เสียเวลาเเละค่าใช้จ่ายไปเท่าไหร่กว่าจะได้ใบขับขี่จักรยานยนต์ที่แคนาดา

เเวะมาเเชร์ประสบการณ์สอบใบขับขี่จักรยานยนต์ที่แคนาดาครับ อันนี้เป็นขั้นตอนการสอบใบขับขี่จักรยานยนต์ของรัฐ British Columbia นะครับส่วนรัฐอื่นๆในเเคนาดาอาจเหมือนหรือต่างกันก็ได้ การสอบจะแบ่งเป็นสามส่วนคือ Knowledge Test, Skill Test และ Road Test ต้องบอกก่อนนะครับว่านี่เป็นขั้นตอนการสอบของคนที่ไม่เคยมีใบขับขี่รถยนต์หรือจักรยานยนต์มาก่อน ถ้ามีใบขับขี่รถยนต์มาแล้วก็ต้องสอบให้ผ่านทั้งสามส่วนแต่จะสามารถสอบ Road Test ได้เลยไม่ต้องรอหนึ่งปีถึงจะสอบได้เหมือนคนที่ไม่เคยมีใบขับขี่มาก่อนเเบบผม 

Knowledge Test สอบภาคทฤษฎี ข้อสอบมีสี่สิบข้อเป็นความรู้ทั่วไปในการขี่จักรยานยนต์และ ป้ายต่างๆ เดาว่าน่าจะคล้ายๆกับเมืองไทยเเต่ที่นี่จะไม่มีการอบรมเเต่จะมีหนังสือให้ไปอ่าน ต้องสอบให้ผ่านแปดสิบเปอร์เซ็นต์ถ้าไม่ผ่านก็มาสอบใหม่ในอีกเจ็ดวันและจ่ายค่าสอบไปแค่ 15 ดอลล่าห์ต่อครั้งถ้าอ่านหนังสือมาผมคิดว่าสอบยังไงก็ผ่านครับ ถ้าไม่ผ่านก็สอบวนไปจนกว่าจะผ่าน
เมื่อสอบผ่านภาคทฤษฎีแล้วถึงจะเรียนขับขี่ได้ แต่จะต้องมีครูสอนขับตามตลอดทุกครั้ง จะขับเองคนเดียวไม่ได้ เเละห้ามความเร็วเกิน 60 กม/ชม ถ้าเจอตำรวจโดนเรียกเเน่นอน โดยส่วนตัวแล้วผมขี่จักรยานยนต์มาตั้งแต่มอต้นถึงมอปลายที่เมืองไทยไม่เคยมีปัญหามาก่อน แต่มาต่างบ้านต่างเมืองเเถมขับชิดขวาอีก ก็เลยตัดสินใจเข้าโรงเรียนสอนขับจักรยานยนต์เพื่อเอาองค์ความรู้และเทคนิคที่ถูกต้องก่อน แน่นอนว่าทางโรงเรียนจะสอนเทคนิคการขับต่างๆเเละการขี่บนท้องถนนอย่างปลอดภัยและ สอบ Skill Test ที่โรงเรียนเลยไม่ต้องไปสอบที่ขนส่ง การสอบก็เป็นสอบซิกแซกขับช้าๆเท่ากับคนเดิน ขับเร็วแล้วเบรค ยูเทินแคบต่างๆ อันนี้น่าจะคล้ายๆสอบใบขับขี่จักรยานยนต์ที่ไทย จ่ายค่าสอนสำหรับ 28 ชมและ สอบ Skill Test ไป 700 ดอลล่าห์ เมื่อผ่านการสอบทักษะผ่านแล้วถึงจะสามารถขี่จักรยานยนต์ได้คนเดียวแต่ต้องมีป้ายตัว L สีแดงติดท้ายสีเด่นเห็นแต่ไกลเพื่อบอกคนอื่นบนถนนว่าเป็นมือใหม่หัดขับและจะขี่ได้เฉพาะตอนฟ้าสว่างเท่านั้น ถ้าขี่ตอนกลางคืนก็โดนตำรวจจับอีกเหมือนกัน อย่างที่บอกคีอป้าย L มันเห็นชัดมากเเละก็เป็นที่หมายตาของตำรวจอยู่บ่อยๆ ผมโดนตำรวจเปิดไซเรนเเละเรียกให้จอดเพื่อตรวจใบขับขี่มาเเล้ว ทางขนส่งจะให้เวลาหนึ่งปีเพื่อหัดขี่เเละให้ชินกับท้องถนน นับไปหนึ่งปีหลังจากสอบทฤษฎีผ่านก็ถึงจะมีสิทธิ์ขอสอบ Road Test 

Road Test สอบภาคปฏิบัติสถานการณ์จริงหลังจากหัดขี่มาอย่างน้อยหนึ่งปี(โดยไม่มีอุบัติเหตุ) การสอบทางขนส่งจะให้สวมเสื้อและมีวิทยุสื่อสารคอยสั่งให้ขับไปตามสั่งแล้วเขาก็ขับรถยนต์ตามดูตลอดสี่สิบห้านาทีทักษะต่างๆ การคุมความเร็ว การเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา มีการเช็คกระจกและมองจุดอับก่อนเลี้ยวทุกครั้งหรือไม่ที่สำคัญคือขี่เเล้วปลอดภัยต่อคนอี่นเเละตัวเองหรือไม่ ถ้ามี dangerous Action หรือไม่มองกระจกหรือจุดอับสายตาก่อนเลี้ยวซ้ายขวามากกว่าสองครั้งคีอสอบตกทันที บางครั้งมันอาจไม่ใช่ความผิดเราเเต่มีคนขับไม่ดีเเล้วทำให้เราอันตราย อันนี้ก็ทำให้สอบตกได้เช่นกันเเต่ก็ถึอเป็นคราวซวย เปอร์เซ็นการตกเเละผ่านจะอยู่ที่ประมาณครึ่งต่อครึ่ง ส่วนผมผ่านฉลุยแถมคนคุมสอบบอกว่าคุณก็ต้องผ่านอยู่แล้วเพราะคุณมาจากประเทศที่ขี่จักรยานยนต์เป็นทุกคนอยู่แล้ว เหมือนยกภูเขาออกจากอกเเละเสียค่าสอบและใบขับขี่ไป 110 ดอลล่าห์ รวมค่าเสียหายไปทั้งหมด 825 ดอลล่าห์ หรือเกือบๆสองหมื่นบาทใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งปีกว่าจะได้ใบขับขี่และสามารถขี่ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนตามต้องต้องการ 

หวังว่ากระทู้จะเป็นประโยชน์หรือได้เเชร์ประสบการณ์การสอบใบขับขี่ของต่างประเทศนะครับ ส่วนตัวไม่เคยไปสอบใบขับขี่ในไทยเเต่ก็อ่านตามกระทู้อยู่บ้างรู้สึกว่ายากอยู่เหมือนกัน เเต่อาจจะไม่ต้องผ่านหลายขั้นตอนเหมือนที่เเคนาดากว่าจะได้มาเลือดตาก็เเทบกระเด็นนิดหน่อย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่