อ่านเพื่อประดับความรู้ เราจะอยู่ในสังคมเดียวกันได้อย่างเท่าเทียม
สวัสดีครับ จากการที่ได้เป็นคนพิการมาเก้าปี ผมเองก็พอที่จะสรุปอะไรบางอย่างได้มาเป็นข้อๆประมาณนี้ครับ
เรื่องของคนพิการ
1.ชีวิตคนพิการลำบากครับ เนื่องต้องต่อสู้กับคำนิยามพิการทีสังคมได้กำหนดขึ้น ซึ่งสังคมมักจะมองว่าคนพิการจะต้องอยู่บ้าน นอนติดเตียง บลาๆๆ ซึ่งแท้จริงแล้วคนพิการก็ยังอยากออกไปพบสิ่งใหม่ๆที่เป็นประสบการณ์ของชีวิตครับ
2.ระบบคมนาคม ผมว่า.......ระบบของไทยดีครับ(กัดฟัน)
ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมา คนพิการประเภทการมองเห็นเดินบนบาทวิถีก็จะโดนมอไซค์ร้อยแรงม้าชนเอาได้ครับ
เรื่องรถเมล์ชานต่ำ ได้มีโอกาสเคยขึ้น ส่วนตัวคิดว่าดีครับ ไม่ต้องกลัวก้าวตกบันได แต่เพื่อนๆที่นั่งวิลแชร์ยังพอพบปัญหาอยู่ เพราะไม่สามารถหาจุดเทียบจอดเพื่อให้รถเข็นขึ้นได้
รถไฟฟ้าบีทีเอส** ส่วนตัวโดยสารมาทำงานทุกวัน และทุกวันส่วนใหญ่เวลายื่นบัตรขอรับคูปองโดยสาร(ฟรี) เจ้าหน้าที่มักจะโยนให้เสมอ คือมันเป็นแค่กระดาษบางๆครับ อีกอย่าง ผมแค่คนพิการ ไม่ใช่คนที่ติดเชื้อจากนอกโลก ไม่ต้องดูถูกและเหยียดหยามขนาดนั้นก็ได้ครับ
3.สวัสดิการของคนพิการ
ได้รับเดือนละ 800 บาท รักษาฟรีในโรงบาลรัฐ(เวลาราชการ) นอกเวลาจ่ายเอง
เรียนฟรีถึงปริญญาตี แต่ถ้าไม่มีเงินสำรองจ่ายก็ไม่ได้เรียน (เพราะต้องสำรองจ่ายก่อน เบิกย้อนเทอม1 ได้รับเทอม2)
4.การจ้างงานคนพิการ
เรียนจบมาสูงก็เท่านั้น เพราะนายจ้างจะคิดแค่ว่าจ้างตามกฎหมาย 100ต่อ1 (คนปกติ-คนพิการ)
บางคนจบโท แต่นั่งเป็นแอดมินก็มี
จบบัญชีมา แต่พอไปสัมมภาษณ์เขาให้ไปอยู่ในสายผลิตก็มี
ทุกตำแหน่งดูสลับวนเวียน เพราะมีนิยามมาจำกัดว่า"ต้องจ้างในอัตราร้อยต่อหนึ่ง ถ้าไม่จ้างจะต้องจ่ายเงินเข้ากองทุน"
หลังมาได้ทราบข่าวว่ามีผู้ประกอบการใจดี พนง.ไม่ถึงร้อยก็จ้างคนพิการ อันนี้อยากเดินทางไปกราบเลยครับที่ให้โอกาสคนพิการอย่างเรา
**เรื่องการสวมสิทธิ์ยังมีให้เห็น และเป็นเรื่องที่ส่วนตัวคิดว่ามันดูน่าสมเพส เพราะได้รับการช่วยเหลือและรู้เห็นเป็นใจจากคนใน...
**เพิ่มเติม
ผมลองแปะลิงค์เอาไว้ให้ เผื่อใครอยากจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการรับสมัครงานของคนพิการ
(แม่บ้าน คนสวน ฝ่ายผลิตและธุรการ)
http://prjob.dep.go.th/job
แชร์ประสบการณ์เมื่อได้พิการมาแล้วเก้าปี ก้าวนี้ที่มีก็ยังจะสู้ต่อไป...
สวัสดีครับ จากการที่ได้เป็นคนพิการมาเก้าปี ผมเองก็พอที่จะสรุปอะไรบางอย่างได้มาเป็นข้อๆประมาณนี้ครับ
เรื่องของคนพิการ
1.ชีวิตคนพิการลำบากครับ เนื่องต้องต่อสู้กับคำนิยามพิการทีสังคมได้กำหนดขึ้น ซึ่งสังคมมักจะมองว่าคนพิการจะต้องอยู่บ้าน นอนติดเตียง บลาๆๆ ซึ่งแท้จริงแล้วคนพิการก็ยังอยากออกไปพบสิ่งใหม่ๆที่เป็นประสบการณ์ของชีวิตครับ
2.ระบบคมนาคม ผมว่า.......ระบบของไทยดีครับ(กัดฟัน)
ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมา คนพิการประเภทการมองเห็นเดินบนบาทวิถีก็จะโดนมอไซค์ร้อยแรงม้าชนเอาได้ครับ
เรื่องรถเมล์ชานต่ำ ได้มีโอกาสเคยขึ้น ส่วนตัวคิดว่าดีครับ ไม่ต้องกลัวก้าวตกบันได แต่เพื่อนๆที่นั่งวิลแชร์ยังพอพบปัญหาอยู่ เพราะไม่สามารถหาจุดเทียบจอดเพื่อให้รถเข็นขึ้นได้
รถไฟฟ้าบีทีเอส** ส่วนตัวโดยสารมาทำงานทุกวัน และทุกวันส่วนใหญ่เวลายื่นบัตรขอรับคูปองโดยสาร(ฟรี) เจ้าหน้าที่มักจะโยนให้เสมอ คือมันเป็นแค่กระดาษบางๆครับ อีกอย่าง ผมแค่คนพิการ ไม่ใช่คนที่ติดเชื้อจากนอกโลก ไม่ต้องดูถูกและเหยียดหยามขนาดนั้นก็ได้ครับ
3.สวัสดิการของคนพิการ
ได้รับเดือนละ 800 บาท รักษาฟรีในโรงบาลรัฐ(เวลาราชการ) นอกเวลาจ่ายเอง
เรียนฟรีถึงปริญญาตี แต่ถ้าไม่มีเงินสำรองจ่ายก็ไม่ได้เรียน (เพราะต้องสำรองจ่ายก่อน เบิกย้อนเทอม1 ได้รับเทอม2)
4.การจ้างงานคนพิการ
เรียนจบมาสูงก็เท่านั้น เพราะนายจ้างจะคิดแค่ว่าจ้างตามกฎหมาย 100ต่อ1 (คนปกติ-คนพิการ)
บางคนจบโท แต่นั่งเป็นแอดมินก็มี
จบบัญชีมา แต่พอไปสัมมภาษณ์เขาให้ไปอยู่ในสายผลิตก็มี
ทุกตำแหน่งดูสลับวนเวียน เพราะมีนิยามมาจำกัดว่า"ต้องจ้างในอัตราร้อยต่อหนึ่ง ถ้าไม่จ้างจะต้องจ่ายเงินเข้ากองทุน"
หลังมาได้ทราบข่าวว่ามีผู้ประกอบการใจดี พนง.ไม่ถึงร้อยก็จ้างคนพิการ อันนี้อยากเดินทางไปกราบเลยครับที่ให้โอกาสคนพิการอย่างเรา
**เรื่องการสวมสิทธิ์ยังมีให้เห็น และเป็นเรื่องที่ส่วนตัวคิดว่ามันดูน่าสมเพส เพราะได้รับการช่วยเหลือและรู้เห็นเป็นใจจากคนใน...
**เพิ่มเติม
ผมลองแปะลิงค์เอาไว้ให้ เผื่อใครอยากจะหาข้อมูลเกี่ยวกับการรับสมัครงานของคนพิการ
(แม่บ้าน คนสวน ฝ่ายผลิตและธุรการ)
http://prjob.dep.go.th/job