
ต่อจากกระทู้ที่แล้วครับ หายไปหลายวันเลยพอดีงานยุ่งครับ ต้องขอบอกก่อนตอนนี้จิ่วจ้ายโกวยังปิดอยู่อย่าเพิ่งไปเที่ยวนะครับรอทางการจีนเค้าประกาศเปิดก่อน แต่เราสามารถไปเที่ยวอุทยานหวงหลงได้ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันและวิวสองข้างทางระหว่างไปหวงหลงสวยงามเลยทีเดียว
https://pantip.com/topic/39059488
วันที่5ของการเดินทาง หลังจากเมื่อวานเราเที่ยวในอุทยานจิ่วจ้ายโกวแล้ว เช้าวันนี้เรามีแผนจะไปเที่ยวอุทยานหวงหลงซึ่งห่างจากจิ่วจ้ายโกว 127 กม.แต่เราก็เจอปัญหาว่าช่วงเดือนเมษาเป็นหน้าโลว์ซีซั่นของที่นี่ไม่มีรถบัสบริการไปอุทยานหวงหลง

แต่โชคดีเหลือเกินเมื่อวานตอนเย็นระหว่างเดินกลับที่พักเราเจอป้าย Hostelling International เลยแวะเข้าไปลองถามรถไปหวงหลง มีรถเว้ยเฮ้ย! เป็นรถTaxi ราคาคนละ 130 หยวน ราคานี้เราถือว่าไม่แพงเลยสำหรับการไปเที่ยวส่วนตัวกันสองคน มีไกด์ท้องถิ่นแถมเลี้ยงข้าวกลางวัน

มีบริการขายตั๋วรถบัสไปเมืองต่างๆด้วย เราได้ซื้อตั๋วรถบัสไปเฉิงตูที่นี่เลย ขึ้นรถตอนเช้าแถวๆหน้า Youth Hotel นั่นล่ะ

รถมารับเราที่โรงแรมเวลา 9 โมงเช้า โดยมีคนขับรถกับไกด์นั่งหน้าส่วนเรากับแฟนนั่งหลัง แหมสบายจริงๆแต่อย่าพาเราไปเชือดนะ

รถเริ่มออกจากเมืองจิ่วจ้ายโกวค่อยๆขับขึ้นเขา ได้ข่าวว่าเมื่อคืนหิมะตกบนเขาและเช้าวันนี้ฟ้าใสมาก ทัศนียภาพสองข้างทางสวยจริงๆเราเปิดกระจกถ่ายรูปอย่างมีความสุขมาก เห็นฟ้าใสๆแบบนี้แต่อากาศข้างนอกหนาวมาก

เช้าๆหิมะยังไม่ละลาย แต่ตอนเย็นเรานั่งรถขากลับมาภูเขามีแต่หินและดินแดงๆ

ไกด์พาแวะกินข้าวระหว่างทางที่เมืองชวนจื่อสือ เมืองนี้อยู่ใกล้สนามบินจิ่วจ้ายโกว ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นคนเชื้อสายทิเบต

กินข้าวเสร็จพาเราแวะวัดอะไรไม่รู้ พาเราไปดูงานเขียนภาพสีศิลปะแบบทิเบต พาไปซื้อของนั่นแหละ เกรงใจเลยซื้อมาชิ้นนึง ราคาแอบแพงสงสัยบวกค่าทิปไกด์ บอกแล้วไงอย่าพาเราไปเชือด

ซื้อของฝากเสร็จพาเราไปหวงหลงซะทีสิ ออกจากเมืองชวนจื่อสือขึ้นมาบนเขาหิมะขาวโพลนเลย ทีนี้เป็นเราบ้างบอกให้เค้าแวะจอดถ่ายรูป จอดหลายที่เลยล่ะ

วิวระหว่างทางถ้าหิมะไม่ตกมันเป็นดินแล้งๆเลยนะ โชคดีมากหิมะตกก่อนเราไป

ไหนๆก็มากันสองคนกับแฟนแล้ว แวะถ่ายรูปไปเรื่อยเจอตรงไหนสวยก็จอด

หิมะเริ่มละลายระวังถนนลื่นนะ!

แวะถ่ายรูปตามทางสวยๆทั้งนั้น เมื่อไรจะถึงอุทยานหวงหลงสักทีนี่ก็บ่ายมากแล้วนะ

วิวสวยจริงๆไม่อยากวางกล้องเลย

ถ่ายตอนรถวิ่งรูปมันจะเบลอๆหน่อย


ในที่สุดก็ถึงอุทยานหวงหลงซักที รถมาส่งเราซื้อตั๋วที่ทำการอุทยาน จากนั้นเดินไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนเขา ถ้าไม่อยากเสียค่าขึ้นกระเช้าไฟฟ้าสามารถเดินชมวิวขึ้นไปเที่ยวได้แต่ต้องใช้เวลาเที่ยวที่นี่ทั้งวัน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเลือกขึ้นกระเช้าไฟฟ้ากัน

กระเช้าไฟฟ้าที่อุทยานหวงหลงขึ้นไต่ระดับความสูงชันเลยทีเดียว ผมเริ่มมีอาการแพ้ความสูงตอนนั่งกระเช้าขึ้นมาเพราะไม่ได้กินยาDiamox มั่นใจตัวเองเคยขึ้นภูเขาหิมะมังกรหยกแล้วไม่เห็นเป็นไร ส่วนคุณแฟนไม่เป็นไรเลย ใครมาเที่ยวอุทยานหวงหลงแนะนำทานยาDiamoxก่อนมาเที่ยวนะครับ เดี๋ยวเป็นAMSแล้วจะเที่ยวไม่สนุก ที่นี่ความสูงตั้ง3000-3500จากระดับน้ำทะเล

จากสถานีกระเช้าไฟฟ้าเดินต่อมาอีกประมาณ2กม. ก็จะเจอสระน้ำมังกรเหลือง ตรงนี้ถือเป็นจุดแลนด์มาร์กในการถ่ายรูปอีกที่นึงในอุทยาน

หวงหลง "สระน้ำสวรรค์" เป็นแหล่งมรดกโลกที่สวยงามด้วยภูมิประเทศภูเขาสูงยอดปกคลุมด้วยหิมะ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เกิดจากการที่แผ่นดินเลื่อนตัวเองเข้ามาติดกัน ส่งผลให้หวงหลงกลายเป็นช่วงแนวเขาสุดท้ายเขตที่ราบลุ่มของจีน ทำให้เกิดทัศนียภาพที่น่าตื่นใจของหุบเหวลึกนับพันเมตร ยอดเขาสูงชันที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี โตรกธารน้ำแข็งนับร้อยพันสายที่เลาะเลี้ยวไปตามหุบเขาทุกหนแห่ง อันเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญ 3 สายของจีน ได้แก่ ลำน้ำฝูเจียง หมินเจียง และเจียหลิง (ก่อนบรรจบกันเป็นแม่น้ำแยงซีเกียง)

จากนั้นก็เดินไปไหว้พระที่ศาลเจ้า เค้ากำลังละลายหิมะกันพอดี แอบแชะมาสักรูปนึง

ตอนนั่งกระเช้าขาลงอาการปวดหัวยิ่งมาใหญ่เลย รีบนั่งรถกลับเมืองจิ่วจ้ายโกวทันที ขืนอยู่นานเดี๋ยวอาการหนัก พอมาถึงเมืองจิ่วจ้ายโกวซึ่งมีความสูงแค่สองพันกว่าเมตร อาการAMSของผมก็หายทันที กลับมาถึงโรงแรมก็เกือบมืดแล้วพักผ่อนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องนั่งรถบัสไปเฉิงตู

วันที่6ของการเดินทาง เช้านี้เราขึ้นรถบัสไปเฉิงตู รถวิ่งมาทางเดียวกับทางไปเที่ยวหวงหลงผ่านเมืองชวนจื่อสือ หลังจากนั้นวิ่งลงเขายาวๆวิวสองข้างทางมีแต่ภูเขาหิน(ไม่ได้ถ่ายมา) วันนี้เรานั่งรถเกือบทั้งวันถึงเมืองเฉิงตูก็ตอนเย็นแล้ว

เก็บภาพเด็กๆตอนรถบัสแวะให้เข้าห้องน้ำ

เด็กๆแถวนี้แก้มแดงทุกคนเลย อากาศหนาวแต่แดดแรงครับ

ตอนรถบัสแวะเข้าห้องน้ำระหว่างทางไปเฉิงตู ห้องน้ำยังมีความเป็นจีนร้อยเปอร์เซนต์ ผมไม่ขอบรรยายและถ่ายรูปมาให้ชมแล้วกันนะครับ หลบไปฉี่หลังห้องน้ำดีกว่า เดินไปเจอเจ้าตัวนี้ตกใจเลย ดีนะล่ามโซ่มันไว้

ถึงเฉิงตูหาโรงแรมได้เรียบร้อยแล้ว รีบไปเที่ยวถนนคนเดินจิ๋นหลี่ ( Jin Li ) แต่ก่อนถนนสายนี้เป็นที่ตั้งของ โรงงานผลิตผ้าไหมใหญ่ที่สุดในจีนปัจจุบันเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินขายอาหารทานเล่นพวก ขายของที่ระลึกและอื่นๆ

อีกซอยที่ติดกันจะมีร้านผับ/บาร์ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ บางร้านปิดถึงตี2

ที่ถนนคนเดินมีศาลเจ้าสามก๊ก แต่เราไปถึงเป็นเวลาหัวค่ำศาลเจ้าปิดแล้ว

เดินถนนคนเดินจิ๋นหลี่เสร็จ เราไปเที่ยว Tian Fu Square ที่นี่ห้ามตั้งกล้องถ่ายรูปนะครับ ผมไม่รู้ตั้งกล้องแป้บเดียวตำรวจมาบอกให้หยุดถ่ายเลย โชคดีเค้าไม่ได้ให้ลบรูปทิ้งเลยพอได้รูปมาบ้าง หลังจากนั้นเราก็กลับโรงแรมพักผ่อนกันเลย ยิ่งดึกอากาศข้างนอกมันหนาว

วันที่ 7 ของการเดินทาง เราไปซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูงที่ Chengdu Railway Station จะบอกรถไฟความเร็วสูงจีนทันสมัยเลยทีเดียววิ่งด้วยความเร็ว 300 Km/hr ผู้โดยสารก็น้อย เรานั่งจากเฉิงตูไปฉงชิ่งใช้เวลาแค่ชั่วโมงนิดๆ รถไฟแวะจอดระหว่างทางแค่สถานีเดียว

กลับมาถึงฉงชิ่งแล้ว หลังจากวันแรกของการเดินทางเรายังเก็บที่เที่ยวไม่หมดตั้งใจว่าจะมาเที่ยววันสุดท้าย ปกติเวลาเราเที่ยวแบกเป้จะไปเที่ยวที่ไกลๆก่อน ส่วนที่เที่ยวใกล้ๆจะกลับมาเที่ยวก่อนวันเดินทางกลับจะได้ไม่เหนื่อย หลังจากเก็บกระเป๋าที่โรงแรมเสร็จที่แรกที่ไปเลยคือตึกตะเกียบ ( Chongqing Guatai Arts Center )

ต่อด้วยการไปเดินเล่นริมแม่น้ำแยงซีเกียง บริเวณศูนย์การค้าหงหยาต้ง อากาศกำลังเย็นสบายเลย

ฉงชิ่งเป็นเมืองใหญ่ศูนย์กลางเศรษฐกิจของมณฑลเสฉวน ตึกใหญ่ๆริมแม่น้ำเพียบเลย เมืองนี้คนจีนเค้าบอกว่าเป็นลิตเติ้ลฮ่องกง

และนี่คืออออ หงหยาต้ง (Hongyadong) หนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของมหานครฉงชิ่ง เป็นกลุ่มเรือนไม้โบราณ ขนาดพื้นที่ 46,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ตรงทางแยกของแม่น้ำแยงซีเกียงกับแม่น้ำเจียหลิง มีความโดดเด่นตรงรูปแบบสถาปัตยกรรมท้องถิ่นและประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,300 ปี ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวและตากล้องจำนวนมากมาเก็บภาพ โดยเฉพาะยามค่ำคืนที่มีการเปิดไฟประดับทั่วอาคาร

ลองไปเดินเล่นดูแถวหน้าหงหยาต้งนะครับ มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยๆบรรยากาศโรแมนติก ด้านในตลาดหงหยาต้งผมว่าไม่ค่อยมีอะไร ออกมาชมวิวด้านหน้าจะสวยกว่า

หลังจากชมพระอาทิตย์ตก เราเดินไปเที่ยวย่าน Jia Fang Bei ถือเป็นจุดศูนย์กลางของเมืองเทียบได้กับสยามบ้านเรานั่นล่ะครับ โดยตรงกลางจตุรัสจะมีอนุสาวรีย์ปลดปล่อยประชาชนอยู่ ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์รำลึกถึงชัยชนะในการทำสงครามกับญี่ปุ่น บริเวณนี้จะมีทั้งร้านค้าแบรนด์เนมจำนวนมากให้เราเลือกซื้อรวมไปถึงมีถนนคนเดินร้านแบกะดินขายของอยู่ใกล้ๆกัน เรียกว่าที่นี่ต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบจริงๆ (ในรูปแอบไปถ่ายก่อนไปหงหยาต้งครับ)

จบทริปวงรอบ ฉงชิ่ง จิ่วจ้ายโกว หวงหลง เฉิงตู แล้วครับ เป็นทริปที่ประทับใจเกินความคาดหมายจริงๆ ได้เจอทั้งความสวยงามของธรรมชาติ ความสวยงามและทันสมัยของเมืองจีนยุคใหม่ ทริปนี้เราตั้งใจมาจิ่วจ้ายโกวปกตินักท่องเที่ยวจะบินลงเฉิงตูเพราะใกล้กว่า แต่เราเห็นแอร์เอเชียเปิดเส้นทางใหม่เลยลองมาลงฉงชิ่ง สรุปฉงชิ่งเป็นเมืองที่เที่ยวสนุกมีที่เที่ยวเยอะและค่ารถไฟในเมืองถูกมาก ไม่บรรยายเยอะดีกว่าลองไปเที่ยวดูเองแล้วกันรับรองว่าค่าใช้จ่ายไม่แพง ของจบทริปด้วยรูปแสงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตกที่แม่น้ำแยงซีเกียงเลยแล้วกันนะครับ บรรยากาศตอนนั้นมันฟินมากผมยังคิดถึงอยู่เลย
แวะพูดคุย ชวนเที่ยว ถามข้อมูลการเดินทาง ชมรูปสถานที่ท่องเที่ยวได้ที่เพจผมนะครับ
https://web.facebook.com/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-247053722594507/
[CR] เที่ยว7วันวงรอบเสฉวน ฉงชิ่ง จิ่วจ้ายโกว หวงหลง เฉิงตู แล้วขึ้นรถไฟความเร็วสูงกลับมาฉงชิ่ง EP.2 หวงหลง เฉิงตู ฉงชิ่ง
https://pantip.com/topic/39059488
วันที่5ของการเดินทาง หลังจากเมื่อวานเราเที่ยวในอุทยานจิ่วจ้ายโกวแล้ว เช้าวันนี้เรามีแผนจะไปเที่ยวอุทยานหวงหลงซึ่งห่างจากจิ่วจ้ายโกว 127 กม.แต่เราก็เจอปัญหาว่าช่วงเดือนเมษาเป็นหน้าโลว์ซีซั่นของที่นี่ไม่มีรถบัสบริการไปอุทยานหวงหลง
แวะพูดคุย ชวนเที่ยว ถามข้อมูลการเดินทาง ชมรูปสถานที่ท่องเที่ยวได้ที่เพจผมนะครับ
https://web.facebook.com/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-247053722594507/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้