สำหรับผมนะครับ

1. Heat คนระห่ำคน (1995)
- ชอบบทดราม่าทั้งของพระเอกและตัวร้าย ที่ชีวิตส่วนตัวของแต่ละคน มีดีและร้ายและเหตุผลการกระทำต่างๆที่ต่างออกไป แต่มีจุดหมายเดียวกัน คือ ทำงานที่ตั้งเป้าให้บรรลุ คนนึงเป็นหัวหน้าตำรวจหน่วยพิเศษต้องตามสืบไล่จับกลุ่มโจรปล้นแบงค์ อีกคนเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรปล้นที่ออกปล้นและจะหนีไปกับคนรัก

- ชอบการแสดงของสองตัวเอกที่ต่างขั้วออกไป ทั้ง Al Pacino และ Robert De Niro มาดเนี๊ยบ ดูดี เท่มากๆ มีบทพูดสนทนาเชือดเฉือนกัน เฉือนคม หักเหลี่ยมระหว่างตำรวจกับโจร ขนาดแสดงเรื่องนี้ทั้งคู่น่าจะ 50 กันได้แล้ว ยังดูดีไม่แพ้สมัยทั้งคู่แสดงเรื่อง The Godfather เลย

- ผู้กำกับ/เขียนบท Michael Mann กำกับดีหมดทุกองก์ของหนัง หนังมีความยาวเกือบ 3 ชม. ปูเรื่องดี มีดราม่า วางแผนปล้น สืบสวนสอบสวน ไล่ล่า ฉากแอ็คชั่นที่ใส่ลงมากำลังดีไม่มากไปหรือน้อยไปและดูสมจริง บทสนทนาดี ตัวละครทุกตัวในเรื่องแสดงดีหมด โดยเฉพาะสองตัวเอก เรื่องนี้บทของ Val Kilmer โคตรเท่ และยังมี Natalie Portman มาแสดงสมทบเป็นลูกเลี้ยงของพระเอกในเรื่องอีกด้วย ดาราดังมาแสดงหลายคนยิ่งดึงดูดให้หนังน่าดูมากขึ้น

- ฉากแอ็คชั่นในเรื่องมีหลายฉากแต่พูดถึงไม่ได้คือฉากไคลแม็กซ์ที่ทั้งฝ่ายโจรและตำรวจยิงปะทะกันกลางถนน เป็นฉาก longtake สาดกระสุนกันโดยไม่ใส่ดนตรีประกอบเข้ามา เน้นบรรยากาศ ความกดดัน ตื่นเต้น เสียงปืนทุกนัดดังฟังชัดมาก เป็นซีนที่น่าจดจำที่สุดในเรื่องนี้ หนังแนวปล้นยุคต่อมาหลายเรื่องพยายามทำตามในฉากไล่ยิงกันแบบ longtake แต่ไปไม่สุดเท่าเรื่องนี้เลย 

 - เรื่องนี้ผมดูไปหลายรอบมากๆ ชอบการแสดงและบทของทั้งสองตัวเอก ฝ่ายพระเอก และฝ่ายผู้ร้าย แต่ดูแล้วผมแอบเชียร์ฝ่ายผู้ร้ายนะ คือ ชอบบทเรื่องนี้ของ Robert De Niro มาก คือ เป็นโจรพระเอกอะ บอกไม่ถูก แต่ดูแล้วชอบแกมากๆในเรื่องนี้ ยิ่งซีนตอนท้ายเรื่องที่แกบุกไปในโรงแรมไปแก้แค้นหนึ่งในลูกน้องที่ทรยศแกนะ "Look At Me" ปังๆๆ ฟิวโคตรได้อะ โคตรเท่เลย 

2. Speed เร็วกว่านรก (1994)
 - เป็นหนัง non-stop action ที่เหตุการณ์ในเรื่อง อยู่บนรถเมล์คันเดียวแทบทั้งเรื่อง แต่หนังมันสร้างสถานการณ์ต่างๆในรถได้โคตรตื่นเต้น ลุ้นระทึกทุกนาทีเลย ไม่มีช่วงน่าเบื่อ แม้ในเรื่องพระเอกกับคนร้ายแทบจะไม่ได้ออกมาต่อสู้กันเลย

- Keanu Reeves เรื่องนี้แกโคตรหล่อ โคตรเท่ กับทรงผมสกินเฮดมัดใจสาวทั่วโลก Sandra Bullock สมัยนั้นก็น่ารักสดใสดี เคมีพระนางโคตรได้ ดูแล้วแอบจิ้นตาม 

- ตัวร้ายในเรื่องที่แสดงโดย Dennis Hopper คือ เป็นตัวร้ายแนวที่ผมชอบเลย แก่แต่เก๋า ฉลาด มีการวางแผน ทำงานคนเดียว ไม่มีลูกน้อง ใช้ระเบิดไปไม่กี่ลูก กระสุนไม่กี่นัด ก็ทำให้ตำรวจทั้งเมืองหัวปั่นกันได้ ชอบคาแร็คเตอร์ตัวร้ายแบบนี้

- ชอบสุดๆคือ ฉากขับรถเมล์ความเร็วสูงข้ามรอยต่อของสะพาน เป็นอะไรที่โคตรโม้ และโคตรลุ้นระทึกเลย ฉากนี้ยิ่งกว่าฉากขับรถทะลุตึกใน Fast & Furious 7 ซะอีก และฉากที่พระเอกต้องมุดลงไปใต้ท้องรถไปแก้ชนวนระเบิดก็เป็นอีกหนึ่งซีนในหนังที่ผมชอบ และดูแล้วโคตรลุ้นเลย

- เสียดายไปนิดตรงตัวร้ายตายกากไปหน่อย กับดนตรีประกอบในเรื่องที่ผมไม่ค่อยโอเค แต่โดยรวมถือเป็นหนังแอ็คชั่นขึ้นหิ้งอีกเรื่องในยุค 90 ตัวผู้กำกับ Jan De Bont เคยเป็นหนึ่งในทีมงานเรื่อง Die Hard เรื่อง Speed ก็มีกลิ่นอายความเป็น DH อยู่มิใช่ใช่น้อย แต่มาทำในแบบของ Jan De Bont ที่ผมดูจบแล้วชอบมากๆครับ 

3. Shooter คนระห่ำปืนเดือด (2007)
- เนื้อเรื่องดีมาก เข้มข้น มีอะไรให้น่าติดตาม มีพลิกล็อคทำให้คนดูหวือได้ ฉากแอ็คชั่นดีมาก สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ 

- เป็นอีกบทบาทในการแสดงของ Mark Wahlberg ที่น่าจดจำ และแกก็แสดงในบทจ่า Bob Lee Swagger ได้ดีมากๆ ในเรื่องนี้แอบฮาๆบทของ Michael Pena อยู่บ้าง เป็น F.B.I. ไก่อ่อน ทำอะไรดูลุกลี้ลุกลนดี นางเอกก็สวย Kate Mara ชอบเลย

- ตัวพระเอกในเรื่องนอกจากจะแม่นปืน เทพสไนเปอร์แล้ว ยังฉลาด สุขุม มีไหวพริบ มีการวางแผน และเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันเก่งด้วย 

- พวกตัวร้ายในเรื่องก็มาเลวสุดๆทุกตัว หลอกใช้พระเอกและทำให้พระเอกเป็นแพะรับบาป มีการซ้อนแผนการสังหาร ดูลึกลับ ซับซ้อนดี ไม่ใช่ตัวร้ายที่มาโง่ๆ แปปเดียวแล้วตาย เรื่องนี้พวกตัวร้ายก็วางแผนจัดฉากมาดี แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ทันพระเอกอยู่ดี 

- เรื่องนี้ทุกซีนแอ็คชั่นเกี่ยวกับการใช้ปืนสไนเปอร์ทำได้ดีมากๆ ผมชอบที่สุดคือฉากกลางหิมะ ลุ้นโคตรๆ อีกอย่างเรื่องนี้ที่ชอบมากๆ คือ ตัวผู้กำกับ Antoie Fuqua ให้เครดิตแกเยอะ ก่อนหน้าเรื่อง Shooter ผมก็ติดตามและชอบแกมาหลายเรื่อง และนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่แกกำกับได้ดีและน่าจดจำ

4. No Country For Old Men ล่าคนดุในเมืองเดือด (2007)
 - หนังเรื่องนี้ให้อารมณ์ความเป็นทริลเลอร์ ระทึกขวัญ มากกว่าแอ็คชั่น เป็นหนังออกแนว western ปนดราม่า แต่ก็พอมีฉากแอ็คชั่นไล่ล่ากัน ที่ทำให้ลุ้นระทึกและมันได้อยู่ 

- การแสดงของสามตัวเอกดีหมดทั้ง Javair Bardem, Josh Brolin และ Tommy Lee Jones แต่การแสดงของ Javair Bardam ในเรื่องนี้ โดดเด่นที่สุด ทั้งสีหน้า สายตา ท่าเดิน การพูดการจา ดูหน้าเลือดเย็น โหดอำมหิตมากๆ แกแสดงได้หลุดไปเป็นตัวละครนั้นจริงๆ สมแล้วกับรางวัลออสการ์

- หนังเรื่องนี้นอกจากจะให้ความตื่นเต้น ลุ้นระทึก และฉากไล่ล่ามันๆแล้ว หนังยังแฝงนัยยะต่างๆมากมายให้ขบคิดหลังดูจบอีกเยอะ เป็นหนังที่ดีมากๆอีกหนึ่งเรื่อง และดูจบผมนี่หลอนกับตัวละครที่ Javair Bardem แสดงเลย คนอะไรจะโหด โรคจิตขนาดนี้

5. Man On Fire คนจริงเผาแค้น (2004)
 - เรื่องนี้ทั้งแอ็คชั่นเดือด มัน ระทึกขวัญ บทสนทนา บทดราม่าดี มาซึ้งน้ำตาไหลตอนท้ายเรื่อง การกำกับมุมกล้องและโทนเรื่องดาร์กๆที่ออกมาหม่นแต่ดีของ Tony Scott บวกกับการแสดงเข้มๆของ Denzel Washington และการแสดงของ Dakota Fanning ในมุมน่ารักๆ มาตัดกัน ทำให้หนังออกมาดีมากๆ เป็นหนึ่งในหนังแนวล้างแค้นที่ผมชอบมากๆครับ

 - เรื่องนี้ฉากแอ็คชั่นดุเดือดและสมจริงมากๆ พระเอกไม่ได้เก่งเว่อร์ถึงขนาดโดนยิงโดนแทงแล้วสามารถลุกขึ้นมาสู้ต่อได้ เจ็บคือเจ็บ โคม่าเลย แต่ด้วยแรงแค้นและสงสารเด็ก เลยต้องฝืนตัวเองมาสะสางแค้นกับพวกคนเลว 

 - เรื่องนี้ผมชอบฉากสุดท้ายมากที่สุด ฉากพระเอกมาแลกตัวกับเด็ก กลางสะพาน มันสื่อออกมาดีมาก เหมือนพระเอกไม่ได้ทำหน้าที่แค่บอดี้การ์ดอย่างเดียว พระเอกยังเหมือนพ่อที่ดูแลและห่วงใยเด็กอีกด้วย ในเรื่องพ่อจริงๆของเด็กเลวบรรลัยมาก เป็นซีนที่ผมน้ำตาไหลทุกครั้งที่ได้ดู 

6. Non-Stop เที่ยวบินระทึก ยึดเหนือฟ้า (2014)
 - เป็นหนังที่สถานการณ์เกิดขึ้นอยู่ในเครื่องบินลำเดียวทั้งเรื่อง แอ็คชั่นมีอยู่สองสามฉากไม่มาก เน้นอารมณ์กดดัน ระทึกขวัญ พระเอกในเรื่องเดินวนในเครื่องไม่กี่ที่ แต่มันทำให้เราคิดตามพระเอกตลอด ว่าใครกันว่ะ ที่เป็นคนร้ายตัวจริง

 - เรื่องนี้ Liam Neeson แกก็มาแสดงบทคนแก่เก๋าๆ มาดเท่ๆ เหมือนเรื่อง Taken มีฉากบู๊กับคนร้ายช่วงท้ายเรื่องพอเป็นพิธีให้รู้ว่า ป๋าแกเก๋านะเว้ย ทั้งเรื่องเน้นสืบสวนสอบสวน มีหักมุมนิดๆ ตอนเฉลยตัวคนร้ายแอบงงทำ
เซอร์ไพร์สอยู่บ้าง 

 - ฉากสุดท้ายที่ปืนลอยกลางอากาศแล้วพระเอกรับปืนแล้วยิงใส่ตัวร้าย เป็นซีนที่โคตรเท่ คิดได้ไง โคตรจะเทพเลย 

7. Safe โคตรฅนระห่ำ ทะลุรหัส (2012)
 - เป็นหนังที่นำแสดงพระเอกยอดนักบู๊ Jason Statham ที่ผมชอบมากที่สุดก็ว่าได้ พล็อตเรื่องดี มีความซับซ้อน ถึงช่วงท้ายเรื่องจะเฉลยปมแบบงงๆหลายประเด็นอยู่ก็ตาม เพราะ เรื่องนี้ตัวละครเยออะมากๆ ตัดฉากไปหาตัวละครหลายตัว บางทีจะโฟกัสที่ใครคนใดคนนึงก็ไม่ทันไรตัดไปหาคนอื่นเร็วไปนิด แต่ภาพรวมถือว่าหนังทำโอเค ทั้งบท เนื้อเรื่อง ดนตรีประกอบ และฉากแอ็คชั่นที่ดูหนักแน่นและสมจริง ทั้งฉากต่อสู้มือเปล่า ฉากยิงกัน ฉากขับรถไล่ล่า ไม่ได้ดูเว่อร์แบบ Transporter 

 - ฉากยิงถล่มกันในไนท์คลับพวกมาเฟียจีนตอนกลางเรื่อง เป็นซีนแอ็คชั่นที่ผมชอบที่สุดในเรื่องนี้ ทุกนัดดุดันมาก พี่เจสันแกทั้งยิง เตะต่อย ครบเครื่องจัดเต็ม

 - การแสดงของเจสันก็มาดเดิมๆ เข้มๆ เท่ๆ ทำหน้าซีเรียสอยู่ตลอดเวลา มีบทเห็นพี่แกดราม่าบ้างตอนต้นเรื่อง ก็แสกงใช้ได้ ส่วนเด็กหญิงชาวจีนในเรื่องแสดงแข็งไปนิด เวลาเข้าฉากกับเจสัน ดูเกร็งๆ แข็งๆ แต่ก็ยังพอรับได้ ไม่ได้แย่มาก โดยรวมเป็นหนังแอ็คชั่นที่โคตรมันและดีอีกหนึ่งของ เจสัน สเตแธม เลยครับ

8. RED คนอึดต้องกลับมาอึด (2010)
 - เป็นหนังแอ็คชั่น โหด มัน ฮา ปน comedy ของค่าย DC Comics รวมพลอดีตดาราวัยเก๋าดังๆหลายคนมาแสดง นำทีมโดยคนอึดตายยาก Bruce Willis เรื่องนี้มีสองภาค แต่ผมชอบภาคแรกมากที่สุด เนื้อเรื่องโอเคไม่จืดไปหรือซับซ้อนไป ทั้งตัวละครที่กระจายบทดี ไม่ได้ให้ใครเด่นออกนอกหน้าใครมากเกินไป บทฮาๆโจ๊กๆในหนังทำออกมาได้ดี ไม่ได้จะจงใจให้ตลกในหลายฉาก แต่สถานการณ์มันพาไป ฉากแอ็คชั่นแอบเว่อร์อยู่บ้างแต่มันสะใจตามสไตล์หนังของ Bruce Willis

 - ฉากแอ็คชั่นตอนท้ายเรื่องมี่บุกไปจับรอง ปธน. สหรัฐอเมริกาในงานเลี้ยง เป็นซีนแอ็คชั้นที่ผมชอบมากๆในเรื่องนี้ ทีมเวิร์คดีมาก ถึงแก่แต่เก๋า เอาเป็นว่าไม่ต้องใช้อุปกรณ์ไฮเทคเท่าเรื่อง Mission Impossible แต่บรรลุเป้าหมายได้ดีไม่แพ้กัน

 - เรื่องนี้ตอนดูแอบคิดนะว่า Bruce Willis เหมือน John McClane ในเรื่อง Die Hard ทั้งมาด ความเก๋า บู๊ดิบสะใจ เพิ่มเติมคือ ฮาติดตลกมากกว่าเรื่อง DH 

9. The Town ปล้นสนั่นเมือง (2010)
 - เป็นผลงานการกำกับชิ้นที่สองของ Ben Affleck และเรื่องนี้แกก็แสดงนำอีกด้วย เป็นหนังแนวอาชญากรรม ปล้น ปนดราม่า และมีความเป็นแอ็คชั่นอยู่บ้าง

 - หนังเน้นการสื่อถึงชีวิตแต่ละมุมของตัวละคร ไม่ใช่นึกจะมาเป็นโจรออกปล้นก็เป็นเลย หนังมันเล่ามีที่มาที่ไป เน้นดราม่าแต่มันไม่ได้เป็นหนังดราม่าจ๋าที่ดูแล้วน่าเบื่อ ฉากแอ็คชั่นปล้นกัน ยิงกัน ในเรื่องทำออกมาได้ไม่หวือหวา แต่ดูสมจริงดี เหมือนเหตุการณ์โจรปล้นยิงปะทะกับตำรวจในข่าว cnn เลย

 - เรื่องนี้บทของ John Hamm ที่แสดงเป็น F.B.I. ที่ตามสืบและจับพวกพระเอก คือ แกแสดงได้เท่มากๆเลย ดูนิ่งสุขุม ใส่สูทหล่อ ดูภูมิฐานสมกับเป็น F.B.I. บทของ Jeremy Renner ก็แสดงได้ดีมากๆ ดูถ่อย เถื่อน โหด หน้าตาแบบโจรเลย อีกคนที่แสดงได้ดีคือ Blake Lively แสดงเป็นโสเภณีขี้ยา คือ ดูเหมือนคนติดยาจริงๆ สวยอยู่แต่ดูโทรม

10. The Last Samurai มหาบุรุษซามูไร (2003)
 - เป็นหนังที่ครบรส ทั้งดราม่า ซึ้ง แอ็คชั่นมัน ระทึก สงคราม โลเคชั่นสวย หลายฉากถ่ายวิวทิวทัศน์โคตรฟิน บทสนทนาในเรื่องของสองตัวเอกดีมากๆ สื่ออะไรดีๆหลายอย่าง

 - Tom Cruise ในเรื่องนอกจากจะโชว์ลีลาการต่อสู้ทั้งใช้ปืนและดาบซามูไรแล้ว ยังมีบทดราม่าที่แกแสดงดีๆ เยอะอีกด้วย ดูเป็นคนเศร้า เก็บกด รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำในอดีต เป็นคนขี้เหล้า สีหน้า ท่าทางของแกแสดงดีมาก ใช่เดียวกับดาราญี่ปุ่น Ken Watanaba ที่แสดงเป็นหัวหน้านักรบซามูไร แสดงได้ทรงพลังมาก ดูกล้าหาญชาญชัย มุ่งมั่น เป็นยอดนักรบ แต่มีมุมที่อ่อนโยนเป็นนักกวี ซึ้งมากๆตอนท้ายเรื่องนะ น้ำตาไหลเลย

 - หนังมันยังสื่อถึงคุณค่าในตัวมนุษย์และรากเหง้าของคนในประเทศนั่นๆได้ดีอีกด้วย มุมมอง แนวคิด ที่แตกต่างกัน ฉากแอ็คชั่นทำสงครามช่วงท้ายเรื่องเป็นอะไรที่โคตรอลังเลย ยิ่งตอนพวกซามูไรขี่ม้าฝ่าดงกระสุนมานะ ดูกี่ครั้งก็ขนลุก 

 จริงๆมีชอบมากกว่านี้หลาย10-20 เรื่องเยอะเลยครับ มาแชร์แค่นี้ก่อน 10 เรื่อง