เรื่องมันมีอยู่ว่าเรามาสมัครที่ใหม่ด้วยตำแหน่งบุคคลแล้วคนที่สมัครงานเราคือผจก.ฝ่ายเขาก็สัมภาษณ์เราเหมือนทุกคนทั่วไปดูเหมือนไม่มีอะไรแล้วเขาก็จะลงท้ายว่าโอเครตรับเดี๋ยวถ้ายังไงภายใน1 อาทิตย์จะแจ้งผลให้ทราบนะครับ
ช่วงระหว่างที่เนารอผลการสัมภาษณ์เราก็หาสมัครงานที่อื่นไว้ด้วยจนครบ1 สัปดาห์ทางบริษัทก็ไม่มีการแจ้งผลกลับมาจนตัวเราคิดว่าคงไม่น่าจะได้ทำที่นี่แล้วและตัวเราเองก็โทรไปสอบถามผลสัมภาษณ์กับทางบริษัทมันอาจจะดูว่าเราตื้อกับบริษัทนี้มากใช่มั้ยค่ะคือในตำแหน่งอ่ะค่ะเราอยากทำมากมันตรงกับที่เราจบมาและเราเองคิดว่าที่นี่ล่ะเราต้องได้ทำงานเพราะคุณสมบัติของเราตรงตามความต้องการของเขาทุกอย่างแต่ผลสุดท้ายก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่คุณเรียก OMG. เอ้ยอะไรเนี่ย... แต่ไม่เป็นไรเราก้อปลอบใจตัวเองแล้วตกลงทำงานงานกลับที่เดิมต่อในตำแหน่งงานใหม่เพื่อเราจะได้ไม่ว่างานแล้วจะได้มีเงินใช้ต่อในเดือนต่อไป!! แต่เหมือนโชคจะย้อนกลับมาหาตัวเองอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มงานที่ใหม่อีก2 วันทางบริษัทที่เราหวังทำงานที่นี่ที่ๆเคยไปสัมภาษณ์นั้นติดต่อกลับมาโดยผ่านทางLine ส่วนตัวและทั้งที่ยังไม่เคยเป็นเพื่อนกันในทางหรมาก่อนคำแรกที่ทางบริษัททักมาเอาตรงๆเราก็ไม่คิดว่าเป็นบุคคลของบริษัทหรอค่ะเพราะเราเองก็คิดว่าเขาจะต้องโทรมาแล้วอีกอย่างไลน์ของเราจะไม่เพิ่มเพื่อนใครง่ายๆต่อให้ทักมาเราเห็นก็ตามเราก็จะไม่สนใจจะปล่อยขึ้นRead ยอมเสียมารยาทดีกว่าก็เราไม่รู้ไงว่าใคร... แล้วด้วยคำพูดที่ทักมาเราก็เลยตัดสินใจตอบไป
??: สวัสดีครับ
เรา: สวัสดีค่ะ
?? : จำพี่ได้มั้ยครับ
เรา: เราก็นึกล่ะก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับไปแบบ... หึหึและมองบน
??:ได้งานทำรึยังครับ
เรา:ยังค่ะ
?? : พร้อมเริ่มงานเมื่อไหร่ครับ
เรา: เอ่อ...พี่ค่ะคือหนูไม่รุ้ว่าพี่เป็นใครและงานที่หนูได้ทำใช่งานที่หนูสมัครไว้ไหมบลาๆ
??: แล้วหนูสมัครงานตำแหน่งอะไรไว้ครับ
เรา: บุคคล/ธุรการ
??: แล้วอยากทำตำแหน่งงานอะไรครับ
เรา: บุคคลค่ะ
??: คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้
เรา:เดี๋ยวค่ะแช้วพี่เป็นใครอะไรยังไงหนูงงอ่ะพี่พี่ไม่บอกหนูหน่อยหรอแล้วหนูจะไปทำงานถูกบริษัทมั้ยอ่ะค่ะ(สตั้นไปดิเรา)
??: สวัสดีครับพี่....นะครับผจก.ฝ่ายบุคคลไม่ทราบว่าน้อง...ได้งานทำหรือยังครับแล้วสะดวกเริ่มงานเลยมั้ยครับ(เพื่อจะชอบให้แนะนำแบบทางการ)
เรา:ค่ะและก็บลาๆ
พร้อมกับส่งสติ๊กเกอร์คุยกันไปเรื่อยๆจนเราก็งงแล้วก็มานั่งคิดว่าแบบนี้ก็ได้หรอ?? ทักเหมือนรุ้จักกันมานานเลยตามหลักเขาต้องโทรมาแจ้งสิถ้าเราไม่อ่านไลน์เราคงไม่ได้งานนี้แน่ๆและเราก็เลยปรึกษากับแฟนว่าจะเอาไงดีจะไปทำที่ไหนดีจนเราตัดสินใจได้โดยที่แฟนเราก็ได้ออกความคิดเห็นอะไรเลย<เราเลือกไปทำที่ใหม่ที่เราอยากไปทำ> เรายอมเป็นคนเสียคำพูดกับที่เก่าในตำแหน่งใหม่! เหมือนเรารุ้ระบบการทำงานแล้วเราก็อยากมาลองหาประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง
แล้วเราก็เริ่มทำงานที่ใหม่อย่างภูมิใจถึงเงินเดือนจะแทบไม่พอใจแต่เราสบายใจ ไม่อึดอัดงานสบายไม่คอยกดดันเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะที่ใหม่ด้วยเราเลยยังไม่ค่อยรู้จักเราเยอะเท่าไหร่เลยยังไม่มีคนเกลียดมาก555 แต่ไม่เท่าไหร่งานก็เริ่มมาเราก็เริ่มมีการทำงานเป็นทีมและมีการเรียนรู้งานเพิ่มทีละนิดทีละหน่อยจากพี่เลี้ยงอ่าทุกคนอยากรู้ใช่มั้ยละค่ะใครคือพี่เลี้ยงเราคนที่ดูเหมือนกวนประสาทเรามากที่สุดนั้นแหละค่ะพวกคุณเดาไม่ผิดผจก.ฝ่ายนั้นล่ะเป็นพี่เลี้ยงเราแต่เราก้อไม่มีปัญหาอะไรนะค่ะเราทั้ง2 ก้อทำงานปกติช่วยทำงานปรึกษาและก็สอนงานกันจนผ่านไปสักพักก็เริ่มมีการชวนไปข้าวเที่ยงครั้งแรกโดยไปกัน2 ต่อ2 ซึ่งถามว่าเรากลัวมั้ยเราเฉยๆนะค่ะไม่ได้คิดอะไรก็ตามประสาเจ้านายพาลูกน้องไปเลี้ยงข้าวเลี้ยงกาแฟก็เนาะเจ้านายเลี้ยงใครจะปฏิเสธละเหมือนคนเห็นแก่กินใช่ไหมปล่อยหรอกค่ะเขาชวนเราก้อไปตามมารยาทเมื่อมีครั้งที่1 ก้อจะต้องมีครั้ง2,3,4,5 บลาๆจนถึงทุกวันปัจจุบันนี้และพักหลังๆเริ่มมีการแชทมากยิ่งขึ้นเริ่มไม่ใช่เรื่องงานแต่จะเป็นการส่งคำคมเด็ดๆแรงบันดาลใจที่มีการสอนงานไปในตัวแล้วก็จะปิดท้ายด้วยสติ๊กเกอร์น่ารักๆเหมือนคนชอบกัน(มโนตามนะค่ะ) หวานๆแต่ไม่ถึงขั้นบอกรักหรือส่งหัวใจให้กันเพราะเราและเขาเองก็คงคิดว่าลูกน้องเจ้านายอยู่มันเหมือนมีเส้นบางๆขั้นอยู่แต่ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจในการมาทำงานดีกว่าค่ะแต่เชื่อมั้ยว่าการที่เราเจอกันทุกวันมีการซื้อของกินซื้อน้ำมาให้ตอนเช้าดูแลแทคแคร์แบบพิเศษมันก็อดคิดไม่ได้ คิดว่าเขาต้องการอะไรคิดอะไรกันเรากลายเป็นว่าเริ่มอึดอัดแต่ก็รู้สึกดีอีกใจก็คิดว่าเราก้มีแฟนอยู่แล้วเราควรรักแฟนในมากๆและผจก.เขาก็เคยมีเมียมาแล้วแถมยังมีลูกแทบจะรุ่นเราแล้ว(ไม่ได้ห้ามเด็ดขาด) ห้ามเผลอใจเด็ดขาดผจก.กับเราอายุห่านกันเกือบจะรอบอายุเลยค่ะแล้วเขาจะเรื่องเราว่าหนู... ตามด้วยชื่อแล้วก็จะแทนตัวเองว่าพี่มันก็น่ารักดีนะตอนนี้ก็เริ่มกลัวแล้วละค่ะกลัวว่าเขาจะมาไม้ไหนเขาดีกับเราแต่เขาก็กับคนอื่นเหมือนกันแต่การกระทำที่เขาทำกะเรามันดูพิเศษเกินไปคนอื่นในห้องทำงานเราก็เห็นว่าผจก.ทำอะไรให้เรามั่งจนตอนนี้ทุกคนในที่ทำงานคงคิดว่าเรากับผจก.คุยกันดูๆกันอยู่แต่ไม่ใช่ประเด็นค่ะ
อีก1 เรื่องที่หนักใจแฟนเราที่คบกันมาเกิน2 ปีกว่าๆพักหลังเริ่มมีอาการเบื่อไปเริ่มปล่อยปะละเลยเราก่อนหน้านี้เคยเกิดเรื่องทะเลาะกันค่ะแฟนเราโกหกเราไม่รับสายเราไม่ไปกินข้าวกับเราแต่ไปกินข้าวกับผู้หญิงที่บอกว่าเป็นเพื่อนกันทั้งที่เป็นเพื่อนที่ทำงานรุ้จักกันไม่ถึงเดือน2 เดือนเราชวนไปกินข้าวด้วยไม่ไปถามว่าทำไมรู้ว่าเขาโกหกเราเราเห็นกับตาตัวเองเลยค่ะวันนี้เรามาสมัครงานที่ใหม่ที่เราได้ทำงานนี่ล่ะค่ะและเราก็กะว่าเดี๋ยวตอนเที่จะไปรับมากินข้าวที่ร้านแห่งนึงซึ่งเราอยากกินและแฟนเราอยากกินมากกว่าเพราะเรารู้ว่าแฟนเรามันชอบกินก๋วยเตี๋ยวมากเรากะจะพาแฟนไปพอใกล้ๆเที่ยงเราก็ถามว่าจะไปกินมั้ยเดี๋ยวจะออกไปรับแล้วแต่ด้วยความร้อนของแดดแฟนเรามันหวังดีกับเรา'มั้งค่ะ' "เทอไม่ต้องมารับเราหรอกเดี๋ยวเรากินที่หน้าบริษัทก็ได้" เราก็อ่อเอ่อตามความที่เราก้อไม่อยากไปเพราะมันก้อร้อนจริงๆล่ะมอไชรเนาะแดดประเทศไทยไม่ใช่เผาเล่นๆน้ะเผาจริงจังกะฆ่าให้ตายเลย555 แต่ด้วยความหวังดีของแฟนเรานี่ละค่ะทำให้เรารู้ว่ามัน

คือเราก็มีความอยากกินอยู่แล้วร้อนก้อไม่เท่าไหร่ก็ใจมันอยากกินก็เลยตัดสินใจไปเชื่อไปค่ะพอเราไปถึงร้านก๋วยเตี๋ยวเราเจออะไรรู้มั้ยค่ะเราเจอแฟนเรากินก๋วยเตี๋ยวกับผู้หญิงที่มันบอกว่าเพื่อนนั้นล่ะค่ะเจ็บมากกินต่อหน้าต่อตาด้วยความอร่อยเหมือนชั้นสวรรค์ชั้น7 เลยแล้วเราเองทำไมยังไงรู้มั้ยณเวลานั้นเราเดินเข้าไปสั่งก๋วยเตี๋ยวด้วยอารมณ์ที่สามารถพังร้านแล้วตบแฟนเราได้เลยค่ะแต่เราไม่ทำเราก็สั่งก๋วยเตี๋ยวปกติและพยายามเก็บอารมณ์ให้มากที่สุดพร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาจะโทรหาแฟนเราแต่เราก็เลือกที่จะถ่ายรูปมันเก็บไว้ก่อนก็ยังมีอารมณ์ถ่ายรูปใช่มั้ยนั้นสิทั้งที่ใจเรานี่ร้อนยิ่งกว่าแดดตอนเที่ยงอีกค่ะเรายืนรอสักพักจนกว่าเราจะได้ก๋วยเตี๋ยวช่วงระหว่างรอเราใจและมือร่ายกายมันสั่นไปทั้งตัวเราค่ะเรากดมือถือโทรline หาแฟนเรา2 สายแถมวีดิโอด้วยแฟนเราไม่รับสายเราเลยค่ะจนเราโทรเบอร์มันอีกเกือบ3 สายแฟนเรามันรู้ค่ะว่าเราโทรมันเห็นแต่มันไม่รับจนสายสุดท้ายมันรับและเราถามแฟนเราว่าเทออยู่ไหนทำอะไรอยู่กินข้าวยังกินที่ไหน? แฟนเราตอบมาว่ากินกับเพื่อนที่หน้าบริษัทฯเราก็เลยตอบไปกลับไปว่า"ก๋วยเตี๋ยว" อร่อยดีน้ะหลังจากนั้นมันก็เลยรู้ว่าเราเห็นมันมานั่งกินกับผู้หญิงที่บอกว่าเพื่อนเราทนไม่ไหวแล้วเราเลยกลับมาห้องแล้วก็ร้องไห้หนักปิดเครื่องโทรหาเพื่อนแล้วก็อยากกลับบ้านแต่เงินในกระเป๋าเรามีน้อยก็เลยไม่กลับจนเลิกงานตอนเย็นมาเจอกันที่ห้องเราไม่อยากเจอแฟนเราเราจึงตัดสินใจจะออกไปข้างนอกแต่สุดท้ายก็เจอและเราก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิมแฟนเราทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเราบอกให้มันลบเฟสเลิกติดต่อยันทุกวันนี้มันก็ยังไม่ลบแล้วพักนนี้เรา2 คนแยกกันอยู่ค่ะวัน2 วันกลับมาเจอกันทีถ้าไม่มีธุระมันก็จะไม่กลับมาหาเราหรอกค่ะแต่แฟนเรามันบอกว่าที่กลับมาเพราะคิดถึงเราแต่เวลามันกลับมามันก็จะเล่นเกมส์facebook line ซะส่วนใหญ่เราก็ดูYouTube กับFacebook ก็ต่างคนเหมือนมีโลกส่วนตัวกันแยกออกไปแต่แค่นอนด้วยกันเรื่องการเงินก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับคู่เราค่ะแฟนเราเขาเก็บเงินไม่ค่อยอยู่แล้วก็ช่วงระหว่างที่เราทำงานเขาก็ออกจากงานทำให้ภาระรายได้มีทางเดียวและรายจ่ายเราเพิ่มขึ้นเราต้องกลับไปขอเงินที่บ้านแต่แฟนเราไม่กล้าของที่บ้านของเขาเพราะอะไรไม่รู้แต่คงไม่อยากไปเดือดร้อนที่บ้านละมั้งเราพยายามคิดในแง่ดีแต่เรื่องเงินนี้มันตั้งแต่ช่วงที่เรียนป.ตรีจนตอนนี้จบทำงานแล้วค่ะเราคิดว่าถ้าเขามีเงินเขาคงจะให้เราได้หยิบได้ใช้เงินเขามั้งเขาบอกกับเราเขาอยากได้รถเราดีใจมากที่เขาจะซื้อรถจะได้มีของใช้เป็นของเราซะทีเราคิดจะสร้างอนาคตด้วยกันแต่เหมือนฝันจะสะลายรถที่มันอยากได้มันเป็นบิ๊กไบรท์900cc ซึ่งใจเราอยากได้รถยนต์เวลาไปไหนมาไหนจะได้กันแดดกันฝนแล้วถ้าผ่อนรถยนต์เสร็จจะเอาบิ๊กไบรท์ก็ไม่ว่าอะไรแต่คำตอบที่เราได้จากแฟนเราคืออะไรรู้ไหม"มันความฝันของเรา" เราอยากได้เราต้องทำให้ได้สิ้นปีนี้เราคุยกะเพื่อนไว้แล้วว่าจะออกพร้อมกัน: จ้าแล้วกูล่ะกูอยู่ตรงใจในส่วนฝันของ: เวลาไม่มีตังเรานี่ละช่วยแฟนตลอดพยายามหางานให้ได้งานดีๆเพื่อนที่จะได้ช่วยกันสุดท้ายเขาก็เหมือนจะเห็นแก่ตัวเขาย้ายออกจากหอเรากลับไปอยู่บ้านเพื่อที่จะไม่ต้องเสียค่าหอเขาเหมือนเทเราทุกอย่างแต่เราชินหมดแล้วล่ะเพราะเราก็จ่ายเองซะส่วนใหญ่นี่ละค่ะทั้งผจก.และก็แฟน
ปล. เราอยากรู้ค่ะว่าผจก.ฝ่ายเราทำแบบนี้หมายความว่ายังไงและเราควรทำยังไงกับแฟนเราดีและถ้าหากว่าวันนี้มันถึงเวลาต้องเสียเราจะตัดสินใจยังไงหรือมีวิธีที่ดีกว่านี้ช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะขอบคุณนะค่ะ🙏🏽
เคยรู้สึกมั้ย เหมือน (แอบมอบแอบห่วงใยดูแลเทคแคร์ดีเกินมากว่าเพื่อนร่วมงาน) และแฟนเห็นแก่ตัวในบ้างครั้ง
ช่วงระหว่างที่เนารอผลการสัมภาษณ์เราก็หาสมัครงานที่อื่นไว้ด้วยจนครบ1 สัปดาห์ทางบริษัทก็ไม่มีการแจ้งผลกลับมาจนตัวเราคิดว่าคงไม่น่าจะได้ทำที่นี่แล้วและตัวเราเองก็โทรไปสอบถามผลสัมภาษณ์กับทางบริษัทมันอาจจะดูว่าเราตื้อกับบริษัทนี้มากใช่มั้ยค่ะคือในตำแหน่งอ่ะค่ะเราอยากทำมากมันตรงกับที่เราจบมาและเราเองคิดว่าที่นี่ล่ะเราต้องได้ทำงานเพราะคุณสมบัติของเราตรงตามความต้องการของเขาทุกอย่างแต่ผลสุดท้ายก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่คุณเรียก OMG. เอ้ยอะไรเนี่ย... แต่ไม่เป็นไรเราก้อปลอบใจตัวเองแล้วตกลงทำงานงานกลับที่เดิมต่อในตำแหน่งงานใหม่เพื่อเราจะได้ไม่ว่างานแล้วจะได้มีเงินใช้ต่อในเดือนต่อไป!! แต่เหมือนโชคจะย้อนกลับมาหาตัวเองอีกครั้งก่อนที่จะเริ่มงานที่ใหม่อีก2 วันทางบริษัทที่เราหวังทำงานที่นี่ที่ๆเคยไปสัมภาษณ์นั้นติดต่อกลับมาโดยผ่านทางLine ส่วนตัวและทั้งที่ยังไม่เคยเป็นเพื่อนกันในทางหรมาก่อนคำแรกที่ทางบริษัททักมาเอาตรงๆเราก็ไม่คิดว่าเป็นบุคคลของบริษัทหรอค่ะเพราะเราเองก็คิดว่าเขาจะต้องโทรมาแล้วอีกอย่างไลน์ของเราจะไม่เพิ่มเพื่อนใครง่ายๆต่อให้ทักมาเราเห็นก็ตามเราก็จะไม่สนใจจะปล่อยขึ้นRead ยอมเสียมารยาทดีกว่าก็เราไม่รู้ไงว่าใคร... แล้วด้วยคำพูดที่ทักมาเราก็เลยตัดสินใจตอบไป
??: สวัสดีครับ
เรา: สวัสดีค่ะ
?? : จำพี่ได้มั้ยครับ
เรา: เราก็นึกล่ะก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับไปแบบ... หึหึและมองบน
??:ได้งานทำรึยังครับ
เรา:ยังค่ะ
?? : พร้อมเริ่มงานเมื่อไหร่ครับ
เรา: เอ่อ...พี่ค่ะคือหนูไม่รุ้ว่าพี่เป็นใครและงานที่หนูได้ทำใช่งานที่หนูสมัครไว้ไหมบลาๆ
??: แล้วหนูสมัครงานตำแหน่งอะไรไว้ครับ
เรา: บุคคล/ธุรการ
??: แล้วอยากทำตำแหน่งงานอะไรครับ
เรา: บุคคลค่ะ
??: คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้
เรา:เดี๋ยวค่ะแช้วพี่เป็นใครอะไรยังไงหนูงงอ่ะพี่พี่ไม่บอกหนูหน่อยหรอแล้วหนูจะไปทำงานถูกบริษัทมั้ยอ่ะค่ะ(สตั้นไปดิเรา)
??: สวัสดีครับพี่....นะครับผจก.ฝ่ายบุคคลไม่ทราบว่าน้อง...ได้งานทำหรือยังครับแล้วสะดวกเริ่มงานเลยมั้ยครับ(เพื่อจะชอบให้แนะนำแบบทางการ)
เรา:ค่ะและก็บลาๆ
พร้อมกับส่งสติ๊กเกอร์คุยกันไปเรื่อยๆจนเราก็งงแล้วก็มานั่งคิดว่าแบบนี้ก็ได้หรอ?? ทักเหมือนรุ้จักกันมานานเลยตามหลักเขาต้องโทรมาแจ้งสิถ้าเราไม่อ่านไลน์เราคงไม่ได้งานนี้แน่ๆและเราก็เลยปรึกษากับแฟนว่าจะเอาไงดีจะไปทำที่ไหนดีจนเราตัดสินใจได้โดยที่แฟนเราก็ได้ออกความคิดเห็นอะไรเลย<เราเลือกไปทำที่ใหม่ที่เราอยากไปทำ> เรายอมเป็นคนเสียคำพูดกับที่เก่าในตำแหน่งใหม่! เหมือนเรารุ้ระบบการทำงานแล้วเราก็อยากมาลองหาประสบการณ์ใหม่ๆบ้าง
แล้วเราก็เริ่มทำงานที่ใหม่อย่างภูมิใจถึงเงินเดือนจะแทบไม่พอใจแต่เราสบายใจ ไม่อึดอัดงานสบายไม่คอยกดดันเท่าไหร่อาจจะเป็นเพราะที่ใหม่ด้วยเราเลยยังไม่ค่อยรู้จักเราเยอะเท่าไหร่เลยยังไม่มีคนเกลียดมาก555 แต่ไม่เท่าไหร่งานก็เริ่มมาเราก็เริ่มมีการทำงานเป็นทีมและมีการเรียนรู้งานเพิ่มทีละนิดทีละหน่อยจากพี่เลี้ยงอ่าทุกคนอยากรู้ใช่มั้ยละค่ะใครคือพี่เลี้ยงเราคนที่ดูเหมือนกวนประสาทเรามากที่สุดนั้นแหละค่ะพวกคุณเดาไม่ผิดผจก.ฝ่ายนั้นล่ะเป็นพี่เลี้ยงเราแต่เราก้อไม่มีปัญหาอะไรนะค่ะเราทั้ง2 ก้อทำงานปกติช่วยทำงานปรึกษาและก็สอนงานกันจนผ่านไปสักพักก็เริ่มมีการชวนไปข้าวเที่ยงครั้งแรกโดยไปกัน2 ต่อ2 ซึ่งถามว่าเรากลัวมั้ยเราเฉยๆนะค่ะไม่ได้คิดอะไรก็ตามประสาเจ้านายพาลูกน้องไปเลี้ยงข้าวเลี้ยงกาแฟก็เนาะเจ้านายเลี้ยงใครจะปฏิเสธละเหมือนคนเห็นแก่กินใช่ไหมปล่อยหรอกค่ะเขาชวนเราก้อไปตามมารยาทเมื่อมีครั้งที่1 ก้อจะต้องมีครั้ง2,3,4,5 บลาๆจนถึงทุกวันปัจจุบันนี้และพักหลังๆเริ่มมีการแชทมากยิ่งขึ้นเริ่มไม่ใช่เรื่องงานแต่จะเป็นการส่งคำคมเด็ดๆแรงบันดาลใจที่มีการสอนงานไปในตัวแล้วก็จะปิดท้ายด้วยสติ๊กเกอร์น่ารักๆเหมือนคนชอบกัน(มโนตามนะค่ะ) หวานๆแต่ไม่ถึงขั้นบอกรักหรือส่งหัวใจให้กันเพราะเราและเขาเองก็คงคิดว่าลูกน้องเจ้านายอยู่มันเหมือนมีเส้นบางๆขั้นอยู่แต่ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจในการมาทำงานดีกว่าค่ะแต่เชื่อมั้ยว่าการที่เราเจอกันทุกวันมีการซื้อของกินซื้อน้ำมาให้ตอนเช้าดูแลแทคแคร์แบบพิเศษมันก็อดคิดไม่ได้ คิดว่าเขาต้องการอะไรคิดอะไรกันเรากลายเป็นว่าเริ่มอึดอัดแต่ก็รู้สึกดีอีกใจก็คิดว่าเราก้มีแฟนอยู่แล้วเราควรรักแฟนในมากๆและผจก.เขาก็เคยมีเมียมาแล้วแถมยังมีลูกแทบจะรุ่นเราแล้ว(ไม่ได้ห้ามเด็ดขาด) ห้ามเผลอใจเด็ดขาดผจก.กับเราอายุห่านกันเกือบจะรอบอายุเลยค่ะแล้วเขาจะเรื่องเราว่าหนู... ตามด้วยชื่อแล้วก็จะแทนตัวเองว่าพี่มันก็น่ารักดีนะตอนนี้ก็เริ่มกลัวแล้วละค่ะกลัวว่าเขาจะมาไม้ไหนเขาดีกับเราแต่เขาก็กับคนอื่นเหมือนกันแต่การกระทำที่เขาทำกะเรามันดูพิเศษเกินไปคนอื่นในห้องทำงานเราก็เห็นว่าผจก.ทำอะไรให้เรามั่งจนตอนนี้ทุกคนในที่ทำงานคงคิดว่าเรากับผจก.คุยกันดูๆกันอยู่แต่ไม่ใช่ประเด็นค่ะ
อีก1 เรื่องที่หนักใจแฟนเราที่คบกันมาเกิน2 ปีกว่าๆพักหลังเริ่มมีอาการเบื่อไปเริ่มปล่อยปะละเลยเราก่อนหน้านี้เคยเกิดเรื่องทะเลาะกันค่ะแฟนเราโกหกเราไม่รับสายเราไม่ไปกินข้าวกับเราแต่ไปกินข้าวกับผู้หญิงที่บอกว่าเป็นเพื่อนกันทั้งที่เป็นเพื่อนที่ทำงานรุ้จักกันไม่ถึงเดือน2 เดือนเราชวนไปกินข้าวด้วยไม่ไปถามว่าทำไมรู้ว่าเขาโกหกเราเราเห็นกับตาตัวเองเลยค่ะวันนี้เรามาสมัครงานที่ใหม่ที่เราได้ทำงานนี่ล่ะค่ะและเราก็กะว่าเดี๋ยวตอนเที่จะไปรับมากินข้าวที่ร้านแห่งนึงซึ่งเราอยากกินและแฟนเราอยากกินมากกว่าเพราะเรารู้ว่าแฟนเรามันชอบกินก๋วยเตี๋ยวมากเรากะจะพาแฟนไปพอใกล้ๆเที่ยงเราก็ถามว่าจะไปกินมั้ยเดี๋ยวจะออกไปรับแล้วแต่ด้วยความร้อนของแดดแฟนเรามันหวังดีกับเรา'มั้งค่ะ' "เทอไม่ต้องมารับเราหรอกเดี๋ยวเรากินที่หน้าบริษัทก็ได้" เราก็อ่อเอ่อตามความที่เราก้อไม่อยากไปเพราะมันก้อร้อนจริงๆล่ะมอไชรเนาะแดดประเทศไทยไม่ใช่เผาเล่นๆน้ะเผาจริงจังกะฆ่าให้ตายเลย555 แต่ด้วยความหวังดีของแฟนเรานี่ละค่ะทำให้เรารู้ว่ามัน
ปล. เราอยากรู้ค่ะว่าผจก.ฝ่ายเราทำแบบนี้หมายความว่ายังไงและเราควรทำยังไงกับแฟนเราดีและถ้าหากว่าวันนี้มันถึงเวลาต้องเสียเราจะตัดสินใจยังไงหรือมีวิธีที่ดีกว่านี้ช่วยแนะนำหน่อยนะค่ะขอบคุณนะค่ะ🙏🏽