๙ แล้ว ๖ ๖ แล้ว ๙ ใช้ชีวิตทั้งทางโลกย์และทางธรรมวันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่าน สไตล์ lifelong investor

อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01อมยิ้ม01

คุณพ่อลูกห้า  ได้ขอให้ช่วยโพสต์งาน mai forum  เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาให้อ่านครับ

ก็เลยขอเอามาโพสต์ในส่วนการใช้ชีวิตทางโลกย์  ไว้ในกระทู้นี้  


สำหรับข้อมูลด้านปัจจัยพื้นฐาน  คุณเด็กที่ราบสูง ได้ให้ข้อมูลไว้ในกระทู้นี้แล้ว 


ผมขอโพสต์แบบเดินไป  ดูไป บ่นไปเอ๊ยถามไป ในกระทู้นี้ครับ  อมยิ้ม16

++++++++++++++++++++++++++++++++++++
  
เมื่อไหร่จะไปงานที่จัดโรงแรมเซนทาร่าเวิร์ล ชั้น 22 
ผมจะไปจอดรถที่ชั้น 7 ก่อนเวลา 10.30 น. ทุกครั้ง
ซึ่งมีที่จอดรถยังว่างพอสมควร แถมมีสารพัดอาหารให้เลือกซื้อ เลือกกิน  แล้วเดินขึ้นลิฟท์ที่ขึ้นถึงโรงแรมชั้น 22 ได้โดยตรง



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

คนเคยเจอตัวจริงกัน  ที่ผมเจอเป็นคนแรกในงานคือ 
อดีตผู้จัดการสาขาเมย์แบงก์กิมเอ็ง 
เคยเจอกันในที่ประชุมชำระบัญชีธนาคารศรีนครที่โรงแรมอิสตินมักกะสัน

สอบถามได้ความว่าตอนนี้ลาออกมาซื้อขายเอง

คำถามที่ผมอยากได้คำตอบมากๆคือ

ออกมาลงทุนเอง   ชีวิตเครียดน้อยกว่าตอนต้องสวมหัวโขน รับผิดชอบเงินๆทองๆคนอื่นใช่หรือเปล่า

คำตอบคือ   "ไช่"     อมยิ้ม36


ในมือของอดีตผู้จัดการสาขาฯ  มีกล่องสี่หลี่ยมใบใหญ่สอบถามได้ความว่า
เป็นของที่ทีวีไดเร็กซ์ แจกให้กับผู้ถือหุ้น  ที่มางานตามที่บริษัทแจ้งไปทาง sms  

เป็นวิธีเลี่ยงบาลีได้อย่างยอดเยี่ยม  จากการที่สมาคมส่งเสริมผู้ถิอหุ้นไทย TIA 
แนะนำให้งดแจกของชำร่วยในการประชุมผู้ถือหุ้น haha


คนต่อมาที่เจอก็คือ 
ลูกพี่ลูกน้องคุณคนเขลาเบาปัญญา  ซึ่งเคยกำไรจาก ifs  ยี่สิบกว่าล้านบาท 
ผมถามไปว่ายังถือ msc  อยู่หรือเปล่า  คำตอบคือขายไปแล้ว
ผมเลยว่า   หุ้นที่ไม่มีเจ้ามือในตลาดคอยทำราคาให้  ราคาหุ้นจะไปไกลๆได้ยาก
ยิ่งเจ้ามือตัวจริงในบริษัทไม่ขยันโม้ เอ๊ยขยันให้ข่าวดี  ราคาหุ้นก็จะเศร้า

ของที่ผมได้จากงาน mai forum  มีทั้งแบบแจกประชาสัมพันธ์บริษัท แจกให้ผู้ถือหุ้น และซื้อในราคาผู้ผลิต


หมอนยางพารา  499  บาท  ได้ในราคาประเดิมที่ 450 บาท  จำไม่ได้ว่าเป็นของบริษัทไหน haha



+++++++++++++++++++++++++++++

คนคุ้นเคยที่เจอถัดมาคือ  กากีนั้งในกระทู้คุยโขมงฯ  อมยิ้ม01




+++++++++++++++++++++++
ใครไม่รู้จักคนที่กำลังให้สัมภาษณ์  ไม่ควรลงทุนในหุ้น haha



+++++++++++++++++++++
ปัจจัยพื้นฐานบริษัทคงดีอยู่แล้ว  เลยไม่อยากจะมาออกงานประชาสัมพันธ์บริษัท wink



++++++++++++++++++++++++++++

บู๊ธที่ผมทึ่งมากที่สุดในงานคือoto  บริษัทลูกของ samart
ให้บริการเอ้าส์ซอสด้าน call center 
จากข้อมูลที่พนักงานบริษัทบอก    บริษัทมีรายได้เป็นรายเดือนจากการทำหน้าที่เป็น call  center

โดยงานคอลเซนเตอร์รายใหญ่สุดของบริษัท  คือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
มีพนักงานของบริษัท ทำหน้าที่เป็นคอลเซนเตอร์ให้ กฟภ. 100 สาย  แบ่งเป็นสามกะรวม 300 คน
อีกรายได้สำคัญ ก็มาจากการเป็นคอลเซนเตอร์ให้กับโรงพยาบาลกรุงเทพเครือ bdms   แอร์เอเซีย ฯลฯ 
ผมถามว่า  ได้เป็นคอลเซนเตอร์ธนาคารหรือไม่  คำตอบคือไม่ได้เป็น
เพราะเป็นธุรกิจที่มีความลับสำคัญของลูกค้า  ที่ให้คนภายนอกรับรู้ไม้ได้  

มีความเห็นตรงกันระหว่างผมกับพนักงานที่ให้ข้อมูลคือ
คอลเซนเตอร์ของบัวหลวง   เป็นคอลเซนเตอร์ที่บริการตอบข้อมูลได้ช้ามากๆอมยิ้ม06

เข้าใจว่ารายได้หลักของธนาคารมาจากลูกค้ารายใหญ่  เลยไม่ค่อยสนใจการบริการลูกค้ารายย่อย ?


 
+++++++++++++++++++++++++++++++

ถามระดับบริหารที่มาดูแลบู๊ธ  ผลเสียหายจากการทำธุรกิจประปาชุมชนได้ตัดหมดแล้ว
ต่อไปถ้าจะรับงานประปาอีก 
จะรับแต่งานใหญ่ๆ ไม่กี่งาน ที่จะดูแลได้ทั่งถึง  ไม่ใช่ตูมเดียวรับร้อยงานแบบที่เคยรับมา

สาเหตุที่ทำให้ส่งมอบงานไม่ทันกำหนดก็คือ  คนตรวจรับงาน ก็ตรวจแล้วตรวจอีก ไม่ยอมให้ผ่านง่ายๆ
ในขณะที่คนทำงานภาคสนาม  เป็นแบบกินค่าจ้างรายวัน  วันไหนหยุดงาน ก็ไม่ได้เงินค่าจ้าง  เลยพากันทิ้งงาน อมยิ้ม06

กลับมาที่ธุรกิจหลักเดิมของบริษัท ก็ไปได้เรื่อยๆ  ถ้าบริษัทมีกำไรพอจะจ่ายเงินปันผล  ก็คงจะได้จ่าย ?



+++++++++++++++++++++++++
บู๊ธไหน คนมุงแน่น  บางที่แค่สนใจเล่นเกมรับของแจก อมยิ้ม16

 



+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตู้ใบนี้  ทำให้ forth บริษัทแม่  มีราคาหุ้นพุ่งกว่าตอนที่ไม่มีตู้ใบนี้  





++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอดีเอ็มดีคนสวย ให้สัมภาษณ์นักข่าวเสร็จ   ผมเลยถือโอกาสเข้าไปถามว่า

บริษัทคิดจะซื้ออาคารทรงไทยถนนสีลม  ที่เช่ารายเดือนประมาณเดือนละห้าแสนบาท จากแจ็คเจียหรือไม่

คำตอบคือ  ไม่ซื้อ 

บริษัทไม่เน้นที่ทรัพย์สินถาวร  จะเน้นไปที่เอาเงินไปต่อยอดธุรกิจหลัก  

อาคารที่เช่าจากแจ็คเจีย jct  เน้นลูกค้าคนไทยที่ขับรถมาซื้อ  จึงไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถมีน้อย

บางทีคนที่ลงจากซุปเปอร์คาร์แค่คนเดียว   อาจจะมียอดซื้อสินค้าเท่ากับทัวร์ทั้งกรุ๊บ อมยิ้ม16




+++++++++++++++++++++++

หนังที่ทำรายได้ให้ jkn  มากที่สุดคือหนังอินเดีย   ส่วนของฟิลิปปินส์ก็ทำรายได้ให้เหมือนกัน







++++++++++++++++++++++++++

กระแสไม่เอาพลาสติกที่ทำลายสิ่งแวดล้อมกำลังกลายเป็นเมกาเทรนด์

บริษัทพยายามฉีกตัวไปทำพลาสติกที่ย่อยสลายได้แทน




เพิ่งรู้สาเหตุที่บริษัทไม่สามารถใช้คำว่า  sunsweet  เป็นแบรนด์สินค้า
เคยโดนเจ้าของแบรนด์สินค้าฟ้องละเมิดลิขสิทฺธิ์  แต่บริษัทชนะคดี 
เพราะเป็นแค่ชื่อบริษัทไม่ได้ใช้เป็นชื่อสินค้า 

ตัวนี้ยอมรับว่าซื้อหุ้นผิดตัว   แทนที่จะซื้อหุ้นนำเช้าวัตถุดิบอย่าง tmill   ซึ่งเคยมีราคาใกล้เคียงกัน
กลับมาซื้อหุ้นส่งออก  ซึ่งเจอค่าเงินแข็งทำพิษแทน เศร้า



+++++++++++++++++++++++

ไม่ได้อยู่ฟังข้อมูล   บังเอิญเจอเอ็มดีในห้องน้ำ   ก็เลยถามข่าววงนอกไปว่า

npl  เริ่มนิ่งหรือยัง   คำตอบคือจะบริหารจัดการให้ดีที่สุด     ถ้าถือหุ้นอยู่ ให้ถือต่อไป  wink



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เวทีอยู่ระหว่างพักงานงานสัมนา  ก็เลยขอให้คุณรีสตาร์ทถ่ายรูปไว้ดูเล่น
ไม่ได้ขึ้นเวที     นั่งติดเวทีก็ยังดี  อมยิ้ม01



++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ช่วงคุณสโรชา   เอ็มดี jkn media บริษัทลูกของ  jkn สัมภาษณ์ เอ็มดีตลาด mai  
เธอน่าจะรักษาโรคมะเร็งหายแล้ว   กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม ?
 
ต่อจากรายการสัมนานี้   ก็เป็นmoney  talk  
ได้มีโอกาสเดินเข้าไปสวัสดีอาจารย์ไพบูลย์ และทักทายคุณโจลูกอิสานก่อนขึ้นเวที
เสียดายไม่ได้อยูฟัง    เพราะต้องไปฟังธรรมที่ ไอคอนสยาม  




วันอาทิตย์ทั้งวัน   ตามกลุ่มเพื่อนศิษย์เก่า  ไปงานทอดผ้าป่าที่ชลบุรี


แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่