ทริปนี้เริ่มจากได้ตั๋วแอร์เอเชีย โปร 0 บาท แต่ไม่ได้ 0 บาท ได้ในราคาไป-กลับ 700 กว่าบาท ถูกกว่ารถทัวร์อีกจ้าาา จองไว้ข้ามปี
เกือบลืมกันเลยทีเดียว เราไปกับแฟน2คน ไปวันที่ 14-15/07/2019 ที่ผ่านมานี้เองจ้า ตัวเลือกของเรามี 2 ตัวเลือกคือ นั่งแท็กซี่ไปสนามบินกับขับรถไปจอดเอง คิดแล้วเอารถไปจอดน่าจะถูกกว่า(ถูกกว่าจริงหรอ555+) งั้นเอารถไปจอดกันเลยจ้า วนไปเลยจ้า หาที่จอดรถ อาคารมี 7ชั้นก็วนไป 7ชั้น ที่จอดหายากมากๆเลย แต่เรามาก่อนเวลาก็เลยไม่ต้องรีบมาก

ยังพอมีเวลาเลยแอบแวะไปกินข้าวฟู้ดคอร์ทหลัง7-11ตรงชั้น 2 ของสนามบินดอนเมือง กินเสร็จแล้วแล้วเดินไปดูตารางบินถ่ายรูปเก๋ๆ หน่อย
หลังจากนั้นก็ไปต่อคิวปริ้นบอร์ดดิ้งพาสจากตู้คีออส ทั้งๆที่จริงก็ปริ้นมาแล้วแหละ แต่ลืมเอามา 555+ เดินชิลๆเข้าไปรอในเกท นั่งได้ 15 นาทีก็มีประกาศเรียกขึ้นเครื่อง 555+ เวลาจะเดินไวไปไหน นี่ขนาดวางแผนเวลามาดี แต่ชิลจนลืมเวลาเลย 555+

ขั้นเครื่องแล้วจ้า ได้นั่งติดหน้าต่างด้วย เพิ่งเคยขึ้นเครื่องตอนเช้าตรู่ครั้งแรก วิวมันดีแบบนี้นี่เองเนอะ

ถึงแล้วจ้า สนามบินน่านนคร ลงเครื่องแล้วหยิบร่มคนล่ะคันแล้วกางทันที(เพราะร้อนมาก) เดินเข้าอาคารผู้โดยสารมาเลยจ้า สักพักพี่รถเช่าโทรมาเลยตรงเวลามากจริงๆ ครั้งนี้เราใช้บริการรถเช่าของ Chai rent a Car วันนี้เราเช่า Vios วันล่ะ 900 บาทจ้า เกินจากนั้น 100 บาท/ชม. รับรถเรียบร้อย ไปกันอย่างด่วนเลย มีเวลาแค่ 28 ชม. เราต้องไม่พลาดสักนาที 555+

10.00 น. (ชั่วโมงแรก) กองทัพต้องเดินด้วยท้อง แวะกินข้าวที่ร้านข้าวซอยต้นน้ำ เราตามมาจากรีวิวในพันทิปเนี่ยแหละ
แต่โต๊ะน้อยไปหน่อย ต้องยืนตากแดดรอคิวเลยทีเดียว

10.30 น. กินเสร็จไปวัดกันต่อเลยจ้า วัดภูมินทร์เป็นวัดที่ใครๆที่มาน่านก็ต้องมาทีนี่ ไม่งั้นเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง ไหว้พระและถ่ายรูปกระซิบรักบันลือโลก เป็นที่ระลึกสักนิด

11.00 น. (ชั่วโมงที่ 2) เหลือบมองนาฬิกาเวลายังเหลือ ไปต่อกันเลยจ้า พิพิธภัณฑ์น่านจ้า อยู่ไม่ไกลกันแต่เราไม่เดิน 555+
ถ่ายรูปกับซุ้มลีลาวดีที่เค้าฮิตๆกันสักหน่อย

12.30 น. (ชั่วโมงที่ 3) วัดภูเก็ต ที่ไม่ได้อยู่ที่ภูเก็ต วิวสวยอลังมาก ไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล ขอให้เที่ยวได้ตามแพลนที่วางไว้มาเป็นเดือน 555+

13.00 น. (ชั่วโมงที่ 4) ร้านกาแฟไทลื้อที่อยู่ติดกับลำดวนผ้าไทย มาร้านกาแฟแต่ไม่กินกาแฟ วันที่เราไปคนเยอะมาก เดินถ่ายรูปแล้ว แวะไปดูร้านลำดวนผ้าไทยสักนิด แล้วไปต่อกันเลยจ้า

14.00 น. (ชั่วโมงที่ 5) แผนของเราคือไปฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ แต่คิวอาหารยาวไปหน่อย เกรงว่าเราจะไปที่พักไม่ทัน เลยขอเดินถ่ายรูปล่ะกันนะ
ที่จริงคืออยากลองพิซซ่าเห็ดมาก ไว้คราวหน้าแล้วกันเนอะ

15.15 น. (ชั่วโมงที่ 6) มุ่งหน้าต่อไปบ่อเกลือ ระหว่างทางแวะเข้าห้องน้ำที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา สถานที่ดังๆก็คือบ้านเกวียนหลังน้อยๆ น่าจะพอแค่เข้าไปนอนได้อย่างเดียว แต่วิวดี อากาศดีมาก อยู่ใกล้จุดชมวิว เดินไปถ่ายรูปจุดชมวิวได้สบาย ขอบอกว่าห้องน้ำที่นี่สะอาดมากๆ
ค่าเข้าคนล่ะ 40 บาท รถยนต์ 30 บาทจ้า

17.00 น. (ชั่วโมงที่ 8 ) เรากะจะหาข้าวกินก่อนเข้าที่พัก แต่หายังไงก็หาไม่เจอ ไปร้านดังๆที่คนรีวิวก็แล้ว แต่ร้านก็ดันปิด ร้านข้าวหายากมาก จนได้ร้านอาหารตามสั่งหน้าป้ายบ่อเกลือ กินเสร็จเชคบิล ฝนตกจ้า ผิดแผนไปเลย แต่ไม่เป็นไร อีกไม่ไกลก็ถึงที่พักแล้ว
18.30 น.(ชั่วโมงที่ 9) กว่าจะถึงที่พักปาไปเกือบหกโมงครึ่ง แต่ฟ้ายังสว่างอยู่เลย คืนนี้เราพักที่ "บ้านสายหมอกบอกฮัก" เป็นกระโจมอยู่เชิงเขา ต้องขึ้นบันไดไป ออกกำลังกายนิดหน่อย เราพักห้องที่ไม่มีระเบียง แต่วิวก็ยังสวยอยู่ เราเชคอินและเก็บของ แล้วออกไปขับรถเล่นกัน

วิวทุ่งนาสวยๆ บวกกับหมอกจางๆบนยอดเขา อากาศกำลังดีเพราะฝนเพิ่งหยุดตกไป เป็นอะไรที่โหยหามาก เดินเล่นถ่ายรูปไปสักพักฟ้าเริ่มมืด ก็เลยกลับที่พักกันดีกว่า ห้องน้ำที่นี่เป็นแบบห้องน้ำรวมแต่แยกชายหญิง และที่สำคัญเลย มีน้ำอุ่นด้วยนะจ่ะ อาบเสร็จก็นอนเลย เพลียมากเพราะตื่นตั้งแต่ตีสี่เลย หมดวันแรกไปแล้ว ไวเหมือนโกหก แต่วันแรกก็ถือว่าเราได้ไปหลายที่เลยนะ
วันที่สอง
5.50 น. (ชั่วโมงที่ 20) เช้าอีกวันเราตื่นตั้งแต่ยังไม่หกโมง รีบเปิดเต็นท์เพื่อดูวิว เพราะกลัวไม่คุ้ม 555+ แต่ไม่ผิดหวัง วิวสวยมากจริงๆ
ดูวิวได้ตั้งแต่ตื่นเลยทันที อากาศไม่เย็นมาก แต่สดชื่นมากเลยทีเดียว


7.00 น. (ชั่วโมงที่ 22) อาบน้ำล้างหน้าเสร็จเราก็ขับรถออกไปถ่ายวิวที่วัดสะปัน ระหว่างทางวิวดีมาก และทางก็ชันมากเหมือนกัน
แต่พอมาถึงภาพข้างหน้าเป็นทุ่งนาสีเขียวอ่อน ไล่สีกับภูเขาสีเขียวเข้ม โดยที่ยอดเขามีหมอกปกคลุมประปราย รวมกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ถือว่ามาเที่ยวครั้งนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีกค่ะ โชคดีที่เมื่อวานพี่ผู้ชายใจดีแนะนำให้ขึ้นมาถ่ายรูป ถ้าพี่ผ่านมาเห็น ขอบคุณอีกครั้งนะคะ 555+

07.30 น. เราแวะเข้าไปเที่ยวที่น้ำตกสะปัน ต้องเดินขึ้นบันไดไปหน่อย ไม่ไกลมาก แต่ก็มีเหนื่อยเลยแหละ ต้องระวังลื่นนิดนึงจ้า
เราใส่รองเท้าแตะไปเดินยากเลย กลัวลื่นตกเขา 555+

8.00 น. (ชั่วโมงที่ 23) เรากลับมากินอาหารเช้าของที่พัก มีชุดอาหารเช้า+ข้าวต้ม น้ำส้ม และยังสั่งโอวัลตินหรืออเมริกาโน่ได้อีกคนล่ะอย่าง เป็นเช้าที่อิ่มมาก แถมวิวยังสวยอีกด้วย สูดอากาศบริสุทธิ์ กักเก็บเอาอากาศดีๆไว้ในปอดให้ได้มากที่สุด ก่อนกลับกรุงเทพ 555+

09.00 น. (ชั่วโมงที่ 24) เราเก็บของและไปเชคเอ้าท์ ออกจากที่พัก
09.30 น. เรากลับมาแวะบ่อเกลือสินเธาว์ ตรงที่เรากินข้าวเมื่อวาน ซื้อของฝากนิดหน่อย จะได้รู้ว่าเรามาบ่อเกลือของแท้แน่นอน 555+
แล้วก็ออกเดินทางต่อ ขากลับเรากลับทางสันติสุข

ถนนเส้นนี้สวยมาก ไม่แพ้ถนนเส้นไหนเลย วิวข้างทางเห็นแล้วสดชื่นสุดๆ บันทึกไว้เป็นความทรงจำเผื่อเอาไปใช้ตอนรถติดที่กรุงเทพ 55+

11.00 น. (ชั่วโมงที่ 26 ) เราแวะร้านดอยกว่าง ตอนนั้นเริ่มหิว เลยสั่งข้าวผัดกระเพรามากิน อาหารหลักสิบ แต่วิวหลักแสนเลยจ้า

13.00 น. (ชั่วโมงที่ 28) มาถึงสนามบินน่าน คืนรถเช่า ซื้อของฝากที่สนามบินอีกครั้ง 555+ เตรียมตัวขึ้นเครื่อง เครื่องออกตอน 14.00 น.จ้า

ทริป 28 ชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนโกหก แต่เป็นทริปที่ภูมิใจที่สุด ที่ได้เที่ยวตามแผนที่วางไว้ เที่ยวแข่งกับเวลาเราก็ทำได้ คนอื่นอาจมองว่าไม่สนุก แต่สำหรับเรามันสนุกมาก ได้ไปในที่ที่ไม่เคยไป ได้เจออากาศดีๆ สถานที่สวยๆ โดยที่ใช้เวลาไม่มาก ไม่มีข้อกำหนดที่ว่าหาเวลาไปไม่ได้สักที
ลองไปดูแล้วคุณจะรู้ว่า 28 ชั่วโมงก็เที่ยวได้
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 717 บาท/คน
ค่าเช่ารถ 1 วัน + 4 ชม. 900+400 บาท
ค่าน้ำมัน 780 บาท
ค่าที่พัก (ไม่มีระเบียง) 1500 บาท/คืน
ค่ากิน+ของฝาก(ประมาณ) 1000 บาท/คน
ค่าจอดรถสนามบิน 500 บาท
[CR] น่านนี้ 28 ชั่วโมง
เกือบลืมกันเลยทีเดียว เราไปกับแฟน2คน ไปวันที่ 14-15/07/2019 ที่ผ่านมานี้เองจ้า ตัวเลือกของเรามี 2 ตัวเลือกคือ นั่งแท็กซี่ไปสนามบินกับขับรถไปจอดเอง คิดแล้วเอารถไปจอดน่าจะถูกกว่า(ถูกกว่าจริงหรอ555+) งั้นเอารถไปจอดกันเลยจ้า วนไปเลยจ้า หาที่จอดรถ อาคารมี 7ชั้นก็วนไป 7ชั้น ที่จอดหายากมากๆเลย แต่เรามาก่อนเวลาก็เลยไม่ต้องรีบมาก
หลังจากนั้นก็ไปต่อคิวปริ้นบอร์ดดิ้งพาสจากตู้คีออส ทั้งๆที่จริงก็ปริ้นมาแล้วแหละ แต่ลืมเอามา 555+ เดินชิลๆเข้าไปรอในเกท นั่งได้ 15 นาทีก็มีประกาศเรียกขึ้นเครื่อง 555+ เวลาจะเดินไวไปไหน นี่ขนาดวางแผนเวลามาดี แต่ชิลจนลืมเวลาเลย 555+
แต่โต๊ะน้อยไปหน่อย ต้องยืนตากแดดรอคิวเลยทีเดียว
ถ่ายรูปกับซุ้มลีลาวดีที่เค้าฮิตๆกันสักหน่อย
ที่จริงคืออยากลองพิซซ่าเห็ดมาก ไว้คราวหน้าแล้วกันเนอะ
ค่าเข้าคนล่ะ 40 บาท รถยนต์ 30 บาทจ้า
18.30 น.(ชั่วโมงที่ 9) กว่าจะถึงที่พักปาไปเกือบหกโมงครึ่ง แต่ฟ้ายังสว่างอยู่เลย คืนนี้เราพักที่ "บ้านสายหมอกบอกฮัก" เป็นกระโจมอยู่เชิงเขา ต้องขึ้นบันไดไป ออกกำลังกายนิดหน่อย เราพักห้องที่ไม่มีระเบียง แต่วิวก็ยังสวยอยู่ เราเชคอินและเก็บของ แล้วออกไปขับรถเล่นกัน
5.50 น. (ชั่วโมงที่ 20) เช้าอีกวันเราตื่นตั้งแต่ยังไม่หกโมง รีบเปิดเต็นท์เพื่อดูวิว เพราะกลัวไม่คุ้ม 555+ แต่ไม่ผิดหวัง วิวสวยมากจริงๆ
ดูวิวได้ตั้งแต่ตื่นเลยทันที อากาศไม่เย็นมาก แต่สดชื่นมากเลยทีเดียว
แต่พอมาถึงภาพข้างหน้าเป็นทุ่งนาสีเขียวอ่อน ไล่สีกับภูเขาสีเขียวเข้ม โดยที่ยอดเขามีหมอกปกคลุมประปราย รวมกับบรรยากาศที่เงียบสงบ ถือว่ามาเที่ยวครั้งนี้คุ้มยิ่งกว่าคุ้มอีกค่ะ โชคดีที่เมื่อวานพี่ผู้ชายใจดีแนะนำให้ขึ้นมาถ่ายรูป ถ้าพี่ผ่านมาเห็น ขอบคุณอีกครั้งนะคะ 555+
เราใส่รองเท้าแตะไปเดินยากเลย กลัวลื่นตกเขา 555+
09.30 น. เรากลับมาแวะบ่อเกลือสินเธาว์ ตรงที่เรากินข้าวเมื่อวาน ซื้อของฝากนิดหน่อย จะได้รู้ว่าเรามาบ่อเกลือของแท้แน่นอน 555+
แล้วก็ออกเดินทางต่อ ขากลับเรากลับทางสันติสุข
ลองไปดูแล้วคุณจะรู้ว่า 28 ชั่วโมงก็เที่ยวได้
สรุปค่าใช้จ่าย
ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ 717 บาท/คน
ค่าเช่ารถ 1 วัน + 4 ชม. 900+400 บาท
ค่าน้ำมัน 780 บาท
ค่าที่พัก (ไม่มีระเบียง) 1500 บาท/คืน
ค่ากิน+ของฝาก(ประมาณ) 1000 บาท/คน
ค่าจอดรถสนามบิน 500 บาท
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้