เคยโดน Bully ตั่งแต่สมัยเรียนกันไหมคะ ?
............... สวัสดี
เราขอใช้นามสมมุติว่า "แมวมึน" แทนตัวเราเองแล้วกันนะคะ
ปัจจุบันนี้เราอายุ 26 ปี แต่เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การถูก Bully ตั่งแต่สมัยเรียน จุดเริ่มเต้นของการถูก Bully ของเรามันเริ่มต้นตอนเราเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หรือก็คือ ป.1 นั่นเอง ใครหลายคนอาจจะคิดว่า "เห้ยยย สมัยนั้นมันมีการ bully อะไรแบบนี้ด้วยเหรอ ยังเด็กน้อยกันอยู่เลย" มันมีค่ะ !! เรายังคงจำได้ชัดเจนถึงแม้เวลาจะผ่านมานาน..... เราเป็นเด็กปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ ความคิดเหตุผลอะไรก็เป็นไปตามเด็กวัยนั้นๆ แต่เรามักจะไม่มีเพื่อนเล่นด้วย เราพยายามเข้าหาเพื่อนๆ แต่เพื่อนๆ ก็ถอยห่าง นอกจากว่าเราจะมีของเล่นมาเล่นที่โรงเรียน แต่พอเพื่อนทำของเล่นเราพัง พวกเขาก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมก่อนหน้า.. คือไม่เล่นด้วย และผลักเราออกจากกลุ่ม สมัยนั้นสิ่งที่เด็กในยุคนั้นชื่นชอบก็คงไม่พ้น "ตุ๊กตากระดาษ ตุ๊กตาบาร์บี้ หมากเก็บ และยางที่ใช้ไว้เล่นกระโดดเชือก" ซึ่งเราเองก็ชอบเล่นมากๆ ทุกครั้งที่เรามีของเล่นติดกระเป๋าไปด้วย เพื่อนๆ จะเข้ามาขอเล่น ขอยื้มเรา ด้วยความที่เราอยากมีเพื่อน เราก็แบ่งให้ แต่เหมือนที่บอกก่อนหน้านี้เลย พอทำพังก็ไม่เคยขอโทษหรือใช้คืน และไม่เล่นด้วยเหมือนเดิม แต่เราก็ไม่เคยว่าอะไร เพื่อนบางคนขโมยของเล่นเราไปก็มี บางคนแกล้งเอายางที่ใช้กระโดดเชือกของเราโยนขึ้นให้มันพันกับคานที่เอาไว้คล้ำหลังคาก็มี ซึ่งก็เอาลงมาไม่ได้ และมีเหตุการณ์หนึ่ง ในวันนั้นเราวิ่งเล่นตามปกติในช่วงพักกลางวัน และเรารู้สึกเหนื่อย เลยวิ่งชึ้นห้องจะไปดื่มน้ำ แล้วเราก็เห็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่ชื่อว่า J (ขอใช้เป็นอักษรย่อนะคะ) กำลังยืนดื่มน้ำอยู่ แต่กระบอกน้ำที่ J กำลังดื่มอยู่ มันเป็นของเพื่อนอีกคนที่ชื่อ M เราเลยถามว่า... เธอกินน้ำของ M เหรอ และ J ก็หันมาทำท่า จุ๊ๆ กับเรา ว่าอย่าบอก M นะ เราเลยถามว่าทำแบบนี้ทำไม ไม่กลัว M โกรธเหรอ J ก็บอกว่าถ้าเราไม่บอก M ก็ไม่รู้หรอกว่าใครกิน จน M ที่เล่นเหนื่อยก็เดินขึ้นมาจะดื่มน้ำเช่นกัน และตอนนั้นในห้องเรียน ก็มีแค่เราและ J เพียง 2 คน M เดิมมาหยิบกระบอกน้ำขึ้นและยกดื่ม ผลปรากฎคือ J แอบขโมยน้ำ M ดื่มจนหมดไปแล้ว ทันใดนั้น M หันมาพุดว่า "ใครเป็นคนทำ เราจำได้ว่าน้ำเราเหลือเต็มกระบอก" พร้อมกับอาการที่จะร้องไห้ออกมา ไม่ทันที่เราจะได้พูดอะไรออกมา J ก็ได้พูดขึ้นว่า "แมวมึนเป็นคนขโมยน้ำเธอกิน" ตอนนั้นเราตกใจมาก ไม่คิดว่า J จะเอาตัวรอดแบบนี้ เราเลยส่ายหัวและบอกว่าเราไม่ได้ทำ J เป็นคนขโมยกิน น้ำเราก็มี เราจะขโมยน้ำเธอทำไม... M ได้ถามย้ำว่า ตกลงใครทำ J ก็ยืนยันคำเดิมว่าแมวมึนเป็นคนทำ เราก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ทำ J ต่างหากที่ทำ จากนั้น M ก็ได้เข้ามาว่าเรา ว่าจิตใจเราทำด้วยอะไร ตอนนั้นเรางงมาก อะไร อย่างไง เราไม่ได้ทำนี่ แล้วทำไมถึงโทษเรา... M ยืนว่าเราไปพลาง พร้อมกับร้องไห้ไปพลาง จนหมดเวลาพักเที่ยง เพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ เริ่มขึ้นมา และเห็นว่า M ยืนร้องไห้อยู่ จึงได้เข้ามาดูกัน และถาม M ว่าเกิดอะไรขึ้น M ได้ทำการร้องไห้สะอึกสะอื้น พร้อมกับบอกเพื่อนคนอื่นว่า "แมวมึนเลวมาก ขึ้นมาขโมยน้ำเรากินจนหมด ทั้งที่เราจะต้องเหลือน้ำไว้กินยาเพราะเม็ดน้อยหน่าบาดคอแท้ๆ" จากนั้นเพื่อนคนอื่นๆ หันมามองเราด้วยสายตารังเกียจ และเริ่มต่อว่าเราว่าทำไมทำกับเพื่อนแบบนี้ ในตอนนั้นเราแทบจะร้องไห้เช่นกัน เราก็ยังคงปฏิเสธว่าเราไม่ได้ทำ จน J ที่ยืนฟังเพื่อนคนอื่นๆ รุมว่าเรา ก็ได้พูดขึ้นว่า "พอเถอะ เราเป็นคนขโมยน้ำ M กินเอง แมวมึน ไม่เกี่ยว" เราดีใจมากที่ J ยอมรับผิด แต่......!! เรื่องกลับตรงข้ามกันเลย พอ J ยอมรับผิดว่าตัวเองเป็นคนทำ M กลับไม่เชื่อ หาว่า J พูดปกป้องเรา.......................................? M บอกให้ J เลิกปกป้องเราซะ ส่วน J ก็ยืนยันว่าตัวนางเป็นคนกินเองจริงๆ แต่ M และเพื่อนคนอื่นกับปรักใจเชื่อว่าเราเป็นคนทำ วันต่อมา... เราก็มาเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือสายตาเพื่อนร่วมห้อง ทั้งมองจิก มองค้อนมาที่เราตนเดียว พอเราเดินเอากระเป๋าไปไว้ที่โต๊ะ ก็มีขยะอยู่ใต้โต๊ะเราเต็มไปหมด มีรอยดินสอเขียนด่าว่า "เลว" ณ ตอนนั้น เราอยากกลับบ้านมาก ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย และจากนั้นไม่ว่าเราจะขึ้น ป.2 ไปจนถึง ป.6 เราก็ถูกเพื่อนรังเกียจมาตลอด ไม่มีเพื่อนคนไหนมาเล่นด้วย ไม่มีเพื่อนคนไหนมาพูดคุยด้วย โดนแกล้งต่างๆ นาๆ ข่าวลือถูกพูดถึงไปยังห้องอื่นๆ เรื่อยๆ มา... ว่าเราเป็นคนไม่ดี ชอบขโมยของเพื่อน ทำให้เพื่อนร้องไห้ โดยที่ J ยังคงใช้ชีวิตมีความสุขตามปกติ มีเพื่อนลายล้อมมากมาย และ J ก็ไม่เคยขอโทษ หรือเล่นกับเราอีกเลยตั่งแต่ในวันนั้น พอมีวิชาที่อาจารย์สั่งให้ทำเป็นกลุ่ม เพื่อนในห้องก็จะไม่มีใครอยากให้เราอยู่ด้วย เราขออยู่กลุ่มไหน ก็จะโดนปฏิเสธตลอด อาจารย์ก็เลยช่วยพูดให้เราได้เข้ากลุ่มนั้นๆ แต่เพื่อนก็จะทำอาการไม่พอใจใส่ชัดเจน และพูดแขวะตลอด และไม่เคยใส่ชื่อเราลงในกลุ่มรายงานเลย เราต้องแอบใส่เองทุกครั้ง ดังนั้นชีวิตในวัยชั้นประถมศึกษาของเราจึงค่อนข้างไมสนุกเลย พอเราขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หรือ ม.1 เรารู้สึกมีความหวังที่จะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ และเราคงใช้ชีวิตได้สนุกสนานขึ้น ในตอนแรกมันก็เป็นตามที่เราคิด... เพื่อนใหม่ดีกับเรามาก เรามีเพื่อนครั้งแรกในชีวิต ที่เดินกันเป็นกลุ่ม กินข้าวกันเป็นกลุ่ม ทำงานกันเป็นกลุ่ม แต่.....................! แต่นั่นมันก็แค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น พอเข้าเรียนมาได้ 1 เดือน เราเกิดเป็นไข้เลือดออก ซึ่งต้องเข้าโรงพยาบาล เรานอนอยู่โรงพยาบาลประมาณ 1 อาทิตย์กว่าๆ คิดถึงเพื่อนมาก แต่อาจารย์ที่ปรึกษาก็แวะมาเยี่ยมเป็นบางวัน พอเราออกจากโรงพยาบาลเราไม่ได้รอฟิ้นตัวอะไร เรารีบอยากไปโรงเรียนเพราะคิดถึงเพื่อนมากๆ พอไปถึงโรงเรียนเรารีบวิ่งไปหาเพื่อนกลุ่มตัวเอง และทักทายด้วยความคิดถึง แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป.... จากเพื่อนที่เคยบอกเราน่ารัก เพื่อนที่เคยเป็นห่วงเป็นใย เพื่อนที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน กลับทำเหมือนเราไม่มีตัวตนเลย เราก็งงกับตัวเองอีกครั้ง ไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราพยายามทักทายเพื่อนในกลุ่ม แต่พวกเขาก็ทำเหมือนมองไม่เห็นเรา และเริ่มพูดจาแขวะเรา "ว่าอีนั่น
ป่ะ ทำเป็นเดินตัวตรงยืดอก อยากนมเด้งออกน่า" พร้อมกับทำท่าล้อเลียนเรา และหัวเราะอย่างกับพูดเรื่องตลก เรายืนอึ้ง..จุกจนพูดไรไม่ออก ในหัวคือมึนไปหมดแล้ว ได้แต่ถามตัวเองว่าเราทำอะไรผิด เราพยายามถามเพื่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทำกับเราอบบนี้ละ คำตอบที่ได้คือ "อย่ามายุ่งกับพวกกูได้ป่ะ จะไปไหนก็ไป ในกลุ่มกูไม่มีใครชอบ มีแต่คนเกลียด จะให้ดีก็ย้ายโรงเรียนไปเลย คงจะดีมาก เลิกเดิมตามได้แล้ว กูไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิดว่ากับพวกกูเป็นเพื่อนกัน" เรายืนนิ่งเหมือนไม่มีแรงก้าวขา กลั้นไม่ให้น้ำตามันไหลอกมา เราไม่รู้จริงๆ ว่าเราไปทำอะไรไว้ให้เพื่อนพวกนั้นไม่พอใจ หรือโกรธเกลียดเราขนาดนี้ เราเริ่มรู้สึกไม่อยากไปเรียนอีกครั้ง มันเริ่มไม่โอเครเหมือนตอนที่เรียนประถมเลย แต่อันนี้น่าจะหนักกว่าจริงๆ จากนั้นไม่นาน ก็มีเพื่อนอีกกลุ่มชวนเรามาอยู่ด้วย เขาเป็นเพื่อนกันกลุ่มเล็กๆ มีกัน 3 คน พวกเขามาจากโรงเรียนเดียวกัน เป็นเพื่อนกันตั่งแต่อนุบาล ในตอนแรกที่เราเข้าไปอยู่ เราก็รู้สึกกลัวๆ นะ แต่ก็คิดว่าดีกว่าต้องอยู่คนเดียว พออยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ เรารู้สึกชอบเพื่อนกลุ่มนี้มาก และรู้สึกชอบ PH เป็นพิเศษ (ชื่อเพื่อนแต่ละคนแมวมึนขอใช้เป็นอักษรย่อทั้งหมดนะคะ) เพราะ PH มีความชอบคล้ายเรา และดีกับเราที่สุดเลยก็ว่าได้ ส่วน NL ก็ดี แต่จะทำเฉยๆ กับเราซะมากกว่า มาถึง NT คนนี้จะดูมีอคติกับเราตลอด พูดจาดูถูก เหน็บแหนมเราประจำ แต่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็ปล่อยผ่านทุกครั้ง จนขึ้น ม.2 PH กับ NL เริ่มออกห่างเรา และเริ่มไม่ค่อยพูดหรือเล่นด้วยตามปกติ ในตอนนั้นเราเองก็ไม่แปลกใจอะไรแล้วละ มันไม่ใช่ครั้งแรกนี่คะ จากที่เคยเดินข้างกัน กลายเป็นเดินห่าง และทิ้งเราเดินตามหลัง จากที่เคยคุยกันเฮฮา กลายเป็นไม่พูดอะไรด้วยเลย จากที่เคยไปกินข้าวด้วยกัน กลายเป็นพอนั่งกินข้าวก็จะกระเถิบออกห่างจากเรา และมีกระดาษถูกยัดใส่กระเป๋านักเรียนเรามา ในกระดาษเขียนไว้ว่า "ช่วยออกไปไกลๆ จากกลุ่มเราด้วยนะ ในกลุ่มเราไม่มีใครชอบเธออีกแล้ว พอมีเธอเข้ามาในกลุ่มพวกเราก็โดนมองไม่ดีไปด้วย เราไม่อยากให้คนอื่นเข้าใจผิด เพราะงั้นอย่ามายุ่งอะไรกับพวกเราอีกนะ อีกอย่างเราไม่ชอบเธอมาตั่งนานแล้ว พยายามพูดไล่เธอก็น่าด้านยังอยู่อีก อย่าให้เราต้องด่าเธอที่โรงเรียนเลย ออกไปซะ" นั่นคือกระดาษจดหมายลายมือของ NT ซึ่งเหมือนเป็นหัวหน้าแก๊งค์ ไม่ว่า NT จะว่าอย่างไง PH กับ NL ก็ต้องเห็นด้วยทุกเรื่อง เรากลับมาตัวคนเดียวอีกครั้ง เดินคนเดียว นั่งคนเดียว และโดนเพื่อนผู้ชายล้อว่า "อีคนไม่มีเพื่อนคบ" อยู่เป็นประจำ.... เราได้แต่กลับมาร้องไห้ที่บ้านในห้องนอน จากนั้นเราก็พยายามทำตัวเองให้ดูป่วยอยู่ตลอด เพราะไม่อยากไปเรียน ในสมัยนั้นไม่มี Facebook หรือ Twitter ให้โพสต์หรือทักแชทหากัน เพราะฉนั้นเพื่อนในสมัยนั้น จึงนิยมเขียนด่าใส่กระดาษและยัดใส่กระเป๋านักเรียนมาตอนเราเผลอ.... PH วันไหนที่ NT ป่วยจนต้องขาดเรียน ก็มักจะมาเล่นมาคุยกับเราเหมือนกับตอนที่ยังอยู่กลุ่มเดียวกัน... จนมันทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ ว่าทำไมต้องมาสนิทกับเราในเวลาที่ NT ขาดเรียน จึงถาม PH ไปตรงๆ ว่าทำไมถึงมาเล่นกับเราตอนนี้ละ คำตอบที่ได้คือ "ขอโทษนะ เราไม่ได้เกลียดเธอ เราชอบเธอนะ คุยด้วยสนุกดี อยากเล่นด้วยมากๆ แต่ NT สั่งเรากับ NL เอาไว้ว่าอย่ามายุ่งหรือเล่นกับแมวมึน ไม่งั้นจะไล่เราออกจากกลุ่มอ่ะ เรากลัวโดน NT เกลียดอ่า เราเป็นเพื่อนกันมาตั่งแต่สมัยอนุบาล เราสนิทกันมาก เราเลยขัด NT ไม่ได้ เพราะงั้นถ้า NT ไม่มาเรียน เราก็พอเล่นกับเธอได้แบบนี้แหละ" แต่มันไม่ได้ทำให้เราหายเหงา หรือรู้สึกดีขึ้นเลยเชื่อไหมคะ ? พอขึ้น ม. 3 ก็มีเพื่อนใหม่ย้ายเข้ามา เธอชื่อ Am เธอเข้ามาเรียนในช่วง ม.3 กลางเทอมพอดี เพราะงั้นเธอจึงยังไม่มีเพื่อน ประจวบเหมาะกับจังหวะที่เราเองก็ไม่เคยมีเพื่อน เรามอง Am และ Am ก็มองเรา เหมือนต่างคนต่างรู้ใจกัน จากนั้นเราก้เริ่มเข้าหากันและกัน จนกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในที่สุด มาถึงจุดนี้... เรามีความสุขแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย เรามีเพื่อน เพื่อนจริงๆ เราสนุกสนานกับ Am มาก แต่.................! แต่เพื่อนคนอื่นในห้องก็พยายามชวน Am เข้ากลุ่มด้วย และบอกให้ Am ห่างกับเราไว้ แต่ Am ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่ดีของเรา นางปฏิเสธเข้ากลุ่มคนอื่น และยืนยันว่าจะอยู่กับเรา ทำให้เพื่อนคนอื่นไม่พอใจอย่างมาก และการ bully ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง... เรากับ Am เริ่มโดนแกล้งจากการโดนด่าทอใส่ เหน็บแหนมใส่ หนักเข้าเริ่มโดนปาก้อนหินใส่ตอนเข้าแถว ปาใส่หัว ใส่น่า เรากับ Am ทุกวัน จนเราสองคนทนไม่ไหวร้องไห้ร่วมกัน มันทรมานมากจริงๆ คือเราไม่รู้เลยว่าทำไมถึงได้โดนกระทำรุนแรงแบบนี้ ราวกับว่าเหมือนเพื่อนในห้องแช่งให้เราไปตายซะ ไม่มีใครบอกได้ด้วยว่าสาเหตุที่เกลียดเราเพราะอะไร แต่เพื่อนในห้องก็ไม่เคยหยุดยั้งที่จะทำให้เรากับ Am แตกหักกัน จน ม. 3 เทอม 2 ใกล้จะเรียนจบละ อยู่ๆ Am ก็ไปเดินกับเพื่อนกลุ่มที่เคยชวนให้ Am ไปอยู่ด้วยในตอนแรก เราเห็นแล้วจังหวะนั้นมันอึ้งมาก สมอง Errer ไปหมดเลย Am พยายามไม่สบตาเรา และพยายามหันน่าหนีตลอด แต่สีน่า Am ก็ดูทรมานพอๆ กับเรา เราไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทิ้งเรา เราทนกันมาขนาดนี้ ทำไมถึงเลือกทิ้งกัน เราตัดสินใจไปถาม Am ว่าทำไม เพราะอะไร เพื่อนคนอื่นรีบยื่นน่าเข้ามาสอดเลย ว่าห้ามเรามายุ่งกับ Am อีก จะไปไหนก็ไป เราพูดสวนไปว่า "กูถาม Am ได้ชื่อ Am ไหม ? ถ้าไม่ก็หุบปากซะ" เราทนต่อไปไม่ไหวจริงๆ Am มองน่าเราอย่างสีน่าไม่ค่อยดี และบอกให้เราพอเถอะ เลิกถาม เลิกยุ่งกับนางซะ ทันใดนั้นน้ำตาเราก็ไหลออกมาโดยอัตโนมัติ เราถามนางเป็นครั้งสุดท้ายว่าที่ผ่านมาคือไร Am บอกว่า "ขอโทษนะแมวมึน แต่เราทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เราจะย้ายโรงเรียนแล้วนะ ไม่รอรับใบเกรด เราเสียใจ แต่เราไม่มีทางเลือก ดูแลตัวเองดีๆ นะ" จากนั้นเพื่อนคนอื่นก็ไล่เราออกไปจาก Am
(มีต่อหน้า 2 นะคะ)
เคยโดน Bully ตั่งแต่สมัยเรียนกันไหมคะ ?
ปัจจุบันนี้เราอายุ 26 ปี แต่เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การถูก Bully ตั่งแต่สมัยเรียน จุดเริ่มเต้นของการถูก Bully ของเรามันเริ่มต้นตอนเราเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 หรือก็คือ ป.1 นั่นเอง ใครหลายคนอาจจะคิดว่า "เห้ยยย สมัยนั้นมันมีการ bully อะไรแบบนี้ด้วยเหรอ ยังเด็กน้อยกันอยู่เลย" มันมีค่ะ !! เรายังคงจำได้ชัดเจนถึงแม้เวลาจะผ่านมานาน..... เราเป็นเด็กปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆ ความคิดเหตุผลอะไรก็เป็นไปตามเด็กวัยนั้นๆ แต่เรามักจะไม่มีเพื่อนเล่นด้วย เราพยายามเข้าหาเพื่อนๆ แต่เพื่อนๆ ก็ถอยห่าง นอกจากว่าเราจะมีของเล่นมาเล่นที่โรงเรียน แต่พอเพื่อนทำของเล่นเราพัง พวกเขาก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมก่อนหน้า.. คือไม่เล่นด้วย และผลักเราออกจากกลุ่ม สมัยนั้นสิ่งที่เด็กในยุคนั้นชื่นชอบก็คงไม่พ้น "ตุ๊กตากระดาษ ตุ๊กตาบาร์บี้ หมากเก็บ และยางที่ใช้ไว้เล่นกระโดดเชือก" ซึ่งเราเองก็ชอบเล่นมากๆ ทุกครั้งที่เรามีของเล่นติดกระเป๋าไปด้วย เพื่อนๆ จะเข้ามาขอเล่น ขอยื้มเรา ด้วยความที่เราอยากมีเพื่อน เราก็แบ่งให้ แต่เหมือนที่บอกก่อนหน้านี้เลย พอทำพังก็ไม่เคยขอโทษหรือใช้คืน และไม่เล่นด้วยเหมือนเดิม แต่เราก็ไม่เคยว่าอะไร เพื่อนบางคนขโมยของเล่นเราไปก็มี บางคนแกล้งเอายางที่ใช้กระโดดเชือกของเราโยนขึ้นให้มันพันกับคานที่เอาไว้คล้ำหลังคาก็มี ซึ่งก็เอาลงมาไม่ได้ และมีเหตุการณ์หนึ่ง ในวันนั้นเราวิ่งเล่นตามปกติในช่วงพักกลางวัน และเรารู้สึกเหนื่อย เลยวิ่งชึ้นห้องจะไปดื่มน้ำ แล้วเราก็เห็นเพื่อนคนหนึ่ง ที่ชื่อว่า J (ขอใช้เป็นอักษรย่อนะคะ) กำลังยืนดื่มน้ำอยู่ แต่กระบอกน้ำที่ J กำลังดื่มอยู่ มันเป็นของเพื่อนอีกคนที่ชื่อ M เราเลยถามว่า... เธอกินน้ำของ M เหรอ และ J ก็หันมาทำท่า จุ๊ๆ กับเรา ว่าอย่าบอก M นะ เราเลยถามว่าทำแบบนี้ทำไม ไม่กลัว M โกรธเหรอ J ก็บอกว่าถ้าเราไม่บอก M ก็ไม่รู้หรอกว่าใครกิน จน M ที่เล่นเหนื่อยก็เดินขึ้นมาจะดื่มน้ำเช่นกัน และตอนนั้นในห้องเรียน ก็มีแค่เราและ J เพียง 2 คน M เดิมมาหยิบกระบอกน้ำขึ้นและยกดื่ม ผลปรากฎคือ J แอบขโมยน้ำ M ดื่มจนหมดไปแล้ว ทันใดนั้น M หันมาพุดว่า "ใครเป็นคนทำ เราจำได้ว่าน้ำเราเหลือเต็มกระบอก" พร้อมกับอาการที่จะร้องไห้ออกมา ไม่ทันที่เราจะได้พูดอะไรออกมา J ก็ได้พูดขึ้นว่า "แมวมึนเป็นคนขโมยน้ำเธอกิน" ตอนนั้นเราตกใจมาก ไม่คิดว่า J จะเอาตัวรอดแบบนี้ เราเลยส่ายหัวและบอกว่าเราไม่ได้ทำ J เป็นคนขโมยกิน น้ำเราก็มี เราจะขโมยน้ำเธอทำไม... M ได้ถามย้ำว่า ตกลงใครทำ J ก็ยืนยันคำเดิมว่าแมวมึนเป็นคนทำ เราก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้ทำ J ต่างหากที่ทำ จากนั้น M ก็ได้เข้ามาว่าเรา ว่าจิตใจเราทำด้วยอะไร ตอนนั้นเรางงมาก อะไร อย่างไง เราไม่ได้ทำนี่ แล้วทำไมถึงโทษเรา... M ยืนว่าเราไปพลาง พร้อมกับร้องไห้ไปพลาง จนหมดเวลาพักเที่ยง เพื่อนร่วมห้องคนอื่นๆ เริ่มขึ้นมา และเห็นว่า M ยืนร้องไห้อยู่ จึงได้เข้ามาดูกัน และถาม M ว่าเกิดอะไรขึ้น M ได้ทำการร้องไห้สะอึกสะอื้น พร้อมกับบอกเพื่อนคนอื่นว่า "แมวมึนเลวมาก ขึ้นมาขโมยน้ำเรากินจนหมด ทั้งที่เราจะต้องเหลือน้ำไว้กินยาเพราะเม็ดน้อยหน่าบาดคอแท้ๆ" จากนั้นเพื่อนคนอื่นๆ หันมามองเราด้วยสายตารังเกียจ และเริ่มต่อว่าเราว่าทำไมทำกับเพื่อนแบบนี้ ในตอนนั้นเราแทบจะร้องไห้เช่นกัน เราก็ยังคงปฏิเสธว่าเราไม่ได้ทำ จน J ที่ยืนฟังเพื่อนคนอื่นๆ รุมว่าเรา ก็ได้พูดขึ้นว่า "พอเถอะ เราเป็นคนขโมยน้ำ M กินเอง แมวมึน ไม่เกี่ยว" เราดีใจมากที่ J ยอมรับผิด แต่......!! เรื่องกลับตรงข้ามกันเลย พอ J ยอมรับผิดว่าตัวเองเป็นคนทำ M กลับไม่เชื่อ หาว่า J พูดปกป้องเรา.......................................? M บอกให้ J เลิกปกป้องเราซะ ส่วน J ก็ยืนยันว่าตัวนางเป็นคนกินเองจริงๆ แต่ M และเพื่อนคนอื่นกับปรักใจเชื่อว่าเราเป็นคนทำ วันต่อมา... เราก็มาเรียนตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือสายตาเพื่อนร่วมห้อง ทั้งมองจิก มองค้อนมาที่เราตนเดียว พอเราเดินเอากระเป๋าไปไว้ที่โต๊ะ ก็มีขยะอยู่ใต้โต๊ะเราเต็มไปหมด มีรอยดินสอเขียนด่าว่า "เลว" ณ ตอนนั้น เราอยากกลับบ้านมาก ทำไมเราต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย และจากนั้นไม่ว่าเราจะขึ้น ป.2 ไปจนถึง ป.6 เราก็ถูกเพื่อนรังเกียจมาตลอด ไม่มีเพื่อนคนไหนมาเล่นด้วย ไม่มีเพื่อนคนไหนมาพูดคุยด้วย โดนแกล้งต่างๆ นาๆ ข่าวลือถูกพูดถึงไปยังห้องอื่นๆ เรื่อยๆ มา... ว่าเราเป็นคนไม่ดี ชอบขโมยของเพื่อน ทำให้เพื่อนร้องไห้ โดยที่ J ยังคงใช้ชีวิตมีความสุขตามปกติ มีเพื่อนลายล้อมมากมาย และ J ก็ไม่เคยขอโทษ หรือเล่นกับเราอีกเลยตั่งแต่ในวันนั้น พอมีวิชาที่อาจารย์สั่งให้ทำเป็นกลุ่ม เพื่อนในห้องก็จะไม่มีใครอยากให้เราอยู่ด้วย เราขออยู่กลุ่มไหน ก็จะโดนปฏิเสธตลอด อาจารย์ก็เลยช่วยพูดให้เราได้เข้ากลุ่มนั้นๆ แต่เพื่อนก็จะทำอาการไม่พอใจใส่ชัดเจน และพูดแขวะตลอด และไม่เคยใส่ชื่อเราลงในกลุ่มรายงานเลย เราต้องแอบใส่เองทุกครั้ง ดังนั้นชีวิตในวัยชั้นประถมศึกษาของเราจึงค่อนข้างไมสนุกเลย พอเราขึ้นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หรือ ม.1 เรารู้สึกมีความหวังที่จะได้เจอเพื่อนใหม่ๆ และเราคงใช้ชีวิตได้สนุกสนานขึ้น ในตอนแรกมันก็เป็นตามที่เราคิด... เพื่อนใหม่ดีกับเรามาก เรามีเพื่อนครั้งแรกในชีวิต ที่เดินกันเป็นกลุ่ม กินข้าวกันเป็นกลุ่ม ทำงานกันเป็นกลุ่ม แต่.....................! แต่นั่นมันก็แค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น พอเข้าเรียนมาได้ 1 เดือน เราเกิดเป็นไข้เลือดออก ซึ่งต้องเข้าโรงพยาบาล เรานอนอยู่โรงพยาบาลประมาณ 1 อาทิตย์กว่าๆ คิดถึงเพื่อนมาก แต่อาจารย์ที่ปรึกษาก็แวะมาเยี่ยมเป็นบางวัน พอเราออกจากโรงพยาบาลเราไม่ได้รอฟิ้นตัวอะไร เรารีบอยากไปโรงเรียนเพราะคิดถึงเพื่อนมากๆ พอไปถึงโรงเรียนเรารีบวิ่งไปหาเพื่อนกลุ่มตัวเอง และทักทายด้วยความคิดถึง แต่แล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไป.... จากเพื่อนที่เคยบอกเราน่ารัก เพื่อนที่เคยเป็นห่วงเป็นใย เพื่อนที่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน กลับทำเหมือนเราไม่มีตัวตนเลย เราก็งงกับตัวเองอีกครั้ง ไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เราพยายามทักทายเพื่อนในกลุ่ม แต่พวกเขาก็ทำเหมือนมองไม่เห็นเรา และเริ่มพูดจาแขวะเรา "ว่าอีนั่น
(มีต่อหน้า 2 นะคะ)