ສະບາຍດີ…
ไม่ว่าจะสบายดีจริงมั้ย
แต่ทริปนี้บอกได้เลยว่าหัวใจสบายดีและได้พูดว่า "สบายดี" แน่นอน เพราะนี่คือคำทักทายของคนประเทศลาวยังไงล่ะ และแน่นอนว่า ทริปล่าสุดนี้เราแบกเป้1ใบ กับหัวใจ1ดวง ไปผจญภัยในโลกกว้างที่ประเทศลาว
สมาชิกในทริปก็เยอะเหลือเกิน...
มีทั้งหมด 2 คนถ้วน คือเราและน้องเรานั่นเอง 5555
ขอเล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นทริปนี้ก่อนว่า.. มันเกิดจากการที่เราเหมือนคุยเล่นๆ กันไปตามประสา ตั้งแต่ปี 2018
จู่ๆก็มีประโยคที่ว่า “อยากไปเที่ยวลาวว่ะ” จำไม่ได้หรอกนะว่าใครเริ่ม แต่เชื่อเถอะ มันไม่ใช่ประโยคผ่านๆไปแน่นอน เพราะหลังจากนั้นก็คุยกันจริงจังเลยเว้ยว่าเราจะไปช่วง ก.ค. 62 ที่มันหยุดยาวๆนั่นแหละ ตอนนั้นน้องเราติดอย่างเดียวว่า “พี่ ถ้าผมติดทหารก็อาจจะไม่ได้ไปนะ” ตอนนั้นก็ลุ้นแหละว่าน้องเราจะติดมั้ยนะ สรุปก็คือ รอดว่ะ !! เพราะน้องเรารอบอกไม่ถึง เรียกง่ายๆว่า ตัวเล็กนั่นแหละ เลยได้วางแพลนกันอย่างจริงจัง
เริ่มจากการศึกษาหาข้อมูลการเดินทาง เลือกเมืองที่จะไปคือมันเลือกยากจังเว้ย ที่ไหนๆก็น่าไป สุดท้ายไปสรุปจบด้วย “หลวงพระบาง วังเวียง และเวียงจันทร์” ในเวลา 5 วัน 4 คืน !!
เราจองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินลาวแอร์ไลน์ บินจากสุวรรณภูมิ ไปลง หลวงพระบาง (จริงๆ แอร์เอฯ เค้าก็มีโปรเยอะนะ แต่ที่เราเลือกสุวรรณภูมิเพราะมันใกล้บ้าน ก็จ่ายแพงกว่านิดนึงแลกกับการไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นไปดอนเมือง) ส่วนไฟล์ทกลับเลือกลงดอนเมือง เพราะกลับแล้วอะ จะลงไหนก็ได้ไม่ซีเรียส
ป้ะ ป้ะ เดินทางกันเถอะ !!
ขอบอกก่อนเลยว่า ทริปนี้น้องเราเป็น Head ล่ะ
เพราะหาข้อมูลทุกอย่างรวมถึงที่พักด้วย เรียกได้ว่าทริปนี้เราคือผู้ตามที่ดี ^^
Day 1 ສະບາຍດີ…ຫຼວງພຣະບາງ

เราเดินทางด้วยสายการบิน ลาวแอร์ไลน์ ไฟล์ทบิน 10.25 น. ถึงหลวงพระบาง เที่ยงกว่าๆ ก็จำเวลาแน่นอนไม่ได้ ตอนอยู่บนเครื่องกำลังจะหลับเหมือนโดนแม่ปลุกมากินข้าวอะ เพราะแอร์คนสวยเดินมาเสิร์ฟอาหารว่าง อ้ออ บนเครื่องมีเสิร์ฟเบียร์ลาวด้วยอะ ดีจังง

หลังจากผ่านตม.มาแล้ว ก็ไปแลกเงินและซื้อซิม ซิมนี่จะซื้อด้วยเงินไทยก็ได้นะ เราซื้อแบบ 10GB 150 บาท เอาจริงก็ใช้ไม่หมดหรอก แล้วก็แลกเงินไทยไว้ 3,000 บาท ราวๆ 8 แสนกว่ากีบ (รู้สึกรวยจังอ่า จับเงินแสนนนนน 55555555) (บ้าบออออ ฮ่าๆ)

หลังจากมีเงินแล้วก็ไปที่พักก่อนล่ะ เพราะเป้ใบใหญ่ที่แบกมาก็หนักเหลือเกิน เราใช้บริการแท็กซี่ (ที่เป็นรถ mini van) คนละ 20,000 กีบ ไปส่งถึงที่พักเลย
วันแรกเราพักที่ “มายลาวโฮมสเตย์”


ที่พักน่ารัก เดินไปข้างหลังก็คือแม่น้ำ ถนนข้างหน้าถ้าเดินต่อไปอีกนิดก็คือมีย่านร้านค้า ของกิน และวัด ซึ่งกว่าจะรู้ว่ามีทุกอย่างอยู่ตรงที่พักตัวเองก็คือ ปั่นจักรยานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันน่าดู 555555 คือด้วยความงกเราเช่าจักรยานแถวที่พักมา แต่เช่าคันเดียวแล้วซ้อนไปด้วยกัน คือตอนน้องขับก็ดูปลอดภัยดีอะ พอเป็นเราเท่านั้นแหละ แงงงง จะรอดมั้ยว๊า แถมถนนที่นี่ไม่เหมือนบ้านเราตรงที่ เขาขับเลนขวากั๊นนนนน สับสนและมึนงงไปชั่วขณะ 555555

ปั่นไปปั่นมา ไม่รู้ร้านอาหารที่นี่มันไปอยู่ที่ไหนกัน เลยได้แต่แวะแชะรูปไปเรื่อยๆ

สุดท้ายมาเจอย่านน่ารักแถวที่พักนี่แหละ
เอาล่ะ..
หิว ไปกินมื้อเที่ยงกันเถอะ และแน่นอนมาถึงลาวทั้งที !! ต้องกินนนน “พิซซ่า” ใช่ อ่านกันไม่ผิด พิซซ่าค่ะ55555555 เพราะไม่รู้จะกินอะไรแล้วจริงๆ หาร้านข้าวไม่เจอเลยหรืออาจจะไปไม่ถูกแหล่ง แต่หิวแล้วอะ กินเหอะ อย่าเลือกเยอะเลยเดี๋ยวไม่ได้กิน
หน้าตาพิซซ่ามันก็จะประมาณนี้... กินไปกินมาก็อร่อยดี ที่สำคัญเบียร์ลาวเด้อค่ะเด้อ


น้องสั่งมาชิมเบาๆ 1 ขวด เพราะที่ลาวเค้าขึ้นชื่อเรื่องเบียร์มากจริงๆ เราได้แต่นั่งมองตาปริบๆ จบมื้อแรกที่ลาวไปด้วยราคา 140,000 กีบ โดยประมาณ
ตอนแรกก็ตกใจ หู้ยยยย แพงจังอะ พอแปลงค่าเป็นเงินไทย ก็ประมาณ 400-500 บาท เอ้อออ
ค่อยโล่งใจ แต่ก็ ห๊ะ !! แพงอยู่ดี 55555555555
ต่อค่ะต่อ... ไปวัดพระธาตุพูสี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง มีค่าเข้าชม คนละ 20,000 กีบนะ

เราสามารถเดินขึ้นไปบนยอดเขาพูสีได้ไม่ยากเพราะมีบันไดเป็นขั้นๆ รวมกันแล้วก็ประมาณ 328 ขั้นเท่านั้น เน้นว่า 328 ขั้นเท่านั้น (อันนี้ก็ไม่แน่ใจว่าเป๊ะมั้ย ไปลอกมาจากกูเกิ้ลเหมือนกัน) เบๆ ชิวๆ สิวๆ แต่ลงมาแล้วขาสั่น 555555 จะสูงกี่ขั้นก็ช่างเหอะ แต่มันเดินง่าย คุณลุงคุณป้าแก็เดินไหว และที่สำคัญวิวข้างบนนี้มันดีมากค่ะคุณขา


ตรงนี้เรียกว่ามุมมหาชนเลยทีเดียว เราไม่รีบเลยรอให้คนอื่นถ่ายเสร็จ แล้วค่อยมาถ่ายชิวๆ มองวิวไปเรื่อย


หลังจากถ่ายรูปและชื่นชมวิวทิวทัศน์กันจนอิ่มอกอิ่มใจ ก็เดินลงไปข้างล่าง เห็นเค้ากำลังตั้งตลาดกันพอดี แต่ก็กำลังตั้งเลยยังไม่มีอะไรให้ดู เลยคุยกันว่าเรากลับไปที่พักไปหาวิธีเดินทางที่จะไปวังเวียงพรุ่งนี้กันดีกว่า

เรามาถามที่ Reception ที่พักเราก่อน สรุปเค้ามีคำตอบให้เราจริงๆ ก็คือ เดี๋ยวเค้าจองให้แล้วมีรถมารับที่ที่พักเลย ค่ารถคนละ 120,000 กีบ มั้งนะ
ถ้าจำไม่ผิด แต่ว่ารอบรถที่จะไปก็คือ 08.00 น. จริงๆก็ไม่ติดอะไรแหละ แต่เสียดายเวลา กะว่ามีรอบสายๆหน่อย เช้าจะได้เที่ยวหลวงพระบางอีกนิด
พอเราได้รถสำหรับพรุ่งนี้แล้ว ไม่รู้จะไปไหน เลยว่าจะเอาจักรยานไปคืนแล้วเปลี่ยนเป็นเดินแทน เริ่มเย็นแล้วอากาศก็เย็นๆ กำลังดี ฟีลแบบเหมือนทางภาคเหนือที่ไทยอะค่ะ น้องบอกว่าฟีลเหมือนเชียงคานเลย

มาเดินเล่นตลาดไม่รู้เรียกว่าไร ถนนคนเดินรึป่าวนะ แต่ของน่ารักเยอะเลย ส่วนมากก็จะขายซ้ำๆกัน เป็นเสื้อ กระเป๋า พวงกุญแจ ของจุกจิกต่างๆ

เดินเล่นไปรอบนึงก็ไปหาอะไรกิน (อีกแล้ว) เดินเข้าตรอกซอกของกิน ไปๆมาๆ จบที่อยากกินปลา และมาถึงหลวงพระบางก็ต้องกินตำหลวงพระบางแล้วป้ะแกรรรรร

ท้องอิ่มสบายใจ กลับไปพักที่ที่ห้อง ไม่รู้จะไปไหนกันดี เอาจริงๆก็มีที่ให้ไปแหละ น้ำตกอะไรสักอย่างแต่มันไกลไปหลายกิโล ประกอบกับมืดแล้ว เลยไม่รู้จะไปไหน



พรุ่งนี้เช้าค่อยว่ากันใหม่... แอบเสียดายเหมือนกันแหละ ยังไม่ค่อยจุใจกับที่นี่เลย...
แบกเป้เที่ยว "หลวงพระบาง-วังเวียง-เวียงจันทร์" 5วัน4คืน
ไม่ว่าจะสบายดีจริงมั้ย
แต่ทริปนี้บอกได้เลยว่าหัวใจสบายดีและได้พูดว่า "สบายดี" แน่นอน เพราะนี่คือคำทักทายของคนประเทศลาวยังไงล่ะ และแน่นอนว่า ทริปล่าสุดนี้เราแบกเป้1ใบ กับหัวใจ1ดวง ไปผจญภัยในโลกกว้างที่ประเทศลาว
สมาชิกในทริปก็เยอะเหลือเกิน...
มีทั้งหมด 2 คนถ้วน คือเราและน้องเรานั่นเอง 5555
ขอเล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นทริปนี้ก่อนว่า.. มันเกิดจากการที่เราเหมือนคุยเล่นๆ กันไปตามประสา ตั้งแต่ปี 2018
จู่ๆก็มีประโยคที่ว่า “อยากไปเที่ยวลาวว่ะ” จำไม่ได้หรอกนะว่าใครเริ่ม แต่เชื่อเถอะ มันไม่ใช่ประโยคผ่านๆไปแน่นอน เพราะหลังจากนั้นก็คุยกันจริงจังเลยเว้ยว่าเราจะไปช่วง ก.ค. 62 ที่มันหยุดยาวๆนั่นแหละ ตอนนั้นน้องเราติดอย่างเดียวว่า “พี่ ถ้าผมติดทหารก็อาจจะไม่ได้ไปนะ” ตอนนั้นก็ลุ้นแหละว่าน้องเราจะติดมั้ยนะ สรุปก็คือ รอดว่ะ !! เพราะน้องเรารอบอกไม่ถึง เรียกง่ายๆว่า ตัวเล็กนั่นแหละ เลยได้วางแพลนกันอย่างจริงจัง
เริ่มจากการศึกษาหาข้อมูลการเดินทาง เลือกเมืองที่จะไปคือมันเลือกยากจังเว้ย ที่ไหนๆก็น่าไป สุดท้ายไปสรุปจบด้วย “หลวงพระบาง วังเวียง และเวียงจันทร์” ในเวลา 5 วัน 4 คืน !!
เราจองตั๋วเครื่องบินกับสายการบินลาวแอร์ไลน์ บินจากสุวรรณภูมิ ไปลง หลวงพระบาง (จริงๆ แอร์เอฯ เค้าก็มีโปรเยอะนะ แต่ที่เราเลือกสุวรรณภูมิเพราะมันใกล้บ้าน ก็จ่ายแพงกว่านิดนึงแลกกับการไม่ต้องแหกขี้ตาตื่นไปดอนเมือง) ส่วนไฟล์ทกลับเลือกลงดอนเมือง เพราะกลับแล้วอะ จะลงไหนก็ได้ไม่ซีเรียส
ป้ะ ป้ะ เดินทางกันเถอะ !!
ขอบอกก่อนเลยว่า ทริปนี้น้องเราเป็น Head ล่ะ
เพราะหาข้อมูลทุกอย่างรวมถึงที่พักด้วย เรียกได้ว่าทริปนี้เราคือผู้ตามที่ดี ^^
Day 1 ສະບາຍດີ…ຫຼວງພຣະບາງ
หลังจากมีเงินแล้วก็ไปที่พักก่อนล่ะ เพราะเป้ใบใหญ่ที่แบกมาก็หนักเหลือเกิน เราใช้บริการแท็กซี่ (ที่เป็นรถ mini van) คนละ 20,000 กีบ ไปส่งถึงที่พักเลย
วันแรกเราพักที่ “มายลาวโฮมสเตย์”
ที่พักน่ารัก เดินไปข้างหลังก็คือแม่น้ำ ถนนข้างหน้าถ้าเดินต่อไปอีกนิดก็คือมีย่านร้านค้า ของกิน และวัด ซึ่งกว่าจะรู้ว่ามีทุกอย่างอยู่ตรงที่พักตัวเองก็คือ ปั่นจักรยานเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันน่าดู 555555 คือด้วยความงกเราเช่าจักรยานแถวที่พักมา แต่เช่าคันเดียวแล้วซ้อนไปด้วยกัน คือตอนน้องขับก็ดูปลอดภัยดีอะ พอเป็นเราเท่านั้นแหละ แงงงง จะรอดมั้ยว๊า แถมถนนที่นี่ไม่เหมือนบ้านเราตรงที่ เขาขับเลนขวากั๊นนนนน สับสนและมึนงงไปชั่วขณะ 555555
สุดท้ายมาเจอย่านน่ารักแถวที่พักนี่แหละ
เอาล่ะ..
หิว ไปกินมื้อเที่ยงกันเถอะ และแน่นอนมาถึงลาวทั้งที !! ต้องกินนนน “พิซซ่า” ใช่ อ่านกันไม่ผิด พิซซ่าค่ะ55555555 เพราะไม่รู้จะกินอะไรแล้วจริงๆ หาร้านข้าวไม่เจอเลยหรืออาจจะไปไม่ถูกแหล่ง แต่หิวแล้วอะ กินเหอะ อย่าเลือกเยอะเลยเดี๋ยวไม่ได้กิน
หน้าตาพิซซ่ามันก็จะประมาณนี้... กินไปกินมาก็อร่อยดี ที่สำคัญเบียร์ลาวเด้อค่ะเด้อ
ตอนแรกก็ตกใจ หู้ยยยย แพงจังอะ พอแปลงค่าเป็นเงินไทย ก็ประมาณ 400-500 บาท เอ้อออ
ค่อยโล่งใจ แต่ก็ ห๊ะ !! แพงอยู่ดี 55555555555
ต่อค่ะต่อ... ไปวัดพระธาตุพูสี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงพระบาง มีค่าเข้าชม คนละ 20,000 กีบนะ
ตรงนี้เรียกว่ามุมมหาชนเลยทีเดียว เราไม่รีบเลยรอให้คนอื่นถ่ายเสร็จ แล้วค่อยมาถ่ายชิวๆ มองวิวไปเรื่อย
เรามาถามที่ Reception ที่พักเราก่อน สรุปเค้ามีคำตอบให้เราจริงๆ ก็คือ เดี๋ยวเค้าจองให้แล้วมีรถมารับที่ที่พักเลย ค่ารถคนละ 120,000 กีบ มั้งนะ
ถ้าจำไม่ผิด แต่ว่ารอบรถที่จะไปก็คือ 08.00 น. จริงๆก็ไม่ติดอะไรแหละ แต่เสียดายเวลา กะว่ามีรอบสายๆหน่อย เช้าจะได้เที่ยวหลวงพระบางอีกนิด
พอเราได้รถสำหรับพรุ่งนี้แล้ว ไม่รู้จะไปไหน เลยว่าจะเอาจักรยานไปคืนแล้วเปลี่ยนเป็นเดินแทน เริ่มเย็นแล้วอากาศก็เย็นๆ กำลังดี ฟีลแบบเหมือนทางภาคเหนือที่ไทยอะค่ะ น้องบอกว่าฟีลเหมือนเชียงคานเลย
มาเดินเล่นตลาดไม่รู้เรียกว่าไร ถนนคนเดินรึป่าวนะ แต่ของน่ารักเยอะเลย ส่วนมากก็จะขายซ้ำๆกัน เป็นเสื้อ กระเป๋า พวงกุญแจ ของจุกจิกต่างๆ
เดินเล่นไปรอบนึงก็ไปหาอะไรกิน (อีกแล้ว) เดินเข้าตรอกซอกของกิน ไปๆมาๆ จบที่อยากกินปลา และมาถึงหลวงพระบางก็ต้องกินตำหลวงพระบางแล้วป้ะแกรรรรร
ท้องอิ่มสบายใจ กลับไปพักที่ที่ห้อง ไม่รู้จะไปไหนกันดี เอาจริงๆก็มีที่ให้ไปแหละ น้ำตกอะไรสักอย่างแต่มันไกลไปหลายกิโล ประกอบกับมืดแล้ว เลยไม่รู้จะไปไหน