ทริปมาเก๊าครั้งนี้ถือกำเนิดขึ้นมาหลังจากที่ไม่ได้ไปมาเก๊ามาประมาณเกือบสี่ปีแล้ว คิดว่าถึงเวลาที่เราต้องกลับไปอัพเดตอะไรใหม่ๆ บ้างแล้วล่ะ แต่เนื่องจากเวลามีน้อยแค่ประมาณ 2 วัน 2 คืนเท่านั้น คือเน้นไปพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศมากกว่า ดังนั้นก็เลยอาจจะเขียนรีวิวอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน นอกจากที่พักในมาเก๊าครั้งนี้ซึ่งผู้ร่วมทริปสำทับมาเลยว่า...กลับไปเขียนรีวิวตอบแทนความดีงามให้เค้าด้วย!
ทริปนี้เราพักกันที่
Ole London Hotel ซึ่งถือว่าเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง (จริงๆ โรงแรมในมาเก๊ามันมีให้เลือกไม่เยอะด้วยแหละ 5555) มาดูบรรยากาศของโรงแรมและสภาพห้องพักกันค่ะ ด้านหน้าโรงแรมก็จะเป็นสีส้มๆ อมเหลืองแบบนี้ โดดเด่นมากในย่านนี้
จากนั้นก็ขึ้นไปดูห้องกันค่ะ อ้อ ที่นี่มีลิฟต์ให้ด้วยนะคะ ใครมีกระเป๋าใบใหญ่มาไม่ต้องเป็นห่วง
ตอนแรกมีสนใจที่อื่นอีก 2-3 ที่เพราะโรงแรมเหล่านั้นมีขนาดห้องกว้างกว่า แต่พอมาเจอตัวห้องพักของ Ole London จริงๆ แล้วก็ไม่แย่นะ ด้านในห้องถือว่าไม่กว้างมาก เรียกว่าขนาดกะทัดรัด กางกระเป๋าเก็บของรื้อของได้สบายค่ะ ห้องค่อนข้างสะอาดด้วย ไม่ว่าจะผ้าปูที่นอน บนพื้นห้อง หรือในห้องน้ำก็ตาม
มีห้องให้เลือกทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ราคาต่างกันเล็กน้อย เราเลือกที่จะเพิ่มเงินในหลักร้อยเพื่อเอา Twin bed จะได้นอนสบายๆ หน่อย ราคาที่ทำการจองและจ่ายเงินไปคือ 2,200 บาทค่ะ (จองล่วงหน้าประมาณหนึ่งเดือน) ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์จะแพงขึ้นกว่านี้แต่ก็เป็นปกติของโรงแรมในมาเก๊าอยู่แล้ว
ส่วนเตียงนอนที่เราเรียกว่าเตียงสูบวิญญาณ ถือว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่ประทับใจ คือมันไม่แข็งจนเกินไป แต่ก็ไม่นิ่มจนที่นอนยวบลง เป็นความนุ่มระดับกลางๆ ที่นอนหลับสบายตลอดทั้งคืนเลยค่ะ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้องพัก ถือว่ามีให้ครบเลยค่ะทั้งทีวี ไดร์เป่าผม โต๊ะตัวเล็กๆ ที่มีน้ำเปล่าตั้งไว้ให้ รวมทั้งกาต้มน้ำ ชาซอง แก้วน้ำ
ห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก แน่นอนว่ามีผ้าขนหนูให้ มีครีมอาบน้ำ สบู่ แปรงฟันยาสีฟันขนาดพกพา หวี คอตตอนบัด และที่สไบเล็บ(?) มั้ง
มาถึงบทสรุปกันเลย...
สิ่งที่ชอบ
-ความน่ารักของพนักงานและนโยบายของโรงแรม เราออกเดินทางจากสนามบินมาเก๊ามาที่นี่ตั้งแต่เช้า สภาพก็จะคล้ายๆ ซอมบี้หน่อย ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะฝากกระเป๋าไว้ก่อนเสร็จแล้วไปเดินเล่นแล้วค่อยกลับมาเช็คอินตอนบ่ายสอง แต่ก็ต้องเซอร์ไพร์สมากเมื่อพนักงานบอกว่ามีห้องพักที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้เราเข้าห้องได้เลยโดยไม่ต้องอยู่รอตามกำหนดเช็คอิน เราก็เอาของไปเก็บในห้องอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นซะหน่อยแล้วออกมาเที่ยว อันนี้คือดีมากเลยอ่ะ เป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ค่อนข้างประทับใจกับโรงแรมนี้ ไม่มีกั๊กห้องไว้ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะไม่ได้ทุกคนเสมอไป ต้องรอว่าเค้ามีห้องว่างไหมนะคะ)
-ไม่เก็บค่ามัดจำ ปกติโรงแรมในมาเก๊าจะเก็บมัดจำค่าห้องหรือค่าคีย์การ์ดอย่างต่ำก็ 250 Mop บ้าง 500 Mop บ้าง ซื่งถือว่าค่อนข้างโหดอยู่นะ แทนที่จะเอาเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ก็ต้องเอามาวางประกันไว้ กว่าจะได้คืนก็ตอนเช็กเอาต์โน่นแหละ แต่สำหรับที่นี่คือไม่ต้องมีมัดจำค่ะ ถือว่าใจๆ ให้แขกผู้เข้าพักในระดับหนึ่งเลย
-เดินไปเซนาโด้สแควร์ง่ายมาก นี่คือเดินไปเซนาโด้ทุกวัน กินๆ ช็อปๆ ชีวิตวนๆ เวียนๆ อยู่แต่ที่นั่นทั้งสองวันจนเป็นสาเหตุให้ไม่ค่อยได้ไปที่อื่นเลย 555
-เดินทางสะดวก คือใกล้ๆ ที่พักมีเซเว่นแล้วหน้าเซเว่นก็ยังมีป้ายรถเมล์อีก จากป้ายนี้ไปวัดอาม่าแค่อีก 2-3 ป้าย หรือนั่งไปสนามบินได้
ก่อนหน้ามีบริการรถฟรีของเวนเชี่ยนนั่งมาแถวโรงแรมได้แต่ล่าสุดเห็นว่าเค้ายกเลิก เราเข้าไปดูในเว็บของเวเนเชี่ยนเองก็ไม่เจอเส้นทางนี้แล้ว
สุดท้ายเลยตัดสินใจใช้บริการรถเมล์แทน ราคาเพียงแค่ 6 Mop เท่านั้น ถ้าใช้ Macau pass แตะจ่ายก็ลดราคาไปอีก รถเมล์มาเก๊าจะขึ้นชื่อเรื่องความซิ่งหน่อยๆ ขามาจากสนามบินไม่ค่อยลำบากมากเพราะคนเยอะ รอจนคนขึ้นรถครบแล้วสักพักรถถึงออก ส่วนขากลับจ่ายเงินแล้วรีบหาที่นั่งหรือคว้าเสาไว้ให้มั่นเลยค่ะ!
แนะนำโหลดแอพรถเมล์มาเก๊าติดมือถือไว้ค่ะเพราะมีการเปลี่ยนแปลงป้ายรถเมล์ตลอด รถไม่จอดทุกป้าย บางสายจอดป้ายนี้ไม่จอดป้ายนั้น เราก็หลงๆ งงๆ อยู่หลายรอบ เรียกว่าลงผิดป้ายเกือบทุกรอบ...แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก แค่เดินย้อนกลับไป หรือเดินหน้าต่อไปอีกป้ายสองป้ายแค่นั้นเองค่ะ //กัดฟันกรอด
ข้อเสียที่พบ แต่ก็เป็นอะไรที่เล็กน้อยมาก เช่น แสงไฟเป็นสีเหลืองนวลออกสลัวๆ หน่อย อยากให้สว่างกว่านี้สักนิดนุง คือเป็นห้องที่เหมาะสำหรับการนอนหลับพักผ่อนจริงๆ ถ้าต้องการทำงานหรืออ่านหนังสืออาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยโอเค
พอหักลบแล้วก็ยังมีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น โดยรวมเลยเป็นที่พักที่ประทับใจมากๆ ค่ะ
.............................................................................
หากมีข้อสงสัยหรือสนใจอยากพูดคุยกันต่อ แวะมาที่เพจเล็กๆ ของเราได้ค่ะ
"โตแล้วจะเที่ยวยังไงก็ได้"
https://www.facebook.com/woman.can.go.anywhere/
[CR] [Review] Ole London Hotel, Macau ที่พักดีๆ ในมาเก๊าที่อยากแนะนำ
ทริปนี้เราพักกันที่ Ole London Hotel ซึ่งถือว่าเป็นโรงแรมที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในระดับหนึ่ง (จริงๆ โรงแรมในมาเก๊ามันมีให้เลือกไม่เยอะด้วยแหละ 5555) มาดูบรรยากาศของโรงแรมและสภาพห้องพักกันค่ะ ด้านหน้าโรงแรมก็จะเป็นสีส้มๆ อมเหลืองแบบนี้ โดดเด่นมากในย่านนี้
จากนั้นก็ขึ้นไปดูห้องกันค่ะ อ้อ ที่นี่มีลิฟต์ให้ด้วยนะคะ ใครมีกระเป๋าใบใหญ่มาไม่ต้องเป็นห่วง
ตอนแรกมีสนใจที่อื่นอีก 2-3 ที่เพราะโรงแรมเหล่านั้นมีขนาดห้องกว้างกว่า แต่พอมาเจอตัวห้องพักของ Ole London จริงๆ แล้วก็ไม่แย่นะ ด้านในห้องถือว่าไม่กว้างมาก เรียกว่าขนาดกะทัดรัด กางกระเป๋าเก็บของรื้อของได้สบายค่ะ ห้องค่อนข้างสะอาดด้วย ไม่ว่าจะผ้าปูที่นอน บนพื้นห้อง หรือในห้องน้ำก็ตาม
มีห้องให้เลือกทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงคู่ราคาต่างกันเล็กน้อย เราเลือกที่จะเพิ่มเงินในหลักร้อยเพื่อเอา Twin bed จะได้นอนสบายๆ หน่อย ราคาที่ทำการจองและจ่ายเงินไปคือ 2,200 บาทค่ะ (จองล่วงหน้าประมาณหนึ่งเดือน) ถ้าเป็นวันเสาร์อาทิตย์จะแพงขึ้นกว่านี้แต่ก็เป็นปกติของโรงแรมในมาเก๊าอยู่แล้ว
ส่วนเตียงนอนที่เราเรียกว่าเตียงสูบวิญญาณ ถือว่าเป็นอีกจุดหนึ่งที่ประทับใจ คือมันไม่แข็งจนเกินไป แต่ก็ไม่นิ่มจนที่นอนยวบลง เป็นความนุ่มระดับกลางๆ ที่นอนหลับสบายตลอดทั้งคืนเลยค่ะ
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้องพัก ถือว่ามีให้ครบเลยค่ะทั้งทีวี ไดร์เป่าผม โต๊ะตัวเล็กๆ ที่มีน้ำเปล่าตั้งไว้ให้ รวมทั้งกาต้มน้ำ ชาซอง แก้วน้ำ
ห้องน้ำแยกส่วนแห้งส่วนเปียก แน่นอนว่ามีผ้าขนหนูให้ มีครีมอาบน้ำ สบู่ แปรงฟันยาสีฟันขนาดพกพา หวี คอตตอนบัด และที่สไบเล็บ(?) มั้ง
มาถึงบทสรุปกันเลย...
สิ่งที่ชอบ
-ความน่ารักของพนักงานและนโยบายของโรงแรม เราออกเดินทางจากสนามบินมาเก๊ามาที่นี่ตั้งแต่เช้า สภาพก็จะคล้ายๆ ซอมบี้หน่อย ตอนแรกตั้งใจไว้ว่าจะฝากกระเป๋าไว้ก่อนเสร็จแล้วไปเดินเล่นแล้วค่อยกลับมาเช็คอินตอนบ่ายสอง แต่ก็ต้องเซอร์ไพร์สมากเมื่อพนักงานบอกว่ามีห้องพักที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ให้เราเข้าห้องได้เลยโดยไม่ต้องอยู่รอตามกำหนดเช็คอิน เราก็เอาของไปเก็บในห้องอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นซะหน่อยแล้วออกมาเที่ยว อันนี้คือดีมากเลยอ่ะ เป็นปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ค่อนข้างประทับใจกับโรงแรมนี้ ไม่มีกั๊กห้องไว้ (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะไม่ได้ทุกคนเสมอไป ต้องรอว่าเค้ามีห้องว่างไหมนะคะ)
-ไม่เก็บค่ามัดจำ ปกติโรงแรมในมาเก๊าจะเก็บมัดจำค่าห้องหรือค่าคีย์การ์ดอย่างต่ำก็ 250 Mop บ้าง 500 Mop บ้าง ซื่งถือว่าค่อนข้างโหดอยู่นะ แทนที่จะเอาเงินไปใช้จ่ายอย่างอื่นได้ก็ต้องเอามาวางประกันไว้ กว่าจะได้คืนก็ตอนเช็กเอาต์โน่นแหละ แต่สำหรับที่นี่คือไม่ต้องมีมัดจำค่ะ ถือว่าใจๆ ให้แขกผู้เข้าพักในระดับหนึ่งเลย
-เดินไปเซนาโด้สแควร์ง่ายมาก นี่คือเดินไปเซนาโด้ทุกวัน กินๆ ช็อปๆ ชีวิตวนๆ เวียนๆ อยู่แต่ที่นั่นทั้งสองวันจนเป็นสาเหตุให้ไม่ค่อยได้ไปที่อื่นเลย 555
-เดินทางสะดวก คือใกล้ๆ ที่พักมีเซเว่นแล้วหน้าเซเว่นก็ยังมีป้ายรถเมล์อีก จากป้ายนี้ไปวัดอาม่าแค่อีก 2-3 ป้าย หรือนั่งไปสนามบินได้
ก่อนหน้ามีบริการรถฟรีของเวนเชี่ยนนั่งมาแถวโรงแรมได้แต่ล่าสุดเห็นว่าเค้ายกเลิก เราเข้าไปดูในเว็บของเวเนเชี่ยนเองก็ไม่เจอเส้นทางนี้แล้ว
สุดท้ายเลยตัดสินใจใช้บริการรถเมล์แทน ราคาเพียงแค่ 6 Mop เท่านั้น ถ้าใช้ Macau pass แตะจ่ายก็ลดราคาไปอีก รถเมล์มาเก๊าจะขึ้นชื่อเรื่องความซิ่งหน่อยๆ ขามาจากสนามบินไม่ค่อยลำบากมากเพราะคนเยอะ รอจนคนขึ้นรถครบแล้วสักพักรถถึงออก ส่วนขากลับจ่ายเงินแล้วรีบหาที่นั่งหรือคว้าเสาไว้ให้มั่นเลยค่ะ!
แนะนำโหลดแอพรถเมล์มาเก๊าติดมือถือไว้ค่ะเพราะมีการเปลี่ยนแปลงป้ายรถเมล์ตลอด รถไม่จอดทุกป้าย บางสายจอดป้ายนี้ไม่จอดป้ายนั้น เราก็หลงๆ งงๆ อยู่หลายรอบ เรียกว่าลงผิดป้ายเกือบทุกรอบ...แต่ก็ไม่ได้อะไรมาก แค่เดินย้อนกลับไป หรือเดินหน้าต่อไปอีกป้ายสองป้ายแค่นั้นเองค่ะ //กัดฟันกรอด
ข้อเสียที่พบ แต่ก็เป็นอะไรที่เล็กน้อยมาก เช่น แสงไฟเป็นสีเหลืองนวลออกสลัวๆ หน่อย อยากให้สว่างกว่านี้สักนิดนุง คือเป็นห้องที่เหมาะสำหรับการนอนหลับพักผ่อนจริงๆ ถ้าต้องการทำงานหรืออ่านหนังสืออาจจะรู้สึกว่าไม่ค่อยโอเค
พอหักลบแล้วก็ยังมีแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น โดยรวมเลยเป็นที่พักที่ประทับใจมากๆ ค่ะ
.............................................................................
หากมีข้อสงสัยหรือสนใจอยากพูดคุยกันต่อ แวะมาที่เพจเล็กๆ ของเราได้ค่ะ
"โตแล้วจะเที่ยวยังไงก็ได้"
https://www.facebook.com/woman.can.go.anywhere/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้