สำหรับวงการสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงแล้ว Apple และ Samsung ถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนพร้อมทั้งสร้างนวัตกรรมที่น่าตื่นตาตื่นใจและเป็นต้นแบบให้สมาร์ทโฟนเจ้าอื่นๆ ต้องทำตามมาตลอด แต่สถานการณ์นี้ก็เปลี่ยนไปเมื่อ Huawei กำลังเข้ามาร่วมวงกับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงพร้อมเป็นผู้ที่ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ ที่แม้แต่สมาร์ทโฟนชั้นนำจะต้องเอาอย่างบ้าง
หลังจากที่ Huawei ทำตามนวัตกรรมหลายๆ อย่างของเจ้าตลาดตอนนี้ Huawei เริ่มจะเปลี่ยนแปลงไปในหลายๆ เรื่องทั้งเรื่องกล้อง, การถ่ายภาพ และสีสันของเครื่องดูได้จาก Huawei P20 Pro ที่ออกมาตอนต้นปี 2018 ตั้งแต่นั้นมา Huawei ได้เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนในหลาย ๆ ด้าน อุปกรณ์หลากหลายที่พยายามเลียนแบบคุณลักษณะของ Huawei ที่เห็นชัดๆ ตอนนี้ภาพหลุดต่างๆของ Galaxy Note 10 และ iPhone 11 อาจเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดในการพิสูจน์อิทธิพลปัจจุบันของ Huawei ในตลาด
เรื่องกล้องด้านหลัง LG G5 อาจเป็นผู้ปลุกกระแสกล้องสองเลนส์ในปี 2016 จึงหลายๆ เจ้าอย่าง iPhone 7 Plus และ Samsung Galaxy Note 8 นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ในเดือนมีนาคม 2018 Huawei ได้เปิดตัว P20 Pro ที่เป็นสมาร์ทโฟนกล้องสามเลนส์ตัวแรกของโลก ซึ่งหลังจากเปิดตัวมาแล้วถือว่าปฎิวัติวงการอีกครั้งโดยรอบนี้ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก, รุ่นใหญ่ต่างก็นำมาใช้ กล้องสามเลนส์จนเป็นมาตรฐานของสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุปัน
และที่เห็นได้ชัดเลยก็คือทั้งเจ้าตลาดทั้งสองต่างต้องเพิ่มกล้องตัวที่สามเข้ามาในสมาร์ทโฟนเรือธงของตนทั้ง Samsung ที่เพิ่มมาตอน Samsung Galaxy S10 หรือจะเป็น iPhone ที่ตามข่าวลือนั้น iPhone 11 จะมีกล้องสามเลนส์นั้นเอง
ซึ่งการเพิ่มกล้องสามตัวตาม Huawei ของเจ้าตลาดทั้งสองนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ทั้ง เพราะทั้งคู่ต่างทดสอบและพัฒนากล้องคู่ของตนให้มีความสามารถที่หลากหลายแต่จากผลทดสอบแล้วกล้องสามตัวของ Huawei นั้นสามารถใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมและมีระบบการใช้งานที่หลากหลายกว่าอย่างชัดเจน สำหรับ Samsung เพื่อที่จะแข่งขันกับ Huawei ได้ในที่สุด Galaxy S10 ก็ติดตั้งกล้องหลังสามตัว ตอนนี้ด้วยเหตุผลเดียวกันที่แน่นอนการตั้งค่าที่คล้ายกันคาดว่าจะนำไปสู่ Galaxy Note 10 ที่จะมีเซ็นเซอร์ถึงสี่ตัว
แม้จะผลิตอุปกรณ์ที่น่าอัศจรรย์ แต่ Apple ก็ดื้อรั้นเป็นอย่างมากเมื่อพูดถึงการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้แต่จากผลทดสอบความสามารถกล้องของ Huawei ทำให้ผู้บริโภคเริ่มเรียกร้องมากขึ้น และ Apple ก็พร้อมที่จะเพิ่มกล้องเสริมสามเลนส์ลงในสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม
โหมดกลางคืน
โหมดกลางคืนเป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่ Huawei เปิดตัวพร้อมกับ P20 Pro ก่อนหน้านี้ Huawei เคยใช้เซ็นเซอร์ขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะจับรายละเอียดเพื่อผลิตภาพที่มีแสงน้อยได้ดีกว่า แต่โหมดกลางคืนที่ได้รับการสนับสนุนจากซอฟต์แวร์นั้นถือว่าเปิดโลกยิ่งใหม่ของการถ่ายภาพซึ่งโหมดกลางคือของ Huawei สร้างความประทับใจให้หลายๆ คนหนึ่งในนั้นคือ Google ที่เดินรอยตามและสร้าง Night Sight ให้กับ Android ในแปดเดือนต่อมาในขณะที่ Samsung ยังคงพยายามสร้างทางเลือกที่ด้วยการปรับปรุงเวอร์ชั่นของตัวเองผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์จำนวนมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คล้ายกับHuawei ในทางกลับกันสถานการณ์ของ Apple เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ไม่มี Night Mode เลย อย่างไรก็ตามข่าวลือล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามีการทำงานอย่างหนักในเรื่องที่จะเปิดตัว Night Mode พร้อมกับ iPhone 11 series ในเดือนกันยายน สิบแปดเดือนหลังจาก Huawei เปิดตัว Night Mode
Huawei ทำกล้องสี่เหลี่ยมของ iPhone 11 เมื่อปีที่แล้ว
Huawei นั้นไม่ใช่คิดค้นโมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยม แต่แน่นอนที่สุดคือแบรนด์แรกที่นำโมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยมไปใช้กับสมาร์ทโฟนเรือธงใน Mate 20 Pro เมื่อปีที่แล้ว แต่จากข่าวหลุดของ iPhone 11 และ Pixel 4 หลายคนเริ่มกล่าวหาว่า Apple และ Google คัดลอกการออกแบบของ Huawei โดยเจตนา แต่สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องสะทีเดียวเพราะเรื่องการออกแบบย่อยจะมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน เพียงแต่ Huawei การใช้โมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยม เป็นสิ่งที่ทำให้การจัดการกล้องถ่ายภาพมีประสิทธิภาพและทาง Apple และ Google ผ่านการทดสอบก่อนจะตัดสินใจออกแบบโมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยมซึ่งในกรณีนี้เป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมที่ทางเลือกของ Huawei เมื่อปีที่แล้วเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ระบบชาร์จที่รวดเร็วเป็นมาตรฐานในที่สุด!
Huawei และแบรดน์จีนอย่าง OPPO ได้ใช้ความพยายามอย่างแท้จริงในช่วงสองปีที่ผ่านมาเรื่องปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ อย่าง Huawei ที่ได้เปิดตัวเครื่องชาร์จ 40W ที่น่าเหลือเชื่อและเมื่อต้นปีนี้ได้ปรับปรุงสิ่งต่างๆด้วยเพิ่มความเร็วในการชาร์จเป็น 55W ซึ่งระบบเหล่านี้กำลังบังคับให้ Samsung และ Apple ต้องตามเกม
สถานการณ์ปัจจุบันของ Samsung รุ่นเรือธงมีความเร็วในการชาร์จประมาณ 25W ซึ่งความเร็วยังห่างจาก Huawei และ OPPO อยู่มากทำให้ตามข่าวลือ Galaxy Note อาจชาร์จอย่างรวดเร็วในกำลังไฟถึง 45W ซึ่งจะเป็นคู่แข่งของเทคโนโลยีของ Huawei โดยตรง
ส่วน Apple มีความเป็นตัวของตัวเองด้วยการชาร์จกำลังไฟ 5W เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้วถือว่าช้ามากจนมีการร้องเรียนและการเปรียบเทียบจากคู่แข่งมามากมายจึงมีข่าวว่าใน iPhone 11 series จะมีเครื่องชาร์จเร็ว 18W เป็นมาตรฐานติดมาด้วย
การชาร์จแบบไร้สายก็มาก่อนใน Huawei
นอกจากการชาร์จเร็วแล้วระบบการชาร์จไร้สายเป็นสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกและกำลังจะกลายเป็นคุณสมบัติมาตรฐานในส่วนของสมาร์ทโฟนเรือธงซึ่งพิสูจน์ได้ยิ่งกว่า Huawei ในฐานะผู้นำในปัจจุบัน โดยเปิดตัวครั้งแรกก่อนใครในเดือนตุลาคมกับ Mate 20 Pro ต่อ Samsung ประกาศบ้างกับ Wireless PowerShare ในเดือนกุมภาพันธ์และก็ลือกันว่า Apple จะสร้างการชาร์จแบบไร้สายในเวอร์ชั่นของตัวเองในการเปิดตัวครั้งต่อไป
การไล่ระดับสีของนั้นได้รับแรงบันดาลใจจาก Huawei อย่างชัดเจน
สีดำ, ขาว, เงินและทองนั้นเป็นสีที่พบได้บ่อยที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเรือธงแม้ว่าจะมีสีอื่นสำหรับดึงดูดกลุ่มตลาดที่ต่างไปบ้างอย่างสีแดงและสีน้ำเงินก็เป็นวิธีนี้มานานหลายปีตั้งแต่ยุคโนเกียแล้ว แต่ปีที่แล้ว Huawei ได้เปลี่ยนสิ่งต่างๆ ไปกับการไล่ระดับสีรูปแบบใหม่กับ Twilight ซึ่งสีนี้เรียกว่าสร้างความฮือฮาในวงการสมาร์ทโฟนในระดับเป็นปรากฏการณ์ของวงการสมาร์ทโฟนเรือ่งนึงเลยทีเดียวเพราะหลังจากเปิดตัวไปแล้วแบรนด์ต่างๆ ก็ต่างออกสมาร์ทโฟนที่มีการไลเฉดสีสันออกมา หรือจะทำอะไรที่ใกล้เคียงอย่างสีเครื่องที่เล่นเงาที่เห็นได้บน Galaxy S10 แต่ตอนนี้มีภาพหลุดออกมาว่า Samsung จะมีสมาร์ทโฟนที่ดีไซน์แบบไล่ระดับสีคล้ายกับสี Breathing Crystal ของ Huawei
จากหลายๆ องค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีหรือแฟชั่นพบว่าตอนนี้แม้แต่แบรนด์ชั้นนำนั้นก็สร้างสรรค์เทคโนโลยีที่คล้ายกับ Huawei เท่านี้ก็บอกได้แล้วว่าตอนนี้ Huawei ได้ก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด้านสมาร์ทโฟนแล้ว
แปลจาก
https://www.phonearena.com/news/Huawei-leader-Galaxy-Note-10-iPhone-11-proof_id117434
จากข่าว Galaxy Note 10 & iPhone 11 เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Huawei เป็นหนึ่งผู้นำอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน
เรื่องกล้องด้านหลัง LG G5 อาจเป็นผู้ปลุกกระแสกล้องสองเลนส์ในปี 2016 จึงหลายๆ เจ้าอย่าง iPhone 7 Plus และ Samsung Galaxy Note 8 นำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ในเดือนมีนาคม 2018 Huawei ได้เปิดตัว P20 Pro ที่เป็นสมาร์ทโฟนกล้องสามเลนส์ตัวแรกของโลก ซึ่งหลังจากเปิดตัวมาแล้วถือว่าปฎิวัติวงการอีกครั้งโดยรอบนี้ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก, รุ่นใหญ่ต่างก็นำมาใช้ กล้องสามเลนส์จนเป็นมาตรฐานของสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุปัน
และที่เห็นได้ชัดเลยก็คือทั้งเจ้าตลาดทั้งสองต่างต้องเพิ่มกล้องตัวที่สามเข้ามาในสมาร์ทโฟนเรือธงของตนทั้ง Samsung ที่เพิ่มมาตอน Samsung Galaxy S10 หรือจะเป็น iPhone ที่ตามข่าวลือนั้น iPhone 11 จะมีกล้องสามเลนส์นั้นเอง
ซึ่งการเพิ่มกล้องสามตัวตาม Huawei ของเจ้าตลาดทั้งสองนั้นไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ ทั้ง เพราะทั้งคู่ต่างทดสอบและพัฒนากล้องคู่ของตนให้มีความสามารถที่หลากหลายแต่จากผลทดสอบแล้วกล้องสามตัวของ Huawei นั้นสามารถใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยมและมีระบบการใช้งานที่หลากหลายกว่าอย่างชัดเจน สำหรับ Samsung เพื่อที่จะแข่งขันกับ Huawei ได้ในที่สุด Galaxy S10 ก็ติดตั้งกล้องหลังสามตัว ตอนนี้ด้วยเหตุผลเดียวกันที่แน่นอนการตั้งค่าที่คล้ายกันคาดว่าจะนำไปสู่ Galaxy Note 10 ที่จะมีเซ็นเซอร์ถึงสี่ตัว
โหมดกลางคืน
โหมดกลางคืนเป็นอีกเทรนด์หนึ่งที่ Huawei เปิดตัวพร้อมกับ P20 Pro ก่อนหน้านี้ Huawei เคยใช้เซ็นเซอร์ขาวดำโดยเฉพาะซึ่งจะจับรายละเอียดเพื่อผลิตภาพที่มีแสงน้อยได้ดีกว่า แต่โหมดกลางคืนที่ได้รับการสนับสนุนจากซอฟต์แวร์นั้นถือว่าเปิดโลกยิ่งใหม่ของการถ่ายภาพซึ่งโหมดกลางคือของ Huawei สร้างความประทับใจให้หลายๆ คนหนึ่งในนั้นคือ Google ที่เดินรอยตามและสร้าง Night Sight ให้กับ Android ในแปดเดือนต่อมาในขณะที่ Samsung ยังคงพยายามสร้างทางเลือกที่ด้วยการปรับปรุงเวอร์ชั่นของตัวเองผ่านการอัปเดตซอฟต์แวร์จำนวนมากเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คล้ายกับHuawei ในทางกลับกันสถานการณ์ของ Apple เป็นเรื่องน่าแปลกใจที่ไม่มี Night Mode เลย อย่างไรก็ตามข่าวลือล่าสุดแสดงให้เห็นว่ามีการทำงานอย่างหนักในเรื่องที่จะเปิดตัว Night Mode พร้อมกับ iPhone 11 series ในเดือนกันยายน สิบแปดเดือนหลังจาก Huawei เปิดตัว Night Mode
Huawei ทำกล้องสี่เหลี่ยมของ iPhone 11 เมื่อปีที่แล้ว
Huawei นั้นไม่ใช่คิดค้นโมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยม แต่แน่นอนที่สุดคือแบรนด์แรกที่นำโมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยมไปใช้กับสมาร์ทโฟนเรือธงใน Mate 20 Pro เมื่อปีที่แล้ว แต่จากข่าวหลุดของ iPhone 11 และ Pixel 4 หลายคนเริ่มกล่าวหาว่า Apple และ Google คัดลอกการออกแบบของ Huawei โดยเจตนา แต่สิ่งนั้นไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องสะทีเดียวเพราะเรื่องการออกแบบย่อยจะมีรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน เพียงแต่ Huawei การใช้โมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยม เป็นสิ่งที่ทำให้การจัดการกล้องถ่ายภาพมีประสิทธิภาพและทาง Apple และ Google ผ่านการทดสอบก่อนจะตัดสินใจออกแบบโมดูลกล้องทรงสี่เหลี่ยมซึ่งในกรณีนี้เป็นข้อพิสูจน์เพิ่มเติมที่ทางเลือกของ Huawei เมื่อปีที่แล้วเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ระบบชาร์จที่รวดเร็วเป็นมาตรฐานในที่สุด!
Huawei และแบรดน์จีนอย่าง OPPO ได้ใช้ความพยายามอย่างแท้จริงในช่วงสองปีที่ผ่านมาเรื่องปรับปรุงอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของอุปกรณ์ อย่าง Huawei ที่ได้เปิดตัวเครื่องชาร์จ 40W ที่น่าเหลือเชื่อและเมื่อต้นปีนี้ได้ปรับปรุงสิ่งต่างๆด้วยเพิ่มความเร็วในการชาร์จเป็น 55W ซึ่งระบบเหล่านี้กำลังบังคับให้ Samsung และ Apple ต้องตามเกม
สถานการณ์ปัจจุบันของ Samsung รุ่นเรือธงมีความเร็วในการชาร์จประมาณ 25W ซึ่งความเร็วยังห่างจาก Huawei และ OPPO อยู่มากทำให้ตามข่าวลือ Galaxy Note อาจชาร์จอย่างรวดเร็วในกำลังไฟถึง 45W ซึ่งจะเป็นคู่แข่งของเทคโนโลยีของ Huawei โดยตรง
ส่วน Apple มีความเป็นตัวของตัวเองด้วยการชาร์จกำลังไฟ 5W เมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งแล้วถือว่าช้ามากจนมีการร้องเรียนและการเปรียบเทียบจากคู่แข่งมามากมายจึงมีข่าวว่าใน iPhone 11 series จะมีเครื่องชาร์จเร็ว 18W เป็นมาตรฐานติดมาด้วย
การชาร์จแบบไร้สายก็มาก่อนใน Huawei
นอกจากการชาร์จเร็วแล้วระบบการชาร์จไร้สายเป็นสิ่งที่จะอำนวยความสะดวกและกำลังจะกลายเป็นคุณสมบัติมาตรฐานในส่วนของสมาร์ทโฟนเรือธงซึ่งพิสูจน์ได้ยิ่งกว่า Huawei ในฐานะผู้นำในปัจจุบัน โดยเปิดตัวครั้งแรกก่อนใครในเดือนตุลาคมกับ Mate 20 Pro ต่อ Samsung ประกาศบ้างกับ Wireless PowerShare ในเดือนกุมภาพันธ์และก็ลือกันว่า Apple จะสร้างการชาร์จแบบไร้สายในเวอร์ชั่นของตัวเองในการเปิดตัวครั้งต่อไป
การไล่ระดับสีของนั้นได้รับแรงบันดาลใจจาก Huawei อย่างชัดเจน
สีดำ, ขาว, เงินและทองนั้นเป็นสีที่พบได้บ่อยที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน นี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเรือธงแม้ว่าจะมีสีอื่นสำหรับดึงดูดกลุ่มตลาดที่ต่างไปบ้างอย่างสีแดงและสีน้ำเงินก็เป็นวิธีนี้มานานหลายปีตั้งแต่ยุคโนเกียแล้ว แต่ปีที่แล้ว Huawei ได้เปลี่ยนสิ่งต่างๆ ไปกับการไล่ระดับสีรูปแบบใหม่กับ Twilight ซึ่งสีนี้เรียกว่าสร้างความฮือฮาในวงการสมาร์ทโฟนในระดับเป็นปรากฏการณ์ของวงการสมาร์ทโฟนเรือ่งนึงเลยทีเดียวเพราะหลังจากเปิดตัวไปแล้วแบรนด์ต่างๆ ก็ต่างออกสมาร์ทโฟนที่มีการไลเฉดสีสันออกมา หรือจะทำอะไรที่ใกล้เคียงอย่างสีเครื่องที่เล่นเงาที่เห็นได้บน Galaxy S10 แต่ตอนนี้มีภาพหลุดออกมาว่า Samsung จะมีสมาร์ทโฟนที่ดีไซน์แบบไล่ระดับสีคล้ายกับสี Breathing Crystal ของ Huawei
จากหลายๆ องค์ประกอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีหรือแฟชั่นพบว่าตอนนี้แม้แต่แบรนด์ชั้นนำนั้นก็สร้างสรรค์เทคโนโลยีที่คล้ายกับ Huawei เท่านี้ก็บอกได้แล้วว่าตอนนี้ Huawei ได้ก้าวเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด้านสมาร์ทโฟนแล้ว
แปลจาก https://www.phonearena.com/news/Huawei-leader-Galaxy-Note-10-iPhone-11-proof_id117434