สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกในพันทิปของเรา ส่วนตัวเราเองติดตามอยู่บ่อยๆค่ะแต่ไม่เคยสมัครเข้ามาเล่นอะไรจริงๆจังๆ วันนี้ถือโอกาสยืมแอคเคาท์เพื่อนเข้ามาเล่าเราเจอกับผู้หญิงคนนึงมาให้อ่านกันค่ะ เรามีเรื่องอัดอั้นตันใจในความอกตัญญูของผู้หญิงคนนึงที่มีต่อบุพการีมาโดยตลอด ขออนุญาตแชร์เป็นประสบการณ์นะคะ หากมีคำแนะนำอะไรยินดีรับฟังค่ะ
หมายเหตุ. เรื่องทุกอย่างนี้คือเรื่องจริง ทุกเรื่องที่เล่าและทุกคนที่เอ่ยถึงคือมีตัวตนจริงๆนะคะ
.
.
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้ว เรามีโอกาสได้เจอกับผู้หญิงวัยไล่เลี่ยกันคนนึงค่ะ หน้าตาดี บุคลิกดี กริยามารยาทดี โดยรวมแล้วดูดี
ขออนุญาตแทนชื่อของผู้หญิงคนนี้ว่าน้ำเพชรนะคะ เราคุยถูกคอกันมาก เจอกันบ่อยๆ ตอนหลังเราเลยตัดสินใจคบกันเป็นแฟน
(เราและน้ำเพชรเป็นผู้หญิงทั้งคู่ค่ะ)
น้ำเพชรเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ ฐานะทางบ้านน้ำเพชรค่อนข้างดี พ่อกับแม่ทำงานอยู่สายการบินสายหนึ่งค่ะ น้ำเพชรจะ
เล่าให้ฟังเสมอว่าตอนเด็กๆพ่อกับแม่จะบินตลอดไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้านดูแลน้ำเพชร จะมีเพียงแต่แม่บ้านเท่านั้นที่คอยดูแลรับส่งน้ำเพชร
ไปโรงเรียนตลอด น้ำเพชรอยากได้อะไรคือจัดหามาให้หมดทุกอย่างให้สมกับความรักที่เค้ามีให้กับลูกสาวคนเดียวแต่ไม่มีเวลาให้
หลังจากที่เราคบกับน้ำเพชรได้ซักพัก เราก็ย้ายเข้ามาอยู่กับน้ำเพชรและครอบครัวที่บ้าน ได้มีโอกาสพูดคุยกับพ่อแม่ สัมผัสได้ว่าเค้า
รักลูกของเค้ามาก ออกแนวพ่อแม่รังแกฉัน น้ำเพชรเล่าให้ฟังว่าตลอดตั้งแต่เด็ก น้ำเพชรเป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่งมาตลอด
พ่อกับแม่ไม่เคยผิดหวังในตัวน้ำเพชรเลย จนน้ำเพชรเริ่มโตขึ้นเข้าวัยมัธยม ติดเพื่อน อารมณ์เหมือนช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พ่อกับแม่ก็
ทำงานไม่มีเวลาดูแลน้ำเพชร นิสัยน้ำเพชรก็เริ่มเปลี่ยนไป
น้ำเพชรติดเพื่อนมาก เริ่มโดดเรียน ตอนเช้าเวลาพ่อไปส่งน้ำเพชรที่โรงเรียน น้ำเพชรก็จะยังไม่เข้าไปข้างใน รอจนคุณพ่อไปทำงานแล้วจึงแอบ
ตามไปที่ทำงานแล้วเอากุญแจสำรองขับรถคุณพ่อที่จอดที่ทำงานไว้ไปเที่ยวเล่น บางวันน้ำเพชรเดินห้างซื้อของรูดบัตรเครดิตเสริมของคุณพ่อ
หมดเป็นแสนเลยก็เคยมี สิ่งที่ทำเพชรทำบ่อยๆคือขโมยเงินพ่อในห้องนอน พ่อจะเบิกเงินมาไว้ใช้จ่ายในบ้าน และน้ำเพชรจะแอบเข้าไปหยิบเงิน
เสมอ ทีละพันสองพัน ทำแบบนี้จนเป็นเรื่องปกติ นี่คือคำพูดที่ออกจากปากน้ำเพชรแบบที่ดูสีหน้าแล้วไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไร
นิสัยเหล่านี้ติดมายันโต หลังจากจบมัธยมน้ำเพชรก็ได้เข้าศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านชานเมือง อยู่หออย่างหรูหราทั้งๆที่
บ้านกับมหาวิทยาลัยห่างกันไม่ถึง 20 นาที แต่ด้วยความที่อยากอิสระ ไม่ชอบอยู่บ้าน จึงขอพ่อกับแม่ย้ายมาอยู่หอเพียงลำพัง และพ่อแม่
มีหน้าที่แค่ส่งเงินให้ใช้ นานๆกลับบ้านที หลังๆเค้าน้ำเพชรเริ่มเหลวไหล ติดเพื่อน และไม่สนใจเรื่องการเรียน ครั้งนึงน้ำเพชรได้มีโอกาสไปเยี่ยม
เพื่อนที่อมริกา ได้ไปลองใช้ชีวิตระยะสั้นๆอยู่ที่นั่นแล้วรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องการ น้ำเพชรตัดสินใจกลับมาทำเรื่องออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว
ขอพ่อกับแม่ไปอยู่ที่นั่น ใช้ชีวิตกับเพื่อน เรียนไปทำงานไป ชีวิตเริ่มดีขึ้นเมื่อไกลบ้าน แต่ว่าก็ยังไม่ทิ้งคราบนิสัยเดิม
น้ำเพชรได้มีโอกาสรู้จักกับทหารอเมริกันคนนึงโดยการแนะนำจากเพื่อน ด้วยความที่ว่าน้ำเพชรอยากได้กรีนการ์ดที่จะอยู่ที่นี่ จึงตัดสินใจลองคุย
แกล้งคบจนตกลงปลงใจจะแต่งงานกัน (ทั้งๆที่ใจน้ำเพชรไม่เคยชอบผู้ชายเลยแต่ทำไปเพียงเพราะหวังกรีนการ์ด) หลังจากนั้นน้ำเพชรได้มีโอกาส
กลับมาเมืองไทยเพื่อจัดงานแต่งงานกับทหารคนนี้ และกลับไปอเมริกาอีกครั้ง ไม่นานหลังจากนั้นน้ำเพชรได้เจอกับผู้หญิงไทยคนนึง ต่างคนต่างรู้สึกดีต่อ
กัน แอบคบกัน หลังจากนั้นน้ำเพชรเริ่มใช้เงินมากกว่าเก่าลุกลามไปถึงบัตรเครดิตของแฟนที่เป็นทหาร จนเป็นหนี้วงเงินสูงสุดท้ายน้ำเพชรตัดสินใจหนีกลับมาเมืองไทยพร้อมแฟนผู้หญิงคนนั้น เพื่อมาเริ่มลงหลักปักฐานใหม่
หลังจากคบไม่นานก็มีเหตุทำให้เลิกรา น้ำเพชรกลายเป็นคนหยิบโหย่ง เรียนไม่จบ ไม่ทำงาน เกียจคร้านอยู่บ้านไปวันๆ พ่อกับแม่เกษียณและพอมีเก็บหอมรอมริบ รวมถึงมีธุรกิจเล็กๆน้อยๆอยู่บ้าง เลยขอร้องให้ลูกช่วยอยู่บ้าน คอยดูแลหยิบจับโน่นนี่ให้พ่อแม่บ้าง เป็นธุระให้บางคราวเท่านั้น แลกกับเงินที่จะให้เดือนละ 15000 แต่นั่นไม่พอสำหรับเธอ น้ำเพชรยังคงติดนิสัยลักขโมยเงินพ่อแม่อยู่บ่อยๆ และดูทีท่าว่าเลิกไม่ได้เลย
อย่างที่เคยบอกไปน้ำเพชรจะเป็นคนที่ติดเพื่อนมากๆ มีเงินไม่ได้จ้องจะออกบ้านอยู่ตลอด หายไปบางทีเป็นอาทิตย์ ไลน์ไม่ตอบ โทรไม่รับ เป็นเรื่อง
ปกติที่พ่อแม่ต้องเจอ พ่อแม่ทุกข์ระทมใจแต่ก็ไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้ยังไง บางทีน้ำเพชรก็กุเรื่องโทรมาบอกว่าอยู่ต่างจังหวัดกับเพื่อน โดนแก๊งค์ทวงหนี้
นอกระบบตามจะเอาเงิน ให้พ่อกับแม่โอนเงินให้ ด้วยความที่รักและห่วง ก็โอนไปให้อีกเหมือนเดิม ซึ่งทุกอย่างน้ำเพชรทำได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะกุเรื่อง แต่งเรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้ได้เงิน
กลับมาที่ตอนคบกับเรา ตามที่กล่าวไปหลังจากที่เราย้ายมาอยู่บ้านน้ำเพชรแล้ว สิ่งที่เราเห็นมาตลอดคือน้ำเพชรจะชอบแอบงัดห้องพ่อเข้าไปขโมยเงินบ่อยๆไม่ว่าจะเวลาไหน ขอแค่ทางสะดวกเธอจะรีบเข้าไปทันที พฤติกรรมเลวร้ายเหล่านี้มีให้เห็นจนเป็นเรื่องชิน พ่อกับแม่ก็รู้ จับได้บ้างไม่ได้บ้าง ดุด่าว่ากล่าวน้ำเพชรก็จะทำเป็นบีบน้ำตา มานั่งขอขมา แล้วก็ทำแบบเดิมอีกซ้ำๆ วนลูปเหมือนล้อเกวียน เพียงแต่ว่าเรื่องราวต่อไปนี้ กับสิ่งที่น้ำเพชรทำมันไม่ได้จบแค่พ่อแม่
แต่มันเริ่มลามมาที่เรา...
น้ำเพชรไปยืมเงินเพื่อนมาหลักหมื่น ยืมมาหลายเดือนและไม่ยอมใช้คืน จนสุดท้ายเพื่อนนางมาทวงกับเรา เราก็ด้วยความที่ว่าไม่อยากให้พ่อกับแม่เค้ารู้เรื่องนี้ ก็เลยตัดสินใจใช้หนี้คืนแทน โดยการที่เอาเงินหมื่นก้อนนี้ให้น้ำเพชรไป แล้วบอกให้เอาไปคืนเพื่อนซะ เธอตบปากรับคำโดยดี หลังจากนั้นไม่นาน
เพื่อนมาทวงที่เราอีก เราถึงรู้ว่า สรุปแล้วน้ำเพชรเอาเงินไปใช้เองโดยที่ไม่คืนเพื่อนเลย รอบที่สองเราเลยต้องคืนเพื่อนน้ำเพชรเองโดยตรง เราก็คนธรรมดาคนนึงทำงานหาเงินเดือนชนเดือนเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ยังยินดีช่วยเหลือเพราะตอนนั้นเป็นแฟนกัน มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน คิดว่านี่น้ำเพชรคงผิดพลาดไปแล้ว ไม่เป็นไรเราให้โอกาส
ผ่านมาอีกไม่นาน เริ่มมาเจ้าหนี้หน้าใหม่ทักมาทวงเราอีก สืบสาวราวเรื่องไปได้ว่า น้ำเพชรไปบอกคนเหล่านั้นว่า มีตั๋วเครื่องบินลดราคามาขายถูกๆ แต่ว่าต้องวางเงินก่อนน้ำเพชรรับเงินมาจากคนนั้นที คนนี้ที รวมๆแล้วหลายหมื่น และสุดท้าย ตั๋วไม่มีจริง คนเหล่านั้นเริ่มติดต่อเข้ามาทวง แต่น้ำเพชรก็บล็อคทุกช่องทาง ด้วยความโลกกลม หนึ่งในนั้นรู้จักกับเรา จึงทักเรามา เราถึงกับไปไม่เป็นเมื่อรู้ความจริง เราเลยไปคาดคั้นกับน้ำเพชร เธอจึงยอมบอกความจริงพร้อมน้ำตา เจ้าหนี้บางคนบอกว่าต้องการเงินวันพรุ่งนี้เลยไม่งั้นจะบุกไปที่บ้าน ไปแจ้งความ ด้วยความที่เรารักเค้าก็เลยช่วยใช้หนี้ให้อีก แลกกับที่ว่าทางเจ้าหนี้จะไม่มาที่บ้าน เพราะน้ำเพชรกลัวว่าพ่อกับแม่จะรู้ โอเคเรายอม แล้วเราก็ใช้หนี้ให้น้ำเพชรอีกเป็นรอบที่สอง
ผ่านมาระยะนึงเริ่มทำตัวดีขึ้นให้ตายใจ น้ำเพชรสมัครงานที่หนึ่งย่านบางพลี พอได้งานไปทำได้วันเดียวบอกว่าเหนื่อย ออกก่อนเวลาที่กำหนดตามสัญญา บริษัทปรับเงินอีกไม่พ้นเราที่ต้องใช้หนี้คืนแทน น้ำเพชรยังคงหลอกพ่อแม่ต่อไปว่าทำงานอยู่แถวบางพลี หลอกให้พ่อแม่ซื้อคอนโดให้อยู่เพื่อนใกล้ที่ทำงาน ได้ห้องเล็กไม่พอใจ จะเอาห้องใหญ่ พ่อกับแม่เลยต้องซื้อห้องใหญ่อีกห้อง แล้วห้องเล็กปล่อยให้เช่า ความร้ายกาจไม่ได้มีแค่นั้น เมื่อมีคนมาเช่าแล้วตามที่ตกลงกัน ทางผู้เช่าจะโอนเงินค่าเช่าให้กับแม่น้ำเพชรโดยตรง แต่ผ่านมาซักพักน้ำเพชรทักไปหาผู้เช่าว่าแม่สะดวกให้โอนเงินให้น้ำเพชรเอง
ส่วนตัวน้ำเพชรก็ปลอมไลน์ขึ้นมาเป็นผู้เช่า แล้วทักไปหาแม่ตัวเอง แสร้งทำเป็นบอกว่ายังไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าขอผลัดไปก่อน ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมา ตอนจะเอาเงินน้ำเพชรพูดดี ทำดีทุกอย่าง แต่พอผ่านไปแล้วน้ำเพชรทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และสุดท้าย วันนึง ก็มาบอกเลิกเราแบบดื้อๆ บอกว่าเข้ากันไม่ได้ ถามว่าเราเสียใจไหม ก็เสียใจนะ การที่รักคนๆนึงมันไม่ง่าย เลิกให้รักมันก็ไม่ง่ายเช่นกัน
ทุกวันนี้คิดว่าหลุดพ้นมาแล้ว รู้สึกดีมากที่ออกมาจากตรงนั้นได้ เราเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่น้ำเพชรฟัง พ่อกับแม่น้ำเพชรยินดีใช้หนี้ทุกอย่างคืนให้เรา
แต่เราไม่เอาเพราะถือว่าช่วงเวลานึงเราเคยอยู่บ้านเค้า และพ่อกับแม่เค้าดูแลเราทุกอย่าง ถือว่าตอบแทนบุญคุณ
ทุกวันนี้เรายังติดต่อกับพ่อแม่น้ำเพชรอยู่ตลอด เค้าจะผลัดกันมาระบายถึงเรื่องทุกข์ใจที่มีต่อลูกสาวเค้า พ่อแม่เริ่มอายุมากขึ้น ความเจ็บป่วยเริ่มถามหา แต่น้ำเพชรกลับออกไปเที่ยวเล่นวันๆ ช่วงไหนติดแฟนใหม่ ติดคนใหม่ๆก็จะหายออกจากบ้านเป็นเดือนๆ จะมีแค่ไลน์มาขอเงินเท่านั้น ช่วงนึงที่แม่น้ำเพชรไม่สบายเข้าโรงพยาบาลน้ำเพชรไปเฝ้าอยู่ไม่กี่วัน ถือโอกาสแอบหยิบบัตรเครดิตไปงดเป็นเงินสดออกมาหลายแสนแล้วหายไปใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยอีกตามเคย ทุกวันนี้พ่อแม่ทุกข์ระทมกับน้ำเพชรเป็นอย่างมาก
ตอนนี้พ่อกับแม่เริ่มทำธุรกิจเล็กๆแถวบ้าน เพื่อหวังว่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายไว้ให้น้ำเพชรไว้ใช้เก็บกินในภายภาคหน้า แต่น้ำเพชรก็ไม่เคยคิดจะเหลียวแล หนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนบ้าง แฟนบ้าง กลับมาบ้านเวลาเงินหมดเท่านั้น และพึ่งได้ทราบมาว่าทุกวันนี้น้ำเพชรเองก็ยังไม่เลิกนิสัยลักขโมยเงินในบ้านอีกเหมือนเดิม บ่อยครั้งที่เราเคยเห็นพ่อกับแม่น้ำเพชรร้องไห้ แต่เราเองก็ช่วยอะไรไม่ได้ สิ่งนึงคือพ่อแม่รังแกฉัน อีกสิ่งนึงคือมันอยู่ในกมลสันดานที่แก้ไม่หายไปแล้ว และคิดว่าพ่อกับแม่น้ำเพชรคงต้องทุกข์ตรมแบบนี้ไปจนวันตายแน่นอน
น้ำเพชรเป็นแค่เด็กที่พ่อกับแม่ขอมาเลี้ยงคนนึงตั้งแต่แบเบาะเท่านั้น น้ำเพชรรู้ค่ะว่าตัวเองถูกขออุปการะมา เป็นเด็กที่ได้รับโอกาสทางการศึกษา ทางชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมาก มากกว่าใครอีกหลายๆคน แต่คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะอกตัญญูได้มากขนาดนี้ เชื่อว่าถ้าเอาเงินเหล่านี้ไปดูแลส่งเสียเด็กยากไร้ที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ยังพอให้พ่อกับแม่ได้สุขใจมากกว่านี้ ส่วนตัวเราคิดว่าน้ำเพชรกู่ไม่กลับอีกต่อไปแล้วและไม่คิดจะทำอะไรเลยนอกจากใช้ชีวิตไปวันๆ และนึกถึงแค่วันพรุ่งนี้ ความคิดในหัวคือพ่อกับแม่มีเงินให้ใช้ตลอด ภายภาคหน้าหน้าพ่อกับแม่เสียไปยังมีทัรพย์สมบัติและธุรกิจให้เก็บกินแน่ๆแต่คิดว่าไปไม่รอด เพราะอยู่มาจน สามสิบกว่าแล้วน้ำเพชรยังไม่เคยรับผิดชอบอะไรเองเลยซักอย่าง แม้แต่เงินต่อทะเบียนรถยังไม่มี ทุกอย่างต้องแบมือของพ่อกับแม่ตลอด ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้
ไปอีกนานเท่าไหร่ หวังว่าวันนึงน้ำเพชรจะกลับตัวได้ในวันที่ยังมีเวลา และไม่สายเกินไป
จากคนๆนึง ที่เห็นพ่อกับแม่น้ำเพชรร้องไห้แทบทุกวัน
พิมพ์ตกหล่นตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ เรื่องราวมีดีเทลมากกว่านี้ แต่ตัดออกเล่าแต่เรื่องราวความอกตัญญูของเค้าที่มีต่อบุพการีมาให้อ่านเป็นอุทาหรณ์
เรื่องราวที่เค้าทำกับพ่อแม่ยังมีเลวร้ายแบบนี้อีกยิบย่อย เพียงแต่เรานึกไม่ออก มันเยอะมากจนจำได้แต่เรื่องหลักๆ แต่ที่แน่ๆเธอคนนี้ทำให้ชีวิตพ่อแม่อยู่บนความทุกข์มากกว่าความสุข และคิดว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานค่ะ
คิดว่าคนๆนึงจะอกตัญญูกับพ่อแม่บังเกิดเกล้าได้ขนาดนี้ไหมคะ
หมายเหตุ. เรื่องทุกอย่างนี้คือเรื่องจริง ทุกเรื่องที่เล่าและทุกคนที่เอ่ยถึงคือมีตัวตนจริงๆนะคะ
.
.
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่แล้ว เรามีโอกาสได้เจอกับผู้หญิงวัยไล่เลี่ยกันคนนึงค่ะ หน้าตาดี บุคลิกดี กริยามารยาทดี โดยรวมแล้วดูดี
ขออนุญาตแทนชื่อของผู้หญิงคนนี้ว่าน้ำเพชรนะคะ เราคุยถูกคอกันมาก เจอกันบ่อยๆ ตอนหลังเราเลยตัดสินใจคบกันเป็นแฟน
(เราและน้ำเพชรเป็นผู้หญิงทั้งคู่ค่ะ)
น้ำเพชรเป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อกับแม่ ฐานะทางบ้านน้ำเพชรค่อนข้างดี พ่อกับแม่ทำงานอยู่สายการบินสายหนึ่งค่ะ น้ำเพชรจะ
เล่าให้ฟังเสมอว่าตอนเด็กๆพ่อกับแม่จะบินตลอดไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้านดูแลน้ำเพชร จะมีเพียงแต่แม่บ้านเท่านั้นที่คอยดูแลรับส่งน้ำเพชร
ไปโรงเรียนตลอด น้ำเพชรอยากได้อะไรคือจัดหามาให้หมดทุกอย่างให้สมกับความรักที่เค้ามีให้กับลูกสาวคนเดียวแต่ไม่มีเวลาให้
หลังจากที่เราคบกับน้ำเพชรได้ซักพัก เราก็ย้ายเข้ามาอยู่กับน้ำเพชรและครอบครัวที่บ้าน ได้มีโอกาสพูดคุยกับพ่อแม่ สัมผัสได้ว่าเค้า
รักลูกของเค้ามาก ออกแนวพ่อแม่รังแกฉัน น้ำเพชรเล่าให้ฟังว่าตลอดตั้งแต่เด็ก น้ำเพชรเป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่งมาตลอด
พ่อกับแม่ไม่เคยผิดหวังในตัวน้ำเพชรเลย จนน้ำเพชรเริ่มโตขึ้นเข้าวัยมัธยม ติดเพื่อน อารมณ์เหมือนช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ พ่อกับแม่ก็
ทำงานไม่มีเวลาดูแลน้ำเพชร นิสัยน้ำเพชรก็เริ่มเปลี่ยนไป
น้ำเพชรติดเพื่อนมาก เริ่มโดดเรียน ตอนเช้าเวลาพ่อไปส่งน้ำเพชรที่โรงเรียน น้ำเพชรก็จะยังไม่เข้าไปข้างใน รอจนคุณพ่อไปทำงานแล้วจึงแอบ
ตามไปที่ทำงานแล้วเอากุญแจสำรองขับรถคุณพ่อที่จอดที่ทำงานไว้ไปเที่ยวเล่น บางวันน้ำเพชรเดินห้างซื้อของรูดบัตรเครดิตเสริมของคุณพ่อ
หมดเป็นแสนเลยก็เคยมี สิ่งที่ทำเพชรทำบ่อยๆคือขโมยเงินพ่อในห้องนอน พ่อจะเบิกเงินมาไว้ใช้จ่ายในบ้าน และน้ำเพชรจะแอบเข้าไปหยิบเงิน
เสมอ ทีละพันสองพัน ทำแบบนี้จนเป็นเรื่องปกติ นี่คือคำพูดที่ออกจากปากน้ำเพชรแบบที่ดูสีหน้าแล้วไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไร
นิสัยเหล่านี้ติดมายันโต หลังจากจบมัธยมน้ำเพชรก็ได้เข้าศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านชานเมือง อยู่หออย่างหรูหราทั้งๆที่
บ้านกับมหาวิทยาลัยห่างกันไม่ถึง 20 นาที แต่ด้วยความที่อยากอิสระ ไม่ชอบอยู่บ้าน จึงขอพ่อกับแม่ย้ายมาอยู่หอเพียงลำพัง และพ่อแม่
มีหน้าที่แค่ส่งเงินให้ใช้ นานๆกลับบ้านที หลังๆเค้าน้ำเพชรเริ่มเหลวไหล ติดเพื่อน และไม่สนใจเรื่องการเรียน ครั้งนึงน้ำเพชรได้มีโอกาสไปเยี่ยม
เพื่อนที่อมริกา ได้ไปลองใช้ชีวิตระยะสั้นๆอยู่ที่นั่นแล้วรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องการ น้ำเพชรตัดสินใจกลับมาทำเรื่องออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว
ขอพ่อกับแม่ไปอยู่ที่นั่น ใช้ชีวิตกับเพื่อน เรียนไปทำงานไป ชีวิตเริ่มดีขึ้นเมื่อไกลบ้าน แต่ว่าก็ยังไม่ทิ้งคราบนิสัยเดิม
น้ำเพชรได้มีโอกาสรู้จักกับทหารอเมริกันคนนึงโดยการแนะนำจากเพื่อน ด้วยความที่ว่าน้ำเพชรอยากได้กรีนการ์ดที่จะอยู่ที่นี่ จึงตัดสินใจลองคุย
แกล้งคบจนตกลงปลงใจจะแต่งงานกัน (ทั้งๆที่ใจน้ำเพชรไม่เคยชอบผู้ชายเลยแต่ทำไปเพียงเพราะหวังกรีนการ์ด) หลังจากนั้นน้ำเพชรได้มีโอกาส
กลับมาเมืองไทยเพื่อจัดงานแต่งงานกับทหารคนนี้ และกลับไปอเมริกาอีกครั้ง ไม่นานหลังจากนั้นน้ำเพชรได้เจอกับผู้หญิงไทยคนนึง ต่างคนต่างรู้สึกดีต่อ
กัน แอบคบกัน หลังจากนั้นน้ำเพชรเริ่มใช้เงินมากกว่าเก่าลุกลามไปถึงบัตรเครดิตของแฟนที่เป็นทหาร จนเป็นหนี้วงเงินสูงสุดท้ายน้ำเพชรตัดสินใจหนีกลับมาเมืองไทยพร้อมแฟนผู้หญิงคนนั้น เพื่อมาเริ่มลงหลักปักฐานใหม่
หลังจากคบไม่นานก็มีเหตุทำให้เลิกรา น้ำเพชรกลายเป็นคนหยิบโหย่ง เรียนไม่จบ ไม่ทำงาน เกียจคร้านอยู่บ้านไปวันๆ พ่อกับแม่เกษียณและพอมีเก็บหอมรอมริบ รวมถึงมีธุรกิจเล็กๆน้อยๆอยู่บ้าง เลยขอร้องให้ลูกช่วยอยู่บ้าน คอยดูแลหยิบจับโน่นนี่ให้พ่อแม่บ้าง เป็นธุระให้บางคราวเท่านั้น แลกกับเงินที่จะให้เดือนละ 15000 แต่นั่นไม่พอสำหรับเธอ น้ำเพชรยังคงติดนิสัยลักขโมยเงินพ่อแม่อยู่บ่อยๆ และดูทีท่าว่าเลิกไม่ได้เลย
อย่างที่เคยบอกไปน้ำเพชรจะเป็นคนที่ติดเพื่อนมากๆ มีเงินไม่ได้จ้องจะออกบ้านอยู่ตลอด หายไปบางทีเป็นอาทิตย์ ไลน์ไม่ตอบ โทรไม่รับ เป็นเรื่อง
ปกติที่พ่อแม่ต้องเจอ พ่อแม่ทุกข์ระทมใจแต่ก็ไม่รู้จะแก้ไขปัญหานี้ยังไง บางทีน้ำเพชรก็กุเรื่องโทรมาบอกว่าอยู่ต่างจังหวัดกับเพื่อน โดนแก๊งค์ทวงหนี้
นอกระบบตามจะเอาเงิน ให้พ่อกับแม่โอนเงินให้ ด้วยความที่รักและห่วง ก็โอนไปให้อีกเหมือนเดิม ซึ่งทุกอย่างน้ำเพชรทำได้ทั้งนั้นไม่ว่าจะกุเรื่อง แต่งเรื่องอะไรก็ตามที่ทำให้ได้เงิน
กลับมาที่ตอนคบกับเรา ตามที่กล่าวไปหลังจากที่เราย้ายมาอยู่บ้านน้ำเพชรแล้ว สิ่งที่เราเห็นมาตลอดคือน้ำเพชรจะชอบแอบงัดห้องพ่อเข้าไปขโมยเงินบ่อยๆไม่ว่าจะเวลาไหน ขอแค่ทางสะดวกเธอจะรีบเข้าไปทันที พฤติกรรมเลวร้ายเหล่านี้มีให้เห็นจนเป็นเรื่องชิน พ่อกับแม่ก็รู้ จับได้บ้างไม่ได้บ้าง ดุด่าว่ากล่าวน้ำเพชรก็จะทำเป็นบีบน้ำตา มานั่งขอขมา แล้วก็ทำแบบเดิมอีกซ้ำๆ วนลูปเหมือนล้อเกวียน เพียงแต่ว่าเรื่องราวต่อไปนี้ กับสิ่งที่น้ำเพชรทำมันไม่ได้จบแค่พ่อแม่
แต่มันเริ่มลามมาที่เรา...
น้ำเพชรไปยืมเงินเพื่อนมาหลักหมื่น ยืมมาหลายเดือนและไม่ยอมใช้คืน จนสุดท้ายเพื่อนนางมาทวงกับเรา เราก็ด้วยความที่ว่าไม่อยากให้พ่อกับแม่เค้ารู้เรื่องนี้ ก็เลยตัดสินใจใช้หนี้คืนแทน โดยการที่เอาเงินหมื่นก้อนนี้ให้น้ำเพชรไป แล้วบอกให้เอาไปคืนเพื่อนซะ เธอตบปากรับคำโดยดี หลังจากนั้นไม่นาน
เพื่อนมาทวงที่เราอีก เราถึงรู้ว่า สรุปแล้วน้ำเพชรเอาเงินไปใช้เองโดยที่ไม่คืนเพื่อนเลย รอบที่สองเราเลยต้องคืนเพื่อนน้ำเพชรเองโดยตรง เราก็คนธรรมดาคนนึงทำงานหาเงินเดือนชนเดือนเป็นเรื่องปกติ แต่ก็ยังยินดีช่วยเหลือเพราะตอนนั้นเป็นแฟนกัน มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน คิดว่านี่น้ำเพชรคงผิดพลาดไปแล้ว ไม่เป็นไรเราให้โอกาส
ผ่านมาอีกไม่นาน เริ่มมาเจ้าหนี้หน้าใหม่ทักมาทวงเราอีก สืบสาวราวเรื่องไปได้ว่า น้ำเพชรไปบอกคนเหล่านั้นว่า มีตั๋วเครื่องบินลดราคามาขายถูกๆ แต่ว่าต้องวางเงินก่อนน้ำเพชรรับเงินมาจากคนนั้นที คนนี้ที รวมๆแล้วหลายหมื่น และสุดท้าย ตั๋วไม่มีจริง คนเหล่านั้นเริ่มติดต่อเข้ามาทวง แต่น้ำเพชรก็บล็อคทุกช่องทาง ด้วยความโลกกลม หนึ่งในนั้นรู้จักกับเรา จึงทักเรามา เราถึงกับไปไม่เป็นเมื่อรู้ความจริง เราเลยไปคาดคั้นกับน้ำเพชร เธอจึงยอมบอกความจริงพร้อมน้ำตา เจ้าหนี้บางคนบอกว่าต้องการเงินวันพรุ่งนี้เลยไม่งั้นจะบุกไปที่บ้าน ไปแจ้งความ ด้วยความที่เรารักเค้าก็เลยช่วยใช้หนี้ให้อีก แลกกับที่ว่าทางเจ้าหนี้จะไม่มาที่บ้าน เพราะน้ำเพชรกลัวว่าพ่อกับแม่จะรู้ โอเคเรายอม แล้วเราก็ใช้หนี้ให้น้ำเพชรอีกเป็นรอบที่สอง
ผ่านมาระยะนึงเริ่มทำตัวดีขึ้นให้ตายใจ น้ำเพชรสมัครงานที่หนึ่งย่านบางพลี พอได้งานไปทำได้วันเดียวบอกว่าเหนื่อย ออกก่อนเวลาที่กำหนดตามสัญญา บริษัทปรับเงินอีกไม่พ้นเราที่ต้องใช้หนี้คืนแทน น้ำเพชรยังคงหลอกพ่อแม่ต่อไปว่าทำงานอยู่แถวบางพลี หลอกให้พ่อแม่ซื้อคอนโดให้อยู่เพื่อนใกล้ที่ทำงาน ได้ห้องเล็กไม่พอใจ จะเอาห้องใหญ่ พ่อกับแม่เลยต้องซื้อห้องใหญ่อีกห้อง แล้วห้องเล็กปล่อยให้เช่า ความร้ายกาจไม่ได้มีแค่นั้น เมื่อมีคนมาเช่าแล้วตามที่ตกลงกัน ทางผู้เช่าจะโอนเงินค่าเช่าให้กับแม่น้ำเพชรโดยตรง แต่ผ่านมาซักพักน้ำเพชรทักไปหาผู้เช่าว่าแม่สะดวกให้โอนเงินให้น้ำเพชรเอง
ส่วนตัวน้ำเพชรก็ปลอมไลน์ขึ้นมาเป็นผู้เช่า แล้วทักไปหาแม่ตัวเอง แสร้งทำเป็นบอกว่ายังไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าขอผลัดไปก่อน ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เงินมา ตอนจะเอาเงินน้ำเพชรพูดดี ทำดีทุกอย่าง แต่พอผ่านไปแล้วน้ำเพชรทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และสุดท้าย วันนึง ก็มาบอกเลิกเราแบบดื้อๆ บอกว่าเข้ากันไม่ได้ ถามว่าเราเสียใจไหม ก็เสียใจนะ การที่รักคนๆนึงมันไม่ง่าย เลิกให้รักมันก็ไม่ง่ายเช่นกัน
ทุกวันนี้คิดว่าหลุดพ้นมาแล้ว รู้สึกดีมากที่ออกมาจากตรงนั้นได้ เราเล่าทุกอย่างให้พ่อกับแม่น้ำเพชรฟัง พ่อกับแม่น้ำเพชรยินดีใช้หนี้ทุกอย่างคืนให้เรา
แต่เราไม่เอาเพราะถือว่าช่วงเวลานึงเราเคยอยู่บ้านเค้า และพ่อกับแม่เค้าดูแลเราทุกอย่าง ถือว่าตอบแทนบุญคุณ
ทุกวันนี้เรายังติดต่อกับพ่อแม่น้ำเพชรอยู่ตลอด เค้าจะผลัดกันมาระบายถึงเรื่องทุกข์ใจที่มีต่อลูกสาวเค้า พ่อแม่เริ่มอายุมากขึ้น ความเจ็บป่วยเริ่มถามหา แต่น้ำเพชรกลับออกไปเที่ยวเล่นวันๆ ช่วงไหนติดแฟนใหม่ ติดคนใหม่ๆก็จะหายออกจากบ้านเป็นเดือนๆ จะมีแค่ไลน์มาขอเงินเท่านั้น ช่วงนึงที่แม่น้ำเพชรไม่สบายเข้าโรงพยาบาลน้ำเพชรไปเฝ้าอยู่ไม่กี่วัน ถือโอกาสแอบหยิบบัตรเครดิตไปงดเป็นเงินสดออกมาหลายแสนแล้วหายไปใช้ชีวิตฟุ่มเฟือยอีกตามเคย ทุกวันนี้พ่อแม่ทุกข์ระทมกับน้ำเพชรเป็นอย่างมาก
ตอนนี้พ่อกับแม่เริ่มทำธุรกิจเล็กๆแถวบ้าน เพื่อหวังว่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายไว้ให้น้ำเพชรไว้ใช้เก็บกินในภายภาคหน้า แต่น้ำเพชรก็ไม่เคยคิดจะเหลียวแล หนีออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนบ้าง แฟนบ้าง กลับมาบ้านเวลาเงินหมดเท่านั้น และพึ่งได้ทราบมาว่าทุกวันนี้น้ำเพชรเองก็ยังไม่เลิกนิสัยลักขโมยเงินในบ้านอีกเหมือนเดิม บ่อยครั้งที่เราเคยเห็นพ่อกับแม่น้ำเพชรร้องไห้ แต่เราเองก็ช่วยอะไรไม่ได้ สิ่งนึงคือพ่อแม่รังแกฉัน อีกสิ่งนึงคือมันอยู่ในกมลสันดานที่แก้ไม่หายไปแล้ว และคิดว่าพ่อกับแม่น้ำเพชรคงต้องทุกข์ตรมแบบนี้ไปจนวันตายแน่นอน
น้ำเพชรเป็นแค่เด็กที่พ่อกับแม่ขอมาเลี้ยงคนนึงตั้งแต่แบเบาะเท่านั้น น้ำเพชรรู้ค่ะว่าตัวเองถูกขออุปการะมา เป็นเด็กที่ได้รับโอกาสทางการศึกษา ทางชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมาก มากกว่าใครอีกหลายๆคน แต่คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าจะอกตัญญูได้มากขนาดนี้ เชื่อว่าถ้าเอาเงินเหล่านี้ไปดูแลส่งเสียเด็กยากไร้ที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ยังพอให้พ่อกับแม่ได้สุขใจมากกว่านี้ ส่วนตัวเราคิดว่าน้ำเพชรกู่ไม่กลับอีกต่อไปแล้วและไม่คิดจะทำอะไรเลยนอกจากใช้ชีวิตไปวันๆ และนึกถึงแค่วันพรุ่งนี้ ความคิดในหัวคือพ่อกับแม่มีเงินให้ใช้ตลอด ภายภาคหน้าหน้าพ่อกับแม่เสียไปยังมีทัรพย์สมบัติและธุรกิจให้เก็บกินแน่ๆแต่คิดว่าไปไม่รอด เพราะอยู่มาจน สามสิบกว่าแล้วน้ำเพชรยังไม่เคยรับผิดชอบอะไรเองเลยซักอย่าง แม้แต่เงินต่อทะเบียนรถยังไม่มี ทุกอย่างต้องแบมือของพ่อกับแม่ตลอด ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบนี้
ไปอีกนานเท่าไหร่ หวังว่าวันนึงน้ำเพชรจะกลับตัวได้ในวันที่ยังมีเวลา และไม่สายเกินไป
จากคนๆนึง ที่เห็นพ่อกับแม่น้ำเพชรร้องไห้แทบทุกวัน
พิมพ์ตกหล่นตรงไหน ขออภัยด้วยนะคะ เรื่องราวมีดีเทลมากกว่านี้ แต่ตัดออกเล่าแต่เรื่องราวความอกตัญญูของเค้าที่มีต่อบุพการีมาให้อ่านเป็นอุทาหรณ์
เรื่องราวที่เค้าทำกับพ่อแม่ยังมีเลวร้ายแบบนี้อีกยิบย่อย เพียงแต่เรานึกไม่ออก มันเยอะมากจนจำได้แต่เรื่องหลักๆ แต่ที่แน่ๆเธอคนนี้ทำให้ชีวิตพ่อแม่อยู่บนความทุกข์มากกว่าความสุข และคิดว่าจะเป็นแบบนี้ไปอีกนานค่ะ