“เอกชน” ห่วงขึ้นค่าแรง จี้รัฐบาลทยอยปรับ
นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นรัฐบาลใหม่ค่อย ๆ ทยอยปรับภายใน 3-4 ปีเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหาเสียงในการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400-425 บาทต่อวัน โดยช่วงนี้ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของคณะกรรมการไตรภาคีไปก่อนและเมื่อเข้าสู่ภาวะที่เศรษฐกิจดีโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งซื้อหรือออร์เดอร์จากลูกค้าจำนวนมากก็อาจปรับขึ้นอย่างจริงจังก็ได้เพื่อให้ผู้ประกอบการและแรงงานอยู่รอด เบื้องต้นเชื่อว่าช่วง 3-4 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจไทยคงสู่ภาวะฟื้นตัวแน่นอน
"ตอนนี้ค่าจ้างแรงงานคนไทยที่มีฝีมือส่วนใหญ่ก็มีรายได้ขั้นต่ำเกิน 400 บาทต่อวันแล้ว หากรัฐบาลกำหนดให้ 400 บาทเป็นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับอานิสงส์ก็จะเป็นแรงงานต่างด้าว และที่สำคัญเกษตรกรธุรกิจรายย่อย และเอสเอ็มอี ก็จะได้รับความเดือดร้อนหนักกว่ารายใหญ่ ๆ ที่จำนวนมากได้หันไปพัฒนาศักยภาพแรงงาน และนำเครื่องจักรต่าง ๆ เข้ามาแก้ปัญหาแล้ว”
ว่าที่ร้อยเอก จิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง หอการค้าไทย เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคร่วมมีการนำนโยบายปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันบรรจุในนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ว่า การปรับค่าจ้างขั้นต่ำรัฐบาลไม่ควรเป็นอัตราเดียวทั่วประเทศ เช่น ทุกจังหวัดมีค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400 บาท เพราะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจไทยที่ปัจจุบันอยู่ในภาวะซึมตัวอยู่แล้ว และยังซ้ำเติมผู้ประกอบการไทยให้เสี่ยงต่อการมีผลดำเนินงานที่ขาดทุนมากขึ้น ดังนั้นการปรับขึ้นค่าจ้างต้องทยอยปรับ 3-4 ปี หรือให้อำนาจอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดเสนอเนื่องจากจะสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด "ภาคเอกชนเห็นด้วยที่ทยอยปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน แต่ไม่เป็นอัตราที่เท่ากันทั้งประเทศ และไม่ใช่ทำพรวดเดียวเหมือนกรณีการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศเหมือนกับอดีตแต่หากรัฐบาลยังขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ในอัตราเดียวกันทั่วประเทศ 400 บาทต่อวัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องของตัวใครตัวมันแล้วกัน เพราะจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจซ้ำเติมผู้ประกอบการ และซ้ำเติมแรงงานที่มีประสิทธิภาพต่ำอาจเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างเหมือนกัน"
--------------------------------
ติดตามข้อมูลสาระสำคัญต่างๆ ได้ทาง
website : www.thaichamber.org
Line@ :
https://bit.ly/2ZiAoCc
Instragram :
https://bit.ly/2v5TYE7
Facebook :
https://bit.ly/2V388o8
YouTube Channel :
https://bit.ly/2Un4uAU 
“เอกชน” ห่วงขึ้นค่าแรง จี้รัฐบาลทยอยปรับ
นายปรัชญา สมะลาภา ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก หอการค้าไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำนั้นรัฐบาลใหม่ค่อย ๆ ทยอยปรับภายใน 3-4 ปีเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายหาเสียงในการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400-425 บาทต่อวัน โดยช่วงนี้ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของคณะกรรมการไตรภาคีไปก่อนและเมื่อเข้าสู่ภาวะที่เศรษฐกิจดีโรงงานอุตสาหกรรมมีคำสั่งซื้อหรือออร์เดอร์จากลูกค้าจำนวนมากก็อาจปรับขึ้นอย่างจริงจังก็ได้เพื่อให้ผู้ประกอบการและแรงงานอยู่รอด เบื้องต้นเชื่อว่าช่วง 3-4 ปีข้างหน้าเศรษฐกิจไทยคงสู่ภาวะฟื้นตัวแน่นอน
"ตอนนี้ค่าจ้างแรงงานคนไทยที่มีฝีมือส่วนใหญ่ก็มีรายได้ขั้นต่ำเกิน 400 บาทต่อวันแล้ว หากรัฐบาลกำหนดให้ 400 บาทเป็นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศส่วนใหญ่ผู้ที่ได้รับอานิสงส์ก็จะเป็นแรงงานต่างด้าว และที่สำคัญเกษตรกรธุรกิจรายย่อย และเอสเอ็มอี ก็จะได้รับความเดือดร้อนหนักกว่ารายใหญ่ ๆ ที่จำนวนมากได้หันไปพัฒนาศักยภาพแรงงาน และนำเครื่องจักรต่าง ๆ เข้ามาแก้ปัญหาแล้ว”
ว่าที่ร้อยเอก จิตร์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง หอการค้าไทย เปิดเผยถึงกรณีที่พรรคร่วมมีการนำนโยบายปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันบรรจุในนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ว่า การปรับค่าจ้างขั้นต่ำรัฐบาลไม่ควรเป็นอัตราเดียวทั่วประเทศ เช่น ทุกจังหวัดมีค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 400 บาท เพราะเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจไทยที่ปัจจุบันอยู่ในภาวะซึมตัวอยู่แล้ว และยังซ้ำเติมผู้ประกอบการไทยให้เสี่ยงต่อการมีผลดำเนินงานที่ขาดทุนมากขึ้น ดังนั้นการปรับขึ้นค่าจ้างต้องทยอยปรับ 3-4 ปี หรือให้อำนาจอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดเสนอเนื่องจากจะสอดคล้องกับความเป็นจริงมากที่สุด "ภาคเอกชนเห็นด้วยที่ทยอยปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน แต่ไม่เป็นอัตราที่เท่ากันทั้งประเทศ และไม่ใช่ทำพรวดเดียวเหมือนกรณีการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศเหมือนกับอดีตแต่หากรัฐบาลยังขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอยู่ในอัตราเดียวกันทั่วประเทศ 400 บาทต่อวัน ก็ถือว่าเป็นเรื่องของตัวใครตัวมันแล้วกัน เพราะจะยิ่งเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจซ้ำเติมผู้ประกอบการ และซ้ำเติมแรงงานที่มีประสิทธิภาพต่ำอาจเสี่ยงต่อการถูกเลิกจ้างเหมือนกัน"
--------------------------------
ติดตามข้อมูลสาระสำคัญต่างๆ ได้ทาง
website : www.thaichamber.org
Line@ : https://bit.ly/2ZiAoCc
Instragram : https://bit.ly/2v5TYE7
Facebook : https://bit.ly/2V388o8
YouTube Channel : https://bit.ly/2Un4uAU