[CR] รีวิว "Summer in Turkey"

พึ่งกลับมาสดๆร้อนๆเลยค่ะ  ไอร้อนยามบ่ายยังคงอยู่ในผิวที่คล้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่บอกเลยค่ะว่าสวยคุ้มค่าจริงๆ 
เริ่มต้นด้วยแผนการเดินทางก่อนนะคะ ว่าไปเมืองไหนบ้าง
Day1 Bangkok – Istanbul
Day 2 IST – Cappadocia 
Day 3 Cappadocia
Day 4 Cappadocia – Izmir
Day 5 Izmir – Pamukkale
Day 6 Pammukale – Istanbul
Day 7 Istanbul
Day 8 Istanbul
Day 9 Istanbul - Bangkok
Day10 Bangkok 

Route นี้ คือเราบินภายใน 3 เที่ยวนะคะ ไม่ได้วนเป็นทางเดียวกับทัวร์ เพราะว่า ไม่มีไฟลท์บินตรง ระหว่างเมือง Cappadocia กับ Pamukkale นะคะ
ถ้าขับรถเอง หรือว่านั่งบัส แนะนำให้วน loop Istanbul – Cappadocia – Pamukkale – Izmir – Istanbul  จะง่ายกว่า 
แต่จริงๆนั่งเครื่องค่อนข้างสะดวกเพราะว่า ค่าตั๋วไม่แพง ประหยัดเวลา และไม่เหนื่อยด้วยค่ะ
 
อากาศ ตุรกีหน้าร้อน ร้อนจริงจังช่วงกลางวันอุณหภูมิประมาณ 35-40องศาได้ค่ะ บอกเลยใส่ชุดว่ายน้ำก็เหงื่อออกได้เพี้ยนร้อน
แต่ตอนเช้า ก่อน 9โมง อากาศดีมาก เย็นสบายสุดๆ อุณหภูมิประมาณ 10กว่าๆ ไม่เกิน 23องศาค่ะ
แต่ข้อดีของการเที่ยวช่วงซัมเมอร์คือรูปสวย ฟ้าใสมาก แล้วก็โอกาสในการที่บอลลูนจะไม่ขึ้นเพราะอากาศไม่เป็นใจแทบไม่มี เราตั้งใจไป
 
Day1 เราขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ Turkish airline  อยู่ท้ายๆเลยนะคะ เข้าประตู9 -10 เลย เลือก Turkish airline เพราะว่าเป็นสายการบินเดียวที่บินตรงไปตุรกี ได้ตั๋วไปกลับมาในราคา 20,800 บาท  ดีกว่านั้น ตอนที่เช็คอิน เจ้าหน้าที่คนสวยแจ้งว่า สามารถTransfer กระเป๋าให้ได้เลย ไม่ต้องออกมา รับกระเป๋าให้วุ่นวาย เพราะเรามีบินต่อไปที่  สนามบิน Kayseriเพื่อที่จะไปเมือง Cappadocia เมืองบอลลูนนั่นเอง  ขาไปเครื่องว่างมากกก ยังกับเช่าเหมาลำ ตีตั๋วนอนยาวสบายๆเลยค่ะ
Day2  บินไปถึง Istanbul เวลา ตี 3กว่าๆ ถึงเร็วกว่าที่บอกเกือบครึ่งชั่วโมงเลยค่ะ นั่งเล่นรอต่อเครื่องไป Kayseri  
เราจองflight 8.50น. มา  ซึ่งถ้านั่งTurkish airline เหมือนเรา แนะนำว่าจองflightก่อนหน้านี้ก็ได้นะคะ มันมีflight 6โมงกว่าๆด้วย แต่ตอนแรกที่จอง เรากลัวไม่ทัน สรุปเผื่อเวลาเยอะไปมากเลยค่ะ   อีกอย่างตอนจะจองตั๋วภายใน ดูดีๆนะคะ เพราะ Istanbul มี 2 สนามบินนะคะ  ตัวย่อ “IST” กับอีกอันคือ “SAW” เลือกอัน ISTนะคะ เพราะflight จากเมืองไทยจะมาลงที่นี่เท่านั้นค่ะ

เครื่องDelay นิดหน่อย ก็ได้เวลาบินต่อไปCappadocia บินไปลงสนามบินKayseriค่ะ
เราเช่ารถเอาไว้ จองผ่าน rentalcarsมานะคะ ได้มาในราคา 3500บาทต่อคัน เราเช่าเป็นคันเล็ก2คัน เพราะถูกกว่าคันใหญ่และขับง่ายกว่า บริษัทเช่ารถไม่ได้อยู่ในสนามบินนะคะเราต้องโทรไป เค้าก็เอารถมารับเราไปออฟฟิสแล้วไปทำเอกสาร แล้วก็เรียบร้อยแล้วค่ะ สนามบินอยู่ห่างจากตัวเมือง Goremeประมาณ1ชั่วโมงค่ะ  รถพวงมาลัยซ้ายนะคะ ตั้งสติก่อนสตาร์ท แล้วก็ไปได้เลยค่ะ ขับไม่ยากถนนดี (ถ้าไม่ขึ้นเขาชันๆนะคะ)

เรากับเพื่อนตกลงไปกินข้าวกันก่อนค่ะ มื้อแรกเริ่มที่ร้าน Debek เพราะว่าอยากลองกิน Beef Pottery มันประมาณเนื้อตุ๋นกับมะเขือเทศและเครื่องปรุงรสอื่นๆ มันเป็นอาหารพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อก็เลยจัดซักหน่อย อร่อยดีนะคะ ต้องลองค่ะ   ที่นี่เสริฟไวน์ด้วยเหยือกและแก้วเป็นเครื่องปั้นดินเผาค่ะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบ
เสร็จแล้วก็ออกไปตบท้ายด้วยไอศกรีมล้างปากซักหน่อย อันนี้แนะนำเลยค่ะ อร่อยจริง แนะนำสั่งเป็นmixทุกรสนะคะ มันเข้ากันมากๆ
อิ่มแล้วก็เข้าที่พักกันค่ะ โรงแรมที่เราเลือกพักวันนี้ชื่อ Yunak Evleri Hotel อยู่ที่ Urgupห่างจาก Goremeที่เราแวะทานข้าวเมื่อกี๊ประมาณ 15นาทีนะคะ ราคาห้อง รวม2ห้อง นอน 7คน 10802บาทค่ะ  ตอนแรกลุ้นๆว่าจะเหมือนในรูปตอนจองไม๊ พอไปถึงแล้วปลื้มมาก โรงแรมสวย ห้องกว้าง มุมถ่ายรูปเพียบ อาหารเช้าอร่อยมีให้เลือกหลากหลาย พนักงานบริการดีมาก แนะนำเลยค่ะ เข้าที่พักแล้วก็ชิวๆอยู่ในโรงแรมค่ะ
วันนี้นอนเร็วนิดนึงพรุ่งนี้ตื่นไปขึ้นบอลลูนกันค่ะ  เพี้ยนฝันดี

Day3 วันนี้ที่รอคอยยย เราจะไปขึ้นบอลลูนกันค่ะ  ตื่นเช้ามากกก เพราะเมื่อวานบริษัทบอลลูนแจ้งว่าจะมารับที่โรงแรมตี3.30 เวลามารับขึ้นกับว่าพระอาทิตย์ขึ้นตอนกี่โมงด้วยนะคะ  พอดีเรามาSummerพระอาทิตย์ขึ้นค่อนข้างเร็ว
เราเลือกบริษัท ** Butterfly Balloonนะคะ เป็นtop 5 บริษัทบอลลูนที่นี่ เพื่อความปลอดภัยค่ะ  ราคา180ยูโร จ่ายเป็นเงินสดนะคะ ถ้ารูดบัตร +เพิ่มอีก 20ยูโร อีกบริษัทที่แนะนำ คือ Royal Balloonนะคะ ดีงามเช่นกัน
รถที่มารับจะพาเราไปส่งที่บริษัทก่อนนะคะ มีกาแฟ ขนม ผลไม้ ให้ทานรองท้องได้ แล้ว ก็ประมาณตี4กว่าๆ ก็พาออกไปจุดที่ขึ้นบอลลูน  คือแค่ลงรถ เห็นเค้า set upบอลลูนก็ตื่นเต้นแล้วค่ะ
พอขึ้นไป คือมันสวยมากๆๆ จริงๆค่ะ ยิ่งตอนพระอาทิตย์กำลังขึ้นคือเกินบรรยาย
ถ่ายรูปกันสนุกสนาน ยืนได้เป็นชั่วโมงแบบไม่รู้สึกเมื่อย ลืมเวลาไปเลย แนะนำให้ยืนริมๆฝั่งกระเช้าที่ไม่ติดกับคนขับบอลลูนนะคะ เพื่อรูปที่สวยกว่า
ลงจากบอลลูนเรียบร้อย รถเค้าจะกลับมาส่งที่โรงแรมนะคะ หลังจากทำอะไรเรียบร้อยเราก็ check outย้ายโรงแรมค่ะ
เราย้ายเพราะว่าอีกโรงแรมรีวิวว่าตอนเช้าดาดฟ้าโรงแรมถ่ายรูปกับบอลลูนได้ด้วย เลยอยากได้โมเมนต์นั้นบ้าง

ก่อนเข้าโรงแรมเรากลับไปที่Goremeเดินเล่น ซื้อของฝาก ทานอาหารกลางวันที่ร้าน Sedef เป็นอาหารตุรกีนะคะ แนะนำ ไก่ย่าง อร่อยดีค่ะ
และที่พลาดไม่ได้คือ ถ่ายรูปร้านพรมค่ะ ร้านชื่อ Galerie Ikman เสียค่าเข้าไปถ่ายคนละ 50tl 
แต่ถ้าอยากให้เค้าใช้Droneถ่ายให้ เค้าคิด 350tl นะคะ พอดีเราไปเป็นกรุ๊ป7คน หารกันแล้วก็เลยไม่แพงค่ะ  ถ้าไปคนไม่เยอะลองต่อราคากันดูนะคะ

เสร็จแล้วก็เข้าที่พักค่ะ   โรงแรมคืนนี้ชื่อ Azure cave house  ราคาห้อง 2ห้อง นอน7 คน 9725บาท โรงแรมนี้เราไม่แนะนำนะคะ เราจองห้องstandardกับห้อง Deluxeไป ห้องstandardก็โอเคค่ะ แต่ห้อง Deluxe ไม่เหมือนในรูปและรายละเอียดที่ให้ไว้อย่างสิ้นเชิง  อีกข้อที่ต้องระวังทางที่ต้องขับรถขึ้นมา
ชันมากกกก คือ รถที่เช่ามาขับมาได้ครึ่งทางแล้วหมุนล้อฟรี กลิ่นไหม้ขึ้น เลยเบรก แล้วลงมาจากรถ จุดนั้นกลัวไหลตกลงไปเลยค่ะ   ต้องให้พนักงานโรงแรมมาขับขึ้นให้ ถ้าไม่ชำนาญทางชันๆ ก็ไม่แนะนำค่ะ    หารูปไม่เจอ คาดว่ามัวแต่โกรธจนลืมถ่ายรูป  
นานาโกรธ
เรารีบด้วยค่ะ เพราะใกล้เวลานัดออกไปขี่ม้า เราจองกับLucky Horse Ranch จองไว้คือแบบเป็นprivate ไม่รวมกับคนอื่น แล้วก็ขี่ 1ชั่วโมง ไปตามGorkundere, Zemi, หรือ Swords Valleys ราคา 20ยูโร    เค้ามารับ-ส่ง ที่โรงแรมนะคะ แล้วก็ไปถึงคอกม้า แต่งกายอะไรเรียบร้อย แล้วก็เริ่มเลยแบบไม่ตั้งตัว  เราไปกับเพื่อนอีก3คน ในกลุ่มมีแค่คนเดียวที่เคยขี่ม้า  ซึ่งทางคอกม้าบอกว่าไม่มีปัญหา ไม่เคยขี่ก็ขี่ได้........
เอาเข้าจริง เพื่อนเราตกม้าไป2คน  คนแรกที่ตกคือคนที่เคยขี่ด้วยค่ะ  ม้าอยู่ๆมันก็วิ่งอย่างเร็ว สะบัดเพื่อนเราตกลงมา   ม้าที่นี่ไม่เชื่องเลยค่ะ แล้วก็ไม่ได้มีคนมาประกบจูงม้าหรืออะไรให้  มีคนขี่นำหน้าเราหนึ่งคน เพื่อให้ม้าทั้งหมดเดินตาม และมีคนเดินตามท้ายหนึ่งคน ทางเป็นทั้งทางเรียบและซอกเขา  คือ เหมาะกับผู้มีประสบการณ์มากกว่า
เรากับเพื่อนขี่ไม่ครบเวลานะคะ หลังจากเพื่อนตกม้า เลยบอกเค้าว่ากลับดีกว่าไม่ขี่ต่อ  เค้าไม่ได้รับผิดชอบอะไรกับการตกม้านะคะ 
หลังจากนั้นก็เข้าที่พักค่ะ  เตรียมพร้อมเพื่อตื่นมาเจอบอลลูนอีกรอบ

Day 4  เราสามารถเดินออกจากห้องพัก เดินขึ้นเขาไปนิดหน่อยและได้เจอวิวนี้เลย  นี่เป็นข้อดีข้อเดียวของโรงแรมนี้ที่เราคิดออก  แต่มันดีจริงๆ 
ตามภาพเลยจ้า
สายๆออกจากโรงแรม  กลับมาถนนเส้นเดิมที่ Goreme  เรามาทานอาหารกลางวันที่ร้าน Pekingนะคะ เป็นอาหารจีนรสชาติใช้ได้ค่ะ ราคาไม่แพง 
เติมพลังแล้วก็ไปต่อกันที่Uchisar Castle เป็นบ้านถ้ำที่เป็นรูๆ คือเค้าอยู่กันแบบนี้จริงๆ 
เราเดินไปนั่งเล่นดื่มชา ที่คาเฟ่ถ้ำเก๋ๆ บรรยากาชิวมาก  ชื่อร้าน Typical Turkish House Caffeteria  ร้านนี้ เป็นบ้านของลุงกับป้า ที่เค้ายังอยู่ในบ้านถ้ำนี้จริงๆ แล้วก็เอาบ้านมาดัดแปลงเป็นร้านกาแฟค่ะ  
ชิวกันไปซักพัก ก็ไปต่อที่ Avanos ค่ะ ขับรถไปประมาณ 15นาทีนะคะ เราไปแวะที่ร้าน Sultan Ceremic Avanos เค้าแต่งร้านสวยดีนะคะ มี Gimmickของ Underground cityเบาๆ แล้วก็มีอธิบายขั้นตอนการทำและความหมายของลายที่เพนท์ในชามด้วยค่ะ
เค้าแบ่งของที่ขายเป็น 2 แบบหลักๆนะคะ อันที่ทำด้วยช่างธรรมดา กับช่างที่เป็น Master ราคาต่างกันเยอะมาก แต่คุณภาพก็ต่างกันมากเช่นกัน  ถ้าจะซื้อในร้านแนะนำให้ซื้ออันที่เป็น Masterทำไปเลยค่ะ เพราะอันธรรมดา ซื้อข้างนอกถูกกว่าเยอะค่ะ
ใกล้ๆร้านมี Starbucks นะคะ เผื่อจะ grabก่อนไปขึ้นเครื่องค่ะ เพราะว่า ราคาถูกกว่าสาขาใน สนามบินครึ่งนึงเลยค่ะ 
ออกจากร้านก็ไปสนามบินค่ะ ไปคืนรถ แล้วก็ขึ้นเครื่องไปสนามบิน Izmir เที่ยวนี้เราบิน Pegasus airline ค่ะ บิน ASR to ADB flight 20.30 - 21.55 ราคา2127  

เขียนซะยาวเลย  เดี๋ยวมาต่อเมืองต่อไปใน comment นะคะ  ฝากติดตามด้วยนะคะ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวตุรกีด้วยตัวเอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่