เสียความรู้สึกกับคุณหมอ

กระทู้คำถาม
หน้าเราเป็นเม็ดๆ แต่บางทีก็ดูไม่ค่อยเห็น เห็นน้อย ต้องเป็นมุมที่แสงมันตกกระทบแบบมุมพอดีจะเห็นชัด เห็นเป็นเม็ดๆเยอะมาก
เราเลยถ่ายรูปเก็บอาการไว้ พอมาเจอหมอ เราเล่าแล้วเปิดรูปให้ดูเพื่อให้หมอวินิจฉัยให้ละเอียดขึ้น
แต่หมอไม่ดูรูปเราเลย มองหน้าเราแล้วบอกว่าเราเป็นอะไร
เราพยายามให้หมอดูรูปหมอก็บอกไม่ดู เพราะแค่มองก็เห็นแล้ว
เราก็บอกหมอว่าที่ให้ดูรูปเพราะ..(สาเหตุตามที่เขียนไว้ตอนแรก) หมอก็ฟังแต่ยังไม่ดู 
จนเรารีบเลื่อนไปให้ถึงรูปที่เม็ดๆเต็มหน้าผาก เรียกให้หมอมองแล้วบอกว่านี่ๆมีที่หน้าผากเยอะมาก
หมอมองแวบเดียวแล้วค่อยมามองหน้าผากเรา เรารู้ว่าที่หมอยอมรูปที่หน้าผาก เพราะตอนนี้มองไม่เห็นเม็ดที่หน้าผากเยอะเท่าไหร่เนื่องจาก แสงมันไม่ได้มุม
แล้วไหนตอนแรกหมอบอกแค่มองก็เห็นแล้ว?
เราเดินออกมาแบบรู้สึกว่าคุณหมอไม่มีความใส่ใจที่จะตรวจเลย แค่ดูรุปที่คนไข้เก็บอาการเอาไว้เพื่อให้วินิจฉัยละเอียดขึ้นยังไม่ดู
วันนั้นไม่มียา ไม่มีอะไรเลย แค่คุยๆแบบไม่ใส่ใจคนไข้ เราเสียเงินไปทั้งหมด 420 เป็นคลินิคนอกเวลาศิริราช
เราเสียความรู้สึกมากที่คุณหมอทำหน้าที่ไม่เต็มที่แต่กลับคิดเงินเต็มที่
เราเคยน้ำเข้าหู แล้วไปกรุงเทพคริสเตียน ไม่มียา ไม่มีอะไรเลย เสียไปราวๆ500
ดังนั้นถ้าวันนี้เราไปเอกชนแล้วแค่คุยๆแบบเดียวกับรพ.รัฐ เราก็คงเสียเงินใกล้ๆกัน ไม่ต่างกันมาก แต่ดีกว่าแน่ๆเพราะ
ไม่ต้องเสียเวลารอตั้งหลายคิว ไม่ต้องเจอบรรยากาศในโรงพยาบาลที่แออัดมากๆ ไม่ต้องฝ่าแดดร้อนๆไป
เงินที่เราจ่าย ไม่ใช่เงินของเรา แต่เป็นเงินที่พ่อแม่หามา เราเลยเสียความรู้สึกที่คุณหมอไม่ใส่ใจที่จะตรวจแต่กลับคิดเงินเต็มที่ รู้สึกผิดกับพ่อด้วย
แล้ว”การใส่ใจที่จะตรวจในมุมของเรา”มันไม่ได้เยอะเลย แค่ฟังที่เราบอกหน่อย ดูรูปที่เราเก็บอาการไว้ ให้ดูใส่ใจที่จะวินิจฉัยคนไข้หน่อย

แค่เรื่องนี้ที่เรารู้สึกไม่โอเค
แต่เราขอชื่นชมเจ้าหน้าที่พยาบาลที่หน้าห้องหลายๆคนพูดดีมาก ผิดภาพกับเจ้าหน้าที่รพ.รัฐที่เคยอ่านว่าชอบว่าคนไข้เลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่