เปิดหน้าต่างไต้หวัน ทริปสั้นๆ

มีเวลาว่างอยู่ 5 วัน ขอไปเดินเล่นที่ไต้หวันหน่อยนะ เห็นเพื่อนหลายคนไปกัน ตัวเองยังไม่ได้ไปสักที 
จริงๆ ทริปนี้ แทบจะไม่ได้เซตอะไรเลยว่าอยากไปไหนบ้าง เอาว่า ใครบอกให้ไปไหนก็ไปละกัน
เพราะ 5 วัน คงไม่สามารถไปได้ทั้งหมดของไต้หวัน แต่จะได้ไปไหนบ้าง มาดูกันจ้า

   
ไต้หวัน จะไม่มีรูป bubble หรือ ไข่มุก คงเรียกว่ามาไม่ถึงไต้หวันใช่ม้ั๊ย เม่าบัลเล่ต์

ที่ที่ไปมาก็คงไม่พลาดที่แต่ละคนที่เคยไปคุ้นเคย 

ไทเป 101 ต้องไปใช่มั๊ย ก็คงต้องตอบว่า ใช่ เพราะเพื่อนไต้หว้นบอกให้มา ไปถึง เราก็ข้ามไปฝั่งตรงข้ามมองตึก อ้อ ตึก 101 Okey กลับบ้านได้ เพี้ยนหัวเราะแบบว่า ในความคิดเห็นตัวเอง ยังไม่ค่อยมีไรน่าสนใจเท่าไหร่ ตึกนี้ แต่ถ้าขึ้นไปก็คงสวยงามแบบ Bird eyes view มั้งค่ะ 

ตั้งใจว่า จากตึกไทเป เราจะเดินขึ้นเขาใกล้ๆ แต่เกิดเปลี่ยนใจ เดินไปเรื่อยๆ เพื่อจะไป Si Si Nan Kun Village

Si Si Nan Kun Village กลายเป็นสถานที่ขายของน่ารักสไตล์วัยรุ่น ศิลปิน ทำขายหรือหามาขาย ของก็เก๋ๆ น่ารักดีเหมือนกันนะ อยากเข้าห้องน้ำ หาเข้าที่นี่ได้ด้วย ที่นี่ จะว่าไป ก็มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปอาร์ทๆ ได้หลายมุมเลยทีเดียวนะ คนไต้หวันเองก็มาเดินกันเยอะเหมือนกันนะ 
ในส่วนอาคารด้านใน มีการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้ในอดีต จัดเป็น exibition เล็กๆ เห็นแล้วก็ อุ๊ย บ้านเราก็มี สมัยอาม่ายังอยู่ ก็มีของพวกนี้ใช้อยู่เหมือนกันนะ 55555
และแน่นอน ทริปนี้ เรามากันแบบเรื่อยๆ ไม่ได้แพลนอะไรกันจริงจังว่าจะไปไหน ออกจาก Si Si Nan Kun เราก็เริ่มหิวกันแหล่ะ จากที่จะเดินขึ้นเขาเลยเปลี่ยนเป็น ไปเดิน Shenkeng Old Street ดีกว่าจ้าเพี้ยนชนแก้ว

Shenkeng Old Street ไปทางรถเมล์ได้ไม่ยากเลย ขึ้นจากแถวตึกไทเป 101 ได้เลย ต่อเดียวถึง การเดินทาง เอาจริงๆ คล้ายๆ ฮ่องกง ตรงที่ เดินทางด้วยเมโทร บางทีอ้อม นั่งรถเมล์ สะดวกกว่าเยอะเลย ถึงที่ ไม่ต้องเดินไกล

ที่ Shengkeng Old Street มีเต้าหู้เหม็นขายเยอะมากเหมือนกัน เราแวะกิน Taro balls ที่นี่ ซึ่งร้านนี้รสชาติไม่ผ่านฮะ เอาน่า เดี่ยวอีกวันจะได้ไปกินของอร่อยที่จิ่วเฟิ่นแล้ว วันนี้กินร้านนี้ไปก่อนละกัน Old Street ที่นี่ให้อารมณ์คล้ายๆ เดินเล่นเมืองเก่าที่จีนเลย ดูคล้ายๆ กัน 55555 ของกินเยอะ เลยได้ของกลับบ้านไป ตั้งแต่เต้าหู้ยี้รสเผ็ด ผงถั่วไปชงน้ำร้อนกิน เก๋ากี้ดำไปชชงกินบำรุงตา

และความที่ยังไม่เจอของกิน Food street ที่ใช่ ส่วนใหญ่เป็นร้านในอาคาร เลยไปต่อกันที่ Gongguan night market สะเลยจ้า ไปเลยยยย

Gongguan night market.....ก็นั่งรถเมล์ไปเหมือนเดิมจ้า จาก Shengkeng old street 
ระหว่างรอรถเมล์ เลยได้เห็นระบบการเก็บขยะของไทเป ว่าจะมีรถขยะ ขับมาคู่กัน 2 คัน คันนึงสีเขียวขยะทั่วไป ส่วนคันขาวจะเป็น Recycle 
รถขยะจะมารอที่จุดจอดรถ และเปิดดนตรีดังมากกกกกกกกกกกกกก  ประมาณว่า บอกชุมชนแถวนั้นว่า ได้เวลาเอาขยะมาทิ้งแล้วนะจ๊ะ ซึ่งก็จะเห็นคนถือถุงขยะมายืนรอก่อนบ้างแล้ว เพราะเราสามารถดูเวลาที่รถขยะจะมาถึงได้ที่ application ในมือถือนั่นเอง และเจ้าของขยะจะต้องเป็นคนเทขยะทิ้งเอง แยกขยะเอง 

เพื่อนไต้หวันบอกว่า เค้าวิ่งเอาขยะไปทิ้งบ่อยมาก เพราะเกือบไม่ทันบ่อยๆ 555 นางอยู่อีกเมือง ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน 
มากงกวาน นี่ สนุกมากกกก นอกจากของกินละลานตาแล้ว ร้านอุปกรณ์กีฬาก็ยั่วใจมากกกกกกกกก
และแน่นอนว่า ร้านนมลุงเฉิน ที่ไม่มีสาขาไหนนอกจากที่ตลาดนี้ ก็ขายดีมากเหมือนที่เพื่อนบอก ไปถึงคือ ของหมด อดแ_รก ค่ะ

ต้องไปกินน้ำเผือกปั่นที่อีกร้านนึง ซึ่งปรากฎว่า อร่อยมากกกกกกก นางใส่เผือกลงไปเต็มๆ แล้วเติมนม สุดๆ ค่ะ สุดยอดความอร่อย

ยังๆ ยังไม่จบ สายตาเหลือบไปเจอร้านชาชื่อดังตัวอักษรย่อ K ต้องจัด!!! สิคะ รออะไรคะคุณ เพี้ยนลาเวนเดอร์
ร้านนี้ ชา ดีงาม สั่งแบบเย็นหวานน้อย มีความเข้มในรสชากำลังดี ตอนแรกตั้งใจจะสั่งแบบไม่หวานเลย แต่เพื่อนไต้หวันบอกว่า มันจะเข้มเกินไปนะ เราเลยเค หวานนิดนึงก็ได้ พอตานางสั่ง นางสั่งไม่หวานเลย!!! อ้าว อินี่ ไหงงี้ล่ะคะ?!!! แต่สำหรับคนชอบชาเข้มนิดๆ ก็รสชาโอเคนะ ตัดเลี่ยนพวก milk tea ได้เลยจ้า

จบคืนที่สอง ไปนอนได้จ้า นานานอน

แน่นอนสินะ วันที่สาม ก็แพลนที่แรกจะไปคือ New Taipei ------>  Yehliu Geopark, Jiufen Old Street, Jinguashi Gold Eco-park
ที่ประทับใจคือ ตอนแรกเลย ไม่คิดจะมาเลยอุทยานหิน แต่เพื่อนชวนหลายรอบมาก ว่ามาเหอะ เราก็ว่า มันดูน่าจะร้อนๆ น่ะ ไม่ไปดีกว่า สุดท้าย นางก็แนะนำให้มาจนได้....เป็นยังไงหน่ะเหรอ
เออ ก็ แปลกตาดีนะ แถมได้ฟังไกด์เล่านู่นนี่นั่น ก็สนุกดีเหมือนกันนะ 

จิ่วเฟิ่น ล่ะ ตอนแรกว่าจะไม่มา แต่เพื่อนอยากมา นางก็ไม่ค่อยได้มา นางเลยถือโอกาสเที่ยวสะเลย 
วันที่มา คือ ฝนตกค่ะ ท้องฟ้าก็เลยมัวๆ มีแต่หมอก แต่ก็ได้บรรยากาศเย็นๆ ดี ดีที่เตรียมเสื้อกันฝนมาเลยสะดวกหน่อย 
อะไรที่ขอบที่จิ่วเฟิ่นเหรอ ถ้าไม่นับของขายแต่ละร้านที่บรรยากาศคล้ายๆ เมืองเก่าหลายที่คือ  ร้าน Taro balls ที่เพื่อนพามากิน แบบว่า ดูมันลึกลับจังเลย เป็นเราก็คงไม่รู้ว่าตรงนี้มีร้าน Taro balls ด้วย กับทางเดินด้านหลังจิ่วเฟิ่น ก็ได้เห็น Decoration ของตึก ที่มีความอาร์ทๆ เหมือนกันนะ อารมณ์เหมือนเดินไปแถวโซนบ้านเก่าที่โซลในเกาหลีใต้ ที่ตึกอาคารพาณิชย์เค้าทำเก๋ๆ ปลุกต้นไม้สวยๆ รอบบ้าน อารมณ์ประมาณนั้นเลย ไม่มากขนาดนั้น แต่ทำให้นึกถึงได้เลย 

อีกที่ ที่ไม่อยู่ในแผน แต่ไปเจอเค้าเขียนป้ายไว้ คือ พิพิธภัณฑ์เหมืองทองคำ เห็นว่าไม่ไกล และมีเวลา เลยนั่งรถเมล์ขึ้นไปต่ออีกนิด 

เออ มาเหอะ ก็มีอะไรๆ ดีนะ ได้เอามือแตะทองคำด้วย 5555 ไม่รู้จริงไม่จริง แต่ก็อินไปกะเค้าหน่อย อารมณ์เหมือนเราไปดูมัมมี่ลุงโฮที่เวียตนาม แล้วสงสัยว่า ที่เรามองอยู่นั่นใช่ของจริงมั๊ยนะ ตามประสาเด็กช่างสงสัยอะน่ะ

เอาสรุปแล้ว วันที่ 3 นี่ ก็ฟินดีนะ โดยเฉพาะมื้อเย็น 55555 อร่อยมากกกกกกกกกกกก จนน่าเอาเข้ามาขายที่ไทย อะไรเหรอที่กินไป ก็ราเมงญี่ปุ่นนี่แหล่ะ แต่มีความสนุกตรงเลือกเส้น เลือกน้ำซุป เลือกวัตถุดิบว่าจะใส่อะไรบ้าง เลือกระดับความเผ็ด และของเค้าก็อร่อยจริงๆ นะ สมละ ที่ยอมยืนรอคิว ร้านก็ช่างหายากแท้ เล่นอยู่บนอาคารชั้น 6 ในย่าน ximending 

วันที่ 4 เราไปนอนที่อุทยานแห่งชาติ Hualien Taroko National Park สนุกมาก เพราะอันนี้แหล่ะ ที่ตั้งใจจะมาคือ trail ที่ไหนก็ได้ที่ไต้หวัน เป็นประเทศแห่งภูเขาทั้งทีนิ
 เส้นทางที่ได้เดินคือ Shakadang trail แต่ไปได้ไม่สุด เพราะ เราไปเริ่มต้นเดินที่อื่นมาก่อนด้วย คือ tunnel of nine turns ด้วยความโชคดีไง วันที่ไปคือวันที่เริ่มเปิดให้เดินโซน Tunnel of nine turns เป็นวันแรก แต่ก็ได้เดินเข้าไปไม่ลึก เพราะเค้าเปิดให้เดินแค่นั้น หลังจากปิดยาวมา 6 ปี 

วันที่ 4 นอกจากจะฟินจากทริปที่เดินเทรลแล้ว ยังฟินกับวิวทะเลแปซิฟิก กับ ชายหาดหิน ไม่ใช่ หาดทรายนะ แต่เป็นหาดหินล้วนๆๆ เลย แปลกตามากสำหรับตัวเอง เพราะไม่เคยเห็นที่อื่นมาก่อนไง 

ฟินาเล่สุด ก็คงเป็น ร้านอาหาร ที่เป็น Traditional และต้องจองเท่านั้น อาหารจะได้กินอะไร ก็ไม่บอก โตีะเรามาหลายคน เลยมีอาหารเยอะ ครบเนื้อสัตว์ทุกสัญชาติ ยกเว้น เนื้อวัว  จนเด็กโต๊ะข้างๆ ต้องมองแล้วร้องอยากกินบ้าง ทำไมโต๊ะหนูไม่มี 55555 ฟังไม่รู้เรื่องหรอก เดาเอา เพี้ยนหัวเราะ

จบก่อน ดึกละ วันแรกกับวันสุดท้าย เที่ยวไทเป ที่ชอบคือ รูปภาพที่ National Palace Museum สวยจริง แถมมีเทคนิคทำเป็นภาพเคล่ื่อนไหวได้อีก เออ ชอบๆ  ส่วนตลาด Shilin ก็เป็นตลาดของกินที่ใหญ่มากกกกกกกกกกกก  แต่ก็ไม่ได้เดินครบหรอก มันยาวเกิ๊น

ย่านซีเหมินติง ไม่ต้องพูดมาก นอนที่นี่ เลยได้เดินดูของทุกวัน 55555

วันสุดท้ายเก็บตก ชานมที่ยังไม่ได้กิน ก็ได้กินจนได้ อิอิ และที่สำคัญ ได้ไปซื้อ wooden music box ด้วย ตอนแรกคิดว่าคงไม่เจอร้าน แต่ด้วยแต้มบุญเยอะ เลยได้มาเดินที่ Huashan 1914 Creative Park ที่เป็นโรงงานเก่าแล้วกลายสภาพมาเป็นแหล่งฮิปๆ ขายของเก๋ๆ แพงๆ 
จบดื้อๆ ไปก่อนนะ ง่วงแล้วจ้า

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่