ผมควรจะไปต่อหรือพอแค่นี้ดีครับ.....

วันนี้ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟัง เรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผม จะเรียกว่ารักต่างวัยก็คงไม่ผิด แต่ผมกับเขาไม่ได้เป็นแฟนกัน ยังไม่ได้คบกัน เราเป็นเพียงแค่เพื่อนกัน บอกก่อนนะว่าผมกับเขาอายุห่างกันราวๆ 6-7 ปี เขาโตกว่านะ ผมเป็น Fulltime Trader ส่วนเขาก็ทำธุรกิจส่วนตัวครับ เลยทำให้เรามีเวลาให้กันได้ตลอด.... เข้าเรื่องเลยละกัน





ผมเป็นคนที่สอนเกี่ยวกับการลงทุนพวกหุ้นและกองทุนนี่ละครับ วันหนึ่งผมได้จัดสัมมนาแล้วผมเลยได้เจอกันเขา ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรครับ แต่ในตอนจบงานผมมีของรางวัลซึ่งผมนำไปจับสลาก แล้วเขาคนนั้นคือผู้โชคดีของผม บังเอิญไหมละฮ่าๆ, จากนั้นเราก็เริ่มคุยกับในฐานะเพื่อน ผมก็ได้ถามไถ่ว่าเขาเป็นคนจังหวัดไหนอะไรยังไง, พอดีเขาอยู่ในโซนแถวๆภูเก็ต ซึ่งผมนี่เป็นคนที่ไม่เคยเที่ยวภูเก็ตเลย ผมเลยได้เชิญชวนให้เขาพาผมเที่ยว ซึ่งตอนนั้นผมไม่ได้คิดอะไร พอผมไปถึงเขาก็มารับผมที่สนามบิน จากนั้นเราก็ไปเข้าที่พักกัน เราพักกันคนละห้องนะ ห้องผมกับห้องเขาก็ไกลกันพอสมควร, จากนั้นผมก็ออกไปหาอะไรกินกันเที่ยวเล่นกันไปเรื่อย แต่ผมไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวเขาเลยนะ เราไปเที่ยวกัน 4 วัน 3 คืน. ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เพราะผมให้เกียรติเขามาก หลังจากนั้นที่ผมกลับมา เราก็เริ่มคุยกันตลอด บ่อยขึ้นจากเดิม หรือพูดง่ายๆว่า เขาอาจจะไม่กลัวผมแล้วมั้งเพราะผมเป็นคนผอมสูงผิวแทน แล้วเขากลัวคนผิวแทนผิวดำ ผมเป็นคนสม่ำเสมอนะ ผมออกดื่มทุกวันกลับบ้านปุ๊บผมโทรหาเขาตลอดแล้วก็หลับคาสายกรนให้ฟังทุกคืนครับ ทุกเช้าผมเข้าร้านที่รังสิต เพราะผมมีร้านเหล้าที่รังสิต ผมก็โทรหาเขาตลอดระหว่างขับรถ เรียกว่าคุยกันทั้งวัน เขาเป็นคนใส่ใจผมมากเลยนะ บางทีผมยังไม่ตื่นเขาก็โทรมาปลุกตลอด ใส่ใจในรายละเอียดผมทุกอย่าง ซึ่งบอกตรงๆว่าผมประทับใจมากผมก็ใส่ใจเขาทุกอย่างนะ ผมเขียนไดอารี่ถึงเขาทุกวัน รูปถ่ายทุกอย่างผมยังคงเก็บไว้อย่างดีทั้งภาพที่ตั้งใจและแอบถ่ายผมทำไว้เป็นเมมโมรี่เผื่อวันเกิดเขาผมถึงจะเอาให้เขา ซึ่วผมก็ยังไม่รู้เลยว่าผมจะอยู่ถึงไหม ที่ผมเขียนไดอารี่ก็เพราะว่าเผื่อวันหนึ่งเขาได้อ่านมันเขาคงจะเข้าใจในความรู้สึกที่ผมมีให้เขาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ และหลังจากนั้นผมก็พาเขาไปเที่ยวตามสไตล์ผมละ ผมชอบดื่มแต่เขาเป็นคนที่ไม่กินไม่เที่ยวเลยนะ ซึ่งถ้าให้พูดตรงๆคือผมชอบมาก เขาเป็นคนแต่งตัวแนวออกหวานๆไม่ได้แต่งแนววาบหวิวไม่เซ็กซี่. หลังจากกลับมาภูเก็ตผมกับเขาก็เริ่มเจอกันบ่อยขึ้น ไปกินข้าวไปนั่งชิวๆกัน. หลังจากนั้นเราก็ไปเที่ยวพัทยากันครับ เหมือนเดิมก็เที่ยวกันสองคน เหมือนทุกอย่างจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆเป็นลำดับๆ คืนนั้นผมลองเอาไวน์ให้เขาดื่ม เขาเมาแบบทิ้งตัวเลยละครับ แล้วเขาก็ได้เริ่มพูดให้ผมฟังว่าผมเป็นคนยังไง

“ผมจำได้ประมาณว่า เขาบอกผมว่าผมเป็นคนที่ใส่ใจเขามากจำได้ในทุกเรื่องและทุกสิ่ง ดูแลเขาดีทุกอย่าง ปกป้องเขาได้ และก็อีกหลายๆเรื่อง แต่ผมติดใจอยู่เรื่องเดียวก็คือว่า เขาพูดถึงแฟนเก่าเขาเล่าประมาณว่าที่บ้านเขาชอบคนๆนี้มาก ทำไมถึงเลิกกันทำไมถึงไม่กลับไปคบกัน. ผมเลยบอกว่าถ้ายังรักกันอยู่ก็กลับไปคบกันผมจะถอยให้ (เอาจริงๆความรู้สึกตอนนั้นคือผมจุกมากนะ เขามาเที่ยวกับผมแต่เล่าเรื่องแฟนเก่าให้ผมฟัง คือผมเป็นคนแอนตี้พวกเรื่องราวๆเก่าๆครับ) แต่เขาก็บอกผมว่าเขาไม่ได้อยากกลับไปคบแล้ว ผมก็ใจชื้นขึ้นมานิดหน่อย”

ดึกๆดื่นๆผมออกไปดิ่มที่ไหนเขาก็จะตามออกมาหาผม มารับผมกลับบ้านไปนอนตลอดนะ ซึ่งผมชอบมากเอาจริงๆ แบบนี้เขาก็ไม่เคยทำกับใคร และก็ไม่เคยมีใครทำกับผมนะ

หลังจากนั้นทุกอย่างก็เริ่มไปได้สวยครับ จนเราได้นัดกันไปเที่ยวพัทยารอบสอง ซึ่งผมก็ได้พูดความในใจของผมเกี่ยวกับแฟนเก่าของเขา(ผมไม่รู้จักแฟนเก่าเขานะ) ว่าแว่นสายตาและผ้าเช็ดหน้าที่แฟนเก่าเขาเคยซื้อให้ทำไมเขายังคงเก็บไว้และยังคงใช้อยู่, เขาตอบผมมาเพียวแค่ว่ามันคือสิ่งของที่ต้องใช้เขาโตพอเขาแยกแยะได้ ผมก็เลยบอกไปเพียงแค่ว่า “งั้นผมให้เวลา 2 อาทิตย์นะ จัดการทุกอย่างด้วย” หลังจากนั้นครับ 2 อาทิตย์ให้หลัง ผมยังคงเห็นเขาใช้สิ่งของพวกนั้นอยู่เหมือนเดิม แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรนะ จนวันนั้นผมดื่มไปพอประมาณเลยละผมเลยได้พูดไปว่าที่ผมหายไปรึว่าผมไม่รับสายเพราะประเด็นนี้ ทิ้งมันไปได้ไหม. หลังจากนั้นก็ราวๆ 1-2 อาทิตย์ผมก็ไม่เห็นแว่นนั้นอีกละ ได้ข่าวว่าเขาหักทิ้งนะแต่ผมก็ไม่ทราบว่าจริงไหม. และในระหว่างนั้นมันมีประเด็นคือ แฟนเก่าเขาโทรมาดึกๆเวลา ตี 3:11 นาที ผมถามว่าใคร เขาตอบผมว่าเพื่อนเขา ซึ่งเพื่อนเขาโทรมาผมจะรู้ เพราะว่าเขาเมมชื่อไว้ว่าอะไร แต่นี่ผมไม่เคยเห็น ตอนแรกผมก็ไม่ได้อะไรนะ ผมก็คิดเพียวแค่ว่า สงสัยคงจะเพื่อนจริงๆ พอผมเค้นไปเรื่อยๆคนๆนั้นคือแฟนเก่าเขาครับ แฟนเห่าโทรหากันตอนตี 3:11 นาที ผมต้องคิดเป็นอย่างอื่นได้ไหมอะ? และผมขอถามต่อหน่อยเถอะว่าถ้าพวกคุณไม่ได้คุยอะไรกันแล้วจริงๆ ทำไมเขาถึงกล้าโทรมาดึกขนาดนี้. ผมเลยบอกเขาว่างั้นพิสูจน์ให้ผมดูสิโทรหาเขาแล้วประชุมสายมาหาผมถ้าไม่อยากให้ผมโทร เขาก็ไม่โทรบอกว่าลบเบอร์ทิ้งไปแล้ว พอผมถามเบอร์คนนั้นเพราะผมจะโทรไปเคลียร์เขาก็บ่ายเบี่ยงที่จะให้ผม, ทำไมอะ? กลัวผมไประเบิดใส่เขารึ รึว่าเป็นห่วงเขาอยู่ ? ไม่หรอกครับ ผมเพียงแค่จะโทรไปถามเขาว่าดึกๆดื่นๆโทรมาทำไมมีอะไร. พอผมโกรธเขาที่เขาไม่เคลียร์ตรงนี้ให้ผม รึว่าเขายังไม่ทิ้งของพวกนั้นด้วย เขากลับบอกผมมาว่า “ผมเด็กมาก” ใช่ครับผมเด็กมากสำหรับเรื่องแบบนี้ สำหรับผมคือทุกอย่างต้องเริ่มใหม่หมดถ้าคิดจะเริ่มใหม่ ไม่ใช่เก็บสิ่งของเก่าๆไว้. เขาบอกผมตลอดนะว่าคุณจะระแวงเราทำไมเราไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้ว เค้าอยู่กับคุณตลอด 24 ซม. เออลืมบอกไป ผมเคยไปเที่ยงจังหวัดที่ติดกับภูเก็ต ผมไปพักอยู่โรงแรมเขาอยู่กับเขาเป็นเดือนๆ

ผมว่าบางทีเขาอาจจะไม่ได้ผิดก็ได้นะ อาจจะผิดที่ผมเองที่คิดเยอะคิดเล็กคิดน้อยเองมั้ง. หลังจากนั้นผมก็ดื่มหนักขึ้นทุกวันเขาก็ตามผมทุกวันนะทเพียงแค่ผมไม่อยากคุยเพราะผมไม่อยากต้องมาเห็นอะไรแบบนั้นอะ ผมผิดด้วยหรอที่ผมไม่อยากเห็นอะไรแบบนั้นอะ คนรับได้ก็มีนะครับแต่ผมรับไม่ได้. พอเขาเจอผมตอนดื่มที่ไร ผมก็อาจจะพูดแรงๆไปโดนทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว ก็พูดเรื่องเดิมๆนี้ละครับ ไม่มีเรื่องอื่นหรอก. จนวันนี้เราได้คุยกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมเคยดุด่าเคยว่าเขาเรื่องสิ่งของแฟนเก่าเขาและก็เรื่องที่แฟนเก่าเขาโทรมา เพราะผมยังไม่ได้รับการพอสูจน์ ผมเลยบอกเขาว่าทุกอย่างผิดที่ผมเอง ครั้งนี้ผมจะให้เขาตัดสินใจว่าจะอยู่ต่อหรือจะไป แต่ถ้าให้ผมเลือกผมเลือกที่จะอยู่ต่อ ณ ตรงนี้เพราะผมพร้อมที่จะปรับปรุงและแก้ไข แต่ถ้าผมยังคงทำผิดในเรื่องแบบนี้อยู่ ผมจะไม่เอ่ยคำว่าขอโทษ แต่ผมจะจากไปด้วยตัวผมเอง เขาเลยตอบมาว่า เขาไม่ได้เลือกอะไรทั้งนั้น เขาบอกว่าวิ่งที่ผมทำมันคือ Maximum ที่เขารับได้แล้ว ถ้ามีมากกว่านี้เขาคงจะรับไม่ได้. แต่ก็อย่างว่าเนอะ บางทีผมอาจจะจะกลับไปดีเหมือน 1-3 เดือนแรกที่คุยกันใหม่ๆก็ได้ แบบที่ไม่ต้องมีอารมณ์แบบที่มองข้ามผ่านทุกอย่างที่เป็นปัญหาไป. ซึ่งทุกวันนี้เราก็ยังคงคุยกันอยู่นะ ผมอยากให้ทุกอย่างเหมือนเดิมนะ



ประเด็นคือ ผมผิดด้วยหรือที่ผมจะโกรธรึว่าไม่พอใจที่เขายังคงใช้สิ่งของเก่าๆที่แฟนเก่าเขาเคยซื้อให้ ซึ่งผมเป็นคนถอดแว่นให้เขาก่อนนอนแทบจะทุกวัน. ผมแคร์เขามากนะผมเลยบ้าได้มากขนาดนี้ ผมเลยดุด่าว่าเขา เพราะผมไม่ชอบ. แต่ผมก็ยอมรับนะว่าผมผิดในจุดที่ว่าอาจจะมีคำหยาบบ้างบางทีแต่ผมไม่ได้ด่าเขานะ มันเป็นแค่คำอุทานที่ติดในคำพูดที่ผมได้สื่อออกไป อาจทำให้เจาไม่พอใจ หรืออาจจะเป็นเพราะว่าอายุเราต่างกันเลยทำให้มุมมองเรามองต่างกัน.





ผมควรไปต่อรึว่าผมควรจะพอแค่นี้. ผมชอบเขามากนะผมอยากแก้ไขผมอยากปรับปรุง อยากจะลองอีกสักครั้งเผื่อจะมีอะไรดีขึ้น. หรือว่าผมอาจจะเด็กไปจริงๆสำหรับเรื่องแบบนี้ ผมเด็กที่รับไม่ได้ที่เขาใช้ของเก่าๆของแฟนเก่าเขา ผมปิดด้วยหรอ? ผมยอมรับในความผิดที่ผมดุด่าว่าเขานะ แต่ทำไมผมกลับรู้สึกว่าเรื่อวที่ผมโกรธรึว่าไม่พอใจเขามันไม่ใช่ความผิดของผมเลยอะ.


พี่ๆคิดว่าผมควรจะไปต่อ รึว่าผมควรจะทิ้งทุกอย่างไว้แค่นี้ครับ....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่