ไขข้อข้องใจ ทำไมชุดเยือนอาร์เซน่อล จึงมีแต่สีเหลือง และสีน้ำเงินเยอะไปหมด

สวัสดีชาวพันทิปทุกท่าน และโดยเฉพาะแฟนอาร์เซน่อลนะครับ

ซึ่งชุดเหย้านี่ปกติอยู่แล้ว แดง-ขาว ที่ว่ากันว่าต้นแบบของชุด มีแรงบันดาลใจมาจากช่วงปี 1988-1990 ที่ตอนนั้นก็เป็นชุดของอาดิดาสนี่แหละครับ

(ภาพ: ชุดเหย้าของอาร์เซน่อลในช่วงปี 1988-90 โดยอาดิดาส เครดิตตามภาพ)

(ภาพ: ดานิเอเล่ คาร์เตอร์ ของทีม อาร์เซน่อล เลดีส์ กับชุดเหย้าล่าสุด จาก Arseblog News)

ส่วนชุดเยือนนั้น ชุดเยือนหลักออกมาแล้ว มันคือการคืนชีพ "ลายกล้วย" ในตำนาน กลับมาอีกครั้ง ด้วยดีไซน์ที่โมเดิร์นขึ้นกว่าเดิม

รวมไปถึงหรือชุดสาม หรือชุดเยือนยุโรป ที่ชัดเจนแล้วว่า จะเป็นเสื้อสีน้ำเงินกรมท่า

และด้วยการที่ชุดเยือนสีเหลือง รวมไปถึงชุดสีน้พเงิน กลับมาสะกิดความเป็นแฟนบอลของคนที่พบเห็น จนทำให้บางคน (รวมไปถึงคนทำกระทู้นี้ด้วยหละครับ ที่สงสัย) เกิดคำถามว่า เฮ้ยทำไมชุดเยือนของอาร์เซน่อลชุดเยือน มักจะใช้แต่สีเหลือง และก็สีน้ำเงินเป็นหลัก? เยอะแยะเต็มไปหมดเลย

ผมที่ได้ทำบทความนี้ลงไปใน https://www.facebook.com/TheEnglishGraveyard/ บนเฟซบุ๊กไปแล้ว จะพาไปอ่านที่มาคร่าว ๆ โดยในพันทิปจะเพิ่มรูปประกอบให้เห็นชัดมากขึ้นด้วย

ซึ่งในส่วนของข้อมูลที่นำมานี้ ขอยกความดีความชอบให้แหล่งข้อมูลอย่าง dailycannon และ historicalkits ครับ

ที่มาของภาพที่นำมาแปะรวม:

Aobongda, Arsenal (Official), Classic Football Shirts, DW Shop, Historicalkits, Kitbliss, The Mirror, Soccerloco และอื่น ๆ ที่อาจตกหล่นไป ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

เริ่มที่ชุดเยือนชุดแรกในประวัติศาสตร์ของทีมนั้น เกิดขึ้นในวันที่ 17 ธันวาคม ปี 1892 ที่เจอกับ นอตติงแฮม ฟอเรสต์ ซึ่งทีมนั้น ได้ไปใส่เสื้อเชิร์ตแบบลายขวาง ขาว-ดำ กางเกงสีเจ้าท่าหรือน้ำเงินเข้ม และถุงเท้าดำ ซึ่งถ้าใครได้อ่านประวัติสโมสรคร่าว ๆ มาก่อน จะเห็นภาพของชุดนี้บ่อยครับ

(ภาพ: จาก Arsenal the Official History หน้าที่ 33 ที่ตีพิมพ์ในปี 1986 นี่คือหน้าตาของชุดในวันที่ 17 ธันวาคม ปี 1892 ดังกล่าว ข้อมูลจาก http://www.thearsenalhistory.com/?p=12077)

ทั้งนี้ ในช่วงแรก ๆ ที่ทีมยังเป็น Dial Square, Royal Arsenal และ Woodwich Arsenal นั้น ทีมจะใช้ชุดเยือนแค่สองแบบเป็นหลักเท่านั้นครับ คือ ขาว-ดำ ตามปกติของทีมยุคนั้น และ สีน้ำเงินกรมท่า ซึ่งทั้งสองชุด จะใช้ถุงเท้าดำเป็นหลัก (เดาว่าที่ใช้ถุงเท้าดำ เพราะคุณภาพสนามยุคนั้นนั่นเอง -- ผู้เขียน)

โดยชุดน้ำเงินนี้ Andy Kelly และ Mark Andrews

ได้เพิ่มข้อมูลสำทับไปว่า พวกเขานั้นได้ใช้งานทั้งช่วงก่อน และหลัง "มหาสงคราม" (ที่ต่อมาเรียกเป็นสงครามโลกครั้งที่ 1) ซึ่งชุดน้ำเงินที่ใช้หลังจากสงครามนั้น ได้มีการใช้ยาวนานมาถึง 10 ปี ก่อนที่หลังจากนั้นทีมจะหันไปใส่ชุดขาว กางเกงดำแทน ส่วนถุงเท้านั้นใช้ทั้งสีแดง, สีดำ-ขาว, สีน้ำเงิน-ขาว ฯลฯ คือเน้นโทนสีเข้ม

ซึ่งจะเป็นช่วงที่ทีมนั้น ได้เว้นวรรคการใช้ชุดที่มีสีน้ำเงิน ไปหลายสิบปีเลยทีเดียว แต่นี่คือการปรากฏตัวช่วงแรก ของชุดเยือนสีน้ำเงิน

และในช่วงต่อจากนี้ ก็มี 2 เกมสำคัญที่มีการระบุชัดเจนว่าใส่ชุดแบบอื่น คือเกมพบลิเวอร์พูลวันที่ 25 มกราคม 1936 ในเกมเอฟเอ คัพรอบสี่ ที่ใส่เสื้อแดงลายขวางสีขาว กางเกงขาว และถุงเท้าน้ำเงิน (ถึงตรงนี้ ผู้อ่านคงแปลกใจเหมือนกันว่าทำไมถึงใส่แบบนี้ได้ ลิเวอร์พูลชุดเหย้าก็สีแดงนี่ แต่อ่านไปเรื่อย ๆ จะเกทครับ -- ผู้เขียน) โดยชนะไป 2-0 ก่อนที่ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกัน ในรายการ เอฟเอ คัพ รอบหก ทีมจะใส่ชุดแบบเดียวกันแต่เปลี่ยนกางเกงเป็นสีดำไปเยือนบาร์นส์ลีย์ และชนะไป 4-1 ซึ่งจบในซีซั่นนั้น พวกเขา ก้าวไปเป็นแชมป์ได้ โดยการชนะเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 1-0 จากประตูโทนของ เทด เดรก ในนาทีที่ 74 กลายเป็นแชมป์สมัยที่สองของทีมไป ซึ่งแชมป์สมัยแรกเกิดในฤดูกาล 1929–30

(ปล. ในเกมนัดชิงนั้น คุณจะอึ้งไปอีกว่า สองทีมนี้ใส่ชุดที่มีสีโทนแดง-ขาว เหมือนกัน แต่กางเกงกับถุงเท้าคนละสี ซึ่งอาร์เซน่อลใส่กางเกงขาวและ...ถุงเท้าน้ำเงินลายขวางสีขาว ส่วนเชฟฯ ยูฯ ใส่ชุดกางเกงและถุงเท้าดำที่ทุกวันนี้ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของชุดเหย้าของพวกเขา (ข้อมูลส่วนนี้มาจาก https://en.wikipedia.org/wiki/1935–36_FA_Cup และ https://en.wikipedia.org/wiki/1935–36_Arsenal_F.C._season ซึ่งนี่หละครับ คือการอธิบายให้เข้าใจว่าทำไมตอนไปเยือนลิเวอร์พูลถึงใส่ชุดที่มีสีแดงเหมือนกันได้)

(ภาพ: info จากวิกิพีเดีย ที่เห็นได้ชัดว่าทั้งคู่ใส่เสื้อเหย้าโทนเสื้อแบบเดียวกันเลย เป็นยุคนี้คงโดน FA เบรกตั้งแต่ออกจากห้องแต่งตัวแน่นอน)

คราวนี้จะมาถึง จุดเปลี่ยนในประวัติศาสตร์ของทีม คือการเข้ามามีบทบาทของ "ชุดเยือนสีเหลือง" ของอาร์เซน่อล

ซึ่งมันเกิดขึ้นในนัดที่สำคัญอย่าง เอฟเอ คัพ นัดชิง โดยที่ปืนใหญ่ในเวลานั้น แชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งสุดท้ายของพวกเขาคือ...ครั้งก่อนที่เราได้กล่าวถึงไปในปี 1936 นั่นแหละครับ

โดยนัดชิงปี 1950 นี้ อาร์เซน่อล ได้ใช้ชุดที่เสื้อและถุงเท้าสีเหลืองทอง (ใน historicalkits ระบุว่าถุงเท้าเป็นสีแบบเหลืองทองลายขวางดำ จาก http://www.historicalkits.co.uk/English_Football_League/FA_Cup_Finals/1950-1959.html แต่สีของวิกิพีเดีย จาก https://en.wikipedia.org/wiki/1950_FA_Cup_Final จะเป็นสีน้ำเงินแทนสีดำ ซึ่งเราจะยึดตามที่ historicalkits ได้ทำ infographic เอาไว้ -- ผู้เขียน) กางเกงขาว ส่วนลิเวอร์พูลก็มาในชุดเยือนที่เป็นเสื้อขาว กางเกงดำ ถุงเท้าแดงลายขวางสีขาว (หรือต่อไปอาจเรียกง่าย ๆ ว่าลายแคดดี้ หรือลายลูกกวาด ซึ่งต่อไปทางเพจจะเริ่มเรียกด้วยคำนี้แล้วครับ -- ผู้เขียน) และผลที่ออกมาก็คือ ชุดเหลืองทองของทีมเมืองหลวงนั้นได้ฉลองแชมป์สมัยที่สามในประวัติศาสตร์ทีม ด้วยสองประตูของ เรจินัลด์ "เรก" ลูอิส ในนาทีที่ 18 และ 63

(ภาพ: การฉลองชัยเหนือลิเวอร์พูลของนักเตะอาร์เซน่อล กับแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยที่ 3 จาก http://www.footballshirtculture.com/history/wembley-memories-arsenal-orange-fa-cup-final-1950-shirt.html)

(ภาพ: เสื้อแมตช์วอร์นที่ว่ากันว่าเป็นของ วอลลี่ บาร์นส์ แบคซ้ายสัญชาติเวลส์ของทีมปินใหญ่ ไม่ทราบที่มาภาพต้นฉบับ จาก Pinterest)

และนับแต่นั้น ทีมจึงได้มีการนำชุดเสื้อสีเหลืองมาใช้เรื่อย ๆ ในช่วงทศวรรษที่ 1950 โดยเป็นช่วงแรกในปี 1952-53 (ซึ่งถุงเท้าจะเปลี่ยนเอาแบบสีขาวลายขวางสีน้ำเงินมาใช้แทน) ที่มีการใช้เฉพาะแค่ใน เอฟเอ คัพ ก่อนเว้นวรรคไปและนำมาใช้อีกรอบในปี วันที่ 4 มกราคม ปี 1958 กับเกมเอฟเอ คัพ รอบสาม โดยไปเยือนนอร์ทแธมป์ตัน (ซึ่งรายละเอียดสีของชุด ตรงกับนัดชิงเอฟเอ คัพ ปี 1950 ทุกส่วน) แต่แพ้ไป 1-3 และชุดสีเหลือง ก็ถูกพักการใช้งานไว้แค่นั้น โดยเว้นวรรคไปนานกว่าสิบปี

โดยระหว่างที่ชุดเยือนเสื้อเหลืองได้ถูกนำมาใช้งานบ่อยครั้ง ชุดเสื้อสีน้ำเงินนั้นก็ถูกนำกลับมาใช้งานอีกเช่นกัน ซึ่งจะอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวก่อนการพักการใช้ชุดเสื้อสีเหลือง โดยเริ่มมีการนำเสื้อสีน้ำเงินมาใส่ตั้งแต่ปี 1953 ยาวมาจนถึงเดือนตุลาคม ปี 1958 ซึ่งระหว่างนี้จะมีทั้งการเอาเสื้อแบบมีปกและไม่มีปกคอวีมาใช้ สลับกันไปตามโอกาส

หลังจากนั้นยาวนาน 8 ปีที่ไร้สีน้ำเงินในชุดเยือนของอาร์เซน่อลนั้น ได้เริ่มขึ้นหลังจากเดือนตุลาคมปี 1958 ดังกล่าว ซึ่งในตอนนี้ จะเป็นการใช้ชุดเยือนแบบเบสิกที่สุด คือการใช้ชุดขาว และมีขลิบสีแดง (หรือเรียกว่าปนสีแดงตรงขอบของเสื้อหรือส่วนต่าง ๆ ของชุด อาจฟังเข้าท่ากว่า -- ผู้เขียน)

แต่ในวันที่ 10 ธันวาคม ปี 1966 นั้น ได้มีการเอาชุดเสื้อน้ำเงิน กลับมาใช้อีกครั้ง ในเกมไปเยือน เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่บรามอล เลน และแพ้ 0-2 (ซึ่งเป็นปีที่ทีมดาบคู่ ทำสแตนด์ฝั่งตะวันตก หรือ บรามอล เลน สแตนด์ ขึ้นพอดี จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Bramall_Lane) ซึ่งลักษณะชุดนั้น เสื้อและถุงเท้าเป็นสีน้ำเงินเข้ม ไม่มีสีอื่นปน และกางเกงเป็นสีขาว ซึ่งว่าง่าย ๆ ก็คือ มันเป็นชุดเยือนแบบของ "ทอตแน่ม" นั่นเอง และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีมด้วยที่ใช้สีชุดเยือนตรงกับคู่แข่งตลอดกาลแบบนี้

(ภาพ: เสื้อเยือนของอาร์เซน่อล (ซ้าย) นช่วงปี 1968 และเสื้อเยือนของทอตแนม (ขวา) ในช่วงปี 1950 จาก UKSoccershop)

(เสริม: ที่มาที่ไปของชุดเยือนไอคอนของทอตแนมนั้น จริง ๆ มันดูน่าตลกยิ่งไปกว่านั้นด้วย ถ้าผมจะบอกว่า มันมีการเริ่มใช้ในช่วงที่อาร์เซน่อล เริ่มเอาชุดสีเหลืองมาใช้พอดี คือช่วงปี 1950 จาก http://www.historicalkits.co.uk/Tottenham_Hotspur/Tottenham_Hotspur-change-kits.html -- ผู้เขียน)

จากข้อมูล illustrations ของ Simon "Shakey" Shakeshaft และ Daniel Gellatley นั้น

historicalkits ได้อธิบายว่า อาร์เซน่อลนั้น ได้มีการนำชุดเสื้อถุงเท้าน้ำเงินเข้ม กางเกงขาว มาใช้อย่างจริงจังในปีถัดมาคือ 1967 จนกระทั่งช่วงพฤศจิกายน ปี 1968 ได้มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นก็คือ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ สั่งห้ามไม่ให้ทีมฟุตบอลนั้น ใช้เสื้อหรือชุดสีกรมท่า (ในแหล่งข้อมูลเรียกสีนาวีตามภาษาของเขา) เป็นสีใส่ลงแข่ง เพราะมันทำให้สับสนกับชุดของผู้ตัดสิน เช่นเดียวกับชุดสีดำที่เป็นสีชุดของผู้ตัดสินอยู่แล้ว

"ชุดสีน้ำเงินแบบเยือนของทอตแนม" จึงจบลงแต่เพียงเท่านี้ 

(มีต่อด้านล่าง)