ถ้าเรามีลูก แล้วไม่บังคับให้เขาต้องเข้าโรงเรียนหรือเรียนหนังสือ แต่ปล่อยให้เขาอยากทำอะไรก็แล้วแต่เขา เขาอยากวิ่งเล่นทั้งวันก็ให้เขาวิ่งเล่นไป ชีวิตเขาจะเป็นยังไง?
ส่วนตัวมีความคิดว่าการบังคับให้เด็กเข้าโรงเรียนเรียนหนังสือเป็นการฝืนธรรมชาติของเด็ก จริงๆแล้วการเล่นอาจเป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุด การบังคับให้เด็กเรียนรู้วิชาที่เด็กยังไม่อยากรู้ อาจทำให้เขาเกลียดวิชานั้นทั้งที่จริงวิชานั้นถ้าได้เรียนตอนที่เขาเกิดความสนใจแล้วมันอาจจะโคตรสนุกเลยก็ได้ แต่การบังคับให้รู้ทั้งๆในตอนนั้นยังไม่อยากรู้นี่แหละคือปัญหา เด็กมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว แต่โรงเรียนอาจเป็นตัวการที่ทำให้เด็กหมดความสนใจในทุกอย่างบนโลกเลยก็ได้!
อีลอน มัสก์ เคยพูดไว้ว่า “นักเรียนถูกสั่งให้เรียนเลข แต่ไม่มีใครบอกว่าเรียนไปทำไม เขาบอกว่าเด็กจะสงสัยว่าทำไมต้องแก้โจทย์เลขแปลกๆเหล่านี้ และเนื่องจากสมองของเราได้เรียนรู้ที่จะตัดทิ้งข้อมูลที่ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ออกไป เด็กนักเรียนหลายคนจึงเรียนเลขไม่เข้าหัว”
เคยเห็นเด็กที่ดูเหมือนไม่มีความกระตือตือรือร้น ไม่มีความสนใจ ไม่ต้องการอยากเรียนรู้อะไรอีกแล้วไหม ? เราเชื่อว่าที่เขาเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้รับการศึกษา แต่การศึกษาต่างหากที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนั้น!
เรามีความเชื่อว่าเด็กก็ต้องการมีชีวิตที่ดีที่สุด มีความสุขที่สุด เขาก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตตัวเองอยู่แล้ว เขาคงไม่วิ่งเล่นตลอดไปหรอก ถ้าเราเชื่อว่าคนฉลาด ก็ปล่อยให้คนได้เลือกด้วยตัวเองเถอะ เพราะเขาจะเลือกทางได้ฉลาดแน่ๆ อย่าบังคับเขานักเลย ปล่อยให้คนฉลาดที่รู้จักตัวเองดีที่สุดเป็นคนตัดสินใจดีกว่า!
เพื่อนๆคิดยังไงกับความคิดนี้บ้าง ?
*** หมายเหตุ ***
ประเด็นผมคือไม่ได้หมายความว่าไม่ให้เด็กเรียนนะ แต่การเรียนมีหลายแบบไม่ใช่แค่ในโรงเรียน โรงเรียนบังคับให้เราต้องรู้ก่อนที่จะเราจะสนใจ แต่จริงๆแล้วเราควรสนใจก่อนสิถึงจะเรียนรู้! มันผิดขั้นตอนนะ อนาคตโรงเรียนอาจไม่มี อาจไม่จำเป็นอีกแล้วก็ได้ เพราะทุกคนสามารถเรียนได้ที่บ้านผ่านหนังสือ อินเตอร์เนท ยูทูบ เข้าคอร์ส จ้างอาจารย์สอน และอื่นๆอีกมากมาย โรงเรียนอาจจะมีผลเสียมากกว่าผลดีอย่างที่คิด ข้อเสียอย่างร้ายแรงก็คือทำให้เด็กหมดความสนใจในทุกเรื่องนั่นละ
ถ้าเรามีลูก แล้วไม่บังคับให้เขาต้องเข้าโรงเรียนหรือเรียนหนังสือ อยากวิ่งเล่นทั้งวันก็ให้เขาวิ่งเล่นไป จะเป็นไรไหม?
ส่วนตัวมีความคิดว่าการบังคับให้เด็กเข้าโรงเรียนเรียนหนังสือเป็นการฝืนธรรมชาติของเด็ก จริงๆแล้วการเล่นอาจเป็นการเรียนรู้ที่ดีที่สุด การบังคับให้เด็กเรียนรู้วิชาที่เด็กยังไม่อยากรู้ อาจทำให้เขาเกลียดวิชานั้นทั้งที่จริงวิชานั้นถ้าได้เรียนตอนที่เขาเกิดความสนใจแล้วมันอาจจะโคตรสนุกเลยก็ได้ แต่การบังคับให้รู้ทั้งๆในตอนนั้นยังไม่อยากรู้นี่แหละคือปัญหา เด็กมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้ว แต่โรงเรียนอาจเป็นตัวการที่ทำให้เด็กหมดความสนใจในทุกอย่างบนโลกเลยก็ได้!
อีลอน มัสก์ เคยพูดไว้ว่า “นักเรียนถูกสั่งให้เรียนเลข แต่ไม่มีใครบอกว่าเรียนไปทำไม เขาบอกว่าเด็กจะสงสัยว่าทำไมต้องแก้โจทย์เลขแปลกๆเหล่านี้ และเนื่องจากสมองของเราได้เรียนรู้ที่จะตัดทิ้งข้อมูลที่ดูเหมือนไม่มีประโยชน์ออกไป เด็กนักเรียนหลายคนจึงเรียนเลขไม่เข้าหัว”
เคยเห็นเด็กที่ดูเหมือนไม่มีความกระตือตือรือร้น ไม่มีความสนใจ ไม่ต้องการอยากเรียนรู้อะไรอีกแล้วไหม ? เราเชื่อว่าที่เขาเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้รับการศึกษา แต่การศึกษาต่างหากที่ทำให้เขากลายเป็นแบบนั้น!
เรามีความเชื่อว่าเด็กก็ต้องการมีชีวิตที่ดีที่สุด มีความสุขที่สุด เขาก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ชีวิตตัวเองอยู่แล้ว เขาคงไม่วิ่งเล่นตลอดไปหรอก ถ้าเราเชื่อว่าคนฉลาด ก็ปล่อยให้คนได้เลือกด้วยตัวเองเถอะ เพราะเขาจะเลือกทางได้ฉลาดแน่ๆ อย่าบังคับเขานักเลย ปล่อยให้คนฉลาดที่รู้จักตัวเองดีที่สุดเป็นคนตัดสินใจดีกว่า!
เพื่อนๆคิดยังไงกับความคิดนี้บ้าง ?
*** หมายเหตุ ***
ประเด็นผมคือไม่ได้หมายความว่าไม่ให้เด็กเรียนนะ แต่การเรียนมีหลายแบบไม่ใช่แค่ในโรงเรียน โรงเรียนบังคับให้เราต้องรู้ก่อนที่จะเราจะสนใจ แต่จริงๆแล้วเราควรสนใจก่อนสิถึงจะเรียนรู้! มันผิดขั้นตอนนะ อนาคตโรงเรียนอาจไม่มี อาจไม่จำเป็นอีกแล้วก็ได้ เพราะทุกคนสามารถเรียนได้ที่บ้านผ่านหนังสือ อินเตอร์เนท ยูทูบ เข้าคอร์ส จ้างอาจารย์สอน และอื่นๆอีกมากมาย โรงเรียนอาจจะมีผลเสียมากกว่าผลดีอย่างที่คิด ข้อเสียอย่างร้ายแรงก็คือทำให้เด็กหมดความสนใจในทุกเรื่องนั่นละ