้งหนึ่งก็ไม่เคยถือสา
แต่สุดท้ายความอดทนหนึ่งก็มีขีดจำกัด หนึ่งจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว เมื่อหนึ่งโพ้สเรื่องราวการทำงานของหนึ่ง
หนึ่งบอกว่าหนึ่งจะไม่ทำโรงงานเด็ดขาด ถ้าจะทำแค่นี้ไม่เรียนให้เปลืองเงินพ่อแม่ หนึ่งไม่มีเจตนาดูถูกใคร และงานทุกอาชีพมีเกียรติกันทั้งนั้น
ที่หนึ่งพูดแบบนั้นเพราะหนึ่งก็เคยทำโรงงานมาเหมือนกัน หนึ่งรู้ว่ามันเหนื่อย มีคนบอกให้หนึ่งไปทำเพราะเรื่องโบนัสสิ้นปีเยอะ
แต่อยู่ๆสี่ก็มาเม้นใต้โพ้สว่าทำงานแบบนี้มันไม่ดีตรงไหน หนึ่งก็ตอบแบบตลกๆไป สักพักสี่ไปโพ้สด่าหนึ่งสาดเสียเทเสีย ด่าหนึ่งด้วยถ้อยคำรุนแรง ว่าหนึ่งดูถูกต่างๆนานา
หนึ่งเห็นแล้วหนึ่งโมโหมาก อยากจะไปตบปากให้เลือดกบปากมาก แล้วสองเพื่อนที่โลกสวยตลอดเวลา และสามกับเพื่อนผู้ชายห้ามไว้ อย่าไปสนใจ อย่าไปใส่ใจ สงสัยมันเป็นโรคประสาท ยังไงก็เพื่อนกัน!! อีกแล้ว
แต่สี่มันไม่เคยเห็นหนึ่งเป็นเพื่อนเลย และหนึ่งก็ไม่ใช่เพื่อนสี่อีกต่อไปแล้ว
.......................................................