เรื่องเล่าจากวัดป่า : ต้มยำไก่ขัตติยา

เรื่องนี้เป็นหนึ่งในความบังเอิญที่เกิดขึ้นได้ทั่วๆไป แต่จขกทเห็นว่ามันมีทั้งความโรแมนติก ความบังเอิญ และความอร่อย555555 เลยอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆได้ลองอ่านกันดู จขกทอาจจะใช้ภาษาไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ ต้องขออภัยด้วยนะครับ

        จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตอนที่จขกทยังเด็ก จขกทได้อาศัยอยู่กับป้าของจขกท ซึ่งถ้าปัจจุบันก็อายุก็ 70 ปีละ แต่ยังแข็งแรงเดินเหินสะดวก เลี้ยงเหลนได้สบาย ป้าของจขกทเป็นคนที่ทำกับข้าวอร่อยมากๆๆๆๆๆๆๆคนนึงโดยที่ไม่จำเป็นต้องใส่ผงชูรส หรือเครื่อปรุงอะไรเยอะเลย บางทีใส่แค่เกลือก็อร่อย อาจจะเรียกได้ว่ารสมือแกดี มีกับข้าวหลายอย่างที่จขกทชอบมาก แต่กับข้าวอย่างนึงที่จขกทชอบมากที่สุด นั่นก็คือ ต้มยำไก่บ้าน ต้มยำไก่บ้านฝีมือป้านั้น เป็นต้มยำน้ำใส ใส่ไก่บ้านที่หั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ ปรุงรสด้วยเกลือน้ำปลา มะนาว ใส่ใบโหระพา พริกขี้หนู ธรรมดาๆ แต่มันดันเป็นต้มยำที่ไม่ว่าใครมากินก็ต้องตักข้าวเพิ่มทุกราย ทุกคนในครอบครัวของจขกท ต่างรู้ถึงความอร่อยในรสชาติต้มยำไก่ของป้าและรู้จักต้มยำไก่สูตรนี้ในชื่อ ต้มยำไก่ขัตติยา ด้วยความสงสัยของจขกทในวัยเด็กเลยถามป้าว่าชื่อขัตติยานี้มาได้ยังไง ป้าก็เลยได้เล่าให้ฟัง ได้ความว่า

            30 ปีก่อน (ช่วงเวลาไม่แน่ใจว่ากี่ปีกันแน่ แต่น่าจะอยู่ในช่วง 30-40 ปี เพราะเรื่องเล่ามาจากความทรงจำของป้าของจขกท ซึ่งตอนนั้น จขกท ยังไม่เกิด) เป็นช่วงที่ประเทศเพื่อนบ้านเราอย่างกัมพูชา มีสงครามกลางเมือง มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนภายในประเทศต้องอพยพลี้ภัยไปยังประเทศต่างๆ ซึ่งหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มักจะเป็นที่ลีภัยของชาวกัมพูชาในขณะนั้น นั่นก็คือบ้านเกิดของจขกท ประเทศไทย จังหวัด สุรินทร์ ซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา และหนึ่งในผู้ที่ลี้ภัยมาอาศัยอยู่ในละแวกบ้านป้าของจขกทก็คือเชื้อพระวงศ์ชาวกัมพูชาท่านนึง ขออนุญาติแทนว่าเชื้อพระวงศืชาวกัมพูชาท่านนั้นคุณลุง คุณลุง นั้นได้มาอาศัยอยู่ที่ละแวกบ้านของป้าจขกทประมาณ 3 ปี ระหว่างที่ลุงอาศัยอยู่ที่ไทย ป้าเล่าให้ฟังว่า แกเป็นคนดี ใจบุญ ชอบช่วยเหลือคนอื่น ใครเดือดร้อนอะไรแกก็จะช่วยเสมอ และที่สำคัญแกชอบทำกับข้าวให้คนในละแวกบ้านและเด็กๆในบ้านของป้ากิน และหนึ่งในอาหารสูตรออริจินอล ของคุณลุงที่ชอบทำให้กิน ก็คือต้มยำไก่บ้านนั่นเอง และแน่นอนว่า ชื่อของคุณลุงท่านนี้ก็คือ ขัตติยา จึงเป็นที่มาของต้มยำไก่ขัตติยา สูตรที่ตกทอดมายังครอบครัวของจขกท ซึ่งตอนนี้มีคนทำเป็นแค่คนเดียวก็คือป้าของจขกท  ซึ่งมีความสนิทสนมกับตุณลุงขัตติยามากที่สุด คุณลุงขัตติยาอาศัยอยู่ที่ประเทศไทยได้ประมาณ3 ปี แกก็ได้ลากลับไปยังประเทศของตัวเอง นับตั้งแต่นั้นมาป้าของจขกทก็ไม่ได้ข่าวและไม่ได้ติดต่อกับคุณลุงเชื้อพระวงศ์ชาวกัมพูชาท่านนั้นอีกเลย ไม่มีรูปถ่าย ไม่มีที่อยู่ ไม่มีเบอร์ติดต่อ ไม่รู้ว่าคุณลุงขัตติยาเป็นยังไงบ้าง มีแค่ต้มยำไก่สูตรขัตติยาเป็นหลักฐานเดียวของการมาอยู่ที่ประเทศไทยของคุณลุง และชื่อนี้ก็ติดอยู่ในหัวของจขกทและสมาชิกครอบครัวทุกคน มีหลงลืมกันตามวันเวลาไปบ้าง แต่ก็จะนึกถึงทุกครั้งที่ทำกับข้าวด้วยสูตรของคุณลุงขัตติยา
     
ปี 2019 
           30 ปีหลังจากที่ลุงขัตติยากลับประเทศและขาดการติดต่อไป จขกท ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เลยตั้งใจที่จะมาบวชเพื่อทดแทนคุณพ่อแม่ เป็นเวลา 15 วัน ที่วัดป่าแห่งนึงในจังหวัดบ้านเกิด วัดแห่งนี้มีความเงียบสงบ กุฏิของพระลูกวัดทุกรูปล้วนอยู่กลางป่าที่เงียบสงบทั้งกลางวันและกลางคืน เป็นความเงียบที่ไม่วังเวง รู้สึกร่มเย็น ชาวบ้านในละแวกและในจังหวัดต่างเลื่อมใสในหลวงพ่อเจ้าอาวาส พระทุกรูปปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ชาวบ้านทั่วไปต่างเลื่อมใส และที่ประเทศเพื่อนบ้านก็มีคนเลื่อมใสเช่นกัน ในระหว่างที่จขกทบวชก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ(ไม่มีเรื่องหลอน5555) จนใกล้วันที่จขกท กำลังจะลาสิกขาในอีกไม่กี่วัน จขกท ก็ได้ทราบข่าวจากพระลูกวัดรูปอื่นว่า กำลังจะมีเชื้อพระวงศ์จากฝั่งกัมพูชาจะมานมัสการหลวงพ่อเจ้าอาวาสและอยู่ปฏิบัติธรรมที่วัดสองสามวัน และนั่นเองทำให้ชื่อของลุงขัตติยากลับขึ้นมาในหัวของจขกทอีกครั้ง จขกทตอนที่เป็นพระเลยรอที่จะเข้าไปถามให้แน่ใจว่าเชื้อพระวงศ์ชาวกัมพูชาที่มานมัสการหลวงพ่อ ซึ่งเป็นคุณตาท่านนึงว่ารู้จักกับคุณลุงขัตติยาบ้างหรือไม่ แต่คำตอบที่ได้นั้นทำให้จขกทขนลุกไปทั้งตัว มันปิติยินดี และสัมผัสได้ว่าคุณตาก็มีความยินดีที่จะตอบเหมือนกัน ถึงจะต้องคุยกันผ่านหลวงพ่อที่รับหน้าที่เป็นล่ามภาษาเขมร เพราะว่า คุณตาได้ตอบกลับมาพร้อมชี้มาที่ตัวเองและพยายามที่จะสื่อสารว่า ชื่อขัตติยาที่จขกทถามหานั้นเป็นชื่อของน้องชายแท้ๆของคุณตาเอง แต่น่าเสียดายที่คุณลุงขัตติยานั้นได้เสียชีวิตลงไปหลายปีแล้ว นอกจากนั้นคุณตาพยายามสื่อสารด้วยภาษาไทยและภาษามือไปพลางๆพร้อมทั้งพูดชื่อของคุณลุงขัตติยาพร้อมนามสกุลให้จขกทฟังอย่างชัดเจน คุณตาพูดถึงความเป็นอยู่ต่างๆนาๆ เราคุยกันซักพัก ก็ได้เวลาที่คุณตาจะต้องลากลับไปประเทศของตัวเองไป และนี่จึงเป็นข่าวคราวของคุณลุงขัตติยาครั้งแรกและครั้งสุดท้ายตลอดระยะเวลา 30 ปี ที่จะถูกส่งไปยังคุณป้าของจขกท
            ทันทีที่คุณป้าของจขกททราบข่าวและเห็นภาพถ่ายระหว่างจขกทกับพี่ชายของคุณลุงขัตติยา ถึงกับตกใจร้องไห้น้ำตาไหลออกมา จขกทก็ไม่กล้าถามถึงความรู้สึกของคุณป้าว่ารู้สึกอย่างไรที่ในที่สุดก็ได้ข่าวของคุณลุงขัตติยา คุณลุงผู้เคยสนิทสนม ช่วยเหลือเอื้ออารีย์ต่อกันในอดีตและอาจารย์สอนทำกับข้าว จขกทไม่ทราบว่าน้ำตาของป้าที่ไหลออกมาเป็นน้ำตาแห่งความเสียใจ ความปิติยินดี หรือจริงๆแล้วเป็นน้ำตาแห่งความคิดถึงกันแน่
            แต่ในท้ายที่สุด อาจจะเป็นเพราะความบังเอิญ หรือโชคชะตา บุญวาสนา อะไรก็แล้วแต่หรืออาจจะเป็นเพราะต้มยำไก่หม้อเดียว ที่ทำให้จขกทมาพบเจอเศษเสี้ยวเรื่องราวของคุณลุงขัตติยา หลังจากนี้ทุกครั้งที่ต้มยำไก่สูตรคุณลุงขัตติยาถูกปรุงขึ้นมา มันจะไม่ได้เป็นแค่ต้มยำธรรมดาอีกแล้ว แต่มันคือต้มยำไก่ที่มีเรื่องราวผ่านกาลเวลามาสามสิบปี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่