เพลง เพื่อน ความรู้สึก

สวัสดีครับ

กระทู้นี้อาจไม่เชิงตั้งคำถามหรือขอคำปรึกษา อยากเล่าสู่กันฟัง หรือระบายความรู้สึกเสียมากกว่า
(แต่ถ้าใครอยากแลกเปลี่ยนก็ยินดีรับฟังนะครับ)

คือผมเป็นคนชอบแต่งเพลง เป็นงานอดิเรกที่ทำต่อเนื่องมานานหลายปี
มีอุปกรณ์อัดเสียงพอทำเดโมได้ที่บ้าน มีบางเพลงได้รับคัดเลือกตามงานประกวดเล็กๆ บ้าง มีได้รวมทำเป็นแผ่นออกมาบ้าง

หลายปีก่อน ผมแต่งเพลงๆ นึง ชื่อเพลง "หากเธอคิด" เป็นเพลงที่พูดถึงมิตรภาพ ความทรงจำ บรรยากาศ สมัยเรียน
ผมอัดร้องพร้อมกับตีคอร์ดกีตาร์โปร่งแบบง่ายๆ แล้วเอาภาพนิ่งของเพื่อนๆ รุ่นพี่รุ่นน้องมาวางทำสไลด์โชว์
export เป็นวิดีโอ แล้วก็เอาลงในกลุ่ม บางคนที่ได้ดูก็บอกว่าชอบ ดูแล้วคิดถึงอะไรประมาณนั้น
ผมก็รู้สึกว่าซัคเซสแล้ว เราก็เพียงอยากแชร์ความรู้สึกกัน ก็แค่นั้น

มาปีนี้ มีเพื่อนร่วมรุ่นคนนึงติดต่อผมมาทางแชทใน fb (ขอเรียกเพื่อนคนนี้ มาลี)
มาลีบอกว่า อยากให้ผมช่วยทำวิดีโอสำหรับโปรโมทงานเลี้ยงศิษย์เก่าปีนี้หน่อย  (เราจัดกันสองปีหน)
ผมเห็นว่ารุ่นเราเป็นเจ้าภาพ และตัวเองก็ไม่ได้ยุ่งอะไร จึงตอบรับแข็งขัน แล้วก็บอกว่าขอวางแผนงานทำสคริปต์เป็นเรือ่งเป็นราวนะ
(ผมมีอาชีพทำวิดีโอ และจัดอีเวนต์อยู่แล้ว)
ผมนึกถึงเพลง "หากเธอคิด" ขึ้นมา เลยส่งลิงค์เพลงให้มาลีฟัง
มาลีบอกว่า เออ ดี ได้เลย เดี๋ยวจะขอเอาลงเพจ (เค้าเปิดเพจเฉพาะกิจสำหรับงานศิษย์เก่าครั้งนี้) ผมก็ตอบไปว่ายินดี ทำให้เพื่อนๆ อยู่แล้ว

แต่จนแล้วจนรอด ผมก็ยังไม่เห็นเพลงนั้นในเพจงาน
เห็นแต่เพียง วิดีโอที่มาลีทำ ซึ่งเป็นวิดีโอแบบโฮมยูสใส่เพลงอลังการงานสร้าง 
หาคำซึ้งๆ ภาพประกอบจากเน็ตมาใส่
ไม่ได้มีการคิดก็อปปี้ไม่มีการตัดต่อการวางกราฟิคที่เป็นเรื่องเป็นราวแบบมืออาชีพอะไร
แล้วหลังจากนั้น มาลีก็ไม่ติดต่อผมมาอีกเลย

ขอเล่าถึงเพื่อนคนนี้สักนิดก่อนจะข้ามไปเรื่องอื่น 
คือเราไม่ได้สนิทกันมากนักสมัยเรียน ช่วงที่เรียนเค้าจะไปขลุกอยู่กับรุ่นพี่เสียมากกว่า
แล้วแผนกเราเรียนกันห้าปี จำได้ว่าเค้าออกไปก่อนเราจะจบ

กลับมาเรื่องงานเลี้ยงศิษย์เก่าต่อ อยู่มาวันหนึ่งผมก็แต่งเพลงได้อีกเพลง  แต่งมาจากธีมงานที่เค้าจะจัดกันในปีนี้เลย  
และใช้ชื่อเดียวกัน ผมอัดเสียงง่ายๆ ลงมือถือและส่งไปให้เพื่อนอีกคนนึงฟัง (ขอเรียกเพื่อนคนนี้ว่า จิตรกร) เพื่อนบอกว่าชอบมาก
ผมจึงเริ่มลงมือทำเดโม เสร็จก็ส่งไปให้จิตรกรฟังตลอด บางทีได้เจอกัน (เราอยู่จังหวัดเดียวกัน คนละแห่งกับที่เพื่อนคนอื่นๆ อยู่)
เราก็จะคอยอัพเดท เล่นแจมกัน รวมถึงวางแผนทำเพลง เช่น เอาคนนี้มาร้อง ชวนคนโน้นมาเล่น กันอย่างสนุกสนาน 

เพื่อนกระตุ้นให้ผมปล่อยเพลงเสียที ปล่อยเดโมนี่แหละ ผมก็จะบ่ายเบี่ยงตลอด บอกว่าอยากปล่อยตัวเต็มดีๆ ไปเลย
แต่นั่นแหละ ด้วยความที่ไม่ใช่มืออาชีพ งบสนับสนุนก็ยังไม่มี งานมันก็ช้า และมันก็จะไม่ใช่เพลงมาตรฐานอย่างที่เราอยากให้เป็น
มันมีเพดานของมันอยู่

เมื่อคืน เพื่อนอีกคนที่อยู่กทม.มาเที่ยวหา (ผมขอเรียกคนนี้ว่าอาจารย์) เราก็นั่งคุยนั่งเล่นเพลงกันไป
อาจารย์ถามว่า ทำไมไม่ปล่อยเพลงเสียที ทีแรกผมก็อึกอักๆ แต่สุดท้ายก็เล่าเรื่องที่เคยส่งเพลงหากเธอคิด ให้มาลี แล้วเงียบหาย

อาจารย์ว่าผมคิดมาก แถมด้วยเทศนาบทยาว "ไอ้งานแบบนี้น่ะ ยังไงเค้าก็ต้องมีเพลง แล้วแทนที่จะเอาเพลงโลโซเพลงอ้อม
เรามีเพลงของเราไม่ดีกว่ารึ"

ผมบอกว่า "ดีกว่าอยู่แล้ว แต่การจะปล่อยเพลงนั้นมันไม่ใช่หน้าที่ของผม ผมเหมือนเป็นแค่ฝ่ายโปรดักชัน เพจผมก็ไม่ได้เป็นแอดมิน (มาลีเป็น)"
อาจารย์ด่าผมต่อ "ก็ส่งไป อย่าไปกะเกณฑ์ว่ามันต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มาลีมันอาจจะไม่ชอบเพลง 'หากเธอคิด' นั้นก็ได้
แค่มันไม่กล้าพูด กูยังไม่ชอบเลย ไม่ใช่มันไม่ดีนะ กูว่ามันไม่เข้ากับงาน แต่เพลงใหม่นี้ดีกว่า เข้ากว่า เพราะกว่าเยอะ ก็ลองส่งไป บอกว่าเนี่ยเพลงแต่งมาแล้ว นี่ถ้าเป้นกูนะกูส่งไปนานแล้ว" อาจารย์ตบท้าย

จิตรกรนั้นบางคราวก็เห็นด้วยกับอาจารย์ แต่อีกทางก็บอกว่าเข้าใจผม
เห็นผมอึกอักมากเข้า อาจารย์ก็ต่ออีก "เพลงมันต้องมีคนฟัง ถ้าทำแล้วไม่ปล่อย กูพูดหยาบๆ เลยนะ จะเสียเวลาทำมาทำไม ก็ทิ้งไปเถอะ"
นั่นแหละ ผมได้แค่ยิ้ม ผมเถียงเพื่อนไม่เคยทัน

ขอเล่าถึงตัวเองสักนิด คือโดยนิสัยผมเป็นขี้อาย ไม่ค่อยมั่นใจ คิดมาก
การที่ผมเจอปฏิกิริยาครั้งนั้นของมาลีอาจทำให้ผมลังเลที่จะปล่อยอะไรออกไป  
ทั้งๆ ที่รู้ว่าเพลงใหม่นี้มันดีก็เถอะ

ผมอยากบอกอาจารย์กับจิตกรว่า
"พวกไม่เข้าใจหรอก เวลาที่งานของเราหายไปในหลุมดำมันรู้สึกยังไง
ถ้ามาลีมันจะบอกว่าไม่ชอบ กูก็เข้าใจได้ก็ไม่ว่าอะไร แต่นี่ มันยังโชว์ภาพแคปหน้าจอที่มันขอให้รุ่นพี่คนนึงอีดเสียงปิคกิงกีตาร์
เพื่อให้มาใช้ในงานวิดีโอ แปลว่าอะไร ไม่ได้แปลว่า มันไม่เอางานรึ
มันมองเห็นกีตาร์ปิคกิงของรุ่นพี่ดีกว่าเพลงที่ตั้งใจแต่งตั้งใจทำให้เพื่อนให้แผนก ไม่ใช่เหรอ

แล้วที่บอกว่า เรามีเพลงของเรามันต้องดีกว่า แล้วถ้าพูดถึงเพลงหากเธอคิด มันจะต่างกันยังไง
ถึงมันไม่ได้ดีเด่เท่าอีกเพลง  แต่ถ้าพูดถึงว่า มันเป็นเพลงของพวกเรา มันก็น่าจะดีกว่าไหม
เพราะถึงเราไม่ใช้เป็นเพลงธีมของงาน เราก็เอามาใช้เป็นเพลงที่เรียกความรู้สึกได้
และหลายๆ คนที่ได้ดูได้ฟัง ก็สัมผัสยังรู้สึกร่วมกับมันได้

คือผมจำได้ว่าจิตรกรเคยพูดว่า ต้องให้รุ่นพี่ดังๆ มาร้อง เพลงมันจะเด่นขึ้นมาทันที ผมเองก็เห็นด้วย 
แต่มาวันนี้ ทั้งสองดูอยากจะให้ผมปล่อยเพลงทันที
ผมบอกว่า ผมไม่อยากเป็นคนไปปล่อย เพราะรู้ว่าตัวเองปล่อยแล้วจะแป้ก
"ถ้าพวกอยากไปปล่อยกูก็ไม่ว่าอะไร" ผมบอก
ทั้งที่ผมอยากได้ยินว่า  "เออ งั้นทำไป เดี๋ยวกูจัดการต่อเอง"
แต่มันก็ไม่มีให้ได้ยินหรอก 

อ้อ แล้วอีกอย่างที่ผมลืมเล่าให้ทั้งคู่ฟัง แต่ที่จริงทั้งคู่ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว อาจจะลืมไป
ผมเคยร้องเพลงนี้สดๆ ให้เพื่อนกลุ่มนึงฟังไปแล้ว และมีคนถ่ายวิดีโอเอาลงในไลน์กรุ๊ปของรุ่น
แม้ตอนนั้นหลายคนจะบอกว่าชอบ แต่การที่มันเงียบหายและไม่มีใครพูดถึงอีก มันก็อาจบอกอะไรได้

สุดท้ายผมจะส่งให้ใครฟังมั้ย จะปล่อยเพลงนี้มั้ย 
ก็ไม่รู้เหมือนกัน ก็คงปล่อย จริงๆ แล้วผมก็เชื่ออาจารย์ที่ว่า เพลงมันต้องมีคนฟัง

แต่ถ้าผมจะทิ้งมันไว้เฉยๆ ก็เป็นสิทธิของผม มันเป็นเพลงของผม 
ที่อาจารย์ถามว่า แล้วจะทำทำไม 
ผมก็แค่อยากทำ เท่านั้นเอง

เรียนไว้แต่ต้นว่าผมเพียงอยากระบาย ใครอ่านมาได้ถึงบรรทัดนี้ก็ขอบคุณมาก 
จากใจจริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่