ก่อนปิดยาวปีใหม่ ปลายปีที่แล้ว เพื่อนร่วมงาน จขกท ไปเจอตั๋วเครื่องบินไป LA และ SF ราคาถูก ในเพจ อาแปะ บินด้วยสายการบิน ANA ราคา 21,600 ใช้เวลาคุยและตัดสินใจกันครึ่งวัน สุดท้ายได้ช่วงเวลาเดินทางคือ 18 -31 พ.ค. และได้เพื่อนร่วมทริปทั้งหมด 6 คน สามีภรรยา 2 คู่ และสาวโสดอีก 2 หน่อ บินลง LA และบินกลับจาก SF แวะนาริตะ 2 และ 3 ชม ตามลำดับ 

หลังจองตั๋วเสร็จ เราก็มาตกลงกันเรื่องเส้นทางการเดินทาง วางแผนการเดินทางเป็นรูปตัวยู LA – Las Vegas – Grand Canyon - Page – Bryce Canyon – Zion National Park – Yosemite – SF จากนั้นก็เริ่มจองที่พัก ผ่าน Agoda และ Airbnb อย่าง LA และ SF โรงแรมแพง เราก็ไปพัก Airbnb แทน ราคาที่พักเฉลี่ยที่ได้คือ 1,200 ต่อคนต่อคืน ที่พักที่แพงที่สุดในทริป คือ Airbnb ที่ SF แต่ได้บ้านทั้งหลัง 3 นอน 2 น้ำ จขกท พยายามเลือกที่พักที่ถูกที่สุดและดูรีวิวประกอบ ไปเจอของจริง ผมว่าส่วนใหญ่ดีกว่าที่รีวิวนะ

ส่วนเวปเช่ารถ ผมจองผ่าน www.happytoursusa.com น่าจะถูกที่สุดละ Promotion ดีงาม ไม่ต้องจ่ายก่อน เอาใบจองไปยื่น พร้อมรูดบัตรเครดิตมัดจำที่ counter รถเช่า สะดวกมากมาย

มาที่การยื่นขอวีซ่า ด้วยความที่เพื่อนร่วมทริปทั้ง 6 คน เป็นพนักงานประจำของบริษัทเอกชนที่เป็นที่รู้จัก การ สัมภาษณ์เลยไม่ได้ติดขัดอะไร เพื่อนร่วมทริปบางคนถูกถามแค่คำถามเดียว ว่าไปทำอะไร ในขณะที่ส่วนใหญ่ถูกถาม 3-4 คำถาม เอกสารที่เตรียมไปก็ไม่ได้ขอดู ทุกคนได้วีซ่าท่องเที่ยว 10 ปีจ้า

ที่นี่ขอสรุปค่าใช้จ่าย ต่อหัว ทั้งหมดของทริปก่อนเนอะ
ตั๋วเครื่อง                  21,600
วีซ่า                         5,600
ค่าที่พัก                    16,800
ค่าเข้า Universal      2,650  ซื้อผ่าน Klook
ค่ารถทัวร์ LA ไป LV     707 ซื้อผ่านเวป Tufesa  
ค่าเข้า Antelope        1,770  จองผ่านเวป โดยตรง Dixie Lower Antelope
ค่าเช่ารถ 9 วัน            3,500
ค่าบุฟเฟ่ที่ Las Vegas   3,000
ค่าน้ำมัน                      1,500
ค่าอาหารให้วันละ 1000 บาท  ทั้งหมด 12 วัน  ตัด Buffet ที่ Las Vegas 2 วัน ส่วนใหญ่กิน Fast food มื้อละไม่เกิน 10 เหรียญ
สิริรวม    70,000 บาทต่อคน

ข้ามมาอาทิตย์ก่อนเดินทาง จัดกระเป๋าอย่างไร??? จขกท เช็ค Forecast อุณหภูมที่ต่ำสุดคือที่ SF12 องศา นอกนั้น เฉลี่ย 20 กว่าๆ และมันจะอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ไอ้เราก็คิดว่าเสื้อยืดคอกลมกับเสื้อหนาวบางๆ 1 ตัวคงสบาย พอไปถึงอุณหภูมิลงฮวบๆ พร้อมลมที่แรงมากกกก โดยเฉพาะตาม National Park ที่ส่วนใหญ่อยู่บนที่สูง ใส่มัน สาม สี่ชั้นยังเอาไม่อยู่ โหดสุดคือ Grand Canyon ประมาณ 2 องศา หิมะกองเป็นหย่อมๆ ฝนตกปรอยๆ บางช่วงมาเป็นลูกเห็บ บวกลมที่แรงมากกกก หน้าชา มือแข็ง ปากสั่น ทรมานกับความหนาวกันไป ต้องซื้อเสื้อหนาวเพิ่ม ถ้าไปช่วงคาบเกี่ยวฤดู ควรเตรียมเสื้อหนาวไปเผื่อ

ถึงวันเดินทาง ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่มีดีเลย์ อาหารดี พนงต้อนรับดี ถึงที่หมาย LAX ตรงเวลาเป๊ะ เดินทางไปที่พัก Airbnb แถวๆ Downtown LA โดย Uber เหตุผลที่เราเลือกที่พักใกล้ DTLA เพราะสถานที่ท่องเที่ยวที่เราวางแผนไปสามารถเดินทางได้โดย Metro และค่า Metro ที่ LA ไม่แพง เราจึงไม่ได้เช่ารถ 

มาพูดถึง Metro ใน LA กันสักหน่อย สภาพสถานีก็เหมือนทั่วๆ ไป ไม่ได้สกปรกอะไร แต่ที่ดูสกปรกมากคือที่นั่งของรถไฟ มันเป็นเบาะผ้าที่เก็บความสกปรกได้อย่างดี และคนที่ใช้รถ Metro บางส่วนคือคน Homeless ถ้าจะนั่ง Metro หรือเดิน DTLA เวลากลางคืน ควรมีผู้ชายไปด้วยนะ บางพื้นที่ Homeless เยอะ ชอบเดินเข้ามาขอเงิน 

• Downtown LA เดินเล่นดูเมืองตึกรามบ้านช่องไปเรื่อย สามารถเดินได้จนเกือบทั่ว มี Metro อยู่ 3 สาย
Walt Disney Concert Hall เดินดูแค่ตัวตึก
Grand Central Station ด้านในสวยดี ตอนไปถึงมีถ่ายหนังอยู่ด้วย น่าจะเป็นจุดถ่ายหนังหลายๆ เรื่อง
Bradbury Building เข้าฟรี อยู่ตรงข้าม Grand central Market
Grand Central market แค่เข้าไปเดินเล่น ไม่ได้ลองกินไรสักอย่าง 
ถ่ายจากที่พัก Airbnb แค่ข้าม freeway ก็เข้าตัวเมือง 
• Santa Monica มี Metro วิ่งไปถึง ใช้เวลาเกือบ ชั่วโมง มีห้างใหญ่อยู่ใกล้ๆ Pier ถ้าไปกลางคืนอาจต้องเตรียมเสื้อกันหนาวไป ลมแรงมากกก
• Hollywood street คหสต มีแค่ป้ายชื่อดาราที่ติดตามพื้น โรงละคร และห้าง นอกนั้นก็ไม่มีอะไร

• Universal Studio มี Metro ไปถึงอีกเช่นเคย เครื่องเล่นส่วนใหญ่คล้ายๆ ที่ Osaka + Singapore ฉะนั้นควรเลือกเล่นอะไรที่มีแต่เฉพาะที่นี่ก่อน เช่น Simpson, Walking dead, Studio Tour ตกเย็นหาไรกินที่ city walk ร้านอาหารเยอะ