
พระกำไลที่พระองค์ภา ทรงสวมเป็น “หัวนะโม” เป็นเม็ดเงิน หรือโลหะ ซึ่งเป็น ข อ ง ข ลั ง ที่สร้างในสมัยโบราณ ใช้หว่านตามรั้วมุมกำแพงเมืองเพื่อป้องกันสิ่งไม่ดี ในยุคปัจุบัน มักนำมาทำเป็นเครื่องประดับเพื่อป้องกันและเสริมศิริมงคล
กล่าวกันว่า สมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชกษัตรย์ ผู้ทรงสถาปนา อาณาจักรนครศรีธรรมราชขึ้น เมื่อประมาณ 700 ปีก่อน และทรงเป็นพระเชษฐาของพระเจ้าจันทรภานุ หรือ องค์ “จตุคามรามเทพ “ พระองค์ทรงให้สร้าง หัวนะโม ไว้ด้วยพิธีกรรมอันสูงส่งของพราหมณ์ โดยอัญเชิญเทพเจ้าทั้งสามคือ พระศิวะ พระวิษณุ และพระพรหม มาสถิตในหัวนะโม เป็นอักขระแทนองค์เทพเจ้า ทั้งสามโลก เพื่อเอาไปฝังหว่านรอบ ๆ เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อป้องกัน โ ร ค ห่ า ร ะ บ า ด (อหิวาตกโรค) ปรากฏว่าโรคห่าได้หายไปจากอณาจักรนครศรีธรรมราชจนสิ้น…

ปัจจุบัน หัวนะโม ถือเป็น เ ค รื่ อ ง ร า ง ของขลัง หรือวัตถุมงคลชื้นเอกของนครศรีธรรมราช พุทธคุณครอบจักรวาล เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด ปลอดภัยแก่ผู้ที่อาราธนาบูชาติดตัว
เล่ากันว่า ในครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ก็ได้เกิด โ ร ค ห่ า ระบาดขึ้นในเมืองนครศรีธรรมราชอีกครั้ง พระองค์จึงรับสั่งให้สร้าง หัวนะโม ขึ้นแล้วประจุผงพระพุทธคุณอันวิเศษที่สำเร็จขึ้นจากพระอาจารย์ผู้มีกฤตยาคมสูงลงในหัวนะโมนั้น โปรดเกล้าฯ ให้นำหัวนะโมไปหว่านโปรยลงรอบเมืองนครฯ ให้ทั่วหมดสิ้น จากนั้นภายในไม่ช้าโรคห่าหรือโรคอหิวาตกโรคก็สงบลง อักขระ “นะโม” เป็นอักษรปารวะของอินเดียโบราณ ตามหลักฐานทางโบราณคดีก่อนสมัยพระศรีธรรมโศกราช (ราชวงศ์ปัทมวงศ์) คือก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 เม็ดโลหะที่เรียกกันว่า “หัวนะโม” อยู่ในฐานะ เ งิ น ต ร า ใช้แลกเปลี่ยนแทนสินค้าในอาณาจักร
ต่อมาสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช (พุทธศตวรรษที่ 18) เปลี่ยนฐานะเป็น “เครื่องรางของขลัง” ประกอบพิธีตามคัมภีร์ไสยเวทหรืออาถรรพเวท เพื่อป้องกัน ภ ยั น ต ร า ย ทั้งปวงในราชอาณาจักร อักขระนะโม จึงเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรทะเลใต้ นะโม อาจหมายถึง “ความนอบน้อม” หรืออาจหมายถึง “หั ว ใ จ” ของคาถาพุทธศาสนาที่ว่า “นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมา สมฺพุทธสฺส”


เครดิต
https://www.thaismiletopic.com/archives/16516
ประวัติที่มาของ "หัวนะโม" ในข้อพระหัตถ์เป็นของขลัง ที่สร้างในสมัยโบราณ 700 ปี
พระกำไลที่พระองค์ภา ทรงสวมเป็น “หัวนะโม” เป็นเม็ดเงิน หรือโลหะ ซึ่งเป็น ข อ ง ข ลั ง ที่สร้างในสมัยโบราณ ใช้หว่านตามรั้วมุมกำแพงเมืองเพื่อป้องกันสิ่งไม่ดี ในยุคปัจุบัน มักนำมาทำเป็นเครื่องประดับเพื่อป้องกันและเสริมศิริมงคล
กล่าวกันว่า สมัยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชกษัตรย์ ผู้ทรงสถาปนา อาณาจักรนครศรีธรรมราชขึ้น เมื่อประมาณ 700 ปีก่อน และทรงเป็นพระเชษฐาของพระเจ้าจันทรภานุ หรือ องค์ “จตุคามรามเทพ “ พระองค์ทรงให้สร้าง หัวนะโม ไว้ด้วยพิธีกรรมอันสูงส่งของพราหมณ์ โดยอัญเชิญเทพเจ้าทั้งสามคือ พระศิวะ พระวิษณุ และพระพรหม มาสถิตในหัวนะโม เป็นอักขระแทนองค์เทพเจ้า ทั้งสามโลก เพื่อเอาไปฝังหว่านรอบ ๆ เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อป้องกัน โ ร ค ห่ า ร ะ บ า ด (อหิวาตกโรค) ปรากฏว่าโรคห่าได้หายไปจากอณาจักรนครศรีธรรมราชจนสิ้น…
ปัจจุบัน หัวนะโม ถือเป็น เ ค รื่ อ ง ร า ง ของขลัง หรือวัตถุมงคลชื้นเอกของนครศรีธรรมราช พุทธคุณครอบจักรวาล เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด ปลอดภัยแก่ผู้ที่อาราธนาบูชาติดตัว
เล่ากันว่า ในครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ก็ได้เกิด โ ร ค ห่ า ระบาดขึ้นในเมืองนครศรีธรรมราชอีกครั้ง พระองค์จึงรับสั่งให้สร้าง หัวนะโม ขึ้นแล้วประจุผงพระพุทธคุณอันวิเศษที่สำเร็จขึ้นจากพระอาจารย์ผู้มีกฤตยาคมสูงลงในหัวนะโมนั้น โปรดเกล้าฯ ให้นำหัวนะโมไปหว่านโปรยลงรอบเมืองนครฯ ให้ทั่วหมดสิ้น จากนั้นภายในไม่ช้าโรคห่าหรือโรคอหิวาตกโรคก็สงบลง อักขระ “นะโม” เป็นอักษรปารวะของอินเดียโบราณ ตามหลักฐานทางโบราณคดีก่อนสมัยพระศรีธรรมโศกราช (ราชวงศ์ปัทมวงศ์) คือก่อนพุทธศตวรรษที่ 18 เม็ดโลหะที่เรียกกันว่า “หัวนะโม” อยู่ในฐานะ เ งิ น ต ร า ใช้แลกเปลี่ยนแทนสินค้าในอาณาจักร
ต่อมาสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราช (พุทธศตวรรษที่ 18) เปลี่ยนฐานะเป็น “เครื่องรางของขลัง” ประกอบพิธีตามคัมภีร์ไสยเวทหรืออาถรรพเวท เพื่อป้องกัน ภ ยั น ต ร า ย ทั้งปวงในราชอาณาจักร อักขระนะโม จึงเป็นอักขระศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรทะเลใต้ นะโม อาจหมายถึง “ความนอบน้อม” หรืออาจหมายถึง “หั ว ใ จ” ของคาถาพุทธศาสนาที่ว่า “นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมา สมฺพุทธสฺส”
เครดิต https://www.thaismiletopic.com/archives/16516