Spider-Man: Far From Home
สไปเดอร์แมน ไปอยู่ไหนก็งานเข้าอยู่ดี

ย้อนกลับไปที่ Homecoming ภาคก่อนของไอ้แมงมุมรีเมคในเวอร์ชั่นที่มาร์เวลหยิบมาทำเอง ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ รับบทโดย ทอม ฮอลแลนด์ และก็ทำให้รู้สึกว่าเขาสามารถสวมบทบาทนี้ได้เป็นอย่างดี ใช่ในแบบที่เวอร์ชันนี้ต้องการ ในภาคแรก ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ คือสไปเดอร์แมนที่ผ่านช่วงเวลาของการทำความรู้จักกับความพิเศษของตัวเองมาเรียบร้อยแล้วและพร้อมทำหน้าที่แบบที่ซุเปอร์ฮีโรควรทำ โดยหนังเลือกที่จะไม่เล่าเนื้อหาในส่วนนี้เหมือนสองเวอร์ชันที่ผ่านมาซึ่งเราเห็นด้วยเพราะจะทำให้คนดูรู้สึกเบื่อได้ และยังทำให้สไปเดอร์แมนเวอร์ชันนี้มีความเป็นหนังวัยรุ่นมากกว่าเดิมด้วย สไปเดอร์แมนในมือมาร์เวลคือหนังซุเปอร์ฮีโรวัยรุ่นที่มีเนื้อเรื่องสนุก เข้มข้นแต่ก็ไม่หนักจนเกินไป และยังตลกแบบยียวนกวนประสาทอีกด้วย ต้องชมเลยว่ามาร์เวลเลือกรีเมคสไปเดอร์แมนให้ออกมาแตกต่างได้อย่างถูกที่ถูกทาง

 สำหรับ Far From Home ก็ยังคงชัดเจนกับภาพลักษณ์ของหนังสไปเดอร์แมนที่เป็นซุเปอร์ฮีโรวัยรุ่นไฮสคูลซึ่งมาพร้อมกับภาระหน้าที่ถึงสองหน้า ด้านหนึ่งก็คือผู้พิทักษ์ความยุติธรรมและช่วยเหลือผู้คนแบบโลกสวย อีกด้านหนึ่งก็คือเด็กวัยรุ่นที่ต้องเรียนหนังสือและมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ยิ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นร้อนรุ่มด้วยแล้วก็ต้องมีเรื่องหัวใจเข้ามาปั่นป่วนให้ปวดหัวเข้ามาอีกเรื่อง เมื่อ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ปิ๊งสาวคนหนึ่งแต่ไม่กล้าสานสัมพันธ์ตามประสาเด็กเนิร์ดเรียนเก่ง โดยในภาคนี้เหตุการณ์เกิดขึ้นในยุโรปเพราะทางโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาซึ่งก็พอดิบพอดีกับที่มีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นในยุโรป เขาและผองเพื่อนจึงได้เข้าไปมีส่วนในความวุ่นวายครั้งนี้ด้วย ทั้งยังเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของอีกตัวละครหนึ่ง มิสเตริโอ รับบทโท เจค จิลเลนฮาล อีกด้วย

ภาคก่อนก็ว่าชอบแล้ว ภาคนี้ยิ่งรู้สึกชอบมากขึ้นไปอีก เพราะหนังทำได้ดีในทุกด้านในแบบที่น่าจะตั้งใจให้ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องได้อย่างสนุกด้วยการทำให้มีความซับซ้อนและแอบหลอกคนดูให้งงงวย  มีของเล่นที่แพรวพราวมาให้คนดูตื่นตาตื่นใจโดยเฉพาะกับการหยิบโดรนที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบันมาใช้ในหนัง มีการใส่เนื้อหาแบบหนังวัยรุ่นเฉกเช่นเดียวกับภาคก่อนซึ่งก็ยังคงสร้างสีสันให้กับหนังได้เป็นอย่างดีเช่นเคย และที่สำคัญที่สุดที่เวอร์ชันไหนก็ทำไม่ได้ นั่นคือ การเชื่อมโยงตัวละครในจักรวาลมาร์เวลกับตัวละครในหนังได้เป็นอย่างดี พอเหมาะพอเจาะ ทั้งการล้อเลียนเพื่อสร้างเสียงหัวเราะหรือเอ่ยถึงลอยๆพอให้ยิ้มได้ และเล่าเชื่อมโยงเนื้อหาอย่างมีนัยยะเพื่อปูทางไปสู่หนังเรื่องอื่น ต้องชมเลยว่าใช้ประโยชน์จากการอยู่ร่วมจักรวาลเดียวกันได้อย่างคุ้มค่าและเยี่ยมยอด

อย่างที่บอกไปว่าหนังจับความเป็นหนังซุเปอร์ฮีโรยำรวมกับความเป็นหนังวัยรุ่นออกมาได้อย่างลงตัว อย่างเมื่อไม่นานมานี้ก็มี Shazam ที่เป็นหนังซุเปอร์ฮีโรซึ่งมีส่วนผสมของหนังครอบครัวอยู่ด้วย และก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน นี่อาจเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ใช่สำหรับการสร้างหนังซุเปอร์ฮีโร ในขณะที่ Far From Home ยังเป็นหนังซุเปอร์ฮีโรที่ดูสนุกในแบบของตัวเอง ครบเครื่อง และมีส่วนที่ทำเอาใจแฟนมาร์เวลหนักมาก

ถูกใจกันหละสิ

ขบเคี้ยวหนัง
#SpiderManFarFromHome